สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
กรกฏาคม 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 กรกฏาคม 2552
 

BKK - CHIANGRAI :: ทะเลหมอก @ ภูชี้ฟ้า

จากตอนที่แล้ว ภูชี้ฟ้านิวรีสอร์ท สำหรับเช้านี้ตามแผนพวกเราต้องตื่นตีห้า เพื่อที่จะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนภูชี้ฟ้า แต่จนแล้วจนรอดทริปนี้ไม่รู้เป็นไงตื่นสายตลอดทริป เช้านี้ก็เช่นกัน "หกโมงเช้าแล้ว" เอาอีกละสายอีกล่ะตาลีตาเหลือกเลยที่นี้ ล้างหน้าแปรงฟันเก็บสัมภาระเตรียมตัวขึ้นภูชี้ฟ้า เกือบหกโมงครึ่งแล้วล่ะออกไปรอรถ คนขับก็แสนจะใจเย็นรอผู้โดยสารเต็มคัน พวกเราก็ยิ่งรีบๆ อยู่ โชคยังดีที่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเป็นแบบครอบครัว จึงทำให้รถเต็ม



วินาทีนี้ไม่ต้องถามถึงสภาพแต่ละคน เพราะโทรมสุดๆ อากาศก็โครตหนาว น่าจะต่ำกว่า ๑๐ องศาแน่ๆ ขนาดห้องแคบๆ นอนเบียดกันแล้วยังไม่ค่อยอุ่นเลยอ่ะ แต่พวกเรายังดีนอนกันบนเตียง พี่เจตพี่ชายสุดแมนของเรานอนที่พื้นไม่ต้องถามถึงความหนาวเย็น แต่ดีนะที่พี่เรามันอ้วนสะสมไขมันมาเยอะ เลยไม่ค่อยรู้สึก ซะงั้น จากที่พักมาถึงทางขึ้นภูใช้เวลาประมาณ ๑๐ นาทีเห็นจะได้ จากตีนภูก็ต้องขึ้นไปอีกประมาณ ๕๐๐ เมตรซึ่งต้องเดินเท้าขึ้นไป ทางชันเอาเรื่องเลยล่ะ ๑๐๐ เมตรแรกก็จะแย่แล้ว แถมต้องเร่งฝีเท้าเพื่อขึ้นไปให้ทันก่อนพระอาทิตย์ขึ้นอีก



ตอนแรกคิดว่าไม่ใช่ช่วงเทศกาลคนน่าจะไม่เยอะ แต่ที่ไหนได้แม่เจ้าคนเยอะชะมัดมองไกลๆ นึกว่ามดยืนอยู่บนภูชี้ฟ้าเสียอีก โปรดสังเกตุจากรูปด้านบนภูชี้ฟ้าคือผู้คนอันมหาศาล









พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้ว ช่วงนี้เห็นทะเลหมอกสวยมาก ค่อยสมกับการตั้งหน้าตั้งตาและตั้งใจดันด้นขึ้นมาดูหน่อย ว่าแต่น้องตูนกรูหายไปไหนฟ่ะ หันซ้ายหันขวา น้องเดินแบบถอดใจมากๆ อยู่ด้านล่าง




ช่วงเวลานี้คนเริ่มเยอะขึ้นแล้วล่ะ ยิ่งเรามาสายจุดชมวิวดีๆ ไม่ต้องหาเพราะเต็มไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลกันมาชมความงามของสถานที่แห่งนี้ เคยสงสัยว่าทำไมถึงชื่อภูชี้ฟ้า พอมาเห็นกะตาไม่สงสัยล่ะ ก็ภูชี้ฟ้าซะขนาดนั้น





ตอนนี้พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว แสงที่สาดส่องทำให้ทะเลหมอกปรากฏชัดเจนขึ้น ซึ่งต้องบอกว่าที่นี่สวยมากๆ เราเองไปเที่ยวมาหลายที่ ที่นี่ถือว่าเป็นหนึ่งสถานที่แห่งความประทับใจเลยล่ะ

















แม้พระอาทิตย์จะขึ้นไปแล้ว พวกเราก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับกันเลย ยังคงชื่นชมความงามของภูชี้ฟ้า ซึ่งต้องบอกว่าที่นี่อากาศดีมากๆ ยิ่งพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอกก็ชัดเจนด้วยเช่นกัน





คิดดูสิว่า ชอบที่นี่ขนาดไหน ยืนดูกันเพลินจากเป็นพันเหลืออยู่ไม่ถึงยี่สิบคนบนภูอ่ะ กว่าจะลงจากภูก็เกือบสองโมงเช้าแล้วล่ะ แต่ภูชี้ฟ้ายังไม่จบแค่นี้ เดี๋ยวมีต่อตอนหน้าจะพาไปดูว่า เมื่อมีนักท่องเที่ยวผู้คนชาวบ้านที่นี่เค้ามีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างไรล่ะ




ลืมเล่าให้ฟังว่า วันที่ไปอุณหภูมิประมาณ ๑๒ องศาล่ะ ทริปนี้เหนือทริปนี้ของเราจึงเป็นที่สมใจ เพราะอยากไปสัมผัสความหนาวของเมืองไทย เจอตั้งแต่ -๓ องศาดอยอินทนนท์ จนมาหยุดที่ ๑๒ องศา ภูชีฟ้าสุดแสนจะประทับใจเมืองไทยก็มีหิมะ



พวกเราอยู่เป็นกลุ่มสุดท้ายบนภูชี้ฟ้า แบบว่าเพลินกับความงามของสถานที่อ่ะนะ อยู่กับเกือบสามโมงเช้าเลยล่ะ แต่ใช่ว่าหมดจากกลุ่มเราแล้วจะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมานะ ยังคงเห็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เดินขึ้นมา แต่ก็ไม่มากมายเหมือนตอนช่วงเช้ามืด






สำหรับทางลงใช้คนละทางกับทางขึ้น ก็ขุรขระบ้างเป็นบ้างช่วง พวกเราก็ไปดูรูปกันไปเดินลงกันไป จนพี่เจตอยู่ก็ร่วงไปกองอยู่กับพื้นอย่างที่เห็น เดินๆ อยู่ล้มซะงั้นพี่ช้าน




พอเดินลงมาจนสุดตีนภูก็จะพบกับร้านของของที่ระลึกจากชาวบ้านซึ่งเป็นชาวเขา ซึ่งก็ได้ทำสินค้าที่ระลึกงานฝีมือเขียนชือว่่า ภูชี้ฟ้า มากมายหลายสิ่ง ถึงบอกว่าเมื่อมีนักท่องเที่ยวที่ไหน คำว่า "ธุรกิจ" ก็ตามมา วิถีชุมชนก็เปลี่ยนไป มีน้องๆ กลุ่มหนึ่งที่ช่วงหน้าหนาวจะแต่งกายชุดชาวเขามาให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป คนละ ๒๐ บาท เออเค้าก็เข้าใจคิดแฮะ



จากร้านขายของที่ระลึกลงมาด้านล่างก็จะพบกับร้านขายอาหารเช้าเรียงรายกันสองข้างทางลง หันซ้ายหันขวา พี่ตรูกับน้องตรูไปไหนฟ่ะเนี่ย นู้นเดินกันไปคนละฝั่ง คนหนึ่งไปซื้อโรตี คนหนึ่งไปซื้อเครื่องดืม เรื่องกินนี่รวดเร็วเป็นที่สุด





อากาศหนาวๆ แบบนี้ต้องโอวัลตินไข่ลวก เพิ่มพลังกันหน่อยแต่เช้าเลย พี่เจตกับน้องตูนก็อี้ .. กินไรวะ อ้าวเค้าก็กินกันมาตั้งนานล่ะ เราจำได้ว่าเตี่ยชอบทำให้กินตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนก็เลยชอบเมนูโอวัลตินไข่ลวกเป็นที่สุดเลยล่ะ แต่หลังๆ พอเจอไข้หวัดนกก็ไม่ได้กินนานล่ะ วันนี้ขอลองสักหน่อย



พอรถรับส่งผู้โดยสารเต็มคัน เค้าก็จะลงมาจากตีนภูตอนไปทำไมดูเหมือนแป๊บเดียวเองนะ สงสัยตอนนั้นตื่นเต้นกลัวไปไม่ทันมั้งแถมเป็นช่วงเวลากลางคืนด้วย ก็ไม่รู้สึกอะไร แต่ตอนลงนี่ดิ โอ้แม่เจ้า ทางมันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย




พอลงมาก็ได้เห็นที่พัก เออ ที่นี่ก็สวยดีนะ เมื่อวานมาตอนมืดแล้วไม่ค่อยเห็นอะไร ที่นี่เหมือนเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่แยกออกมาเลยล่ะ เพราะระหว่างทางมาที่นี่เป็นป่ากับเขาเต็มไปหมด พอมาถึงที่นี่มีผู้คนอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก คงเพราะที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ



เรามาดูข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวกันบ้างนะคะ เผื่อว่าใครอยากจะเดินทางมาเที่ยวที่นี่ ส่วนใหญ่ที่นี่นักท่องเที่ยวเดินทางมาตลอดปี แต่ช่วงที่นิยมมามากที่สุดจะเป็นเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์




สำหรับการเดินทางนั้น เนื่องจากภูชี้ฟ้าอยู่ห่างจากอำเภอเมืองจังหวัดเชียงราย ประมาณ ๑๑๐ กิโลเมตร ให้เดินทาง Z ตามทางหลวงหมายเลข ๑๐๒๐ เข้าสู่อำเภอเทิงประมาณ ๖๔ กิโลเมตร จากนั้นเดินทางไปทางอำเภอเชียงคำอีกประมาณ ๖ กิโลเมตร ถึงแยกบ้านบี้ก็เลี้ยวซ้ายไปตามถนนบ้านปางค่าขึ้นสู่ภูชี้ฟ้า ระยะทางปะมาณ ๔๐ กิโลเมตร มีป้ายบอกการเดินทางชัดเจน



สถานที่พักที่นี่มีบ้านพัก รีสอร์ทบริการมากมาย สามารถเช่าเต็นท์ของชาวบ้านในหมู่บ้านร่มฟ้าไทย และบ้านร่มฟ้าทองได้ สำหรับของวนอุทยานจะมีที่ให้กางเต็นท์ได้ประมาณ ๑๕๐ - ๒๐๐ เต็นท์ แต่ต้องนำเต็มท์มากกันเอง หากใครชอบความสบายแนะนำให้พักรีสอร์ทดีกว่าราคาไม่แพงไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท



แหล่งท่องเที่ยวเนื่องจากภูชี้ฟ้าเป็นยอดเขาสูงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ ๓๖๐ องศา ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล ๑,๖๒๘ เมตร ด้านทิศตะวันออกติดประเทศลาว มีหน้าผาสูงชัน เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในช่วงตุลาคม ถึงกุมภาพันธ์ และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นช่วงต้นเลี้ยวดอกขาวบ้านเต็มเชิงเขา โดยจะมีเทศกาลวันดอกเสี้ยวบานในวันที่ ๑๓-๑๕ กุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้บริเวณรอบภูชี้ฟ้ายังสามารถเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูซาง และศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่ดอยผาหม่นและดอยผาตั้ง วัฒนธรรมเผ่าม้ออาข่า ได้อีกด้วย



ด้านลักษณะภูมิอากาศ ที่นี่เย็นตลอดปีเลยล่ะ หนาวจัดก็จะมีอุณหภูมิต่ำสุด ๒-๓ องศา เคยร้อนสุดก็ ๓๐ องศาล่ะ ที่นี่แบ่งฤดูกาลเป็นสามช่วงคือ ฤดูร้อน มีนาคม - เมษายน ฤดูฝน พฤษภาคม ถึง ตุลาคม และฤดูหนาว พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์




สำหรับเพื่อนๆ ที่หน้าหนาวปลายปีนี้ไม่รู้จะไปที่ไหน ขอแนะนำภูชี้ฟ้าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไปไม่รู้ จริงๆ นะ ช่วยกันเที่ยวเมืองไทยให้เศรษฐกิจครึกครื้น คนไทยคักคึกกันดีกว่าเนอะ



แต่สำหรับพวกเรานักเดินทางแก๊งค์หนีนายมาคลายเครียดเหนือเรื่องยังไม่จบแค่นี้ เพราะเราจะปิดทริปกันที่วัดร่องขุนล่ะ เกือบอาทิตย์กว่าๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่บนรถเที่ยวท่องจากตาก - ลำปาง - เชียงใหม่ - เชียงราย มีสถานที่ที่ไหนก็แวะมันมาเรื่อยๆ อ่ะๆ เค้าไม่ได้โดดงานมานะ แค่ใช้พักร้อนอาทิตย์กว่าๆ แค่นั้นเอง 555 ..




Create Date : 08 กรกฎาคม 2552
Last Update : 21 สิงหาคม 2556 22:31:33 น. 3 comments
Counter : 2744 Pageviews.  
 
 
 
 
ตามไปเที่ยวด้วยคนนะค่ะ จอยยังไม่เคยไปเลย คงจะหนาวสุดๆเลยนะค่ะ
 
 

โดย: joy@putchanok วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:31:49 น.  

 
 
 
เคยไปครั้งนึงตอนสิ้นปี ทะเลหมอกสวยมากเลยค่ะ แต่คนเยอะมาก แทบจะเห็นแต่ทะเลคน ..อิอิ อยากสัมผัสอากาศแบบนี้อีกจัง
 
 

โดย: Nongpurch วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:01:26 น.  

 
 
 
ปีนี้เจอกันที่ภูชี้ฟ้า นะครับเห็นแล้วอยากไปอีกแล้วเจอกัน
 
 

โดย: limingxin วันที่: 3 ตุลาคม 2554 เวลา:15:27:45 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com