ทางก็ไม่ลำบากอะไรมากนัก รถเก๋งสามารถลงไปได้สบายมาก จะมีป้ายบอกทางก็ไปตามทางเลยจ้าเลี้ยวซ้ายไปไม่ไกลนัก
ก็มาถึงไร่ชาวังพุดตาล สังเกตุง่ายๆ จะเห็นสิงห์ตัวใหญ่ๆ เนี่ยแหละ
แปลกจังจากโลเกชั่นแล้ว ดูเหมือนเค้าจะทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวนะ คือไม่แน่ใจว่าที่ทำอยู่เนี่ย กำลังจะสร้างต่อ
หรือเสร็จสิ้นเพียงเท่านี้ ที่นี่น่าทำเป็นรีสอร์ทมากอ่ะ กว้างใหญ่ไพศาลดีจังเลยพื้นที่เค้า
แชะรูปซะหน่อย ผุ้คนไม่มีเอาเสียเลยประหนิ่งเหมือนไร่ร้างเลยทีเดียว ส่วนต้นชาก็อยู่ไกลๆ จขบ.แลดูพิกัดแล้ว
เดินไม่ไหวพูดเลยไกลเกิ๊น ดังนั้นมาที่นี่ก็ถ่ายรูปอย่างเดียวแล้วกัน
สรุปพวกเราไม่ได้ถ่ายไร่ชากันเลย ก็ถ่ายกันแต่สถานที่ที่เค้าสร้างเนี่ยแหละ วันนี้ฟ้าใสสวยมาก
เอาล่ะเดินทางกันต่อดีกว่า วันนี้วันสุดท้ายของการเดินทางแล้วด้วย
พิกัดต่อไปพวกเราจะเดินทางไป "พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี" กันค่ะอยู่บนสุดของดอยแม่สลองเลย
เส้นทางดีนะ แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยหากไม่ชำนาญ ตอนลงมากเนี่ยพวกเราดูแล้วไม่เท่าไหร่ แต่ตอนขึ้นนี่สิจะไหวไหมเนี่ย
โดยพอมาถึงก็จอดรถด้านหน้าพระธาตุเลยจ้า ที่จอดรถจอดได้ไม่กี่คันเองอ่ะ ไม่อยากนึกถึงเวลาเทศกาลเลย
ตอนรอขึ้นกันอ่ะน่าจะลำบากไม่ใช่น้อยเพราะมันชันมากทางขึ้น
พอเราขึ้นมาถึงบนพระธาตุแล้วมองลงมาเห็นดอยแม่สลองสวยมาก แต่เชื่อไหมว่าทุกครั้งที่ จขบ.เดินทางไปไหนก็ตาม
ภาพถ่ายเนี่ยไม่ว่าจะสวยแค่ไหนก็ไม่เท่าความรู้สึกที่ได้เห็นด้วยตาเปล่าเลยจริงๆ
เอาล่ะมารู้จักประวัติะพระธาตุแห่งนี้กันหน่อยนะคะ
"พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครนทราสถิตมหาสันติคีรี" ตั้งอยู่บนยอดดอยที่ระดับความสูง 1,500 เมตร ตั้งอยู่ทางเหนือหมู่บ้านสันติคีรีและวัดสันติคีรี มีทางขึ้น 2 ทางคือเดินตามบันไดคอนกรีต 700 กว่าขั้น ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับอุโบสถวัดสันติคีรี หรืออีกทางหนึ่งขึ้นโดยรถยนต์มีทางขึ้นที่บริเวณสามแยกหน้าโรงเรียนบ้านสันติคีรีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรเป็นถนนลาดยาง ทางลาดชันคตเคี้ยว ควรใช้ความระมัดระวังหรือต้องอาศัยผู้ที่ชำนาญทางในการขับรถ และมีลานจอดสามารถจอดได้ 10 คัน
เป็นพระบรมธาตุที่สวยงามตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมล้านนา สร้างแล้วเสร็จเมื่อราวมปี พ.ศ. 2539 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า ลักษณะเจดีย์แบบล้านนาประยุกต์บนฐานสี่เหลี่ยมลดชั้น สูงประมาณ 30 เมตร ฐานกว้างด้านละประมาณ 15 เมตร ประดับกระเบื้องสีเทา มีซุ้มจระนำด้านละสามซุ้ม เรือนธาตุประดับพระพุทธรูปยืนสีทิศ องค์ระฆังประดับแผ่นทองแกะสลัก ลวดลายใกล้กับองค์เจดีย์เป็นวิหารแบบล้านนาประยุกต์ภายในประดิษฐพระพุทธรูป ด้วยที่ตั้งสูงบนดอยแม่สลองจึงสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยเฉพาะในยามเย็นขณะเดียวกันองค์พระบรมธาตุยังเด่นเป็นสง่า มองเห็นแต่ไกลเป็นสัญลักษณ์สำคัญของดอยแม่สลอง นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่เหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าที่สวยงามมาก พอสายๆ ก็จะเห็นทะเลหมอกขาวโพลนทางทิศเหนือ พร้อมชมทิวทัศน์สภาพหมู่บ้านได้โดยตลอด และในช่วงระหว่างทางขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 1-2 ตอนเย็นยังสามารถชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินอันสวยงามได้อีกด้วย
เป็นไงล่ะไม่อ่านประวัติตั้งแต่แรกไปบ่ายอดดูพระอาทิตย์ขึ้นกับพระอาทิตย์ตกเลย เพิ่งมาอ่านตอนพิมพ์เนี่ย ตลอดเลยอิชั้นหลังๆ มาเก็บเอกสารมาอย่างเดียวแทนที่จะอ่านตั้งแต่แรก เง้อออ อดเบยยย
พอขึ้นมาบนพระธาตุก็จะเห็นคนเอาเหรียญวางอย่างที่เห็น พอเดินลงมาน้องนีโอบอกว่าพี่เอเหรียญที่เค้าตั้งกันอ่ะ
มีความหมายด้วยนะ อ้าว.. ทำไมไม่บอกช้านตั้งแต่ตอนอยู่ข้างบนเนี่ย เดินลงมาแล้วเพิ่งบอก จะขึ้นบันไดไปใหม่ก็ไม่ไหวแระ
เอาล่ะได้เวลาเดินทางกลับกันแล้ว ปัญหาคือรถเราจะขึ้นไหวไหม ?? เอาวะเฆี่ยนแรงม้ากันเข้าไป จะถึงแระ จะถึงแระ เอ้ย !!
รถดับครับพี่น้อง.. งานงอกเลยจ้า เอาไงดีวะเราสละรถโดยด่วน เปิดประตูออกเลยจ้าอิชั้นนนน
เพื่อนตี๋ดึงเบรกมือสุดตัวเลย เอาไงดีวะหินๆๆ หินอยู่ไหนใส่ใต้ล้อ จขบ.เหลือบไปเห็นหินก้อนใหญ่วางอยู่บริเวณนั้น
ตอนนั้นนึกในใจทำไมไม่ทิ้งก้อนเล็กๆ ไว้หน่อยฟ่ะ ก้อนเบ้อเริ่ม อิชั้นก็แบกเลยจ้า วิ่งเอาหินมาดันล้อ
จากนั้นก็สตาร์ทใหม่เต็มทีนเลยเพื่อนเฆี่ยนม้าเข้าไปเพื่อนๆ อีเพื่อนเหยียบมิดเลยจ้า
โล่งอก .. พุดเลย พอรถมันแล่นขึ้นไปได้ ลุ้นแทบแย่ จขบ.สังเกตุ สงสัยคงมีคนเจอเหมือนเราแล้วก็เอาหินก้อนนี้ค้ำ
เหมือนกันแน่นอน ก้อนใหญ่ไปไหน ตรูยกมาปวดหลังเลยทีเดียว แต่เพลานั้นห่วงอีเพื่อนที่อยู่ในรถ
แล้วพวกเราก็รอดมาได้ ลุ้นกันแทบแย่คันที่สองแรงม้าเยอะหน่อยขึ้นชิลเลยยย
โปรแกรมต่อไปไร่ฉุยฟง ณ เชียงราย ไว้มาต่อตอนหน้านะจ๊ะ