BKK - CHIANGRAI :: แอ่วพระธาตุดอยตุง
"พี่เจตตื่นเร็ซจะหกโมงแล้ว" เสียงเรียกจากน้องตูนที่คอยปลุกพี่เจตเป็นระยะ พี่แกนอนก็นอนก่อนดันตื่นหลังซะงั้น เมื่ออาบน้ำเก็บของกันเรียบร้อยก็เช็คเอ้าท์ออกจาก โรงแรมพริมาดาเพลส ตั้งแต่ยังไม่สว่างดีนัก จุดมุ่งหมายทริปเราวันนี้คือ "ดอยตุง" ระหว่างทางเราจะผ่าน "มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง" พี่เจตบอกว่าเดี๋ยวจะพาเข้าไปเพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่น่าเรียนมากๆ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงรายมากนัก
ซึ่งก็เป็นไปตามคำบอกเล่าของพี่เจต เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้น่าเรียนมากๆ อากาศดีเนื้อที่กว้างขวางมองไปก็วิวเขาดูสบายตาดีจัง ยิ่งช่วงหน้าหนาวแบบนี้อากาศที่นี่ดีมากๆ อิจฉาเด็กที่นี่จัง จากนั้นพวกเราก็ขับรถไปกันต่อ เริ่มเกิดอาการหิวแล้วล่ะระหว่างทางผ่านตลาดนัดแห่งหนึ่ง
แวะสิครับจะเหลือเหรอ!! ลงไปก็สั่งหมูปิ้งก่อนเลยแม่ค้าถามว่าเอาข้าวเหนียวเท่าไหร่ พี่เจตบอกว่า "๒๐ บาท" เราก็ถามพี่เจตว่า "เฮ้ย กิโลหนึ่งเลยเหรอ" เพราะแอบเห็นเค้าเขียนไว้ว่ากิโลละ ๒๐ บาท ซึ่งต้องบอกว่าราคาต่างจังหวัดปริมาณต่างกับกรุงเทพลิบลับเลยล่ะ เกือบได้กินข้าวเหนียวกิโลหนึ่งแล้วเชียว
พอซื้อของกันเต็มไม้เต็มมือแล้วก็ไปกันต่อ ไม่ต้องบอกนะว่าข้าวเช้ามื้อเช้าพวกเราทานกันที่ไหนกัน ก็ทานกันในรถนั่นล่ะเพราะต้องทำเวลา พวกเรามาถึงดอยตุงก็ราวๆ แปดโมงเห็นจะได้ โดยพี่เจตพาพวกเราขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยตุงกันก่อน ต้องบอกว่าทริปนี้คุ้มจริงๆ แวะเที่ยวกันกระจาย
"ตามตำนานบอกว่าเป็นเจดีย์แห่งแรกในอาณาจักรล้านนา สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๑๔๕๔ ในสมัยของพระเจ้าอชุตราชเจ้าครองนครโยนกนาคพันธ์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ที่ทรงอัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๓๐ ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้บูรณะองค์พระธาตุขึ้นใหม่ ตามศิลปะแบบล้านนาในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ได้มีการสร้างพระธาตุองค์ใหม่ขึ้น (องค์ปัจจุบัน) เพื่อครอบพระธาตุองค์เดิมไว้"
"เมื่อ ๑,๐๐๐ กว่าปีก่อน พ.ศ. ๑๔๕๔ พระมหากัสสะปะเถระพร้อมด้วยพระเจ้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองนครโยนกนาคพันธ์ (ปัจจุบันคือเมืองล่ม อ.แม่จัน) รวมทั้งข้าราชบริพารได้อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธเจ้า สถิตย์ไว้ ณ ดอยดินแดงแห่งนี้ และได้ปัก "ตุง" บูชามหาธาตุ ปลายชายตุงปลิวสบัดถึงที่ใดให้หมายเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ ดอยลูกนี้จึงมีชื่อว่า "ดอยตุง" ตราบเท่าทุกวันนี้ "พระธาตุดอยตุง" เป็นปฐมเจดีย์แห่งล้านนา "ตุง" คือ มิ่งเมือง ขวัญเมือง และเป็นเอกลักษณ์ของล้านนา สถิตย์คู่พระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์อายุยาวนานนับ ๑,๐๐๐ ปี"
โชคดีนะที่เรามากันแต่เช้าเนี่ย เพราะตอนนี้คนยังไม่เยอะมากนัก ขืนมาสายว่านี้มีหวังหามุมถ่ายรูปไม่ได้แน่ๆ เนื่องจากทัวร์เริ่มมาลงแล้วล่ะ
พอถ่ายรูปกันเสร็จก็เดินเข้าไปในโบสถ์เพื่อไหว้พระขอพร เอาฤกษ์เอาชัยก่อนเดินทางกันต่อ จากนั้นก็เดินชมโดยรอบกันสักพัก
พี่เจตบอกว่าจะเดินลงหรือนั่งรถลง เพราะถ้าเดินลงพวกหนูก็เดินกันไปสองคน พี่จะขับรถลงไป พวกเราความที่ไม่เคยมาก็เลยเลือกเดินลงบันได
ตลอดสองข้างทางจะเป็นระฆังเรียงรายกันเป็นแถว บันไดเป็นลักษณะคล้ายๆ พญานาคทอดยาวเรื่อยๆ ไปจนสุดทางถึงด้านล่างเลยล่ะ
พอลงมาก็จะพบกับแผงขายของเป็นงานฝีมือของชาวเขา ผักและผลไม้ วางเรียงรายกันเหมือนเป็นตลาดเล็กๆ รอรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางลงมาได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองล่ะ พวกเราไม่ได้เดินดูอะไรมากเพราะต้องรีบไปต่อที่พระตำหนักดอยตุงล่ะ ไว้ต่อตอนหน้านะจ๊ะ ..
Create Date : 05 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 18 สิงหาคม 2556 0:42:19 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1776 Pageviews. |
|
|
|
|