จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
6 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
ฝันในโรงเรียนในฝัน





ภาพไม่ใช่จากสถานที่จริง



------------------------------------



อันที่จริงโรงเรียนเชิงเขาแห่งนี้ก็มีอาคารเรียน มีสนามบาสเกตบอล มีสนามฟุตบอลและมีอย่างอื่นเหมือนโรงเรียนทั่วๆไป แต่เมื่อทอดสายตาออกไปทางด้านหน้าโรงเรียนจะเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนตั้งอยู่

ทิวเขาหน้าโรงเรียนนี่เองที่ทำให้ผมรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมของโรงเรียนมีความพิเศษขึ้นมาทันที นับว่าเป็นเรื่องโชคดีของครูและเด็กนักเรียนอย่างหนึ่งที่มีโรงเรียนอยู่ในบรรยากาศสวยงามเช่นนี้



ขณะที่ผมเดินเล่นรอบๆโรงเรียน ดอกไม้ฤดูร้อนกำลังบานสะพรั่ง ไม่ว่าจะเป็นเสลาหรือพวงแสด สัมผัสถึงอากาศสะอาดบริสุทธิ์ มองไปทางไหนก็รู้สึกสดชื่นสบายตา โดยเฉพาะทิวเขาที่อยู่ด้านหน้าโรงเรียนนั้นผมมองได้ไม่รู้เบื่อ

ความฝันในวัยหนุ่มของผมก็คือได้เป็นครูเหมือนพ่อและพี่ๆ สมมุติว่าถ้าตอนนั้นผมสอบบรรจุเข้ารับราชการครูได้ ผมก็คงต้องมีอาชีพเป็นครู ป่านฉะนี้ผมจะเป็นครูแบบไหนหนอ ? ผมสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้ารับราชการครูครั้งนั้นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต เมื่อสอบไม่ได้ผมจึงหันเหชีวิตเข้าสู่เมืองหลวง จากนั้นผมก็ไม่เคยคิดที่จะเป็นครูอีกเลย

จนกระทั่งถึงวันนี้ผมได้คำตอบให้กับตัวเองแล้วว่า ผมนั้นไม่เหมาะกับอาชีพครูอย่างแน่นอน หรือหากจะเป็นครูก็คงเป็นครูที่ดีไม่ได้ เพราะการเป็นครูนั้นนอกจากจะ “สอนดี” แล้วยังต้อง “เป็นตัวอย่างที่ดี”ด้วย โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าคนที่เป็นครูนั้นไม่ได้เป็นเพียงการประกอบอาชีพอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่ทว่าครูน่าจะเป็นปูชนียบุคคลด้วย

วันนั้นผมได้รับเกียรติให้เป็นวิทยากรบรรยายให้เด็กนักเรียนหลายโรงเรียนที่รวมตัวกันมาเข้าค่ายในโครงการ “จุดประกายความใฝ่ฝัน เพาะเมล็ดพันธุ์วรรณกรรม” ของ ”กองทุนศิลปินบ้านป่า ครูสลา คุณวุฒิ” โดยใช้สถานที่ทำกิจกรรมร่วมกันที่โรงเรียนเชิงเขา ซึ่งเป็น “โรงเรียนในฝัน” ประจำอำเภอแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ

แรกเริ่มเดิมทีผมเป็นเพียงผู้ไปเที่ยวชมกิจกรรมค่ายเท่านั้น แต่บังเอิญว่าวิทยากรท่านหนึ่งซึ่งเป็นนักเขียนชื่อดังติดธุระจำเป็นไม่สามารถมาร่วมงานได้ ผู้ดำเนินงานจึงเอ่ยปากขอให้ผมช่วยทำหน้าที่แทน

ผมรู้ตัวเองดีว่าโดยพื้นฐานแล้วผมไม่ใช่นักพูดหรือวิทยากรที่มีความสามารถ แต่ผมก็มีความยินดีที่จะทำหน้าที่นี้ เพราะหัวข้อเรื่องที่ให้ผมพูดคือการเขียนทั่วๆไปและเล่าประสบการณ์งานเขียนให้เด็กนักเรียนฟัง ผมรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องยากนักเพราะเป็นการพูดในเรื่องที่ผมรู้อยู่แล้ว สำหรับวิทยากรคนอื่นๆนั้นล้วนแต่เป็นมืออาชีพทั้งสิ้น

ผมจำไม่ได้ว่าเป็นคำพูดของใครแต่ก็รู้สึกเห็นด้วยกับประโยคที่ว่า “ศิลปะการเขียนสอนกันไม่ได้ แต่ทว่าเรียนรู้กันได้” และไม่ว่าประโยคนี้จะเป็นการพูดเล่นสำนวนหรือพูดจริงๆก็ตาม แต่ความหมายตรงตัวก็อยู่ในคำพูดประโยคนี้แล้ว การเขียนหนังสือเป็นงานศิลปะ ย่อมไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ถึงกระนั้นก็ต้องมีหลักเกณฑ์อยู่บ้าง

แม้ผมจะไม่ใช่นักเขียนที่ประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ถ้าพูดถึงการเขียนหนังสืออย่างมีความสุขแล้วละก็...ผมคิดว่าตัวเองคงเป็นนักเขียนประเภทนี้อีกคนหนึ่ง และในเมื่อผมไม่ได้เป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นด้านชื่อเสียงหรือเงินทองแล้วผมจะมีอะไรมาพูดคุยให้เด็กๆนักเรียนฟังล่ะ?

เมื่อถึงตรงนี้จึงทำให้ผมนึกถึงเรื่องที่ แม่ชีรัญจวน อินทรกำแหง เคยเขียนไว้ว่า ตอนที่ไปอยู่สวนโมกข์ใหม่ๆ ท่านพุทธทาสภิกขุขอให้แม่ชีรัญจวนช่วยสอนคนที่มาอยู่ด้วยกัน แต่ท่านปฏิเสธว่าไม่มีอะไรจะสอนคนอื่นได้ ท่านพุทธทาสภิกขุบอกว่าก็สอนเท่าที่ตัวเองมีความรู้ก็พอแล้ว

เปรียบเหมือนคนที่ก้าวขึ้นบันได ตัวเองเดินไปถึงไหนก็ช่วยจูงคนที่ก้าวตามมาทีละขั้นๆ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ที่บันไดขั้นสูงสุด แต่เราก็สามารถช่วยคนที่ก้าวขึ้นมาทีหลังเราได้

ผมพยายามรวบรวมเรียบเรียงความคิดและประสบการณ์ที่มีอยู่ สิ่งที่ผมจะพูดให้เด็กนักเรียนฟังจึงไม่ใช่เรื่องที่ว่าเขียนหนังสืออย่างไรจึงจะดัง หรือเขียนหนังสืออย่างไรจะให้ขายดี ผมคิดอยู่ในใจว่า ทำอย่างไรจึงจะจุดประกายความรู้สึกอยากเขียนหนังสือให้เด็กๆได้ และทำอย่างไรจึงจะทำให้เด็กๆที่มีความรักและความฝันที่จะเขียนหนังสืออยู่แล้วได้ลงมือทำความฝันของเขาและเธอให้เป็นจริง

ที่สุดแล้วก็คือทำอย่างไรจึงจะจุดประกายเล็กๆให้เด็กๆได้ ถึงแม้จะเป็นการจุดประกายเล็กๆ ให้กับเด็กๆได้เพียงสักคนหรือสองคน ผมก็ดีใจแล้ว

หลังจากปิดค่ายแล้วผมยังเดินทางไปเที่ยวทางเหนือต่ออีกหลายวัน เมื่อกลับมาถึงบ้านก็มีจดหมายฉบับหนึ่งรอผมอยู่ ในซองมีจดหมายแนะนำตัวและอีกชิ้นหนึ่งเป็นต้นฉบับเรื่องสั้นที่เขียนด้วยลายมืออย่างตั้งใจบรรจง เรื่องสั้นของเธอมีชื่อว่า “วันหนึ่งในฤดูร้อน”

ผมนึกถึงหน้าตาของเด็กสาวคนหนึ่งที่เข้าค่ายกิจกรรมในวันนั้น เพราะมีเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มาขอที่อยู่ของผม

เธอผู้เขียนเพิ่งใช้คำนำหน้าว่านางสาวหมาดๆ เรื่องสั้นของเธอมีการย่อหน้า เว้นวรรค ประโยคสนทนาอยู่ในเครื่องหมายคำพูด ตัวหนังสือเรียบร้อยพอสมควร และที่มากไปกว่านั้นผมได้สัมผัสถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจในจดหมายที่เธอส่งมาให้ผมเพื่อการวิจารณ์ ผมรีบเขียนโปสการ์ดตอบให้กำลังใจเธอทันที

ในชีวิตการเขียนหนังสือที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับผมในการอ่านเรื่องจากนักเขียนมือใหม่ แต่ทว่าความรู้สึกจากการอ่านเรื่องของนักเขียนมือใหม่หัดเขียนคนนี้ มันแตกต่างจากความรู้สึกที่เคยผ่านมา

ถึงแม้เรื่องสั้นของเธออาจจะยังไม่ผ่านการพิจารณาและไม่อาจถือว่าเป็นเรื่องสั้นชั้นดีได้แต่ผมก็อ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้อย่างมีความสุข ผมไม่ได้มีความสุขจากอรรถรสของเรื่องสั้น แต่ทว่าผมมีความสุขที่ได้เห็นเด็กสาวคนหนึ่งลงมือทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง แม้จะเป็นความฝันเล็กๆ แค่การเขียนเรื่องสั้นเพียงเรื่องหนึ่งเท่านั้น แต่อย่างน้อยเธอก็ได้เริ่มต้นแล้ว !

---------------------------------




เรื่องนี้เคยตีพิมพ์ในนิตยสารขวัญเรือนเมื่อนานมาแล้ว

ช่วงนี้เจ้าของบล็อกไม่ค่อยมีเวลาเขียนสด

เลยเอาของเก่ามาให้อ่านกันก่อน

สำหรับเด็กสาวที่เคยส่งเรื่องสั้นคนนั้น

แว่วๆว่าเธอมาเขียนบล็อกอยู่ที่บล็อกแก๊งนี่แหละ !!





Create Date : 06 เมษายน 2551
Last Update : 7 เมษายน 2551 8:19:43 น. 43 comments
Counter : 1161 Pageviews.

 
สวัสดีครับพี่โดม


แค่อ่านขึ้นต้นประโยค
ความคุ้นเคยกลับมาทันทีครับ

ถึงได้รู้ว่าได้อ่านเรื่องนี้แล้วในขวัญเรือนครับ




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:8:22:43 น.  

 
สวัสดีค่ะ

คำถามที่เด็กคนนั้นอยากรู้มาตลอดคือ"ทำอย่างไรจึงจะเป็นนักเขียนได้"
แล้วเธอก็ค้นหาคำตอบเจอ
ไม่รู้ว่าเธอเข้าใจเจตนารมณ์คนมอบหนังสือ"นักอยากเขียน"ให้ถูกต้องหรือเปล่านะค่ะ
แต่ในตอนนั้นเธอเพียงมีความฝันว่าอยากเป็นนักเขียน เพราะชอบเขียนชอบเล่าเรื่องราวทั้งในแบบของการเขียนเล่าและพูดให้คนอื่นฟัง
แต่เธอไม่รู้ว่าจะเป็นนักเขียนได้อย่างไร
เธอจะรู้สึกดีใจที่มีคนฟังในสิ่งที่เธอเล่าและอ่านในสิ่งที่เธอเขียน
เธอเคยคุยกับพี่สาวว่าอยากเป็นนักเขียนเธอจะเรียนอักษรฯ
แล้วความคิดนี้ก็ถูกคัดค้านจากพี่สาวด้วยคำพูดที่ว่า
"จะเป็นนักเขียนไม่ต้องเรียนอักษรฯก็ได้"
ตอนที่ได้รับโปสการด์เธอรู้สึกดีใจที่มีคนเสียเวลาอ่านความคิดของเธอ
โปสการด์ในนั้นเธอยังเก็บไว้ในกล่องที่บ้าน
ยังจำข้อความคร่าวๆได้ว่า คนส่งให้บอกเธอว่า"พึ่งกลับจากเชียงของ และยังฝากความหวังดีให้เธอหัดใช้คอมฯใช้เน็ตในการเขียนด้วย

วันนี้เธอรู้สึกขอบคุณค่ายจุดประกายความใฝ่ฝันฯ ขอบคุณคณะวิทยากรในค่ายทุกๆท่าน
และลุงโดม
ที่ทำให้เด็กๆหลายคนได้ค้นเจอในสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝัน
เธอคิดว่าคงมีอีกหลายคนที่ได้ค้นเจอตัวเองจากค่ายนี้

ด้วยความเครพ


โดย: นักอยากเขียน IP: 61.7.231.130 วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:10:46:30 น.  

 
ประทับใจจังเลย
และเมื่อคุณ "นักอยากเขียน" มาเขียนตอบไว้ด้วยก็ช่วยเติมเต็มคำถามในใจผู้อ่าน ทำให้ประทับใจมากๆๆ

เวลาอ่านเรื่องสั้น ก็อยากเป็นนักเขียน แม่เคยบอกว่าจะเป็นนักเขียนได้ก็ต้องเริ่มเขียน เลยเขียนไดอารี่ ...จนถึงวันนี้ก็ยังเขียนแต่ไดอารี่ ...

ขอเป็นนักอ่านดีกว่า


โดย: ฝน (Childcraft ) วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:20:18:47 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณโดม อ่านแล้วอิ่มใจยังไงก็ไม่รู้ เรื่องสั้นที่เขียนด้วยลายมืออย่างตั้งใจ เดี๋ยวนี้หาไม่ค่อยได้นะคะ ส่วนมากจะพิมพ์กันทั้งนั้น เพราะดูดีและอ่านง่าย อยากให้กำลังใจน้องนักอยากเขียนให้พยายามต่อไปนะคะ เส้นทางนักเขียนก็ไม่ต่างอะไรกับครูที่สอนนักเรียน เพียงแต่นักเขียนจะถ่ายทอดประสบการณ์ ความคิด และข้อคิดดีๆ ที่ได้ประสบมาอย่างตั้งใจ สำหรับป้าแป๋วชื่นชอบนักเขียนหลาย ๆ ท่านเช่นกันที่เขียนเพื่อถ่ายทอดและรักที่จะถ่ายทอด ไม่ใช่นักเขียนเพื่อการพาณิชย์ค่ะ


โดย: แป๋วภูเก็ต วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:22:01:59 น.  

 
ขอบคุณมากคับ..พี่เรียมนี่นักเขียนรุ่นใหญ่เลยนะคับนั่นไม่รุจักเป็นการส่วนตัวหรอกคัรบแต่เคยไปสมนาด้วยกันครับ


โดย: อวดดี (auwddee ) วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:22:41:49 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม

เด็กสาวคนนั้นก็คงอยู่ไม่ไกลบ้านปลายแปรงด้วยกระมังเนี่ย

ดีใจจังที่ยังเห็นร่องรอยการเดินทางของพี่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครได้


บ้านปลายฟ้าฝนตกทุกวันเลย
ตัดยางไม่ได้เป็นเดือนแล้ว นับรวมกะตอนหยุดหน้ายางก็เกือบแห้งตายแล้วค่ะ

ข้าวสารก็แพง...เล่นเอามอญสะอื้นเหมือนกัน
ก็ต้องทำมาหายังชีพกันหน้าเขียว หน้าเหลืองกว่าเดิมค่ะ



โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:7:20:06 น.  

 


อาโดมขา...


หลานห่างหายไปนาน
อันเนื่องมาจากภารกิจการงาน
มนุษย์เงินเดือนนะคะ จะเป็นแบบนี้เสมอ

สำหรับเด็กสาวคนนั้น
นกว่า..นกเดาได้นะคะ
แต่ไม่ทราบจะถูกไหมอ่ะค่ะ





โดย: Nok_Noah วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:11:54:18 น.  

 
มาเยี่ยมบ้านนักเขียนใหญ่... พร้อมกับฝากเรื่องสั้น

อากาศร้อนจนพัดลมต้องก้มหน้าและส่ายหน้า ฉันหันไปมองเห็นเข้าพอดี ฉันโมโหก็เลยตวาดให้ว่า

"เอ็งอย่ามาทำท่ารังเกียจข้า เหมือนที่ใคร ๆ หลายคนเขารังเกียจข้านะ รูมั้ยเป็นเดือนเป็นปี ไม่มีใครมาเยี่ยมข้าเลย เพราะอะไรรู้มั้ย..."

มันไม่เถียงแม้สักคำ ฉันจึงเดินไปจับคอมัน ยกบังคับให้มันเงยหน้าขึ้นมาสบตา มันสบตาและหยุดส่ายหน้าอย่างจำยอม และมันจึงเป่าลมแรง ๆ ตรง ๆ มาที่ฉัน

โอ้ สบาย....

ฉันจึงเลิกสนใจมัน และหันมาสนใจหน้าจอคอมต่อ...

เงินอีกหลายหมื่นที่จะไหลมา... ฉันคิด

ส่วนเจ้าพัดลม... ฉันรู้ว่า มันเป่าลมให้ฉันเพราะเงินค่าไฟฟ้าที่ฉันจ่ายให้มันในทุก ๆ เดือนนั่นต่างหาก หาใช่เพราะมันทำด้วยใจจริงของมันไม่

โอ้... โลกนี้ก็เป็นอย่างนี้แหละ

จบเรื่องสั้น...


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:16:58:31 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ พ่อพเยีย

ช่วงนี้ตื่นเช้าทุกวัน ตื่นมาทบทวนความคิดตัวเอง

และใช้ความคิด แบบที่พ่อพเยียเคยบอก

และได้ข้อสรุปว่า อยากทำอย่างใจต้องการมากขึ้นทุกวันค่ะ

เป็นกำลังใจให้การเดินทางไกลครั้งนี้ของวีดวาดด้วยนะ

เดินทางตามหาฝันค่ะ

ขอให้เป็นสุขกับทุกๆนาทีที่ทำงานค่ะ ฉันก็จะเช่นกัน


โดย: วีดวาด วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:6:47:13 น.  

 
ภาษิตโบราณ

"สิ่งสำคัญของการเดินทาง
คือก้าวแรกของการออกเดิน"


ยินดีกับน้องคนนั้นที่ออกก้าวค่ะ ยินดีมากๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:17:36:39 น.  

 
สวัสดียามเย็นคะ ชอบอ่านภาษาเขียนได้ดีมากๆเลยคะ


โดย: sawkitty วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:17:44:00 น.  

 


โดย: ชมจันทร์ วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:14:07:11 น.  

 
ฟังพ่อพเยียเกริ่นมานึกถึงโรงเรียนในหุบเขาที่พังงาเลย
ใครอยู่ใกล้ๆฝากรดน้ำขอพรพ่อพเยียด้วยนะ


โดย: ตาพรานบุญ IP: 222.123.78.42 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:18:45:08 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม

แอบย่องแวะเข้ามาพรมน้ำอบพี่โดมก่อนเป็นคนแรก (นู๋เป็นพวกเห่อเทศกาลค่ะ แต่แค่เห่อนะคะ ไม่ได้ไปไหน--น่าสงสารจินจินเรย)

ดีใจมั่กๆ ที่ได้พบพี่โดม (พี่ปอน และพี่คนอื่นๆ อีกมากมาย) ในงานภาพเขียนของคุณแม่พี่ไวท์ --ศักดิ์สิริ มีสมสืบ

แหม....ถ้ารู้ว่าคนดังไปกันเยอะขนาดนี้ นู๋แบกกล้องคู่ชีพไปด้วยแล้นนนนนน


โดย: tidds วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:20:38:42 น.  

 
โอ...ตาพรานบุญพูดถูก
น่าจะรดน้ำขอพรจากพ่อพเยียเนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.57.71 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:21:21:25 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณโดม

ขอให้คุณโดมมีความสุข
ในวันสงกรานต์นะคะ
แหม..เนาะ ถ้าอยู่ใกล้ๆ
น่ากลัวได้ร่วมแจมกับพี่ตะเบบูญ่า
ด้วยแน่นอน



โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.111.249 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:22:22:02 น.  

 
สวัสดีค่ะ มาเยี่ยมblogแล้วนะคะ
blogใหญ่โตจัง แล้วจะเข้ามาแอบอ่าน เรื่อยๆค่า


โดย: สุธิดา IP: 124.121.173.183 วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:7:29:28 น.  

 
หวัดดีค่ะคุณโดม
มารายงานข่าว วันที่สิบเจ็ดเมษานี้ นักเขียนดังของสหรัฐเขาจะมาที่โรงเรียนลูกสาว ดิฉันถามว่ามีชื่ออะไรบ้าง แกบอกจำไม่ได้
แม่รู้จักแต่ สตีฟเฟน คิง เพราะแด็ดดี้มีแต่หนังสือเขาเต็มไปหมด แต่ครูหนูบอกว่าเขาดังมาก หนังสือก็ขายดีด้วย ครูสั่งอีกว่าใครได้ถ่ายรูปกับนักเขียน เอามาโชว์จะได้รับรางวัลจากครู บอกครูได้เลยแม่จัดการเอง ได้รางวัลแน่ (รุ่นหน้าด้าน)งานเริ่มทุ่มหนึ่งแม่จะลากสังขารไปไหวเหรอไม่ไหวก็ต้องไหวละงานนี้ วันที่ไปรับวีช่าน้องเค้กแคร์ เจอคุณหน่อยกับคุณเคนไปรับวีช่าพอดี ลูกสาวว่าแม่ขอลายเชนต์ให้หน่อย เคนเขาไม่หล่อแม่ไม่ชอบเลย ไม่ทำละ แม่หนังเขาแสดงกับอ้อมดังมาก แต่ถ้าเต๋า ศรรามแม่ไม่พลาด ขนาดเดวิท คับเปอร์วิว ตอนไปดูเขาแสดงพอจบเขาจะลงมาคุยกับผู้ชมแม่ก็ไม่เอาลายเชนต์เพราะไม่หล่อ แต่ถ้าดาราฮอร์ลิวูดแม่จะขอ แด็ดดี้ชอบบ่นว่าแม่ทำอะไรไม่อายเลย รุ่นไหนแล้วยะ ไปเที่ยวงานที่พาเหรดที่คีเวสท์ สุดเขตของอเมริกา พวกกระเทยใส่ชุดแบบโป๊กัน ขากลับต้องขับรถสามชม.ค่อยถึงบ้าน ตาสตีฟบอกเดี๋ยววนรถหาห้องน้ำให้เธอไปปวัสวะก่อน ไม่ต้องเลยรถก็ติตพุ่มชบาตรงนั้นอุ้มลูกไว้ฉันจัดการเอง ตาสตีฟว่าเกิดมาแก่จนปานนี้ไม่เคยพบเคยเห็น ผู้หญิงฝรั่งเขาไม่ทำกันหรอก ไปสถานทูตอเมริกันสามปีก่อนต้องไปต่อคิวยาวมากที่ขอบถนน ดิฉันก็จะไปก่อนเวลา นั่งหน้าประตูทางเข้านั้นแหละฉันจะเอาบัตรคิวที่หนึ่ง คุยกับยามไป ตาสตีฟถ้าแกอายก็ไปนั้งที่โต๊ะนะ คือตาสตีฟไปเป็นเพื่อน แต่ถ้าติตต่อธุระคนของเขาจะได้สิทธิพิเศษเดินเข้าไปได้เลย พอดียามคนศรีสะเกษ บ้านเดียวกันก็คุยกันสารพัดเรื่อง พี่นี้ทำงานที่นี้มาสิบห้าปีเคยเห็นพี่เบริด์ ธงไชยมาขอวีช่าด้วยตัวเองไหม โอ้ย รุ่นนั้นไม่เคยเห็นมีแต่ผู้จัดการเขามารับไปให้ จบค่ะจบ อย่าพึ่งเบื่ออ่าน เพราะตอนนี้เข้าเรียนพยาบาลแล้วนะค่ะ ยากมาเลยค่ะการบ้านเป็นปึก อาทิตย์นี้คงไปเล่นสงกรานต์ที่วัด ลูกสาวขอร้องให้พาไป สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ


โดย: คนสวย (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:7:48:03 น.  

 


โดย: ป้าตุ้ย (amornsri ) วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:8:39:49 น.  

 
กราบปีใหม่ แบบไทย ค่ะพี่โดม

นกแสงตะวันบินหายไปในสายลมชีวิต
นาน..
แต่ระลึกถึงพี่โดมและชาวบล็อกเสมอนะคะ
หลุบปีกล้ากลับมานอนเฝ้ารังแล้ว

หวังว่าพี่โดมคงสบายดีนะคะ


โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:17:01:15 น.  

 
แวะมาดูว่า พ่อพเยีย นำเสนอเรื่องอะไร

ช่วงนี้เราอยู่บ้านใต้ แต่สะดวกในการใช้เน็ตพอสมควร ที่อบต.กลาย มีคอมพิวเตอร์นับสิบเครื่อง อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงมีไว้บริการ นับว่าทัยสมัยสุด ๆ

บ้านกลายเป็นบ้านเกิดของเรา แล้ววันหลังจะเล่าให้ฟัง

เราเดินทางมาใต้ประมาณครึ่งเดือน ซึ่งเป็นปกติของการมาเยี่ยมบ้าน

เวลาไม่พอยังไม่ได้ไปตัวเมืองนครฯ ทั้งที่คิดถึง พวกดวงแก้ว กานติ และพี่จำลอง คงต้องไว้โอกาสต่อไป


โดย: แพรจารุ IP: 118.175.127.189 วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:17:18:07 น.  

 


มาสวัสดีปี๋ใหม่เมืองอย่างเดียวเลยค่ะพี่โดม



โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:19:56:52 น.  

 
แวะมาสวัสดีปีใหม่ไทยจ้า
ขอให้พ่อพเยียมีความสุขนะ
สงกรานต์หนอนฯ ไม่ได้ไปไหนหรอก
ทำงานอยู่กับบ้านจ้า


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:0:27:05 น.  

 


โดย: ครูจี๊ด วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:0:27:34 น.  

 
สวัสดีวันสงกรานต์ครับพี่น้องทุกๆท่าน

ขอโทษที่ไม่ได้มาตอบ มาพูดมาคุยกันเลย เพราะมีงานให้ทำอยู่ตลอดเลยในช่วงนี้

อันที่จริงตั้งใจว่าจะไม่เดินทางไปไหนในช่วงวันสงกรานต์

แต่ก็มีเหตุให้ต้องไปสว่างอารมณ์ อุทัยธานีบ้านเกิด

เพราะหลานชายเสียชีวิตกระทันหัน

ออกเดินทางตอนสายๆวันนี้ เผาศพวันจันทร์เสร็จ ก็คงจะรีบกลับมาทำงานที่รออยู่


แล้วค่อยคุยกันใหม่

มีข่าวอะไรก็ฝากไว้ตรงนี้ได้เลยนะครับ


โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.17.134 วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:6:02:02 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีค่ะอาโดม
นาห์มาสวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ
ขอให้อาโดมและครอบครัวมีความสุขมากๆนะคะ

...ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ ที่สูญเสียหลานชายไปอย่างกระทันหัน



โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:9:50:43 น.  

 


โดย: sawkitty วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:10:51:44 น.  

 
เดินทางอยู่ย่านไหนละครับตอนนี้ พ่อเพยีย...


โดย: pu_chiangdao วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:14:57:17 น.  

 


อาโดมขา สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ





โดย: Nok_Noah วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:18:15:07 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ


โดย: กฤติศิลป์ (tidds ) วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:17:27:32 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ


โดย: filmgus IP: 222.123.223.30 วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:6:42:13 น.  

 
เสียใจเรื่องข่าวร้ายกะทันหันค่ะน้า
หนูเพิ่งกลับจากชะอำ ไปมาสองวัน
ห่างคอม ห่างเน็ต อ่านแต่หนังสือ

*ได้อ่านขวัญเรือนเล่มใหม่แล้วนะคะ
ภาพสวยมากๆ เลยค่ะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:21:23:05 น.  

 
ว่าจะแวะมาสาดน้ำทีหลังเพื่อนนะ
แต่พี่โดมไม่อยู่บ้านใช่ไหม

เสียใจด้วยนะคะพี่แล้วก็เดินทางปลอดภัยด้วยนะ
ช่วงเทศกาลรถรามาก

ปลายแปรงไม่ได้ไปเที่ยวไหนเหมือนกัน ต้อนรับญาติกับแขกไทยเทศ

รักษาสุขภาพนะคะพี่โดม


โดย: ปลายแปรง วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:8:09:29 น.  

 
สวัสดีปีใหม่โดม
กลับจากเปียก(ปอน)
ค่อยคุยกันนะ
เรื่องหลานเสียใจด้วย
คนหนุ่มก็ตาย
คนสาวก็ตาย
ความตายเสมอหน้า
เดาว่ารถเครื่องคว่ำ
อีกอย่างมองหน้าจิ๊กโก๋..


โดย: ปปอน ปอน IP: 222.123.81.151 วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:13:36:58 น.  

 
สวัสดีครับทุกๆท่าน

ช่วงนี้ไม่มีเวลาตอบเลย เพิ่งคัดเลือกต้นฉบับและคัดเลือกรูปเพื่อรวมเล่ม

ส่งให้สำนักพิมพ์เล็กๆที่มีชื่อว่าสำนักพิมพ์ฉลองบุญไปแล้ว ทางบรรณาธฺการอ่านต้นฉบับตอบตกลงว่าจะพิมพ์

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดคลาดเคลื่อน ก็คิดว่าคงไม่นานเกินรอ (แต่ความจริงไม่ต้องรอก็ได้)

ผมใช้ชื่อปกว่า "โลกในเม็ดทราย" แต่ไม่ใช่เรื่องที่เอาจากบล็อกหรอก ส่วนใหญ่คัดมาจากคอลัมน์ "ริมรั้วหัวใจ"ที่ขวัญเรือน นั่นแหละ


และที่กำลังคาราคาซังอีกเรื่องก็คือ ก็คือคัดต้นฉบับชุดหนึ่ง ให้อีกสำนักพิมพ์หนึ่ง ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ใหญ่ อีกไม่นานก็คงรู้ผลว่าจได้พิมพ์หรือไม่ ?

และถัดจากนี้ก็ต้องตรวจทานขัดเกลาแก้ไข เรื่องอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเขียนจบไปนานแล้ว (แต่ยังไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหน)


ช่วงนี้ก็เลยทำให้ไม่มีเวลาว่างมาเขียนบล็อก แต่คิดว่าคงไม่น่าจะเกินสองอาทิตย์ก็น่าจะเสร็จเรียบร้อย เพราะงานขั้นตอนขัดเกลาและคัดเลือกเรื่องนั้นก็ไม่ได้ใช้เวลาอะไรมากนัก เพราะส่วนหนึ่งก็ได้ตรวจทานมาบ้างแล้ว


พี่ปอนทายผิดครับ
หลานชายผมตายเพราะดื่มจัดครับ

เขาอายุย่างสามสิบเจ็ดปี แต่ดื่มเหล้ามาอย่างหนักต่อเนื่องและยาวนาน ช่วงหลังๆจะเป็นเหล้าขาวมากกว่าเหล้าแดง

จนกระทั่งเมื่อสามเดือนก่อนหมอสั่งห้ามดื่ม แต่รู้สึกว่าเขาหยุดตัวเองไม่ได้ ก็เลยต้องจบชีวิตแสนเศร้าของเขาตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสี่สิบ


คงจะต้องบอกว่าเหล้ามีส่วนทำให้เขาเสียชีวิตในครั้งนี้ก็ไม่ผิดนัก

ชีวิตเขาอาภัพมาตั้งแต่เกิดแล้ว...ก็ขอให้ไปสู่สุขคติเถิด..


โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.29.149 วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:20:16:48 น.  

 
มาอ่านที่คุณโดมเขียนเล่าไว้
บนนี้..

ไม่ต้องห่วงบล๊อกหรอกค่ะ
พี่ๆ เพื่อนๆ แวะมาดูลาดเลา
เสมอๆ..เนาะ


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.97.179 วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:22:58:42 น.  

 
อย่าเพิ่งพากันอิจฉา...
ชีวิตขาขึ้น (อีกครั้ง) ของพ่อพเยียเขาเลยนะ
emo/emo13.gif>

ให้พ่อพเยียได้ดื่มด่ำกับ "ความไม่ว่าง" จากการงานบ้าง...คงดี
แต่ถึงกระนั้นก็เชื่อว่า
ต้องมีความสุขกับการงานตรงหน้าแน่นอนอยู่แล้ว
emo/emo31.gif>

แวะทักทายเท่านี้ก่อนค่ะ เพราะยังมีงานรออยู่เยอะเลย


โดย: หนอนฯ IP: 58.9.170.207 วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:19:44:02 น.  

 
สวัสดีครับพี่โดม


เตรียมตัวอุดหนุน "โลกในเม็ดทราย" ครับ

พี่โดมครับมีเรื่องน่าแปลกใจ
ผมเดินร้านหนังสือบ่อย กลับไม่ค่อยเห็นหนังสืือของพี่วางขายครับ

อันนี้เป็นข้อสังเกตนะครับ
คือผมไม่แน่ใจว่าเค้าจัดหนังสือของพี่โดมไว้ในหมวดหมู่ไหนน่ะครับ

ผมว่าจะอุดหนุนหนังสือพี่ครับ
เพราะอ่านแล้วชอบมาก
อยากซื้อไปให้นักศึกษาอ่านครับ



โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:7:48:54 น.  

 
นางและยุ มาเยี่ยมนิดที่อุทัยแล้วคิดถึงพี่โดม สบายดีหรือเปล่า
ยังจำได้หรือเปล่าที่เคยไปเยี่ยมที่หนองเบน


โดย: กลุ่มเพื่อนนิด IP: 118.172.196.96 วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:20:52:37 น.  

 
นั่นซิคะ หนังสือคุณโดมหายากจริงๆ ด้วย
ดีที่ร้านหนังสือใหญ่ๆ เดี๋ยวนี้สามารถเช็คในคอมพ์ได้น่ะค่ะ

คุณกะว่าก๋าคะ อย่าง "ห่างไกล ไม่ไกลกัน" ดิฉันได้จากหมวดจิตวิทยา ในร้าน บีทูเอสค่ะ เป็นฉบับพิมพ์ครั้งแรกด้วยค่ะ


โดย: บัวทะเล IP: 203.156.39.89 วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:10:38:02 น.  

 
ยินดีกับเรื่องรวมเล่มของพ่อพเยียค่ะ
รออ่าน รอเก็บ รอสะสม ตามประสาคนงกหนังสือ...


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.61.236 วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:20:31:28 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่โดม

แวะมาช้ากว่าที่ตั้งใจ
ปีใหม่นี้ก้อยกลับมาเมืองไทย
มานั่งกับความร้อนอย่างคิดถึงมัน

พี่โดมสบายดีนะคะ
ขอพรให้ก้อยและหลานๆด้วยนะคะ

รดน้ำดำหัวตรงนี้เลย
(หนักเทคโนโลยี่ไปหน่อยนะนี่เรา)

ขอแสดงความเสียใจเรื่องหลานชายพี่โดมด้วยนะคะ
ชีวิตช่างบอบบางเหลือเกิน
เราอยู่ เราสู้กันต่อไป


รอติดตามหนังสือทั้งสองเล่มของพี่นะคะ
ทั้งจากสำนักพิมพ์ใหญ่ๆ และเล็กๆ

ด้วยความเคารพ และนับถือ
ต้นกล้า นัยนา


โดย: kukoy IP: 125.27.114.201 วันที่: 22 เมษายน 2551 เวลา:10:27:37 น.  

 
พี่โดม เป็ดจังเองค่ะ

ขอโทษทีนะคะที่หาไป พอดีพักบลอคไปเดือนกว่าค่ะ

พี่โดมสบายดีนะคะ คงเดินทางชีพจรลงเท้าเหมือนเดิม

จะรออ่านหนังสือเล่มใหม่อีกค่ะ เดี๋ยวไปด้อมๆตามแผงแล้วเก็บไว้ให้พี่โดมเซ็นให้นะคะ

ไปแระค่ะ อากาศร้อนระเบิด


โดย: be-oct4 วันที่: 22 เมษายน 2551 เวลา:15:35:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.