สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


 
มิถุนายน 2549
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
24 มิถุนายน 2549
 

CHAING RAI :: เหนือสุดแดนสยาม

บ้านตาที่เชียงราย

เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมาเราได้ไปเยี่ยมตาในรอบสี่ปี พอบอกว่าเชียงรายก็เริ่มนึกถึงเหนือสุดแดนสยาม รู้สึกไกลยังไงบอกไม่ถูก บ้านตาของเราอยู่ที่อำเภอเวียงป่าเป้า ปีนี้ครอบครัวเราก็เลยตั้งใจไปเยี่ยมตากันสักหน่อย พอสมาชิกครบก็ออกเดินทาง พ่อจะเหนื่อยสุดเพราะขับรถจากสุราษฏร์ธานีมากรุงเทพฯ แล้วขับต่อไปที่เชียงราย

เช้าวันแรกของการเดินทางเราออกจากกรุงเทพฯ ราวๆ เจ็ดโมงนิดๆ โดยเข้าอยุธยา สระบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ พิษณุโลก ลำปาง เข้าอำเภอง่าว ตรงนี่ละจุดสำคัญ โค้ง 5 กิโล ทำให้นึกถึงเจโชที่ขับดิฟขึ้นเขาเลยล่ะ ถ้ามาขับเขานี้คงจะมันไม่ใช่น้อย จากนั้นก็ผ่านเข้าเวียงป่าเป้า ไปถึงก็ราวๆ สี่โมงนิดๆ ไปถึงแล้วรู้สึกถึงความอบอุ่นเลยล่ะ ทุกคนที่นี่ตั้งตารอการมาของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นตาหรือป้ากับน้าๆ ที่อยู่ที่นี่ คนในหมู้บ้านส่วนใหญ่ถ้าเป็นวัยหนุ่มสาวก็จะออกมาทำงานกรุงเทพฯ กันหมด ก็เหลือแต่พ่ออุ้ยแม่อุ้ยกับบ้านหลังใหญ่ๆ ที่ลูกหลานมาสร้างแล้วก็จากไป มาที่นี่คราวนี้แม่ดูดีใจที่สุด เพราะนานๆ ได้กลับบ้านสักที



ครอบครัวเราเดินทางมาคณะแรก อีกสองวันครอบครัวของน้าจะเดินทางมาถึง วันที่สองพวกเราก็เลยขับรถดูรอบๆ แถวนั้น สถานที่เที่ยวที่แรกของเราคือ วังปลา ไม่ไกลนักจากตัวเมืองอำเภอเวียงป่าเป้า ที่นี่ปลาเยอะมากๆ ตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย แถมบรรยากาศเงียบสงบกลางหุบเขา ทางเข้าไม่ต้องพูดถึง เพราะมันคือเขานั่นเอง



กลับจากวังปลา เรากับน้องชายก็ขับรถเข้าขึ้นไปบนเขา บรรยากาศที่นี่ตอนเย็นดีมาก อากาศเย็นไม่มาก ปีนี้เรามาช่วงสงกรานต์ไม่ร้อนมาก ไม่เหมือนมาครั้งที่แล้ว ต้องก่อไฟแปรงฟันกันเลยล่ะ แต่เสียอย่าเดียวที่ปีนี้น้ำแห้ง จะอาบน้ำได้ก็ตอนเช้ากับตอนเย็นเท่านั้น เพราะน้ำขึ้นไม่ทัน ประปาสำหรับที่นี่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะก็แห้งเหมือนกัน เราขับรถไปกันเรื่อยๆ ก็เจอบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ก็คือบ้านพี่เบริด์นั่นเอง อยู่สุดทางของอำเภอเวียงป่าเป้าเลยล่ะ



ตอนกลางคืนที่นี่ไม่ต้องเปิดแอร์เลยล่ะ เพราะอากาศกำลังเย็นสบาย คืนนี้เป็นคืนที่สอง พรุ่งนี้ก็เป็นวันสงกรานต์แล้ว สำหรับที่นี่ช่วงเช้าก็มีทำบุญ สำหรับปีนี้เค้าเรียกว่าเป็นปีทำบุญอำเภอด้วยล่ะ มีการสวดภายักษ์ด้วยล่ะ ตั้งแต่หน้าปากทางเข้าอำเภอมาจนถึงบ้างหลังสุดท้ายมีการต่อด้ายกันไปเรื่อยๆ เพื่อทำพิธีในวันพรุ่งนี้

เช้าวันที่สาม ทุกคนตื่นกันแต่เช้า เพราะมีทำบุญ ง่วงชะมัด ธรรมดาของชาวกรุงเทพฯ ง่วงครับพี่น้อง ก็อยู่กรุงเทพฯ วันหยุดไม่เคยตื่นเช้าขนาดนี้เลยนิน่า กว่าแม่กับพ่อจะงัดจากที่นอนได้ เล่นเอาเหนื่อยกันไปเลยล่ะ เช้านี้พ่อกับแม่ก็จะไปวัดกันพร้อมกับป้าล่ะ




วันนี้ที่วัดก็มีงานพิธี แต่พวกเราไม่ได้อยู่เพราะวันนี้พวกเราจะไปกว๊านพะเยานั่นเอง จากเวียงป่าเป้าไปพะเยาะใช้เวลาไม่นานประมาณชั่วโมงกว่าๆ ตอนแรกก็กะลงไปชมวิวกว๊านพะเยา พอไปถึงโห ที่นี่เล่นสงกรานต์กันสนุกมาก เล่นปั๊มน้ำจากกว๊านนั่นแหละ ฉีดมาเป็นสายน้ำที่ใช้เครื่องปั๊มเลยล่ะ พวกเราเลยต้องวนรถไปหาจุดที่ชมกว๊านพะเยาใหม่



วนรถกันอยู่นานก็เจอวัดหนึ่ง คนเยอะเต็มวัดเลย แต่ก็เป็นจุดเดียวที่ปลอดการสาดน้ำ ไม่รอช้าก็ขอแชะภาพกันเสียหน่อย



หลังจากเก็บภาพกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็วนรถออกเมืองเพื่อกลับไปเชียงรายใหม่ จุดที่เราแวะต่อไปเป็น จุดชมวิวกว๊านพะเยา ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 891,492 เมตร ที่นี่ ก็เช่นกันไม่รอช้า เก็บภาพกันท่ามกลางความร้อนระอุ ร้อนจริงๆ ปีนี้ ที่นี่ใครใคร่ถ่ายก็ถ่ายไป ใครใคร่กินก็กินกันไป ข้างบนนี้มีของขายหลายอย่าง แปลกๆ สำหรับคนกรุงก็คงเป็นพวก รังผึ้ง ตัวต่ออ่อนย่าง เป็นต้น



ปีนี้เป็นปีแรกที่พ่อกับแม่เราถ่ายรูปด้วยกันได้เยอะที่สุด ปกติชอบแกล้งกัน ไม่ค่อยยอมถ่ายรูป แต่คราวนี้อาศัยคนเยอะเลยต้องยอมถ่ายรูปด้วยกัน หลังจากพักกันอยู่สักพัก พวกเราก็เดินทางกันต่อไปที่น้ำตกแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนขามาเห็นอยู่ติดกับริมถนน สวยที่เดียวแต่ที่สงสัยคือน้ำมันมาจากไหน เพราะด้านบนก็เป็นเขาแต่น้ำเยอะมาก



ที่นี่เป็นจุดแวะข้างทางที่เรียกว่า ไม่ควรพลาดเพราะลมพัดเย็นมากๆ แต่คนที่สนุกสุดเวียงคงเป็น น้องไนท์ เพราะสนุกสนานคนเดียวท่ามกลางสายน้ำ เย็นมากๆ ช่างเหมาะกับอากาศที่ร้อนมากทีเดียวล่ะ หลังจากปล่อยให้เล่นน้ำรวมชั่วโมงกว่าๆ ก็กลับบ้านกันดีกว่า พอไปถึงบ้านก็นะ ยังไม่มืดเลย ก็เลยไปต่อกันที่บ่อน้ำพุร้อนซึ่งไม่ไกลจากเวียงป่าเป้าสักเท่าไหร่นัก



ที่นี่เราเคยมาเมื่อสี่ปีที่แล้ว ไม่อยากจะบอกเลยว่าที่นี่ไม่ได้รับการอนุรักษ์เลยก็ว่าได้ เพราะน้ำมันเหม็นมาก เราก็เข้าใจนะว่าการที่มีไข่มาลวกเนี่ยก็ทำรายได้ให้กับคนในพื้นที่ แต่เราก็ต้องไม่ลืมรักษาสภาพน้ำด้วยเช่นกัน เพราะถ้ามาแล้วมาเจอน้ำเหม็นๆ ก็ไม่น่าดู ไม่นานนักก็จะไม่มีคนมา ด้านหน้าบ่อน้ำพุร้อนก็มีร้านขายของมากมาย สามหนุ่มของเราหายไปไหนล่ะเนี่ย มองซ้ายมองขวา อ้าวนั่นไง ทำอะไรกันอยู่ล่ะเนี่ย คำตอบคือจีบแม่ค้าอยู่ โปรดสังเกตุจากรูปนี่ก็ขอเค้าถ่ายมา ร้านนี้สามหนุ่มแทบจะหมดตัวเพราะไม่ซื้อร้านไหนเลยนอกจากร้านนี้ แล้วก็ต่ออยู่ร้านเดียวนี่แหละ เฮ้อ น้องฉัน มาดูด้านหน้าฝั่งตรงข้ามดีกว่า ค่อนข้างสะดุดตาเพราะแปลกมา เราคิดว่าเป็นวัดอะไรสักอย่าง แต่ที่ไหนได้นี่คือโรงแรมที่กำลังจะเปิดในไม่ช้า หลังจากเลือกของกันนานโข เพราะมัวแต่จีบแม่ค้า ก็กลับบ้าน เพื่อนอนพักผ่อน เตรียมลุยเมืองเชียงรายในวันพรุ่งนี้

เช้าวันที่สี่ พวกเราก็ออกจากบ้านกันแต่เช้าตามแผนวันนี้คือเริ่มต้นที่ แม่สายข้ามไปซื้อของฝั่งพม่า ไปถึงแม่สายก็ราวเกือบสิบโมงกว่า ต้องทำบัตรเพื่อทำเอกสารข้ามฝั่ง บัตรประชาชนพร้อมเงินอีกยี่สิบบาท คนเยอะมาก เมื่อพร้อมกลุ่มเราก็เดินข้ามไปฝั่งพม่า เพื่อเข้าสู่ตลาดเลือกซื้อของกัน




เลือกดูของกันสักพัก ของที่นี่ถูกแต่ต้องต่อแบบทรหดมาก ถ้าไม่ได้ราคาที่เราบอกไว้ เดินหนี้เดี๋ยวเค้าก็ให้ แต่ที่น่ารำคาญจะมีคนมาถามบ่อยมาก สักพักก็มีคนมาถามว่าไปเที่ยวไหม เราก็ดูแผน อืมนะไหนๆ ก็มาเที่ยวแล้วก็ไปให้มันสุดๆ ไปเลยล่ะกัน ก็เช่ารถตุ๊กๆ เที่ยวคนละ 60 บาท จุดแรกก็เป็น Union of Myanmar Township Dhammayon Tachileik เป็นวัดเปิดให้เข้าไปนมัสการ



จากนั้นก็ไปต่อที่เจดีย์ชเวงดากอง ระหว่างทางก็โดนสาดน้ำมาเป็นระยะ นี่ขนาดหนีน้ำสงกรานต์เมืองไทยมาแล้วนะเนี่ย ที่นี่เค้าก็เล่นกันเป็นที่สนุกสนาน เช่นกัน ไม่นานนักรถตุ๊กก็ขับมาถึงเจดีย์ชเวงดากอง มองไปด้านล่างก็จะเห็นวิวบ้านเรือนชาวพม่า แต่ดูเหมือนเจดีย์กำลังปรับปรุงอยู่ ก็จะเห็นเป็นกำลังก่อสร้าง






เดินชมรอบๆ กันไม่นานนักก็ไปต่อ ก็ถามคนขับรถว่าไปไหนต่อ เค้าบอกว่าไปดูชาวเขา แต่ว่าต้องเสียค่าเข้าอีก 200 บาท พวกเราก็อ้าวไม่เห็นบอกก่อนหน้านี้เลย งั้นไม่ไป ไปร้านจิวเวอร์รี่เลยล่ะกัน แต่พอไปก็ได้แต่ดู เพราะไม่รู้จะซื้ออะไร แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นของแท้หรือเปล่า ดูเหมือนคนขับรถจะได้เงินพิเศษค่าพานักท่องเที่ยวมาล่ะ เราก็เลยกลับไปเดินซื้อของต่อดีกว่า สักพักก็ข้ามฝั่งกลับและลืมไม่ได้คือจุดสุดเขตแดนสยาม ต่อให้ร้อนแค่ไหนก็ขอมีภาพนี้หน่อยเถอะ



จากนั้นพวกเราก็เดินทางต่อไปดอยตุง โดยใช้เส้นทางสายเก่า เราก็สงสัยตั้งแต่ด่านแรกแล้ว เค้าถามว่าพวกเราเคยมากันไหม ก็บอกเค้าว่าครั้งแรกค่ะ เค้าก็ยิ้มๆ เราเลยรู้ความหมาย เพราะเส้นทางสายเก่าอันตรายมาก เรียกว่าไม่มีรถขึ้นมาเลยล่ะ แถมขึ้นลงเข้าแบบจากปลายจนบนหัวเขาจริงๆ เลย ทางก็เป็นทางเดียว โชคยังดีที่ไม่มีรถสวน ไม่งั้นก็คิดสภาพไม่ออกเหมือนกัน เรากับแม่กลัวมากว่ากลัวรถจะดับ แต่ดีที่พ่อกับพี่ชายมืออาชีพ เลยขึ้นกันมารอด แบบว่าแม่ถึงกับบอกว่า ขอมาแค่ครั้งเดียวไม่มาแล้ว แต่พอไปถึงดอยแม่ฟ้าหลวง ก็ถึงบางอ้อ ทางที่พวกเรามาเป็นทางสายเก่าไม่ค่อยมีคนใช้ เค้าอ้อมไปขึ้นทางใหม่เดินทางง่ายกว่า พวกเราก็ร้องโหเลย แทนที่พี่ด่านแรกจะบอก แต่ก็ครั้งหนึ่งในชีวิตที่กลัวมาก จากดอยแม่ฟ้าหลวงไปไม่นานนักเราก็ถึงดอยตุง



คนอื่นไม่มีใครขึ้นไป ขอเดินดูรอบๆ มีแม่กับเราที่ขึ้นไปบนตำหนัก โชคดีที่มีรอบเดินทัวร์ด้วยล่ะ เราเลยได้เข้าไปชมในตำหนักพร้อมมีอธิบายประวัติด้วย ที่นี่ยังถูกรักษาเป็นยังดี เปิดโซนของสมเด็จย่าให้เข้าชม ขนาดร้อนๆ แบบนี้ พันธ์ไม้ที่นี่ยังสดใสเชียว วิวดอกไม้สีแดงเป็นจุดที่คนถ่ายรูปเยอะมาก เพราะสมเด็จย่าทรงปลูกกับมือเลยล่ะ





พวกเราใช้เวลาบนพระตำหนักดอยตุงประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ลงมา ขนาดมาตั้งเชียงราย เรายังเจอคนรู้จักเลยล่ะ เรียกว่าโลกกลมจริงๆ หลังจากรวบรวมสมาชิกครบแล้วก็เดินทางต่อ จุดหมายต่อไปสำหรับวันนี้คือ วัดล่องขุน



เป็นวัดที่สวยมาก ด้านในเป็นรูปพระพุทธเจ้า สื่อความหมายได้ชัดเจนมาก แต่เค้าไม่ให้ถ่ายรูป เห็นว่าวัดนี้ อ.เฉลิมชัย สร้างจากความฝัน ทุกส่วนจึงมีความงดงาม วิจิตรศิลป์ทุกอนุ เพราะเก็บรายละเอียดได้ดีมาก เค้าให้บริจาคไม่เกิน 10,000 บาท สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานของอาจารย์ก็สามารถซื้อภาพได้ โดยมีจัดแสดงที่ห้องจัดแสดง ทุกรูปสวยมากทีเดียว เราชอบรูปหนึ่งเป็นรูปมังกร แต่ราคาสูงทีเดียว พวกเราเข้าไปเดินชมภายในและภายนอกวัดกันสักพัก ก็เดินทางกลับ เราขอแนะนำว่าหากผ่านมาทางนี้ในช่วงเช้าให้แวะเข้ามาชมกันก่อน เพราะช่วงเย็นคนเยอะมาก

วันที่ห้า วันสุดท้ายที่เชียงราย อากาศก็ยังคงหนาวทุกวัน แต่ดีหน่อยที่เริ่มมีน้ำให้ใช้ได้บ้างแล้ว วันนี้เราไปทำบุญหมู่บ้านเค้ามีพิธีที่วัด บรรยากาศตอนเช้าของชนบทมันช่างบริสุทธิ์ซะเหลือเกิน ต้องสูดอากาศเยอะๆ หน่อย นานจะได้ออกนอกกรุงเสียที




วัดนี้เป็นวัดเล็กๆ ในหมู่บ้านสร้างโบสถ์มานานหลายปีแล้วก็ยังไม่เสร็จ อันนี้ประชาสัมพันธ์หน่อย ใครที่อยากทำบุญทอดผ้าป่าฝากวัดนี้ไว้ด้วยอีกวัดหนึ่ง เนื่องจากเราได้คุยกับหลวงพ่อ ดูท่านมีความตั้งใจอยากพัฒนาหมู่บ้าน โดยเริ่มจากทำโบสถ์ให้เสร็จ นี่ทำมาห้าปีแล้วยังได้แค่นี้เลย เพื่อให้ลูกหลานได้บวชใกล้ๆ บ้าน พ่อแม่จะได้มาเยี่ยมได้ เพราะตอนนี้ต้องไปบวชไกล เดินทางก็ลำบาก อีกสิ่งหนึ่งที่ทำจะทำคือ โครงการให้พ่ออุ๋ยแม่อุ๋ยทำธงไว้ขาย เพราะชาวเหนือใช้ธงนี่บ่อย พอได้เงินก็เอามาทำเป็นกองทุนดูแลพ่ออุ๋ยแม่อุ๋ยในหมู่บ้านนี่แหละ จะได้ช่วยกันดูแลเพราะลูกหลานไม่ค่อยอยู่ในหมู่บ้าน เราเห็นหลวงพ่อท่านตั้งใจมาก นี่ก็เพิ่งเอากฐินจากกรุงเทพฯไปทอดผ้าป่า สำหรับใครที่อยากทำบุญก็สามารถบริจาคได้ที่ หลวงพ่อสมาน 01-5114966 พี่เราถามท่านว่า ทำไมไม่ดูดวงล่ะจะได้ดึงดูดคนเข้ามาทำบุญที่วัด หลวงพ่อท่านบอกว่าแกไม่อยากให้คนมาทำบุญแล้วต้องได้อะไร อยากให้มาทำบุญด้วยใจศรัธทามากกว่า



หลังจากคุยกับหลวงพ่อเสร็จ ก็ลากลับบ้าน หลวงพ่อก็เลยเอาด้ายมาทำพิธี แล้วให้เอาไปผูกที่พวงมาลัยรถ เราก็เอามาให้เพื่อนเราด้วย แต่ตั้งแต่ผูกก็ไม่ค่อยเกิดอะไรอีก เพราะก่อนหน้านี้รถเพื่อนโดนบ่อยมาก จนน่าใจหาย ก่อนกลับพวกเราก็ลาตา แต่วันนี้เป็นวันที่ญาติมารดน้ำดำหัวกันเต็มบ้านเลย บ้านเลยดูครึกครื้นเชียวล่ะ จากนั้นพวกเราก็เดินทางเข้าเชียงใหม่ ไปเยี่ยมหลานสาวตัวน้อย น่ารักเชียวล่ะ



จากนั้นก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ มาถึงก็ราวๆ เกือบตีสี่ เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย








Create Date : 24 มิถุนายน 2549
Last Update : 30 ธันวาคม 2556 0:04:16 น. 5 comments
Counter : 1082 Pageviews.  
 
 
 
 
อยากตามไปเที่ยวด้วยจังค่ะ
อยากไปให้อาหารปลา
 
 

โดย: เหงาจับใจ วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:20:21:19 น.  

 
 
 
ดีจังเลย อิจฉาคนใด้เที่ยวนะ ต้องหาโอกาสบ้าง ไปไหนก็บอกละ เผื่อจะติดร่างแห ไปด้วย อิอิ (ล้อเล่น) ชอบมากๆนะ ทำได้ดี ได้ สนุกไปด้วยในการเดินทางทีเดียว แล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะ
 
 

โดย: พี่ชิต NEC IP: 125.25.144.238 วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:14:27:31 น.  

 
 
 
ก็สวยดีเหนอ
 
 

โดย: คนสวย IP: 192.168.1.5, 124.121.247.140 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:56:31 น.  

 
 
 
You're the one with the brnais here. I'm watching for your posts.
 
 

โดย: Bobbie IP: 50.57.136.164 วันที่: 29 ตุลาคม 2554 เวลา:8:29:41 น.  

 
 
 
 
 

โดย: amulet108 วันที่: 14 พฤษภาคม 2555 เวลา:6:29:06 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com