CHIANGMAI :: ลุยเดี่ยวเที่ยวเชียงใหม่ ตอนที่ ๙ วัดพระสิงห์
ตอนที่แล้าเราเดินมาถึง วัดศรีเกิด ก็เดินต่อไปยังจุดหมายสุดท้ายของทัวร์เดียวเที่ยววัดเชียงใหม่ล่ะ วันพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดนี้เป็นวัดดังในจังหวัดเชียงใหม่เลยล่ะ เรียกว่าทัวร์ยังไงก็ต้องลงวัดนี้
วัดนี้อยู่สุดถนนราชดำเนินเลยล่ะ มิน่าล่ะเค้าถึงบอกว่านั่งรถมาเหอะมันไกล ว่าแต่ตรูเดินมาได้ไงฟ่ะ นานๆ เดินทีก็ไหวอยู่นะเดินบ่อยๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ก่อนเข้าไปด้านในเราแวะไปเข้าห้องน้ำ โอ้ว.. เป็นห้องน้ำวัดที่สะอาดมากอ่ะ นี่แหละสุขาอยู่หนใดของจริงเลย
วัดนี้คนเยอะมากต่างกับทุกวัดที่ผ่านมา พอมาถึงก็ทำบุญแล้วก็รับดอกไม้และถาดกระทงควัก เพิ่งเคยเห็นนี่แหละทำไมที่นี่ต้องมีกระทงควักด้วยอ่ะ อันนี้ต้องให้เจ้าเจียงใหม่เปิ้นมาตอบ
เค้าให้เขียนชื่อนามสกุล วันเกิดเราลงในกระทงด้วยล่ะ แล้วก็เอาไปวางไว้ด้านหน้า ที่มาที่ไปนั้นก็ไม่ทราบว่าเพื่ออะไร แต่น่าจะเหมือนสะเดาะห์เคราห์ต่อชะตาประมาณนี้แหละ
แล้วก็มีเสริมชะตาด้วยอ่ะ ให้เราเขียนชื่อนามสกุล อายุ และวันที่เกิดลงในกระดาษที่เป็นปีเกิดเรา แล้วก็เอาใส่ไม้ขึ้นไปแขวนบนตะขอด้านบนล่ะ จากนั้นก็ไปเขียนชื่อบนผ้า
โดยเค้าจะเอาผ้าขึ้นห่มองค์พระธาตุล่ะ เราก็เขียนชื่อหมดเลยครอบครัว เพื่อนในเดอะแก๊งค์ที่ชง เพื่อนที่ทำงาน เรียกว่าแต่ละคนเขียนกันยาวเหยียดเลยอ่ะ
พอลงจากโบสถ์เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ป้าโอ๋โทรมาบอกว่า "อย่าลืมเดินไปข้างหลังวัดพระสิงห์นะป้าสวยมาก" เคเค จัดไปอย่าได้เสีย นี่ถ้าไม่บอกเดินออกแล้วนะเนี่ย แล้วก็ได้พบกับรูปปั้นเหล่าบรรดาเกจิอาจารย์ต่างๆ อย่าถามนะว่าใครเป็นใคร จขบ.ห่างไกลวัดอ่ะ
จากนั้นก็เดินไปต่อยังมหาเจดีย์ที่มีประวัติว่า " พญาผายู (พ.ศ. 1888 - 1898) โปรดให้สร้างเจดีย์องค์หนึ่งเมื่อปี พ.ศ. 1888 เพื่อบรรจุอัฐิพญาคำฟู พระบิดาของพระองค์ ต่อมา พ.ศ. 2088 หักพังลงมาเพราะแผ่นดินไหว จึงได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด โดยเฉพาะในสมัยเจ้ากาวิละ (พ.ศ. 2324 - 2358) เจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่พระองค์แรก ได้ประดิษฐานพระธาตุไว้ในเจดีย์องค์นี้
อย่างไรก็ตาม ทางด้านทิศเหนือของอุโบสถมีกู่อีกองค์หนึ่ง เรียกกันในปัจจุบันว่า กู่อัฐิพญาคำฟู เมื่อครั้งครูบาศรีวิชัยมาปฏิสังขรณ์วัด ได้พบโกศบรรจุอัฐิ พร้อมของมีค่าอื่นๆ ซึ่งยังเป็นข้อสงสัยว่าพบที่มหาเจดีย์หรือที่กู่องค์นี้ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าสิ่งของเหล่านั้นสูญหายไปแล้วเมื่อครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา พ.ศ. 2484
Maha Chedi and Ku of Phaya Kham Foo's ashes ปัจจุบันมหาเจดีย์สูง 50 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจตุรัสสูง มีประติมากรรมช้างครึ่งตัว แบบตรงกลางฐานอยู่ทั้งสี่ด้าน ด้านละหนึ่งตัว เหนือขึ้นไปเป็นฐานกลม 3 ชั้น มาลัยเถาซ้อนกัน 3 ชั้น องค์ระฆังทรงกลมเล็ก บัลลังก์ และปลียอดประดับฉัตร มหาเจดีย์ประธานองค์นี้ จัดเป็นศิลปกรรมล้านนา มีความสำคัญอีกองค์หนึ่งของเมืองเชียงใหม่"
จขบ. เมื่อครั้งหนึ่งเคยมาเชียงใหม่ ณ ดอยสุเทพฯ หลวงพ่อท่านถามว่ามาไหว้พระธาตุรู้เปล่าว่าทำไมเค้าเดินสามรอบ ไม่ทราบค่ะ แล้วเดินตามทำไม ไม่รู้เหมือนกันค่ะเห็นเค้าเดินก็เดินตาม ท่านก็บอกว่าการมานมัสกาสพระธาตุนั้นให้ท่องอิติปิโสเพื่อระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถ้าทำแล้วไม่รู้ก็อย่างทำ เพราะไม่มีประโยชน์ นั่นล่ะจึงเป็นที่มาว่าพอเห็นพระธาตุก็เลยต้องท่องอิติปิโสตั้งแต่นั้นมา เลยเข้ามาท่องแล้วเดินวนสามรอบล่ะ จากนั้นก็เดินต่อไปยังพระนอนล่ะ เห็นว่ามีอยู่ที่ด้านหลังนี่แหละ
วัดนี้บริเวณกว้างมากอ่ะ จขบ.เดินถ่ายรูปเพลินเชียวแหละ มิน่าล่ะทัวร์ถึงมาลงที่นี่แค่เดินก็ครึ่งวันแล้วเนี่ย ไม่ไหวล่ะตอนนี้ขาเริ่มล้าแล้วอ่ะ
จะเดินกลับมีหวังพับแน่ตรู เลยโบกรถแดง "ท่าแพค่ะพี่" มาอยู่สองวันเริ่มคุ้นเส้นทางล่ะ ตอนนี้เริ่มโบกรถถูกฝั่งแระ นี่ถ้าอยู่อีกสักสองอาทิตย์รับรองเชียงใหม่หลับตาเดินได้เหอะ อิอิ ไม่โม้เล้ยตรู สำหรับภารกิจลุยเดี่ยวเที่ยวเชียงใหม่ตอนต่อไป เราจะไปไนท์ซาฟารีกันค๊า ..
Photo and Story By Patthanid C. www.patthanid.bloggang.com Facebook : Patthanid FC
Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 6 ธันวาคม 2556 0:49:23 น. |
|
3 comments
|
Counter : 2449 Pageviews. |
|
|
|