จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
1 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
กวีกับกีต้าร์









สำหรับเพลง “นางฟ้า” จากการแต่งเนื้อร้อง-ทำนอง และขับร้องโดย ศักดิ์สิริ มีสมสืบ ผู้มีน้ำเสียงอันไพเราะชวนให้หลงใหลถึงขั้นทำให้หัวใจละลายได้ เพราะฉะนั้นผมจึงขออาศัยเสียงของศักดิ์สิริบอกความรู้สึกผ่านถึงนางฟ้าที่มาเยือนบล็อกนี้

- ขอมอบแด่นางฟ้าทุกนางครับ -

ทั้งนี้และทั้งนั้นขอได้รับความขอบคุณจากคุณตะเบบูญ่าที่เอื้อเฟื้อเพลงนี้และคุณสเลเตจัดทำโค้ดเพลงให้





กวีกับกีต้าร์



ช่วงนี้อยู่ทางใต้ แต่คิดถึงคนทางเหนือ เพราะอากาศเริ่มหนาวแล้ว ช่วงฤดูหนาวแบบนี้ปีที่ผ่านมาผมกำลังตระเวนอยู่ทางภาคเหนือ เลยขอเขียนเรื่องคนทางใต้ที่ไปได้คนรักทางเหนือ แล้วใช้ชีวิตอยู่ภาคเหนือเลยดีกว่า...



ไม่ว่าเราจะไม่ได้พบกันเป็นเวลานานสักเท่าไร แต่เมื่อได้พบกันมิตรสัมพันธ์แต่ครั้งยังหนุ่มของเรายังคงเหมือนเดิม กับถนอม ไชยวงษ์แก้ว ผมคารวะเขาในฐานะกวีและเพื่อนรุ่นพี่ที่มีความสันพันธ์อันดีต่อกัน

เป็นเวลานานเกือบสิบปีแล้วที่เราไม่ได้พบกันและไม่ได้ติดต่อกันเลย เมื่อหกเจ็ดปีที่ผ่านมาผมรับรู้ข่าวว่าเขาแต่งงานแล้ว และเจ้าสาวของเขาคือแพร จารุ นักเขียนหญิงรุ่นน้อง

ในฐานะนักเขียนและกวี ถนอม ไชยวงษ์แก้ว มีผลงานรวมเล่มมาแล้วจำนวนไม่น้อย และนี่คือผลงานที่ผ่านมาของเขา รวมเล่มบทกวี กับความอาดูรสูญสิ้น, เหมือนดั่งดอกหญ้า, ความรักอยู่ที่ไหน, รักใครคนหนึ่งและถูกรัก, โอ้ชีวิต, เพียงเพราะฉันหวัง, ส่วนรวมเรื่องสั้นมี ความคิดถึงและดอกเบญจมาศ, เทพบุตรในฝัน ณ ยามสนธยา, ยิ่งกว่าขุนเขาตราบชั่วฟ้าดินสลาย

หากใครรู้จักเขาก็จะรู้ว่างานกับชีวิตของเขานั้นค่อนข้างจะกลมกลืนและเป็นสิ่งเดียวกันคือเหงา-เศร้า-หวาน และคงจะมีใครหลายๆคนอาจไม่รู้ว่าเขาเป็นนักร้องและนักดนตรีด้วย ซึ่งนั่นคืองานอีกอย่างหนึ่งที่เลี้ยงชีพเขา

กีตาร์ตัวนี้ยี่ห้อ angelo ซื้อที่กาดสวนแก้วราวปี พ.ศ. 2542 เป็นกีต้าร์ใหม่มือหนึ่ง นับเป็นกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าตัวที่สองในชีวิตของเขา ตอนนั้นซื้อมาในราคาเก้าพันกว่าบาทซึ่งเป็นราคาโปรโมชั่น ใช้ออกงานครั้งแรกที่ร้านในอำเภอแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ช่วงนั้นเป็นจังหวะที่เขาไม่มีกีต้าร์พอดี กีตาร์ตัวนี้ แพร จารุ ภรรยาของเขาเป็นผู้ซื้อให้ ด้วยเงินค่าเรื่องจากงานรวมเล่มหนังสือเรื่อง “บ้านย่าสุขสันต์”

ร้านอาหารร้านสุดท้ายที่เขาเล่นคือที่ “ร้านสายหมอกกับดอกไม้” ซึ่งเป็นร้านของคุณอันยา โพธิวัฒน์ คู่ชีวิตของคุณจรัล มโนเพชร ตอนนั้นคุณจรัลยังไม่เสียชีวิต เขาไม่ได้เล่นด้วยกัน แต่เล่นกันคนละเวลา


ถนอมเล่นดนตรีตามร้านอาหารมาสิบกว่าปีแล้ว บางปีก็ว่างเว้น ไม่ได้เล่นติดต่อกันทุกปีเริ่มต้นเล่นกีต้าร์โดยการฝึกหัดด้วยตัวเอง หัดจากเพื่อนฝูง หัดจากหนังสือ หัดจากเทป ฟังจากเพลง ค่อย ๆ พัฒนาฝีมือการเล่นจนเล่นให้ผู้อื่นฟัง และกระทั่งสามารถเลี้ยงชีพได้

ความจริงถนอมเริ่มเขียนหนังสือมาก่อนการเล่นกีต้าร์ เขาจำได้ว่าเล่นกีตาร์บนเวทีครั้งแรกที่ร้านเหล้าตอร์ตีญ่าแฝล็ต (แหล่งชุมนุมศิลปินย่านสะพานหัวช้างเมื่อสิบกว่าปีก่อน) เล่นเพลงอย่างที่เขาชอบ เล่นอยู่ตรงนั้นนานหลายเดือนเหมือนกัน จนกระทั่งกลับมาบ้านที่สันป่าตองก็เป็นไปเอง ส่วนใหญ่มีคนชวนไปเล่นมากกว่าไปสมัครเอง เขาจะเล่นและร้องเพลงรักเก่าๆ ทั้งเพลงไทย เพลงสากล เขาชอบเพลงหวานๆเศร้าๆ

เท่าที่รู้มานักดนตรีส่วนใหญ่จะรักเครื่องมือของเขามาก ถนอมให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า...

“บางคนรักเป็นชีวิตจิตใจ แต่ผมมองเป็นเครื่องมือ แต่ว่ามันแพงหน่อยก็หวง แต่ถ้ามันจำเป็นก็ต้องปล่อยมันไป คือมันเป็นวัตถุ จะว่าไม่ติดยึดก็ติดยึดเหมือนกัน แต่สำหรับกีตาร์ตัวนี้ที่ภรรยาซื้อให้ ก็ไม่ใช่เนื่องในโอกาสอะไรหรอก แต่มันเป็นเรื่องทำมาหากินด้วย มันต้องมีเครื่องมือ ตอนนั้นยังไม่มีกีต้าร์ ไปเล่นดนตรีที่แม่แจ่ม เธอได้ค่าเรื่องมาจากการรวมเล่มเป็นเงินเก้าพันบาท ทั้งความรักและความจำเป็น ทำให้เรารักกีต้าร์ตัวนี้ แต่มันเป็นความรักอีกแบบหนึ่ง กีตาร์ของนักดนตรีบางคน เราจะไปแตะของเขาไม่ได้ แต่กีตาร์ตัวนี้ไม่มีนักดนตรีคนไหนมาเล่นแล้วไม่เคยไม่เล่น ถ้าคุณใช้และรู้วิธีใช้”


ถนอมใช้เวลาว่างหมดไปกับการอ่านหนังสือและเล่นกีตาร์ เขายังจับกีตาร์อยู่เป็นประจำ เล่นให้ตัวเองฟัง แกะเพลงที่อยากร้องบ้าง เมื่อเล่นให้ตัวเองฟังก็ไม่มีเงื่อนไขอื่นมาควบคุม มันทำให้เขารู้สึกนิ่งและสงบได้

ถนอมให้ทัศนะที่มีต่องานเขียนและการเล่นดนตรีว่า...

“ดนตรีมันเป็นงานที่แสดงซ้ำได้ แต่งานเขียนมันซ้ำไม่ได้ เราแกะเพลงๆหนึ่งเราอาจเล่นได้หลายครั้งหรือทุกครั้งที่เราอยากเล่น ขณะที่เรื่องสั้นนี่เขียนเสร็จมันก็จบตรงนั้น แต่การคงอยู่ของงานเรื่องสั้นมันอยู่นานกว่าการเล่นดนตรี เว้นเสียแต่ว่าเราจะบันทึกเสียงเอาไว้ นี่เราพูดถึงในแง่ของงาน ไม่ได้พูดถึงการตอบแทนนะ”


ทุกวันนี้ถนอมมีความสุขกับชีวิตซึ่งสมถะและเรียบง่ายกับ แพร จารุ คู่ชีวิตของเขา ที่บ้านทุ่งเสี้ยว อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เขาได้เลือกวิถีชีวิตด้วยตนเอง มีความสุขบ้างทุกข์บ้างตามประสาปุถุชน


ผมมีโอกาสได้มาเยือนบ้านหลังใหม่ของเขามาแล้ว ผมก็รู้สึกยินดีกับเขา ด้วยว่าเขามีบ้านเป็นของตนเองแล้วและไม่ต้องเช่าบ้านอยู่อีกต่อไป


กับคำถามที่ว่าตอนนี้รู้สึกกับงานเขียนอย่างไรบ้าง เขาบอกว่า

“ก็เขียนอะไรได้ก็เขียนไป ไม่เฉพาะเจาะจงว่าจะเป็นงานประเภทไหน เรื่องสั้นก็อยากเขียน รู้สึกว่าไม่ค่อยต่างกันเท่าไรนักในแง่ของการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้นหรือบทกวีหรืออะไร มันไม่สำคัญ บางคนกลัวว่าถ้าเขียนอย่างอื่นแล้วจะสูญเสียความเป็นนักเขียนเรื่องสั้นหรือกลัวสูญเสียความเป็นกวี แต่สำหรับเราแล้วเราเขียนอะไรเราก็เต็มที่กับมัน คือไม่ติดใจว่าใครจะเรียกเราเป็นกวีหรือไม่ ? “





______________________________




ป.ล. อัพบล็อกครั้งนี้อู้ครับ เพราะนำเรื่องที่เคยตีพิมพ์ในนิตยสารมาให้อ่านกัน ใครอ่านแล้วก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ เพราะมีงานบางอย่างรออยู่ แต่ก็คิดถึงบล็อกครับ


Create Date : 01 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2550 10:59:42 น. 20 comments
Counter : 1414 Pageviews.

 
มาสวัสดีคุณอาค่ะ

ไม่เป็นไรค่ะ คุณฮา ของเก่าเอามาเล่าใหม่ถือว่าให้กำไรในการอ่าน เหมือนการอ่านหนังสือ เล่มไหนชอบเป็นพิเศษจะเปิดอ่านบ่อย

ขอให้งานคุณอาเสร็จไวๆนะค่ะ สงขลาฝนตกอีกแล้วค่ะ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:16:02 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงโดม

ตอนนี้อากาศทางเหนืออยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาวค่ะ
เช้านี้ตื่นขึ้นมาฝนตกปรอยๆ ตอนนี้ก็ยังตกอยู่เลยค่ะ
ตกเป็นช่วงๆก่อนไปทานข้าวฝนยังไม่ตก
พอออกจากโรงอาหารมา ฝนตกซะแล้ว
ร่มไม่ได้เอาไปด้วย อยู่ที่ห้องเรียนโน่น
เลยได้เดินตากฝนมานี้แหละค่ะ

แต่ถ้าบางวันฝนไม่ตก ช่วงนี้อากาศจะดีมากๆเลยค่ะ พอดีๆไม่หนาวเกินไป มองออกไปที่กว๊านจะเห็นมีหมอกลงจางๆ
เหมาะแก่การนอนตื่นสายๆ(ในวันเสาร์ อาทิตย์)
หรือไม่ก็ตืนเช้าๆไปเดินเล่นหลังกว๊าน
ออกกำลังกายเบาๆ รับแสงแดดอ่อนๆในฤดูหนาว
แล้วก็จะได้เห็นภาพลางๆของคนที่เขาพายเรือออกหาปลา ในสายหมอก(มองจากระเบียงห้องชัน 6 ไม่ได้ลงไปข้างล่างหรอกค่ะลุงโดม)
ถ้าเป็นตอนเย็นก็ไปนั่งริมกว๊านหลังวิทยาลัย ดูพระอาทิตย์ตกลับดอยบุษราคัม(ถ้าอยู่ชัน 6 ก็จะมองเห็นได้โดยไม่ต้องลงไปหลังกว๊าน ข้อดีของการอยู่ชั้นที่สูงๆ ไม่มีบ้านพักบัง แต่ต้องเดินขึ้นบันไดมากกว่าชาวบ้านค่ะ)
พอตกดึกๆ มองจากหลังระเบียงก็จะเห็น แสงไฟจากหมู่บ้านที่อยู่อีกฟากหนึ่งของกว๊าน ก็สวยไปอีกแบบ



โดย: เบญจวรรณ IP: 61.7.231.130 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:45:30 น.  

 
อัพบล็อกครานี้เหมือนเจอนักมวยรุ่นพี่สอนมวยเลย มันก็น่าโดนสอนจริงด้วยแหละ ก้อเรามันมือใหม่จริงๆ โดนศอกบ้าง หมัดบ้างเป็นไรไป ถือว่าขอวิชา...
อ๊ะ อ๊ะ อย่างงดิท่านพี่ กระผมก็สนใจในสายวิชาชีพแบบที่พี่ท่านทำอยู่แม้จะไม่ได้หมายจะเอามาเลี้ยงชีพ แต่ก็สนใจใคร่รู้อยู่ ทั้งพยามหาเอง อ่านเอง แต่การได้ฟังและสนทนากับผู้รู้นี่ย่อมดีกว่า แล้วค่อยเก็บเอาวรรคทองของแต่ละท่านมา
อย่างเรื่องของพี่หนอมนี่สรุปดี สรุปง่าย น่านำไปใช้ แต้เอ้...ใช้ไงว้า ของพี่หนอมแกผ่านมาแล้วก็กลายเป็นเรื่องง่ายๆดิ
"เขียนอะไรได้ก็เขียนไป"ใช่ตอนนี้เขียนไรได้ก็เขียนไป งั้นก็เหมือนนักมวยซิ ชกๆไปก่อนเดี๋ยวก็เป็น กว่าจะรู้ว่าศอกกลับเป็นไงก็คงหน้าแตกไปหลายแผลใช่ไหมท่านพี่

คารวะ ท่านโดม ณ บางนายสี


โดย: พราน (ตาพรานบุญ ) วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:21:16 น.  

 


โดย: กายแก้ว วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:59:42 น.  

 



อาโดมขา..

นกมาแก้ข่าวค่ะ

นั่นไม่ใช่รูปนกค่ะ รู้สึกว่าจะเป็นดาราเกาหลีหรือไงเนี่ยค่ะ นกเห็นหน้าตาเศร้าดี มีน้ำตาคลอตาด้วย เลยเอามาประกอบบล็อกค่ะ อาโดม แหะ แหะ หลานอาไม่สวยขนาดนั้นค่ะ


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:15:04 น.  

 
สาหวัดดีเจ้า..

ตามพี่โดมมาเลยค่ะ

อ้ายหนอม และ พี่ยาย
เป็นคู่ที่น่ารักค่ะ

มีคำพูดหนึ่งของพี่ยายที่หนูชอบมาก..
อ้ายหนอมมักควบ มอไซค์ คู่ชีพ
ออกไปดื่มคนเดียวเสมอ บางทีก็ใกล้ ๆ บ้าน แต่ก็บ่อยครั้งที่มาซะไกลเลย
พี่ยายบอกพี่หนอมว่า"เวลาดื่ม อย่าดื่มจนเมา เป็นห่วง เวลาขับรถกลับบ้านมันอันตราย ถ้าพี่เป็นอะไรไป คนที่อยู่ข้างหลังจะอยู่ได้ยังไง"

เหมือนกับบอกว่า..
ให้นึกถึงคนข้างหลัง(ไม่ใช่คนซ้อนท้ายมอไซค์ น่า..)
นอกจากจิตใจที่เฝ้าพะวงหาแล้ว
หากเป็นอะไรไปจริง ๆ จะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงโดยปราศจากเธอ

อย่างเงี๊ยเลยอ่ะ


โดย: malarn cha วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:06:27 น.  

 
อ่ะคุณพ่อพเยียสู้ๆ ขอให้งานเสร็จสมอารมณ์หมายนะคะ ขอบคุณที่ไปให้กำลังใจเรื่องการเขียนบล็อกค่ะ ...แต่ก็ยังไม่แน่ใจอะไรกับตัวเองค่ะ


โดย: shin chan (alei ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:05:55 น.  

 
พ่อพเยียคะ

พ่อบูได้กลับมาบ้านแล้วค่ะ
มีความสุขกันมากมายค่ะ

บีดีใจจัง
ที่พ่อบูอึได้ ฉี่ได้ ทานอาหารได้
และมีกำลังใจในการทำกายภาพ

ช่วงนี้ก็ยุ่งๆนิดหน่อยค่ะ
เพราะต้องระวังไห้เป็นอะไร
เดี๋ยวต้องวิ่งเข้าวิ่งออก รพ อีก

พ่อจะเหนื่อยมากค่ะ

แต่บีมั่นใจว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ท่านช่วยให้พ่อหายแน่ๆ

บีรักพ่อ

มารายงานพ่อพเยียค่ะ


โดย: บีค่ะ (be-oct4 ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:23:17 น.  

 
สวัสดีจ้ะหลานมัยดีนาห์


ฝนสงขลาฤาจะสู้ฝนตะกั่วป่า
ฝนตะกั่วป่าตกได้หลายสไตล์
ตกแบบเมฆครึ้มทะมึนมาก็ได้

จู่ๆตกโดยไม่มีเค้าก็ได้

คนที่นี่เขาเลยไม่ค่อยกลัวฝนกัน
แต่นึกจะหยุดก็หยุดทันทีทันใด
เรียกว่าตกตามอำเภอใจจริงๆ

เรื่องงานทันตามเวลา
ชอบใจตัวเองจังเวลาทำงานได้ตามเวลา

สวัสดี้จะหลานเบญจ์

ทางสงขลาฝนก็ตก
ทางพะเยาฝนก็ตก
ทางตะกั่วป่าฝนก็ตก

อย่างว่าแหละนะฤดูนี้เป็นฤดูฝน

น่าอิจฉาจังที่หนูมีที่พักในการเรียนวิวดีอย่างนั้น

ทำให้สุขภาพจิตดี
ตั้งใจเรียนให้จบนะจ๊ะ


สวัสดีครับตาพรานบุญ

คุณเขียนรูปเป็นและคงจะมีพรสวรรค์เรื่องดนตรีอยู่บ้างแน่เลย (เดาเอาน่ะครับ)

เล่นดนตรีได้กับเขียนรูปได้นี่ไม่ธรรมดาหรอกครับ
ถ้าจะขยับมาเขียนหนังสือยิ่งสบายใหญ่เลย

คุณเห็นท่านอังคารปาดเครยองแต่ละรูปไหม ? (ต้องถามว่าคุณเคยเห็นรูปท่านอังคารไหม)
เห็นท่านร่ายกวีแตละบทไหม


ผมเชื่อว่าศิลปะย่อมส่องทางกัน
งานเขียนรูปกับงานเขียนหนังสือก็อยู่ชิดติดกันเป็นเพื่อนกัน เป็นญาติกัน

คนเขียนรูปมีสี
คนเขียนหนังสือมีตัวอักษร
ทั้งจิตรกรรมและวรรณกรรมไม่ไกลกันเลย

แต่มันยากก็ตรงที่ทำอย่างไรจะให้ดีนี่แหละครับ

"คุณทำได้ (อยู่แล้ว) ถ้าคุณเชื่อว่าคุณสามารถทำได้" นโปเลียน ฮิลล์ กล่าวไว้


แต่ในกรณีพี่หนอมนั้นแกอยู่มือกับกวีมาแล้ว (เขียนบทกวีจนอยู่มือ)

ส่วนที่ว่าเขียนอะไรก็ได้ของแกก็คือไม่ติดยึดว่าจะเป็นกวีหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องติดว่าเป็นกวี แล้วจะต้องเขียนบทกวีอย่างเดียว เขียนอะไรก้ได้ บทความก็ได้

สำหรับคนใหม่ๆที่อยากเขียนที่ว่าเขียนอะไรก็ได้น่าจะหมายถึง อะไรก็ได้ที่เราอยากเขียน หรือไม่ก็ทดลองเขียนหลายๆอย่าง ลองเขียนเรื่องสั้นบ้าง บทความบ้าง บทกวีบ้าง นิยายบ้าง หรืออะไรก็ได้

คำว่าอะไรก็ได้นี้กว้างขวางจริงๆนะครับ

เมื่อเขียนไปสักระยะหนึ่งเราก็จะค่อยรู้ว่าเราเป็นอะไร หรือไม่ก็อาจจะทำอะไรดีไปหมดเลยก็ได้

สวัสดีครับคุณกายแก้ว

ยินดีที่เข้ามาลอยหน้าลอยตา
ไม่ยอมพูดจาว่าอะไร


สวัสดีจ้ะหลานนก

นึกว่าถ่ายรูปด้านข้างแล้วสวยขึ้นเสียอีก -- อาแหย่เล่นหรอกน่า !


สวัสดีครับคุณมาช่า


ชอบใจประโยคที่คุณว่า..."หากเป็นอะไรไปจริง ๆ จะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงโดยปราศจากเธอ"

นี่คุณตีความแทนคุณแพร จารุใช่ไหมครับ ? โรแมนติคจัง


แต่ผมต้องขอเตือนตามประสาคนเฒ่าว่า...ถ้าใครมีความคิดอย่างนี้จริงๆต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้บ้างนะครับ
เพราะวันหนึ่งวันใดต้องมีคนใดคนหนึ่งจากไปก่อนแน่นอน เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น

ไม่ว่าคู่ไหนๆทั้งนั้นแหละ ที่จะไปพร้อมๆกันน่ะมีน้อยครับ

ความจริงสูงสุดของชีวิตก็คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ครับ
(แวะเข้าวัดเสียหน่อย - ไม่ว่ากันนะครับ)



สวัสดีครับคุณชินจัง

เรื่องของคุณและวัตถุดิบของคุณที่มีอยู่ในกาน่า น่าเขียนสารคดีจริงๆ ไม่ใช่แกล้งยอ

ว่าแต่วัตถุดิบที่มีอยู่คุณจะทำอย่างไรให้ออกมาเป็นงานเขียนที่ดีที่สุดล่ะครับ

แต่กลัวว่าคุณคงสนุกแค่เขียนลงบล็อกก็พอแล้ว..ใช่ไหมครับ ?



โดย: พ่อพเยีย IP: 117.47.204.19 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:25:14 น.  

 
สวัสดีครับพี่โดม


เมื่อก่อนผมหวงกีตาร์มากครับ
ใครจับยังไม่ค่อยชอบเลย

แต่เดี๋ยวนี้คิดแบบพี่เค้าเลยครับ
มันเป็นเครื่องมือที่ให้เราสื่อสารกับผู้คน
(และกับตัวเอง)

ผมก็เคยไปนั่งสายหมอกดอกไม้
แต่คงเดาไม่ถูกครับว่าเป็นคนไหน

กีตาร์สวยครับพี่

...........................


ขอบคุณสำหรับคำแสดงความยินดีครับพี่
แหม....อัพบล้อกผมยังทำเนียนขนาดนี้
อัพอย่างอื่นก็พอมีความสามารถอยู่บ้างครับ
อิอิอิ

ถึงจะช้าไปเกือบ 2 ปีก็ตาม 5555


ขอบคุณครับพี่



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:45:57 น.  

 
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว ชื่อนี้สำหรับผมแล้ว คู่เสมอกับ พิบูลศักดิ ละครพล

งานของพี่ปอน เหงาหวาน
งานของพี่ถนอม เหงาเศร้า

ผมรู้จักตัวจริงพี่ปอน แต่ไม่รู้จักตัวจริงพี่ถนอม แต่ได้ดื่มด่ำงานของทั้งสองคนนี้ในช่วงวัยที่กำลังครึกครื้นในชีวิต

คนหนุ่มแม้จะครึกครื้นแต่ก็เหงา จึงเข้ากันได้ดีกับงานของทั้งสองท่านนี้

นานมาแล้ว นานมาแล้ว...

นานจนหลายเรื่องราวเราก็ลืมนะ

แต่ความประทับใจในตัวหนังสือที่ได้อ่านในวัยหนุ่ม ยังไม่ลืม.


โดย: โกศล อนุสิม IP: 125.24.18.187 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:39:46 น.  

 
ด้วยจิตคาราวะครับ


โดย: ดอกเสี้ยวขาว วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:15:50 น.  

 
มาอ่านค่ะ และเห็นด้วยกับที่พ่อพเยียว่า
เล่นดนตรีได้กับเขียนรูปได้นี่ไม่ธรรมดาหรอกครับ
ไม่ธรรมดาจริงๆค่ะ หนูล่ะช้อบ ชอบ คนไม่ธรรมดาเนี่ย

วันนี้หนูอ่านลันตา ตรึงใจแล้วนะ
แหม..หนังสือเขาขายดีเป็นเททิ้ง
พี่โดมเชียร์เสียขนาดนี้ มีหวังยอดขายพุ่งทะลุเมฆาแน่

ยังมีความสุขอยู่ดีที่ใต้นะคะ
กลับมาคราวนี้จะหาเวลาชวนพ่อพเยียมาดื่มชา
แถวคลองตันซะหน่อย...(ร้านสวยเปิดใหม่
อยากให้พ่อพเยียได้เห็น)
คุณเจ กับพี่หนอนฯถอนตัวถอดใจไม่ใยดีกับหนูเสียแล้ว
ก็เหลือแต่พ่อพเยียนี่แหละ
มีเวลาเข้ามาในเมือง มาจิบชาด้วยกันนะคะ




โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.64.68 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:04:00 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงโดม

พรุ่งนี้ได้ไปเที่ยวงานสลากด้วยแหละค่ะ
ไปกันแต่เช้าเลยค่ะ
เห็นอาจารย์บอกว่าจะมีรถจากค่ายทหารมารับ
ตอนแรกยังนึกว่าจะได้ใส่ชุดแม่บ้านทหารบกไปชะอีก
ยังดีที่ได้ใสชุดสุภาพไป
ถ้าใส่ชุดแม่บ้านฯไปมีหวังพี่น้องชาวบ้านนึกว่ามาร่วมขบวนฟ้อนแน่ๆเลยค่ะลุงโดม


โดย: เบญจวรรณ (lukkongpoka ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:43:23 น.  

 
แวะมาสวัสดีค่ะ
ช่วงนี้โรงเรียนเปิดแล้ว คงจะนานๆ แวะมาซักครั้งหนึ่ง และตอนนี้กำลังพยายามใช้ blog นี้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งค้นคว้าให้กับนักเรียนเพิ่มอีกแห่งหนึ่ง( ปกติมี web ที่นักเรียนใช้เรียนอยู่ที่ tintama.spaces.live.com อยู่ แต่ค่อนข้างยุ่งยากในการทำแบบฝึกหัดส่งครู) เปิดเทอมมาวันแรก ชั่วโมงแรก นักเรียนถามว่า "คุณครูขา คุณครูได้ up web ของครูบ้างหรือเปล่าคะ" ครูฟังแล้วสะอึกเลย เพราะเมื่อตอนปิดเทอม ครูมัวมาเล่นแต่ง blog อยู่ ลืม web นั้นเลย ฉะนั้นคืนวันที่ 31 ตค. จึงต้องมานั่งทำ web เรื่อง Fruits ให้นักเรียนได้เรียนกัน ไม่ได้นอนทั้งคืน
วันนี้แวะมาบอกเล่าแค่นี้ก่อนนะคะพรุ่งนี้ต้องไปดูงานมหัศจรรย์เด็กไทยที่กรุงเทพฯแต่เช้า แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ ...บาย..


โดย: สนต้องลม (tin_tamaka ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:4:15:51 น.  

 
สวัสดีพ่อพเยีย

ตอนที่ลงในหนังสือเราไม่ได้อ่าน ดีจังที่คุณเอามาให้อ่านตรงนี้

อ่านไปจนใกล้จบต้องหันกลับไปดูกีร์ต้าอีกทีหนึ่ง

คุณถ่ายรูปสวย ทั้งผ้าปูโต๊ะนั้นด้วย จะส่งไปให้เพื่อนคนที่ซื้อให้เมื่อเจ็ดปีที่แล้วดู เขาคงดีใจ รวมทั้งคนที่ซื้อกาลายดอกไม้สำหรับใส่น้ำชาด้วย

เดี๋ยวพี่หนอมตื่นแล้วจะเรียกให้เข้ามาดูนะ

ช่วงนี้เป็นฤดูหนาวที่ประหลาดมากเพราะว่ามีฝนด้วย เหมาะสมสำหรับการป่วย

เราเป็นหวัดเล็กน้อยมาสองวันแล้ว

ฝากถึงกะว่าก๋าหน่อย
วันก่อนเราไปดูดนตรีระลึกถึงจรัลในวันที่ 3 กันยายน เราไม่รู้เหมือนกันว่า คนไหนคือคุณ เพราะวันนั้นนักดนตรีมากเหลือเกิน แต่นั่งฟังทุกคน จะถามใครก็คิดว่าเขาคงไม่รู้ เพราะไม่น่าจะเป็นชื่อจริงของคุณ

เออ...ลืมไปคุณอยู่เชียงใหม่ไปเดินดอยด้วยกันไหม พรุ่งนี้วันที่ 4 พบกันที่ลานครูบาฯเจ็ดโมงเช้า หรือคุณรู้แล้ว ถ้าไปมาคุยกับเรานะ ถามที่โต๊ะสื่อก็ได้ว่าเราอยู่ไหน



โดย: แพรจารุ วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:02:15 น.  

 
งานเขียนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ คงต้องฝึกไปเรื่อยๆ ปลายปีนี้จะลองไปปรึกษาผู้ใหญ่ดู ยังไม่แน่ใจอะไรเลยค่ะ ส่วนตัวสนใจเรื่องสังคมวัฒนธรรม แต่ผู้ใหญ่อยากให้เราเอาด้านเศรษฐกิจและการลงทุน ในบล็อกส่วนใหญ่เขียนตามใจตัวเองค่ะ ....เสียอย่างเดียว ถ้าจะเขียนให้ดี ต้องใช้เวลาชัดเกลา แต่ทุกครั้งเปิดเครื่องเข้าบล็อกแก๊ง คิดอะไรก็พิมพ์ไปเลย ดังนั้น งานค่อนข้างหยาบ หากเปรียบเทียบกับงานวิจัยที่ทำ เพราะกว่าจะกลั่นกรองออกมา แก้ไขแล้วแก้ไขอีกเป็นสิบรอบ กว่าจะนำเสนอได้

ต้องลองดูค่ะ สิ่งที่ได้เขียนลงในบล็อกก็คงเป็นงานเบื้องต้นแบบหยาบๆ หากจะนำไปตีพิมพ์คงต้องแก้ไขเพิ่มเติมมากกว่านี้
....เดือนหน้าจะได้ไปสัมนาวิชาการที่ญี่ปุ่นแล้วจะเลยไปเมืองไทย สัมนาที่ มธ. เก็บข้อมูลที่ใต้นิดหน่อย ก็จะมากาน่าต่อค่ะ ....วันนี้ไปซื้อของฝาก เดินซะเมื่อยเลยคุณพ่อพเยีย เดี๋ยวคืนนี้จะมาเขียนเรื่องแฟชั่นโลงศพของกาน่าค่ะ น่าสนใจดี


โดย: shin chan (alei ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:51:08 น.  

 
มาส่งเสียงหน่อยค่ะ จริงๆมาทุกวันแหละ
มาอ่านตัวหนังสือแฟนคลับก็ยังดี
พี่โดมสบายดีนะคะ
งานบางอย่างลุล่วงรึยังนะ....

ปล.บล็อกเอนทรี่นี้ยังไม่เคยอ่านในหนังสือ รอดตาไปได้ไงนะ..
เลยอ่านตั้งแต่วันแรกแล้วล่ะค่ะ


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:11:54 น.  

 
มารออัพบล๊อค....
มารออัพบล๊อค......


โดย: ปลายแปรง วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:27:42 น.  

 
ขอบคุณครับโดม


โดย: ถนอม ไชยวงษ์แก้ว (แพรจารุ ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:06:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.