จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
24 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
ปาฏิหาริย์แห่งรักห้วยเสือเฒ่า (อีกครั้ง)




หมู่บ้านห้วยเสือเฒ่ากำลังเปลี่ยนแปลง





เพลง คืนรัง โดยสุรชัย จันทิมาธร
ขอบคุณนกแสงตะวัน เอื้อเฟื้อโค้ดเพลง



วันนี้ผมได้รับโทรศัพท์จากหมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า(เป็นหมู่บ้านที่มีนายทุนจัดให้เป็นที่อยู่ของกะเหรี่ยงคอยาว เพื่อให้คนไปเที่ยวชม) บัดนี้ที่หมู่บ้านห้วยเสือเฒ่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว เพราะทางผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้จัดที่จัดสรรทำกินให้กับชนเผ่ากะยัน (กะเหรี่ยงคอยาว) เพื่อเข้าโครงการอนุรักษ์วิถีชีวิตชนเผ่า โดยที่ทางรัฐมีพื้นที่ใหม่ให้เลือกที่จะย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านห้วยปูแกง โดยให้อิสระในการตัดสินใจ ครอบครัวไหนอยากจะอยู่ที่ห้วยเสือเฒ่าก็อยู่ต่อไปได้

ปรากฏว่ามีชนเผ่ากะยันตัดสินย้ายไปอยู่ที่ใหม่จำนวนเกินครึ่ง และเธอคนที่โทรศัพท์มาบอกผมซึ่งอยู่ในหมู่บ้านห้วยเสือเฒ่าก็กำลังตัดสินใจย้ายออกจากหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย

1/




สะใภ้เผ่ากะยัน



วันนี้เธอคลอดลูกออกมาแล้วเป็นผู้ชาย เธอตั้งชื่อว่า "สาละวิน" ซึ่งเป็นชื่อของแม่น้ำที่ทำหน้าที่ทั้งเชื่อมโยงและกั้นขวางระหว่างประเทศไทยและพม่า เธอตั้งชื่อนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของเธอ


จะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรที่ผู้หญิงอายุ 27 ปีจะมีลูก แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องธรรมดานักที่หญิงสาวมีการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยและมีนามสกุลต่อท้ายว่า ณ อยุธยา ได้เข้าพิธีแต่งงานกับชายหนุ่มเผ่ากะยันที่คนทั่วไปเรียกพวกเขาว่ากะเหรี่ยงคอยาว

เพราะเหตุใดเธอจึงตัดสินใจเลือกพ่อของลูกเป็นหนุ่มเผ่ากะยันวัย 22 ปี ที่จบการศึกษาเพียงแค่ชั้นประถมปีที่ 6 ภาษาไทยก็ยังพูดไม่ค่อยชัดและไม่มีแม้กระทั่งนามสกุล


2/





เผาข้าวหลามยามเช้า



เมื่อปลายฤดูหนาว พ.ศ. 2549 เจนจิรา สุทัศน์ ณ อยุธยา ตัดสินใจทิ้งวัฏจักรชีวิตเดิมๆที่หมุนเวียนอยู่ในเชียงใหม่ทั้งที่ยังไม่มีจุดหมายปลายทางแน่นอน รู้เพียงแต่ว่าอยากโบยบินอย่างอิสระเสรีไร้พันธะใดๆ ความฝันหนึ่งซึ่งยังเหลืออยู่ก็คือการเขียนหนังสือ เธอมุ่งหน้าสู่แม่ฮ่องสอนพร้อมกับเพื่อนผู้ชายสองคนซึ่งเป็นศิลปินเขียนรูป เพื่อนคนหนึ่งเคยเขียนรูปแม่เฒ่ากะเหรี่ยงคอยาวที่หมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า ทั้งสามจึงเดินทางมาที่หมู่บ้านแห่งนี้

ก่อนหน้านี้ชีวิตเธอสำเริงสำราญไปตามร้านเหล้าหลากหลายในเมืองเชียงใหม่ เมื่ออยู่ที่นี่ก็เปลี่ยนมาเป็นนั่งล้อมวงริมธารใสหลังบ้านหลังคาใบตองตึง จากวิสกี้หรือเบียร์มาเป็นเหล้าป่าดีกรีแรงขนาดจุดไฟติด จากบุหรี่ก้นกรองมาเป็นบุหรี่พม่ามวนโต เสียงเพลงจากนักร้องนักดนตรีในผับเปลี่ยนมาเป็นเสียงเพลงและกีต้าร์ของหนุ่มเผ่ากะยันที่ร้องเล่นรอบกองไฟในยามค่ำคืน

เธอเพลิดเพลินสนุกสนานกับการดื่มกินบรรยากาศแกล้มแสงดาวและหิ่งห้อยริมธาร จากวันเป็นเดือน จนกระทั่งเพื่อนศิลปินหนุ่มกลับกันหมดแล้ว แต่เธอยังไม่ยอมกลับและยังพักอยู่กับครอบครัวเดิมตั้งแต่วันแรกที่มาถึง แม้พวกเขาจะเป็นชาวป่าชาวดอยแต่ก็มีสายสัมพันธ์ครอบครัวอันอบอุ่น ต่างจากเธอที่เป็นคนเมืองศิวิไลซ์แต่ไม่เคยได้สัมผัสกับความหมายของคำๆนี้

แม่เฒ่าเผ่ากะยันใจดีมีลูกชายที่ยังโสดอยู่ 2 คน แต่คนที่เธอรู้สึกสนิทสนมด้วยคือ “กุย” ลูกชายคนเล็กที่หน้าตาคมสัน ฟันขาวสะอาดแวววาว เป็นสุภาพบุรุษและจริงใจ ด้วยความที่เธอไม่คุ้นเคยกับบุหรี่พม่าและเหล้าป่าในไม่ช้าก็เริ่มมีอาการไอ ชายหนุ่มลูกคนเล็กของแม่เฒ่าเริ่มแสดงความห่วงใยโดยบอกให้เธอหยุดสูบหยุดดื่มเสียที เขาพาเธอไปเที่ยวในป่าจับหอยจับปลาในแม่น้ำปายและท่องเที่ยวไปในหมู่บ้านต่างๆ จากความสนิทสนมคุ้นเคยค่อยๆเริ่มต้นเป็นความรัก

“การแต่งงานของกะยันเป็นเรื่องใหญ่กว่าความรัก ถ้ารักกันแล้วไม่ได้แต่งงานกันก็ไม่มีความหมาย ถ้าแต่งงานกันแล้วก็ต้องอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า หากเลิกกันกลายเป็นหม้ายคนอื่นก็จะรังเกียจ”

คำพูดประโยคนี้ของชายหนุ่มเผ่ากะยันทำให้เธอหวนย้อนคิดถึง “ความรัก” ที่เคยใช้อย่างฟุ่มเฟือยในชีวิตสาวสังคมเมืองที่ผ่านมา

หนุ่มสาวเผ่ากะยันนั้นถึงแม้จะรักกันแต่หากยังไม่แน่ใจว่าจะแต่งงานกัน พวกเขาก็จะไม่แตะต้องกันแม้ปลายก้อย ต่างกับสังคมคนเมืองใหญ่ขอเพียงถูกใจและชอบพอก็รวบรัดกระทำตามปรารถนา เพราะหลายคำถามของชายหนุ่มทำให้เธอตัดสินใจลาจากหมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า

คืนนั้นเธอกับเขาตั้งวงอำลาด้วยเหล้าป่าดีกรีแรง เธอตั้งใจที่จะเอ่ยคำลาแม้ว่าหัวใจนั้นแทบสลาย เพราะรู้สึกว่าตกหลุมรักชายหนุ่มรุ่นน้องผู้นี้เข้าแล้ว เธอกับเขาเกี่ยวก้อยกันไปนั่งดูดาวที่ท้ายหมู่บ้าน พูดคุยถึงความรักและความแตกต่างระหว่างกัน เขาเสมือนนกที่ถูกขังกรงเพราะต้องอยู่ในที่ๆทางการกำหนด เขาไม่เคยออกไปไหนนอกเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่วนเธอนั้นเป็นนกอิสระที่จะโผบินไปที่ไหนก็ได้ตามใจปรารถนา





แสงจันทร์เป็นใจ



ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นในคืนแสงจันทร์ฉาย รอบๆบริเวณเงียบสงัดจนเธอได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง แล้วปรากฏการณ์จูบใต้แสงจันทร์ก็เกิดขึ้น และเพียงจูบเดียวเท่านั้นกลับผูกพันเธอกับเขาเอาไว้ วันรุ่งขึ้นเธอไม่สามารถหักใจลาจากหมู่บ้านห้วยเสือเฒ่าไปได้

เพื่อนศิลปินหนุ่มคนที่พาเธอมาที่นี่หวนกลับมาอีกครั้ง เขาสังเกตเห็นสัมพันธภาพระหว่างกุยกับเธอเปลี่ยนไปจากเดิม เขาแสดงออกจนเธอรู้ว่าเพื่อนชายคนนี้แอบหลงรักเธออยู่ จึงดูประหนึ่งว่าได้เกิดเรื่องรักสามเส้าขึ้นที่หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ เธอรู้สึกสับสนและว้าวุ่นใจ

ในที่สุดด้วยความรักที่มีต่อชายหนุ่มเผ่ากะยันเธอจึงตัดสินใจเลือกอยู่ที่นี่ แม่เฒ่าพูดถึงเรื่องการแต่งงาน แต่หนุ่มกะยันก็ยังให้สิทธิ์เธอเป็นผู้ตัดสินใจ โดยการให้เธอทดลองกลับไปที่เชียงใหม่เพื่อทบทวนใจตัวเองเสียก่อน เธอตัดสินใจทำตาม เพียงแค่สัปดาห์เดียวเธอก็รู้ว่าการกลับมาเชียงใหม่ครั้งนี้เธอมาแต่ตัวเท่านั้น ส่วนหัวใจเธอฝากไว้ที่ห้วยเสือเฒ่าเสียแล้ว

ด้วยความคิดถึงอย่างสุดแรงรัก เธอจึงตัดสินใจขับมอเตอร์ไซค์คู่ชีพของเธอ จากเชียงใหม่มุ่งสู่หมู่บ้านห้วยเสือเฒ่าในเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น

แม่เฒ่าผู้ใจดีจัดการผูกแขนแทนการหมั้นหมายตามประเพณี ก่อนที่จะมีพิธีแต่งงานในอีกสองเดือนต่อมา ในระยะนี้หน่วยราชการก็เริ่มคิดจะเคลื่อนย้ายเผ่ากะยันออกจากศูนย์อพยพให้ไปอยู่รวมกันเพื่อเป็นหมู่บ้าน “การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม” แต่ทุกอย่างก็ยังคงอยู่กับที่



วันแต่งงานตามพิธีเผ่ากะยัน


ทุกวันนี้พวกเขาอยู่ในเมืองไทยในฐานะผู้ลี้ภัยจากพม่า ทุกหลังคาเรือนอยู่ใต้อาณัติของนายทุนมาตั้งแต่แรกเริ่มที่เข้ามาเมื่อราวๆ 13 ปีแล้ว โดยผู้หญิงที่สวมห่วงคอทองเหลืองจะมีเงินเดือนเล็กน้อยและมีรายได้จากการขายของที่ระลึก ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องเสียเงินเข้าไปในหมู่บ้านนี้ ส่วนนักท่องเที่ยวไทยเข้าฟรี

เมื่อเจนจิราเป็นสะใภ้ของชนเผ่านี้ เธอก็รู้สึกรักและผูกพันกับพวกเขามากขึ้น เธอคิดว่าใครๆต่างก็หาประโยชน์จากกะเหรี่ยงคอยาวแต่ไม่เคยคิดจะดูแลหรือให้สิทธิในความเป็นมนุษย์แก่พวกเขาเลย ทั้งๆที่พวกเขามาอยู่ในประเทศไทยนานแล้ว ซ้ำยังเป็นจุดขายนักท่องเที่ยวจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนไปแล้ว แต่พวกเขาไม่เคยมีสิทธิ์ที่จะได้บัตรประชาชนเหมือนชนเผ่าอื่นๆ เธอรู้สึกสะท้อนใจในคำพูดของชายคนรักที่พูดออกมาด้วยความขมขื่นว่า

“พวกผมก็เหมือนกับของแถมของโลก มีแต่คนชอบ...แต่ทว่าไม่นานก็ทิ้ง แต่ก็นั่นแหละคนเราส่วนใหญ่ก็ยังชอบของแถมกันอยู่”


3/




ดินเน่อร์ใต้แสงเทียน



ผมจากห้วยเสือเฒ่ามาพร้อมกับต้นฉบับเรื่องสั้นของเธอสิบกว่าเรื่อง เธอใช้นามปากกาว่า เจนจิรา สุ เมื่อได้อ่านเรื่องของเธอแล้วผมอยากบอกว่า เธอสามารถเป็นนักเขียนได้โดยไม่ยากถ้าอยากจะเป็น เพียงขอให้มีใจรักและปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเขียน เรียนรู้ที่จะฟังเสียงนกเล็กๆจากหัวใจของตัวเอง อยากเขียนอะไรก็เขียน เพียรฝึกฝนต่อไป แล้ววันหนึ่งก็จะรู้ว่าตัวเราคือใคร ผมนึกถึงคำพูดของ ไดนิน คาตางาริ อาจารย์เซนที่กล่าวไว้ว่า

“ความสามารถก็เหมือนกับแหล่งน้ำใต้ดิน ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่เราสูบมันขึ้นมาใช้ได้ เมื่อคุณสูบมันขึ้นมาด้วยความอุตสาหะ คุณก็จะเอิบอาบไปด้วยความสามารถ”


-------------------------------





บ้านหลังใหม่เพื่อสร้างชีวิตใหม่กับครอบครัวของเธอ
ผมถ่ายไว้ตอนที่กำลังเริ่มก่อสร้าง ตอนนี้สามารถเข้าไปอยู่ได้แล้ว












Create Date : 24 กันยายน 2550
Last Update : 3 สิงหาคม 2553 7:22:04 น. 54 comments
Counter : 2164 Pageviews.

 
เป็นบทหนึ่งของความรักที่น่ายกย่อง ส่วนเรื่องหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว เคยดูสารคดี...บทสรุปไม่ต่างจากการค้ามนุษย์เลย เราได้ขายวิถีชุมชนให้กับนายทุนไปแล้ว? ขอบคุณครับที่ทำให้ได้อ่านเรื่องราวดีๆ "เจนจิรา สุ" ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมได้ยินชื่อนี้ แต่เพิ่งรู้ตัวตนของเธอ จากที่นี่จริงๆ


โดย: ชลสิทธิ์ วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:21:16:06 น.  

 
สวัสดีครับทุกๆท่าน
ผมขอยกคอมเม้นท์หน้าที่แล้วมาไว้ตรงนี้นะครับ เพราะผมอัพบล็อกใหม่

รอมีเวลาว่างเดี๋ยวผมจะมาตอบครับ


ได้อ่านสักทีหลังจากที่คราวที่แล้วเปิดลิงค์ไม่ได้





โดย: filmgus วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:16:47:36 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 40
s;yfu8trjvrgpup

ว้า !! แกะรหัสเอาเองนะคะ อิอิ





โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:21:06:07 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 41
คุณพ่อพเยียคะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าเน็ต แต่จะแวะเข้ามาตามข่าวสารนะคะ ส่วนบล็อกคงเขียนบ้างค่ะ หน้าตาคนเขียนเป็นอย่างไร สักวันต้องเฉลยแน่(มั้ง)... ใจจริงอยากให้คนอ่านจิตนาการไปแบบนี้จะดีกว่า .........สบายดีกาน่าค่ะ



โดย: shin chan (alei ) วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:1:18:05 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 42
พ่อพเยียขา ป้าซ่าส์อยากจะบ้าตาย
รบกวนพ่อพเยียลบห่างไกล41
หน่อยนะคะป้าซ่าส์ทำลิงค์ผิดค่ะ
แหะๆขอโทษค่ะ



โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:5:21:45 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 43
อันนี้ถูกค่ะ

พ่อพเยียขา ขอปันพื้นที่แบ่งน้ำใจ สักนิดนะคะ

ขออนุญาติค่ะ

โฆษณาค่ะ

น้องหมา

หาบ้านค่ะ


กดนิ้ดส์ พลีสส ค่ะ



โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:5:23:47 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 44

สวัสดีเช้าวันจันทร์ค่ะ อาโดม

เช่นเดียวกับอาปอนและแม่น้องนิก

ไม่ได้เข้ามา Comment ไม่ได้หมายความว่าไม่อ่าน แหะ แหะ

อ่านทั้งเรื่องจากบล็อกสู่พ๊อกเก็ตบุ๊ค ทั้งเรื่อง blogger นักเขียนในโลกไร้พรมแดน แถมได้ไปดูภาพเป็นข่าวหน้าหนึ่งที่บล็อกคุณเงาศิลป์ด้วย

เรียกว่า มาบล็อกนี้บล็อกเดียว คุ้มค่า คุ้มเวลา เลยนะคะ อาโดม





โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:7:34:45 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 45
สวัสดีคะพี่โดม

แฟนคลับมากมาย
จนแทรกตัวเข้ามาแทบจะไม่ถูก เหอๆ

นี่จุ๊นะพี่ (อัครมุนี วรรณประไพ) จำกันได้ป่าว
นานแล้วเนอะ.........

ทักทายกันแค่นี้ก่อนนะคะ
ไว้แวะมาใหม่


ปล. 'ใบไม้' ก็เป็นแฟนคลับพี่โดมด้วยเหรอ .. คิดถึงนะ



โดย: จุ๊ IP: 58.8.84.178 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:7:41:14 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 46




เอารูปน้ำท่วมคลองปลายวามากระตุ้นต่อมคิดถึงค่ะ....

น้ำท่วมตลาดเก่ารอบนี้ไม่ได้ไปถ่ายรูปเก็บไว้ติดงานศพน้องพอดี...พอว่างจะเข้าไปถ่าน อ้าวน้ำลดเสียแล้ว






โดย: ปลายแปรง วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:9:05:03 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 47
เฮ้อ...มือไวจริงเรา

ยังไม่จบความเลยรีบซ๊ะ....
ดีนะ..ยังไม่ได้บอกพ่อมหาประสิทธิ์ว่าจะมีคนมาเที่ยวตะกั่วป่า ด้วยความคิดถึงโกปี้เลิศโอชาอย่างแรง.....
ไม่งั้นได้ชะแง้รอกันอีก....

ปลายแปรงก็กะว่าสิ้นเดือนนี้จะขึ้นไปแล้วค่ะ....อาเจ๊แกจะไปออสเตรเลียหลายวันเลยไปอยู่เป็นเพื่อนยายเม้าก่อน เดี๋ยวไม่มีใครพาไปจ่ายตลาด...หงุดหงิดอีก

ก็จะค่อยๆขับรถขึ้นไป เพราะต้องเอาวาคอมกะเครื่องคอมไปด้วย พี่นุมีงานค้างอยู่งานของหมอฟันยังไม่เรียบร้อยดี....ก็ยกไปแต่เคส ไปแอบจอเจ๊แก แล้วก็ไล่ให้แกไปใช่โน๊ตบุ๊คแทนน่ะ....

อาจจะเป็นวันที่ 30 หรือวันที่ 1 กระมัง...จัดการทางนี้ให้เรียบร้อยก่อน เพราะต้องซื้อปุ๋ย ซื้อยาไว้ในแม่ก่อน เดี๋ยวฝนแล้งมอญจะเปิดหน้ายางหารถไปซื้อปุ๋ยไม่ได้อีก.....กลัวป้าพิศบ่นตามหลังน่ะ

ก็เราเอาแน่ไม่ได้นี่ว่าจะอยู่กี่วัน อาจอยู่เป็นปีก็ไม่รู้

ช่วงนี้รู้สึกว่าตัวเองนิ่งมากเกินไปจนไม่กระตือรือล้น เลยอยากไปข้างนอกเร็วขึ้นด้วย....
มันนิ่งจนเฉื่อยชา ก็ต้องออกเดินทางกับชีวิต....หาอะไรใหม่ๆเติมลงไปบ้าง เก็บดอกไม้ข้างทางมาปักแจกันใจ....ของเก่ามันสีซีดแล้ว เหี่ยวใจมั่งล่ะ

สนใจไหมล่า...แต่ดูท่าตะกั่วป่าจะส่งเสียงร้องก้องอยู่ในใจแรงกว่าซะละมั้ง......



โดย: ปลายแปรง วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:9:13:09 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 48
จากบล็อกสู่พ็อกเก็ตบุ๊ก
จากพ็อกเก็ตบุกสู่บล็อค
สับเปลี่ยนกันไปค่ะ



โดย: คนเลวที่แสนดี วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:10:09:05 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 49
พ่อเพยียคะ

แม่เกาลัดเป็นสาวเชียงคานค่ะ
คุณยายของเกาลัดที่นครสวรรค์เป็นน้องสาวของยาย
เป็นน้าของแม่เกาลัดค่ะ
ย้ายมาเป็นคุณครูอยู่โรงเรียนมัธยมแถวหนองเบน
(ตอนนี้นึกชื่อโรงเรียนไม่ออก)
ย้ายสำมะโนครัวมาเป็นชาวบ้านจัดสรรแถวหน้าแม็คโคร

ไปนครสวรรค์คราวนี้
ยังนึกอยู่ว่าพ่อเพยียอยู่ตรงไหนของหนองเบน
ตลาดนัดวันเสาร์หน้าค่าย ฯ น้าก็ชวนไปเดิน แต่ก็ไม่ได้ไปค่ะ


ไปคราวนี้ ได้ไปดูเขาทาสีเรือแข่งลำยาวๆ ด้วย






โดย: ชมจันทร์ วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:13:19:28 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 50
สวัสดีครับโดม
พ่อขอบคุณเป็นอย่างมากครับ
ที่อุตส่าห์ลงเรื่องที่เขียนให้หนูพเยียอ่าน
ถ้าโดมไม่ลงทั้งหมด ก็คงเสียดายแย่เลยครับ เพราะการได้อ่านจดหมายจากพ่อถึงลูกสาว
ถือเป็นความสุขอย่างมากของพ่อครับลูก

สมัยเอบีเด็กๆ
จะมาว่ากล่าวเตือนกันก็ลำบาก
พ่อเองก็ต้องอาศัยตัวอักษรเนสื่อเช่นกันลูก

อีกทั้งได้อ่านเรื่องที่ลูกเขียนถึงคุณย่า

ก็ทำให้พ่อได้ระลึกถึงคุณแม่ของพ่อเช่นกัน ไม่ลืมที่จะหลับตาและนึกถึงต้น "เถาวัลย์เปรียง" ที่มีอยู่ที่บ้านของคุณปู่คุณย่า ที่บ้านแพน อยุธยาครับ

ต้นไม้ชนิดนี้ มีเส่นห์ดึงดูดอย่างบอกไม่ถูกนะลูก ทั้งกลิ่นและสีของดอก การเติบโตของต้น โดยเฉพาะถ้าตออยู่ริมน้ำที่ชื้นแฉะ จะทำให้ต้นงามมากทีเดียว

มีความสุขมากครับที่ได้อ่าน

ดีใจมากนะครับที่มีลูกโดมเป็นเพื่อนพ่อ เพราะที่บ้านมักมีแต่เด็กๆครับ หายเหงาไปได้เป็นปลิดทิ้งเลยครับลูก

ด้วยรัก



โดย: พ่อบู (be-oct4 ) วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:14:39:03 น.









โดย: พ่อพเยีย วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:21:26:36 น.  

 
นึกว่าเข้าบลอกเก่า

สวัสดีค่ะ คุณพ่อพเยีย
เรื่องนี้อ่านทีไร ซาบซึ้งทุกครั้ง
และก็รู้สึกดีใจจัง
มีคนจะส่งหนังสือให้แล้วค่ะ
ขอบคุณที่ทิ้งที่อยู่คุณเจนจิราไว้



โดย: filmgus IP: 222.123.221.176 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:22:30:06 น.  

 
สวัสดีค่ะอาโดม

อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขจังเลยค่ะ จริงๆนะค่ะ ชีวิตเรานี่อยู่ที่เราจะเลือกเดิน


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:22:41:17 น.  

 
ท่าทางพี่โดมจะยุ่งอยู่นะ
เพลงชอบจัง รอฟังอยู่
ตั้งแต่มีคนไปขอที่บล็อกนกแสงตะวันแล้ว
แอบนึกในใจ..เดี่ยวได้ฟังแน่

อ่านแล้วอ่านอีกเรื่องนี้ รักอย่างมีพลัง..
ตอกย้ำความรู้สึกตัวเองด้วย
ให้เชื่อมั่นในความรักบ้าง
ส่วนคนรักเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง ดีที่สุดเนอะ คริคริ

ปล. จะช่วยส่งพลังจิตให้ได้รวมเล่มโดยไวจ้ะ
จะพาไปเลี้ยงร้านแถวท่าน้ำนนท์ จริงนะ ไกล้ ไกลจริงๆค่ะ


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:22:43:09 น.  

 
ขออนุญาตประชาสัมพันธ์นะคะ
ขอบคุณค่ะ
(แต่หากเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์ลบได้นะคะ)


กิจกรรมภาวนาแบบหมู่บ้านพลัม ประจำปี 2550

จัดโดย สังฆะแห่งสติ กรุงเทพ และเชียงใหม่ ร่วมจัดโดย เลม่อนฟาร์ม

ติดต่อสอบถาม
//www.thaiplumvillage.org

โทรศัพท์ 085-318-2939 โทรสาร 02-252-7705 E-Mail : awakeningsource@yahoo.com





“ศิลปะแห่งศานติ” (The Art of Peace)

ร่วมสัมผัสประสบการณ์การเจริญสติและรดน้ำเมล็ดพันธุ์แห่งสติตามแนวทางของท่านติช นัท ฮันห์ แห่งหมู่บ้านพลัม

๖-๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐





“หากเรามองเข้าไปในตัวเราและคนที่เรารักอย่างลึกซึ้ง ความรักก็ผลิบานได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามเลย”

ติช นัท ฮันห์



น่าแปลกไหมว่า ทำไมสายใยแห่งสัมพันธภาพที่

เปราะบางที่สุด คือ ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนที่เรารัก ทั้งที่เรามีเวลาใช้ชีวิตร่วมกันมากกว่าคนอื่นๆ แต่ในชีวิตประจำวัน เรามักจะทำผิดพลาดจากความคิด คำพูด หรือการกระทำซึ่งทำร้ายตัวเราเอง และคนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว บ่อยครั้งที่เราทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด หรือเราอาจจะเจ็บปวดจากการกระทำของผู้อื่น

ท่านติช นัท ฮันห์ ได้พูดถึงการอยู่ร่วมกันกับคนที่เรารักว่า “การใช้ชีวิตร่วมกันนั้น เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ถึงแม้จะมีความตั้งใจที่ดี แต่เธออาจทำให้คนที่เธอรักไม่มีความสุขได้ ศิลปะเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในชีวิต เราต้องมีศิลปะในการพูดและการกระทำของเรา หัวใจสำคัญของศิลปะก็คือสตินั่นเอง”

ด้วยเหตุนี้เอง สันติภาพ จึงเริ่มต้นจากตัวเราเอง ผ่านการนั่งอย่างสงบ เดินอย่างมีสติ ดูแลร่างกายของเรา และปลดปล่อยความตึงเครียดของร่างกายและความรู้สึกอารมณ์ต่างๆของเรา จากการฝึกปฎิบัติเช่นนี้ หัวใจแห่งสันติจะเกิดขึ้นในตัวเรา และเมื่อนั้นเอง เราจะรู้ว่าจะมองผู้อื่นด้วยสายตาแห่งความรัก หรือสื่อสารอย่างสันติกับคนที่เรารักได้อย่างไร





วันที่ ๖-๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๐ ที่จะถึงนี้เป็นโอกาสอันดีที่ คณะภิกษุ ภิกษุณีจากสังฆะแห่งหมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศสและเวียดนามจำนวน ๘ รูป ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อจัดภาวนาและปาฐกถาธรรม ในหัวข้อ “ศิลปะแห่งศานติ : The Art of Peace” จึงขอเชิญทุกท่านมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การเจริญสติและรดน้ำเมล็ดพันธุ์แห่งศานติตามกิจกรรมดังต่อไปนี้



มีกิจกรรมภาวนา ดังนี้



30 ก.ย. 50 วันแห่งสติ (Day of Mindfulness) การภาวนาดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมีสติ 1 วัน

ณ เลม่อนฟาร์ม แจ้งวัฒนะ ถ.แจ้งวัฒนะ กทม.

เวลา 9.30 – 16.00 น. (โปรดเตรียมอาหารกลางวัน มังสวิรัติไปด้วย)

ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ



5 ต.ค. 50 ปาฐกถาธรรม ณ รพ.รามาธิบดี

เวลา 12.00 – 13.00 น.



6 ต.ค. 50 ปาฐกถาธรรม “ศิลปะแห่งศานติ” (The Art of Peace)

ณ ห้องประชุมคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ (ห้อง101)

เวลา 14.00 – 17.00 น.

ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ



10 – 14 ต.ค. 50 กิจกรรมภาวนา “ศิลปะแห่งการอยู่ร่วมกัน” (The Art of Living Together)

ณ ไร่หวานสนิทรีสอร์ท อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

จำนวนรับสมัคร 200 คน

ค่าสมัคร 4,000 บาท เด็กอายุ 6-12 ปี 2,000 บาท

นักกิจกรรมและนักศึกษา 2,600 บาท (โปรดแสดงหลักฐานในการสมัคร)





19 – 23 ต.ค. 50 กิจกรรมภาวนา “ศิลปะแห่งการดูแลอารมณ์” (Taking Care of Our Emotions)

ณ ศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ล้านนา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

จำนวนรับสมัคร 200 คน

ค่าสมัคร ตามประเภทห้องพัก (4,500 , 3,500 , 2,500 บาท) เด็กอายุ 6-12 ปี 1,000 บาท

นักกิจกรรมและนักศึกษา 1,500 บาท (โปรดแสดงหลักฐานในการสมัคร)

เดินทางสู่จังหวัดเชียงใหม่เอง มีบริการรถรับ-ส่งจาก สนามบิน สถานีรถไฟ สถานีรถบัส



โดย: ซาลาเปาไส้ครีม IP: 124.121.11.74 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:22:53:08 น.  

 
เป็นผู้หญิงที่โชคดี และกล้าหาญมาก ๆ
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วมีความสุขจัง คุ้มกับที่รอค่ะ


โดย: ทะเล IP: 58.9.102.51 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:23:11:46 น.  

 
ในแง่ความรัก อ่านแล้วหวานค่ะ
เหมือนได้ดื่มน้ำมะพร้าวเลย มีความสุขจังนิ

ในอีกแง่....ยังไม่อยากพูดขอเก็บความหวานไว้ในหัวใจก่อนค่ะ


โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:0:00:48 น.  

 
คุณโดมคะ...
อ่านบล็อกของคุณมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่ได้แสดงตัวสักที ไม่อยากจะบอกว่าที่มีบล็อกของตัวเองทุกวันนี้ได้ก็เพราะเก็ตไอเดียมาจากคุณ แต่แรงบันดาลใจน่ะมาจากคุณพิบูลย์ศักดิ์ ก็แหม! ขนาดพี่แก่ เอ๊ย! พี่แกยังสร้างบล็อกได้ เรา (เด็กกว่าตั้งเยอะ) ก็ต้องสร้างได้สิ อิ...อิ...

ที่ไม่ได้แสดงตัวสักทีก็เพราะแฟนคลับคุณแยะจริงๆ ฟันฝ่าเข้าไปเป็นคอมเม้นท์แรกๆ ไม่ไหว (อยากให้ตอบก่อน) แต่คราวนี้เกิดความสงสัยจนทนไหว (อีกแล้ว) เลยอยากจะถามว่าทำไมไม่เขียนที่กุลสตรีต่อล่ะคะ หรือว่างานยุ่ง แต่ยังไงก็ยังอ่านที่ขวัญเรือน และทุกบล็อกที่คุณเขียนนะคะ

แล้วจะมาใหม่เมื่อความสงสัยมาเยือน... สวัสดีค่ะ


โดย: โตมานาน วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:1:29:15 น.  

 
สวัสดีครับทุกๆท่าน

เมื่อวานซืนผมไปธุระข้างนอก เลยกลับบ้านดึกเกือบตีสาม นานแล้วที่ไม่ได้กลับบ้านดึกอย่างนี้

เมื่อวานก็เลยไม่รู้สึกสดชื่นเท่าที่ควร เมื่อคืนเลยนอนก่อนเที่ยงคืน ตื่น ตีสี่ครึ่ง เข้ามาตอบคอมเม้นท์ก่อนแล้วค่อยทำงานอย่างอื่น


สวัสดีครับฟิล์มกัส

ขอบคุณมากที่จะส่งหนังสือไปให้คุณเจนจิรา คิดว่าคงเป็นประโยชน์กับเธอไม่น้อยทีเดียว เพราะเมื่อฤดูหนาวปีที่แล้วผมได้ไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนั้น

ได้เห็นและรับรู้เรื่องราวของเธอ เลยเอามาเล่าต่อ

สวัสดีครับป้าซ่าส์

เรื่องความรักนี่ ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ใครไม่กลัวทุกข์ก็รักเข้าไป ไม่ว่ากัน

สวัสดีครับคุณชิน

ก็เพราะอ่านที่คุณเขียนน่ะสิจึงทำให้อยากเห็นหน้า เอาเถอะ ! เห็นก็เห็นไม่เห็นก็ไม่เป็นไรหรอก จะรออ่านเรื่องจากกาน่าของคุณ


สวัสดีจ้ะหลานหทัยชนก

ใครใคร่อ่าน อ่าน
ใครใคร่ผ่าน ผ่าน ตามสบาย

เพราะอาโดมได้เขียนได้เล่าก็สนุกสุขใจ กำไรไปเปราะหนึ่งแล้ว

มีหลานนกบอกว่าคุ้มก็คุ้มไปใหญ่ ขอให้คุ้มจริงๆเถอะ !

สวัสดีครับจุ๊

อันที่จริงอยากจะตอบคอมเม้นท์ของจุ๊ตั้งแต่อ่านเมื่อวานแล้ว แต่พอดีมีงานอื่นรออยู่ และไม่อยากตอบคำทักทายแบบผ่านไปที ก็จึงรอมาตอบวันนี้


อยากบอกว่าดีใจมากที่ อัครมุนี วรรณประไพเข้ามาทักทายที่บล็อกนี้ อันที่จริงแค่เขียนชื่อว่าอัครมุนี ไม่ต้องใส่นามสกุล ก็เชื่อว่าไม่ซ้ำใครในประเทศนี้แล้ว

ยังจำความหมายของชื่อนี้ที่จุ๊เคยบอกได้เลย เราไม่ได้เจอกันนานมาก อยากรู้เหมือนกันว่าทำอะไรอยู่ บอกได้ไหม ?

เชื่อไหม...ว่าถึงวันนี้ยังติดใจหนังสือบางๆเรื่อง "ในความมีอยู่" ที่จุ๊เขียนอยู่เลย

ทั้งที่ตอนที่จุ๊เขียนตอนนั้นอายุยังน้อยอยู่

อย่าไปพูดเลยว่าแฟนคลงแฟนคลับ เขินน่ะ ก็พี่ๆน้องๆหลานๆ แต่จริงๆหาพี่ๆไม่ค่อยมีหรอก มีแต่น้องๆหลานๆ

สำหรับใบไม้ก็เพิ่งพบกันในบล็อกนี้ไม่นานหรอก อย่าลืมบอกนะว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ที่ไหน ยังอยู่ในประเทศไทยหรือเปล่า ? แล้วค่อยคุยกันใหม่นะครับ



สวัสดีจ้ะปลายแปรง

อ้าว! ตกลงจะขึ้นเหนือสิ้นเดือนนี้แล้วใช่ไหม ?

ไปอยู่ข้ามปีเลยหรือเปล่า ?

อาการที่ว่ามัน "นิ่ง" น่าจะดี
แต่กลัวว่าจะเป็น "เนือย" นะสิหนู

เอาเถอะ การเดินทางภายนอกก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่ถึงเวลาจริงๆอย่าลืมดูการเดินทางภายในด้วย

ไม่อยากเอาหนังสือมาสอนสังฆราชหรอก เพราะท่านรู้หนังสือดีกว่าเราอยู่แล้ว

แล้วหนังสือของทันตแพทย์สมล่ะ จะให้ส่งไปที่ไหน บอกมาด้วย

นะ ส่งทวาร 6 ส่งให้คุณเมตตาไปแล้ว เพราะรับปากกับเธอไว้ก่อน เหลือ "เกิดเพราะกรรมฯ"
ส่วน "ไอน์สไตน์พบพระพุทธเจ้าเห็น" นั้นมีแล้วใช่หรือไม่ ?

สวัสดีคนเลวที่แสนดี




สวัสดีครับคุณชมจันทร์

ขอบคุณครับที่เข้ามาบอกภูมิลำเนา นึกว่าอยู่นครสวรรค์เสียอีก

เดี๋ยวจะลองเช็คพื้นที่ดูว่าบ้านคุณยายเกาลัดอยู่ตรงไหน ?

เช็คเฉยๆน่ะครับ ไม่ไปหรอกนะ เพียงแต่อยากรู้ว่าอยู่หมู่บ้านอะไร ตำบลอะไรเท่านั้นเอง


สวัสดีครับคุณพ่อบู

สำหรับผมคุณพ่อบูคือปรากฏการณ์พิเศษแห่งบล็อกครับ

และรู้สึกทั้งดีใจและเกรงใจเสมอเวลาที่คุณพ่อบูแวะเข้ามาเยี่ยมที่บล็อกผม

ผมรู้สึกดีใจครับที่คุณพ่อบูบอกว่าผมเป็นเพื่อนคุยให้คลายเหงาได้ แล้วผมจะแวะไปกราบอีกนะครับ


สวัสดีครับคุรชบสิทธิ์

ด้วยความยินดีที่เข้ามาทักทายครับ ช่วงที่ผมไปพักอยู่ในหมู่บ้าน ก็ได้เห็นการใช้ชีวิตของเธอกับคนรัก

ก็ถือว่าเป็นการเลือกอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่แค่เลือกการเลือกคนรักอย่างเดียว แต่เป็นการเลือกใช้ชีวิตด้วย

สวัสดีจ้ะหลานมัยดีนาห์

แล้วหลานล่ะ มีคนที่ถูกใจอย่างที่เขียนไว้ในบทกลอนหรือยัง ?

แต่ทว่าเรื่องความรักหรือชีวิตคู่เนี่ยะนะ อาโดมว่าใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกฝ่ายเดียว ต้องต่างฝ่ายต่างเลือกกันด้วย


สวัสดีจ้ะยิปซีสีน้ำเงิน

ไม่ได้ยุ่งอะไรหรอกจ้ะ
คงเห็นว่าเอาเรื่องที่ตีพิมพ์มาอัพบล็อกใช่ไหม ? ถึงถามว่ายุ่งไหม ?

อันที่จริงก็มีเรื่องอื่นๆที่จะอัพบล็อกอยู่เหมือนกันแหละ

แต่ทว่ารอจังหวะเวลาที่จะอัพเรื่องนี้ตอนที่หนูเจนจิราจะย้ายบ้านจากห้วยเสือเฒ่าเข้าบ้านใหม่

เช้าวันนี้แหละที่เธอบอกว่าจะเข้าไปอยู่ที่บ้านหลังใหม่ของเธอที่บ้านไม้แงะ ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ก็อยากขอหนังสือจากคนที่มีหนังสือเหลืออ่าน คนละเล่มสองเล่มส่งไปให้เธอได้อ่านบ้าง

เพราะรู้ว่าตรงนั้นขาดแคลนหนังสือ
ฤดูหนาวนี้เธอก็จะมาขายของที่ถนนคนเดินในตัวเมือง
ส่วนหนึ่งเธอบอกว่าตั้งใจที่จะเขียนหนังสือ

ตอนนี้เธอกำลังเริ่มเขียนคอลัมน์ที่ประชาไท ด็อทคอม แล้ว แต่วันนี้ยังไม่เห็นคอลัมน์ของเธอ

ก็เลยคิดว่าเผื่อมีคนใจดีส่งหนังสือไปให้เธออ่านบ้าง ลำพังพ่อพเยียก็ส่งไปได้ก็ไม่มากนัก (ตามกำลัง)


สวัสดีครับคุณซาละเปาไส้ครีม

ชื่อคุณน่ากินกับแฟตอนเช้าจัง

ตามสบายเถอะครับ ไม่เป็นไร ไม่ลบหรอก สำหรับข่าวกุศลเช่นนี้


สวัสดีครับคุณทะเล

ผมไม่รู้ว่าเธอโชคดีหรือเปล่า ?

แต่ที่ผมรู้ว่าเธอกล้าหาญที่จะเลือกในสิ่งที่หัวใจเรียกร้อง

ได้ข่าวว่าหนุ่มๆแถวเชียงใหม่อกหักไปหลายคน

สวัสดีครับคุณโตมานาน

ยินดีต้อนรับการปรากฏตัวของคุณ

สำหรับคำถามของคุณ


ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ...ในความคิดเห็นของผม... เวลาที่เราจะตัดสินใจอะไรสักอย่าง บางทีก็ไม่ใช่ด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง

แต่เมื่อหลายๆเหตุผลมารวมกัน ชั่งน้ำหนักสิริรวมแล้ว จึงตัดสินใจไปทางใดทางหนึ่ง

การตัดสินใจของผมก็เช่นกัน

ผมได้พิจารณาตัวเองแล้วได้ข้อสรุปพอจะพูดได้เป็นประโยคสั้นๆว่า "สมควรแก่เวลา" แล้วครับ

ขอบคุณครับที่ให้ความสนใจในความเป็นไป


โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.17.43 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:6:12:13 น.  

 
นับถือเลยค่ะ

เป็นตัวอย่างของคนที่กล้าใช้ชีวิตดังใจมุ่งหวัง
ใช้หัวใจมากกว่าเหตุผลและ
เชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเอง
ชีวิตจริง ก็เป็นเช่นนี้ ไม่ได้มีเพียงในนิยาย

สาละวินน้อยอายุประมาณเท่าไหร่แล้วคะ ?
อยากส่งหนังสือเด็กไปให้ค่ะ

ปล.

บ้านน้องสาวคุณยายของเกาลัด
เป็นบ้านจัดสรรที่อยู่ในซอย
ฝั่งตรงข้ามแม็คโครนครสวรรค์ค่ะ
เพิ่งอยู่ได้สามปีเองมั๊งคะ
แต่บ้านแท้ ๆ ก็ยังอยู่ที่เชียงคานค่ะ



โดย: ชมจันทร์ IP: 202.29.77.2 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:8:51:15 น.  

 
การเลือก......
เป็นเรื่องยากลำบากที่จะตัดสินใจ

ลำบากมากยิ่งกว่า...ถ้าไม่เลือก
การเลือกที่จะได้มาซึ่งบางสิ่งบางอย่างเราอาจเสียบางอย่างเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน...หรือเพื่อทดแทนกัน

สิ่งที่เธอเลือกอาจดูลำบากเพราะเลือกในสิ่งที่ยาก....
แต่ชีวิตเรา...บางครั้งก็อาจจะโดนเลือกมาแล้วก็ได้ว่าเราจะอยู่กับใครได้....ใช่คนๆนั้นหรือไม่ การเลือกก็ไม่ได้ลำบากอะไร...

เดี๋ยวออกเดินทางแล้วค่อยบอกพี่โดมดีกว่าค่ะ...เพราะตอนนี้ก็ยาก ลำบากใจในการเลือกกระทำ เลือกปฏิเสธ เลยยังเอาแน่ไม่ได้....
แต่แน่กว่านั้น....ไปสิ้นเดือนนี้ค่ะ

และแน่กว่านั้นพี่โดมพูดถูกแล้วค่ะว่านิ่งในยามนี้คือ "เนือย" เลยเฉื่อยชา.....

ปัญหา...บางครั้งก็ต้องก้าวออกไปหนึ่งก้าวเพื่อเป็นคนข้างนอกซึ่งไม่ได้อยู่ในปัญหา...แล้วพิจารณาอย่างสายตาคนนอก....ดีกว่าเป็นคนในปัญหาแล้วแก้เท่าไรก็เป็นลิงแก้แห.....

เลยจะออกเดินทาง......คงไม่ข้ามปีหรอกเพราะปีใหม่ก็ต้องกลับมาฉลองอยู่ดี....พลาดบ่อได้ก๊า


โดย: ปลายแปรง วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:10:01:07 น.  

 
ใช่แล้วเธอโชคดีที่เกิดมามีจิตใจที่กล้าหาญ พร้อมจะทำในสิ่งที่หัวใจเธอเรียกร้อง บางคนเกิดมาทั้งชีวิตอาจไม่เคยได้ทำตามหัวใจตัวเองเลยสักครั้ง....

อนาคตต่อจากนี้จะสำคัญอะไรเล่า เธออาจโชคดีกว่านี้....แต่ก็ไม่สำคัญเท่า ความสุข ความโชคดีที่ยังอยู่กับเธอในวันนี้

วันที่เธอได้อยู่กับสิ่งที่มีคุณค่ากับเธออย่างแท้จริง แถมยังมีความใฝ่ฝัน ที่เธอพร้อมจะตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด....

มีคนแอบนั่งยิ้ม แกมอิจฉาคุณเจนจิราเล็กๆตรงนี้ 1 คนนะคะ

ขอให้พระคุ้มครองคุณเจนจิราและครอบครัว ค่ะ



โดย: ทะเล IP: 58.9.161.164 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:10:12:26 น.  

 
สวัสดีค่ะอาโดม ทานข้าวเที่ยงยังค่ะ...มาอ่านอีกครั้งเจอคำถามอาโดม
"แล้วหลานล่ะ มีคนที่ถูกใจอย่างที่เขียนไว้ในบทกลอนหรือยัง ?"

แฮะๆ ยังหรอกค่ะ บทกลอนมันก็คือกลอน ชีวิตจริงยังอีกยาวไกลค่ะ (เหมือนปลงตก)

เห็นด้วยกับอานะค่ะ ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เลือกไม่ได้





โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:11:55:25 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม
มิตรรักนักเขียน (บล๊อก) ทุกท่าน
----------------------------------
คิดถึง "ความรัก"
คิดถึง "ความฝัน"
คิดถึง "รักในฝัน"
คิดถึง...คิดถึง
และคิดถึงค่ะ

ปล. ไม่ได้มาออดอ้อนนานละ
เอ! แล้วจะมารำพึงรำพันทำไมละเนี่ย!


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:13:11:36 น.  

 
อ่านเป็นครั้งที่สองก็ยังประทับใจเหมือนเดิม
ชอบบรรทัดปิดท้ายของพ่อพเยีย...

“ความสามารถก็เหมือนกับแหล่งน้ำใต้ดิน ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่เราสูบมันขึ้นมาใช้ได้ เมื่อคุณสูบมันขึ้นมาด้วยความอุตสาหะ คุณก็จะเอิบอาบไปด้วยความสามารถ”

พ่อพเยียช่างสรรหาคำพูดดีๆเหล่านี้มาบำรุงหัวใจคนอ่านอยู่เสมอ
คนอ่านอย่างหนูมีแต่กำไร

เมื่อหลายวันก่อนไปอ่านขวัญเรือนเล่มเก่า
เล่มที่มีภาพทะเลบัวน่ะค่ะ
สวยประทับใจมากทุกภาพเลย


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.65.9 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:13:16:36 น.  

 
สวัสดีครับคุณชมจันทร์

โรงเรียนมัธยมที่ว่าน่าจะเป็นโรงเรียนพระบางวิทยา ที่อยู่ใกล้ๆตลาดเอื้ออารี หนองเบน ไม่รู้ว่าจะใช่หรือเปล่า

สาละวินน้อยอายุยังไม่ถึงขวบเลยครับ !

เชียงคานนี่เป็นอำเภอ อยู่ที่จังหวัดเลยใช่หรือเปล่าครับ หรืออไปทางเหนือ ทางเชียงของโน่น

สวัสดีจ้ะปลายแปรง

การ "ไม่เลือก" ก็คือ "การเลือก"อย่างหนึ่ง คือไม่เลือกสิ่งนั้นแต่เลือกสิ่งนี้ไงจ๊ะ !

ได้ยินว่าทางเหนือเริ่มหนาวแล้วนะ ปลายแปรง ไม่รู้ว่าปีนี้จะได้ไปเหนือหรือเปล่านะ ?

ถ้าไม่ได้ไปก็ช่วยหนาวเผื่อด้วยก็แล้วกัน


สวัสดีครับคุณทะเล


ความรักมีอานุภาพอยู่จริงใช่ไหม ?

ตอนนี้คุณยังอยู่ในช่วงตกแต่งรีสอร์ทริมทะเลอยู่หรือเปล่าครับ ?

สวัสดีจ้ะหลานมัยดีนาห์

เรื่องความรักน่ะมีคนเขาว่ากันว่า

ยิ่งวิ่งไล่หาก็จะวิ่งหนี
ยิ่งหนีก็จะถูกตาม

แต่ถ้าเราอยู่เฉยๆมันจะอยู่รอบๆตัวเรานี่แหละ


สวัสดีจ้ะสาวบ้านนอก

อะไรๆก็พอเข้าใจหรอก แต่ว่า "คิดถึงรักในฝัน" นี่เป็นยังไงนะ

สงสัยว่าจะมีความรักเฉพาะในตอนที่นอนฝันเท่านั้นมั้ง


สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่า

ได้รับเมล์แล้วต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ตอบ

แต่บอกว่าส่งโค้ดเพลงมาหรือ ไม่เห็นเลย หรือว่าลืม หรือว่ายังไม่ได้ส่งนะ ?


โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.21.94 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:17:49:25 น.  

 
เพลงเพิ่งส่งตามหลังไปเมื่อสักครู่เองค่ะ
แล้วจะส่งให้อีกเรื่อยๆนะคะ
จะหาเพลงที่เหมาะกับการใส่ลงบล๊อกให้ค่ะ
เพลงนี้ของคุณหงาก็เพราะมาก กินใจจัง
ไม่ค่อยได้ฟัง นานๆฟังที รู้สึกดีมาก
ดนตรีเรียบง่ายแบบของเรานี่ สวยงามไม่แพ้ใคร...


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.61.22 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:18:33:43 น.  

 
ขอชื่นชมและยินดีกับ"ความรัก"ที่เลือกได้ของเธอคะ เธอคงเก่งน่าดูที่สามารถ"เลือกทำ"แบบนี้ได้
เพื่อน อาเครญา มีเพื่อนครู เป็น "ม.ร.ว.....จักรพันธ์ "ท่านหนึ่งที่แต่งงานกับหนุ่มชาวนา ในอ.น้ำยืน อุบลราชธานี ทุกวันนี้ท่านมีทายาทและ"เว้าลาวเด้อคะ"ที่บ้าน แต่ท่านไม่ยินยอมให้นำเรื่องของท่านมาเปิดเผย และไม่ยินยอมให้สัมภาณ์คะ...อาเครญา ก็ได้แต่เล่าเรื่องของท่านต่อๆกัน..ด้วยความทึ่งและชื่นชม
ใความกล้าหาญ..เช่นเดียวกับเรื่องของ คุณเจนจิรา คนนี้ของพี่โดม คะ


โดย: อาเครญา IP: 58.10.155.168 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:19:01:38 น.  

 

งดงาม มากๆค่ะเรื่องนี้
อยากอ่านผลงานเธอนะคะ
พี่โดม ช่างสรร..เรื่องราวดีๆมาให้อ่าน ขอบคุณมากๆนะคะ


โดย: ดอกดาญ่า IP: 124.121.36.76 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:19:43:02 น.  

 
จำได้ว่า เคยอ่านเรื่องราวความรักของทั้งคู่

แต่ยังไม่เคยมีโอกาสไปเยี่ยมตัวจริงเลยซักครั้ง

ไปเหนือคราวนี้คงต้องแวะเวียนไปซ่ะหน่อย



โดย: mojigirl วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:21:59:27 น.  

 

LOVE*

Love is real , real is love
Love is feeling , feeling love
Love is wanting to be loved

Love is touch, touch is love
Love is reaching, reaching love
Love is asking to be loved

Love is you
You and me
Love is knowing
we can be

Love is free, free is love
Love is living, living love
Love is needed to be loved



* เพลงของ John Lennon

ความรักไม่ใช่เรื่องของภายนอก
แต่เป็นเรื่องภายใน..

เรื่องของทั้งสอง น่าจะมีคนสนใจเอามาสร้างหนังนะ หรือไม่ก็สร้างจากเรื่องที่เธอจะเขียนเอง..

ขอเป็นกำลังใจให้ ทั้งในด้านชีวิต และการเขียนหนังสือ..




โดย: ปะการัง (ชบาฉาย ) วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:10:33:19 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ ได้ยินชื่อน้องสาละวิน แล้วนึกถึงเพื่อน ที่เรารักโปสต์การ์ด เค้าชื่อ ริมฝั่งสาละวิน แต่บ้านเค้าอยู่ที่แม่สะเรียง

เค้าส่งโปสต์การ์ดมาทักทายเสมอ เห็นเส้นทางการเดินทางของเค้า แล้วทรหดจริงๆ ยิ่งถ้าช่วงหน้าฝน คงไปไหนมาไหนลำบาก พอนึกถึงน้ำใจของเค้าแล้ว ก็เห็นถึงความน่ารัก ที่อยู่ไกลแสนไกล ยังอยากส่งโปสต์การ์ดมาถึงเพื่อนๆในคลับ


โดย: แม่ปัน-ปอง IP: 125.27.200.88 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:11:02:17 น.  

 
Beyond Words



โดย: J IP: 203.154.114.253 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:11:55:58 น.  

 
งามและงามและงาม...
ชีวิต.


โดย: pu_chiangdao วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:12:32:44 น.  

 
ห่างไกลแค่ไหน
ไม่ไกลเกินกว่า
หัวใจจะพบกันจริงๆนะครับ



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:16:00:18 น.  

 
ผมลืมสวัสดีพี่โดมไปได้ยังไง

สวัสดีครับพี่



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:16:01:50 น.  

 
รายงานสด...
จินนี่..แม่ขาพรุ่งนี้เราไปทานข้าวกับน้าจิบใช่ไหมคะ
แม่....ใช่ค่ะ พี่ภูด้วย
จินนี่..แล้วพี่พเยียล่ะคะ
แม่(งง)..เอ่อ...พี่พเยียเป็นลูกลุงโดมจ้ะ พี่พเยียไม่มาหรอกจ้ะ
จินนี่..หนูคิดถึงลุงโดมค่ะ...

จบรายงานข่าว....


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.60.75 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:17:29:03 น.  

 
ความรักมีอานุภาพอยู่จริงใช่ไหม ?
อานุภาพซิเจ้าค่ะ มีคนบอกว่าความรักทำให้คนตาบอดได้ด้วย แหะ ๆ ล้อเล่นน่ะคะ

หากเปรียบอานุภาพของความรัก เป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อฝ่าฟันอุปสรรค์ต่างๆ ในชีวิตด้วยแล้ว ก็คงเป็นของวิเศษที่มีอานุภาพมากๆ

แต่จะมีอนุภาพมากแค่ไหน ก็คงต้องอยู่ที่ว่าหัวใจของใครเป็นผู้กำความรักนั้นไว้

ดาบที่วิเศษที่สุด มีอานุภาพร้ายกาจสุด สุด.. หากตกอยู่ในมือของผู้กล้า และเป็นคนดี ย่อมเป็นอาวุธชั้นเลิศ ในการฟาดฟันสิ่งชั่วร้าย แต่หากตกไปอยู่กับคนดี แต่อ่อนแอ ก็ไร้ประโยชน์ อาจเป็นโทษด้วยซ้ำหากพลาดไปอยู่กับผู้กล้า แต่มีจิตใจที่ไม่ดี ...

ความรักจะมีอานุภาพรุนแรงมากน้อย...ก็คงขึ้นอยู่ที่จิตใจของผู้ที่ครอบครองอยู่ว่า มีใจที่ดีงาม กล้าหาญและมั่นคงเพียงใด

หากมีจิตใจที่ดี แต่ขาดความมั่นคง และกล้าหาญพอ.. อาจทำให้ชีวิตตนเอง หรือใครต้องพังเพราะตนเองอ่อนแอ....

แต่หากคนที่จิตใจไม่ดี คิดใช้อานุภาพความรัก ไปในทางที่ชั่วก็ย่อมทำร้าย และทำลายชีวิตคนให้ตายทั้งเป็นได้เช่นกัน....

มีสิ่งอัศจรรย์อย่างเดียว ที่ทำให้ความรักมีอานุภาพสูงสุด และสามารถชนะอุปสรรค์ต่างๆทุกอย่างได้ นั่นคือ.. " เรารักกัน" (หมายถึงเราสองคนนะค่ะ ไม่ใช่ เราสามคน) เพราะจะแข็งแรง มั่นคงเสมอกว่ากว่า... ฉันรักเธอ ..หรือ.. เธอรักฉัน..

ขอบคุณค่ะที่ถามถึงเรื่องงาน ยังไม่ไดลงไปดูบรรยากาศเลยค่ะ ทางโน้นก็ยังไม่เห็นงานที่จะถูกเนรมิตให้เอาไปใส่เลย ไม่จบแบบ แฮปปี้เอ็นดิ้งเปล่า

เอ...คุณยานาหายไปไหนคะเนี่ยะ?


โดย: ทะเล IP: 58.9.98.220 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:20:31:54 น.  

 


สวัสดีค่ะ อาโดม

"ความรัก" เลือกได้จริงๆ นะคะ ชื่นชมกับสิ่งที่เธอเลือกค่ะ

นอกเหนือจากหนังสือที่ส่งให้คุณเจนจิราแล้ว นกอยากส่งหนังสือสำหรับเด็กให้น้องสาละวิน หรือเด็กๆ ที่นั่นได้อ่านด้วย

มีหนังสือของหลานๆ อยู่ที่บ้านแม่หลายเล่ม บางเล่มเป็นหนังสือ pop up ภาพการ์ตูนน่ารัก เหมาะสำหรับเด็กๆ ค่ะ

คนอ่านคนนี้ขอสนับสนุนนักเขียนอีกท่านหนึ่งด้วยค่ะอาโดม




โดย: Nok_Noah วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:21:12:06 น.  

 
สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่า

ขอบคุณสำหรับเพลงที่ส่งมาให้

พ่อพเยียไม่ค่อยรู้เรื่องเพลงหรอก แต่พอเห็นชื่อของ Mark knopfler แล้วทำให้รู้สึกคิดถึงเพื่อนที่ชื่อเตือนจิต นวตรังค์

เขาเคยพูดถึงชื่อนี้ให้ได้ยินอยู่บ่อยๆสมัยที่ยังเที่ยวเตร่สุมหัวกัน แต่แปลกที่พ่อพเยียยังอุตส่าห์จำชื่อนี้ได้ ทั้งที่ไม่รู้จักเพลงของเขาเลย

เดี๋ยวรอให้ได้จังหวะก่อนจะเอาเพลงที่ส่งมาลงบล็อก

แปลกใจว่าทำไมหนูจินนี่จึงรู้จักชื่อพี่พเยียด้วย

สวัสดีจ้ะอาเครญา

จะว่าไปแล้วเราทุกคนที่มีคู่กันอยู่ทุกวันนี้ สมหวังไม่สมหวังบ้าง
สุขบ้างทุกข์บ้าง

ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าที่เป็นอยู่อย่างนี้ก็เพราะเราเลือกเองนั่นแหละ

เพียงแต่กรณีของเจนจิรานั้น สิ่งที่เธอเลือกนั้นอาจจะดูแตกต่างไปจากคนส่วนใหญ่เท่านั้น


แต่เท่าที่ได้รู้จักสองคนเขาก็รักกันดี เหมือนผัวเมียคู่อื่นๆนั่นแหละ เพียงแต่ต่างเชิ้อชาติ แต่ก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน


สวัสดีครับคุณดอกดาญ่า

เธอเพิ่งมีเรื่องสั้นตีพิมพ์เพียงเรื่องสองเรื่อง เรื่องล่าสุดเมื่อหลายเดือนผ่านมาลงตีพิมพ์ที่เนชั่นสุดสัปดาห์

แต่เธอส่งข่าวมาว่า ตอนนี้มาอยู่บ้านหลังใหม่แล้ว มีคอมใช้มีไฟใช้ คงจะได้เขียนหนังสือมากขึ้น

สวัสดีครับคุณmojigirl

เธอเป็นมิตรกับคนทั่วไปพอสมควร

เพราะตอนแรกผมก็ไม่ได้รู้จักกับเธอก่อน หรอก คุณแพร จารุให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ผมก็โทรไปหา แล้วก็ได้พบกัน


สวัสดีครับปะการัง

เมื่อตอนเป็นหนุ่มผมเคยเขียนบทกวีเกี่ยวกับความรักไว้มากมาย


ยิ่งอายุมากขึ้นก็กริ่งเกรงไม่กล้าหาคำจำกัดความ คำว่ารักอีกแล้ว

สวัสดีครับแม่ปันปอง

หวังว่าคงสนุกกับชมรมเรารักโปสการ์ดดีนะ

สวัสดีครับคุณ J

ถ่ายรูปตะกั่วป่าสวยๆไว้บ้างหรือเปล่า ถ้ามีส่งข่าวมาบ้างนะ



สวัสดีครับภู เชียงดาว

ฤดูหนาวนี้ทำให้คิดถึงหนาวปีก่อน รู้สึกว่าหนาวนี้จะมาเร็วกว่า บ้านบนดอยเสร็จแล้วหรือยัง ?


สวัสดีครับกะว่าก๋า

ตามสบายๆไม่ต้องเกรงใจ



สวัสดีครับทะเล

ดูบรรยายเรื่องเกี่ยวกับความรักราวกับเป็นผู้สันทัดกรณี
ขอบคุณครับที่มีคอมเม้นท์ให้ขบคิดใคร่ครวญ


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:21:36:06 น.  

 
สวัสดีจ้ะหลานนก

สงสัยเราจะสวนกันกลางอากาศ

ขอบคุณจ้ะที่จะส่งหนังสือให้เจนจิรา

วันนี้คุยแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:21:39:16 น.  

 
พี่โดม
ไปเที่ยว ทำงานที่อื่น ถ่ายรูปบ่อย พอบ้านตัวเองแทบจะไม่เคยถ่ายเลย อาจจะเป็นเพราะความเคยชิน คงต้องก้าวถอยออกมา แล้วมองเข้าไปใหม่ คงได้แง่มุมที่จะถ่าย

จำไม่ผิด เคยถ่ายครั้งเดียวจริงๆ ตอนปี 2544 จะลองค้นดู เป็นบ้านแถวตลาดเก่า ไม่มีภูเขา แม่น้ำ ทะเล เลย



โดย: J IP: 210.203.180.4 วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:0:01:53 น.  

 
แม้พวกเขาจะเป็นชาวป่าชาวดอยแต่ก็มีสายสัมพันธ์ครอบครัวอันอบอุ่น ต่างจากเธอที่เป็นคนเมืองศิวิไลซ์แต่ไม่เคยได้สัมผัสกับความหมายของคำๆนี้

ยกช่วงนี้ขึ้นมาเขียนถึง เพราะเป็นความน่าสนใจที่ของบทความชิ้นนี้ ที่บ่งบอกว่า อะไรคือสิ่งที่หญิงสาวในเมืองขึ้นไปพบ นั่นคือความผูกพันของความเป็นครอบครัว

ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ และความงดงามก็มีความรันทด

"ชีวตนี้ต้องเดินต่อไป" (ชื่อหนังสือเล่มหนึ่ง)



โดย: แพรจารุ วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:0:05:56 น.  

 

พี่โดม..

ดีใจที่ยังจำกันได้ และชอบหนังสือ
ตอนนี้อยู่เมืองไทยคะ ไม่ได้ไปไหนเลย แม้แต่ต่างจังหวัด
นิ่งและเนือยมากๆ

งานตอนนี้ หลักๆ ก็มีคอมลัมน์ประจำในอิมเมจ กับแปลอยู่อีกสองเล่ม
คาดว่าปีหน้า น่าจะออกมาพร้อมกัน

เด๋วหนูเมล์หาพี่ดีกว่า
เล่าในนี้เกรงใจคนอื่นอ่ะคะ
แห่ะ...

คืออยากมาตอบให้รู้ว่า
ได้อ่านคำทักทายตอบของพี่แล้ว

ปล. ดูในโปรไฟล์ มันมีสองเมล์อ่ะพี่โดม
สะดวกให้เมล์ไปอันไหนคะ



โดย: จุ๊ IP: 58.8.85.207 วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:0:39:46 น.  

 
พ่อพเยีย
แล้วจะลองหาหนังสือให้ค่ะ


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.175.69 วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:3:59:16 น.  

 
สวัสดีครับคุณ j

ถ้ามีรูปบางรูปบางมุมของตะกั่วป่าสวยๆในอดีตก็ขอก็อปมาบ้างก็ได้ อยากเห็นน่ะ

และตอนนี้น้องที่อยู่ตะกั่วป่า เขาทำโปสการ์ดทำมือ ก็อยากได้รูปสวยๆมาทำบ้าง รูปตึกเก่าๆมีไหม ?





สวัสดีจ้ะแพร จารุ

คนอยู๋ใต้ยังเดินทางมาเจอคู่ชีวิตทางเหนือ
อยู่ท่าศาลายังมาถึงทุ่งเสี้ยว

ชีวิตยังต้องเดินต่อไป (พักบ้างก็ได้ แล้วถีบจักรยานต่อ)


สวัสดีครับจุ๊

ถ้าจะเขียนทางอีเมล์ก็ที่ dome_wutthichai@yahoo.com นั่นแหละเพราะเปิดเป็นประจำ


เมื่อวานไปขอยืมดีวีดีหนังเพื่อนในหมู่บ้าน เห็นเรื่อง The color purple ยังทำให้นึกถึงหนังสือแปลของจุ๊เล่มนี้เลย




เลือดสีม่วง แปลโดย อัครมุนี วรรณประไพ


อ่านนานจนลืมเนื้อหารายละเอียดไปหมดแล้ว และจำได้ว่าดูหนังด้วย ไม่คิดจะเอากลับมาพิมพ์ใหม่อีกหรือเล่มนี้น่ะ

แล้วคุยกันอีกนะ จะรอฟังเรื่องราวของจุ๊ทางอีเมล์ก็แล้วกัน


สวัสดีจ้ะหนอน

ขอขอบคุณในความอุปการะคุณ เรื่องการจัดส่งหนังสือให้คนโน้นคนนี้

ชาติหน้าเกิดมาจะได้เป็นบรรณารักษ์


โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.21.60 วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:9:17:33 น.  

 
นึกออกแล้ว..โรงเรียนพระบางวิทยา..ใช่แล้วค่ะ
เห็นแว่วว่าน้ากำลังจะย้ายเข้ามาอยู่ สตรีในจงหวัด

เชียงคานอยู่ จ. เลย
เป็นอำเภอเล็ก ๆ ติดแม่นำโขง
โขงจากเชียงราย วกเข้าลาว
แล้วมาบรรจบพรมแดนไทยอีกทีที่เชียงคานค่ะ

ลองดูภาพสวยๆของเชียงคานที่ลิงค์นี้นะคะ

//www.pantip.com/cafe/gallery/topic/G5570428/G5570428.html



โดย: ชมจันทร์ วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:10:26:44 น.  

 
สวัสดีครับพี่โดม

ชอบประโยคนี้มากมาย

"การเดินทางคือสายตาของนักเขียน"

ของคุณอาว์รงค์' วงษ์สวรรค์

แม้ผมจะเป็นเพียงคนชอบเขียน
แต่ผมเชื่อว่าการเดินทางให้คำตอบบางอย่างกับชีวิตได้จริงๆ

ผมเคยมีความรู้สึกย่ำแย่ที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต
ตอนที่ผมตื่นเช้ามาแล้ว ไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิต
ผมมีทุกอย่าง แต่เหมือนไม่มีสักอย่าง

ผมเดินทางไปเมืองจีน คิดว่า ก็แค่ไปเที่ยว
แต่กลับได้ไปยืนดูภูเขาลูกหนึ่ง
ซึ่งทุกคนในคณะก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนอกจาก "ภูเขาที่สวยลูกหนึ่ง"

แต่สำหรับผม ภูเขาลูกนั้นสอนให้ผมรู้ว่า ตัวเรามันเล็กจ้อย และปัญหาที่ว่าใหญ่โตของเรามันเล็กเสียจน
เป็นเพียงแค่ธุรีเล็กๆบนโลกนี้

กลับมาจากทริปนั้น ชีวิตผมเปลี่ยนไปเลยครับ
มุมมองในการใช้ชีวิตก็เปลี่ยน

ผมถึงชอบคำว่า

"มนุษย์ไม่ได้สร้างการเดินทาง
แต่การเดินทางต่างหาก...ที่สร้างมนุษย์"



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:14:19:47 น.  

 
สวัสดีครับพี่โดม
ผมแอบทำ สะพานเชื่อม จากบ้านผม มาบ้านพี่แล้วนะครับ ว่างๆเดินข้ามมาบ้างนะครับพี่โดม


โดย: ตูน IP: 124.121.21.23 วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:15:00:57 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงโดม

ฝากลุงโดมยินดีกับชีวิตคู่ของพี่เขาด้วยค่ะ
ถึงจะไม่ได้มีอะไรเพียบพร้อมครบครัน หนทางชีวิตแม้จะไม่ได้โปรยปรายไปด้วยกลีบกุหลาบ
แต่พี่ทั้งสองคนก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของความรัก
ว่าไม่มีสิ่งใดขวางกั้น แม้จะต่างเชื้อชาติ ต่างเผ่าพันธุ์ และต่างที่มา

แสดงความยินดีที่พี่เขาได้ลูกชาย
ชื่อลูกชายของพี่เขาน่ารักจังเลยค่ะ น้องสาละวิน เป็นชื่อจริงหรือชื่อเล่นค่ะ
ขอให้น้องสาละวินเติบโตในสังคมที่งดงาม ท่ามกลางความรักของพ่อและแม่

หนูก็มีหลานสาวที่บ้านชื่อน้องน้ำอิง กับน้องแพรวา
กำลังน่ารักเลยค่ะ
โดยเฉพาะน้ำอิง หนูยังจำได้ตอนที่น้าชายโทรศัพท์มาบอกว่า หลานคลอดแล้ว เป็นผู้หญิง
โทรหาใครก็ไม่ติด โทรติดที่เบอร์ของหนูคนแรก
น้ำเสียงของคนที่อยู่ปลายทางแสดงถึงความตื่นเต้นดีใจ
หนูได้ช่วยตั้งชื่อให้หลานด้วย หนูบอกว่าให้ชื่อน้องสายหมอก
แต่ก็แพ้มติที่ประชุม ทุกคนเห็นดีเห็นงามกับชื่อที่พี่มะลิตั้งให้หลานคนใหม่
หนูส่งรูปไปให้ลุงโดมดูทางเมล์ไม่รู้จะสำเร็จหรือเปล่า
ตอนแรกจะเอาให้ดูที่นี้ แต่หนูทำไม่เป็นค่ะลุงโดม



โดย: เบญจวรรณ (lukkongpoka ) วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:19:24:03 น.  

 

มาราตรีสวัสดิ์อาโดมก่อนไปนอนค่ะ



โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:22:14:25 น.  

 
คุณพ่อพเยีย ..ได้อ่านเรื่องของคุณเจนจิราทำให้นึกถึงวีรกรรมของตัวเองที่ไปเที่ยวป่าเขาตามลำพัง ความจริงชนเผ่าที่อยู่ตามแถบภาคเหนือมีจิตใจที่ดีมาก คิดถึงแม่ฮ่องสอน ,ปาย อยากมีบ้านอยู่ที่นั่นจัง


โดย: shin chan (alei ) วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:4:48:17 น.  

 
ถูกต้องแล้วค่ะพระบางวิทยาคม



โดย: แม่เกาลัด IP: 202.29.77.2 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:10:27:59 น.  

 
ความรัก ทำได้ทุกอย่าง เพื่อที่จะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ถูกไหมค่ะ ค้านได้จ้ะคุณโดม .

ครั้งหนึ่งพี่สาวถูกคัดค้านเรื่องการแต่งงาน จะด้วยเหตุผล อะไรไม่ของบอก แต่คำตอบทุกคนที่ได้รับ คือ "ก็รักเสียอย่าง" อือฮื้อ เงียบ... และ ขอแสดงความยินดี ด้วยกับคุณเจนริราและครอบครัว ที่ได้รักในสิ่งที่ตัวเองชอบ ขอให้มีความสุขในสิ่งที่ตัวเองได้เลือก แล้ว


โดย: p tim IP: 222.123.28.106 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:10:41:04 น.  

 
แวะมากินข้าวกลางวัน อ่านเรื่องราวของห้วยเสือเฒ่า
คิดถึงที่นั่นนะ
คิดถึงยายมะโน
คิดถึงความรักของคนสองคน
ต่อไปหมู่บ้านกะเหรี่ยงเค้าจะเป็นไงต่อนะ ขอให้สิ่งดีๆ เกิดกับพวกเขาทีเถอะ


โดย: วีดวาด IP: 222.123.146.155 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:12:34:01 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงโดม

สอบเสร็จแล้วค่ะลุงโดม
จะกลับไปพักผ่อนที่บ้าน 14 วัน
แล้วก็จะกลับมาเรียนต่อค่ะ
เย็นนี้ยังไม่ได้กลับบ้านค่ะ
เพราะถ้ากลับจะถึงบ้านก็คงค่ำ
แม่จึงบอกให้พ่อโทรมาสั่งให้กลับพรุ่งนี้แทน
พรุ่งนี้ตั้งใจจะกลับตั้งแต่ 8 โมงเช้าเลยค่ะ(ถ้าไม่ตื่นสายเสียก่อนค่ะ)


โดย: เบญจวรรณ IP: 61.7.231.130 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:19:49:08 น.  

 
หวัดดี ทุกคนคะ
พี่โดม คะ ความหมายของอาเครญา ที่มองเป็นความกล้าหาญ
"เลือกได้"ก็ด้วยเหตุว่าเธอ สามารถทำตามใจปรารถนา
ซึงอาเครญา เชื่อว่า เธอต้อง"ฝ่าอุปสรรค"มากมาย กว่าจะได้"ดั่งใจ"ปรารถนานี้คะ
ด้วยเหตุว่า บางคน มิสามารถฟันฝ่า สภาวะแวดล้อมไปได้นะคะ


โดย: อาเครญา IP: 58.10.155.233 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:21:41:44 น.  

 
เนื้อคู่ ถึงอยู่แสนไกล ก็ไม่คลาดคล้า...

จะส่งหนังสือของคุณมาลา คำจันทร์ไปให้นะครับ


โดย: ฟ้าดิน วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:3:03:16 น.  

 
ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วที่เจนมีความคิดที่เพื่อนหลายๆคนคิดว่าเธอแหกกฎ แต่ความเป็นจริงแล้ว ความคิดพวกนั้นทำให้เธอดูโดดเด่นกว่าเพื่อนๆอีกนะ เพราะความคิดพวกนั้นมันมีความเป็นไปได้จริง ไม่ใช่เป็นได้แค่มโนภาพ
ทุกๆเทอมจะเห็นหน้าเธอได้ไม่ถึง 5 วัน จากนั้นเธอก็จะหายไปกับชมรมอาสาฯ
ส่วนที่ว่าเธอเขียนเรื่องสั้น และมีแววว่าจะเป็นนักเขียนได้นั้นก้ไม่แปลก เพราะว่าพวกเราทุกคนต้องเรียนวิชาการเขียนร้อยแก้วอยู่แล้ว และผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ก้คือ แรคำ ประโดยคำ กวีซีไรท์ปี 41 นั่นเอง


โดย: minuit วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:11:46:19 น.  

 
เยี่ยมมากกล้าหาญ กล้าขบถ ชิวิตเป็นของเราแล้ว เราเลือกที่จะทำกับมันเอง และมีความสุขด้วย อิจฉามาก


โดย: บินหลาดำ IP: 125.27.137.39 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:34:31 น.  

 
ยังคิดถึง และอ่านผลงานอยู่เสมอคะ เพลงโอเปร่าร้องอยากมากต้องเล่นเปียโนควบคู่ด้วย คาดว่าสามปีจะเป็นไหมนี้


โดย: บุญสิตา (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:56:29 น.  

 
ได้อ่านเรื่องปาฏิหาริย์แห่งรักห้วยเสือเฒ่าแล้วประทับใจค่ะ ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ออกจากกรุงเทพฯมาใช้ชีวิตอยู่ที่แม่ฮ่องสอนเป็นเวลามากกว่า 5 ปีแล้ว และดิฉันก็ทำงานกับพี่น้องกระยัน(กระเหรี่ยงคอยาว) ดิฉันทราบเกี่ยวกับการย้ายพี่น้องเหล่านี้ และเรื่องสิทธิของเขาก็ยังไม่ชัดเจน แต่ที่ดิฉันทราบคือ เขาเสียโอกาสที่จะได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรต่าง ๆ ที่เคยได้รับ เพราะเขาไม่ได้รับสถานะการเป็นผู้ลี้ภัยอีกแล้ว


โดย: Narita IP: 61.7.173.98 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:54:30 น.  

 
พี่โดม ปรายอ่านแล้วนึก
ภาพออกทุกอย่าง และ
บางอย่างที่เจนทำ ปรายก็
เคยทำโดยเฉพาะรักที่มัน
ฟุ่มเฟือย...


โดย: ปราย IP: 113.53.33.169 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:12:52:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.