สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

Homeopathy รักษาแบบหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง

เพื่อนสาวคนหนึ่งมักมีอาการเจ็บป่วยแปลกๆ ที่ขอขนานนามให้ว่า “อาการภูมิเพี้ยน” แล้วกันค่ะ เธอจะมีผื่นขึ้นเป็นปื้นเหมือนลมพิษแทบทุกครั้งที่อากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะช่วงก่อนฝนตก เรียกว่าเป็นกรมอุตุฯ เคลื่อนที่เลยทีเดียว เห็นว่าไปหาหมอมาหลายที่ ทั้งตรวจภูมิแพ้ กินยาแก้ภูมิแพ้ ออกกำลังกาย งดอาหารก่อภูมิแพ้ก็แล้ว ทำอยู่หลายปีก็ยังไม่หาย อาจเป็นเพราะผื่นคันผิดปกติดังกล่าวไม่ใช่ภูมิแพ้ก็เป็นได้ เธอว่าอย่างนั้น แม้อาการภูมิเพี้ยนจะไม่มีอันตราย แต่ก็ชวนน่ารำคาญใจไม่น้อย เอะอะก็คัน ต้องเกาตลอดเวลา

ล่าสุดเพื่อนคนนี้เล่าให้ฟังว่า เมื่อเดือนที่แล้วเธอลองรักษาผื่นภูมิเพี้ยนด้วยแพทย์ทางเลือกแบบโฮมีโอพาธี ตอนนี้ผื่นขึ้นน้อยมากแม้อากาศจะแปรปรวน ได้ยินอย่างนี้เลยอดสงสัยไม่ได้ว่า โฮมีโอพาธี คืออะไร มีวิธีการรักษาอย่างไร จนต้องไปหาคำตอบจากคุณหมอเพื่อมาเล่าให้คุณผู้อ่านฟังนี่ละค่ะ

กำเนิดโฮมีโอพาธี

โฮมีโอพาธี (Homeopathy) เป็นศาสตร์การแพทย์แผนตะวันตกที่เกิดขึ้นเมื่อราวศตวรรษที่ 18 โดยนายแพทย์ชาวเยอรมันนามว่า แซมมวล ฮาห์เนมานน์ (Samuel Hahnemann) สมัยนั้นเป็นยุคของสงครามและโรคระบาด ขณะที่วิทยาการทางการแพทย์ก็แสนจะสุดโต่ง ทั้งการกรีดเลือดเสียทิ้ง การผ่าตัดโดยไม่ใช้ยาสลบ การใช้สารพิษเข้มข้นสูง การใช้ปลิงดูดเลือด ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนทำให้คนไข้ตายมากกว่ารอด

ด้วยเหตุนี้นายแพทย์ฮาห์เนมานน์จึงหันหลังให้ขนบการแพทย์ยุคนั้น แล้วหันมาใช้การรักษาในรูปแบบใหม่ โดยนำสารก่อการแพ้ตามธรรมชาติมารักษาผู้ป่วยที่มีอาการเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น จากการทดลองพบว่า เมื่อให้สารสกัดจากต้นซินโคนาแก่คนปกติ จะทำให้เกิดอาการไข้ หนาวสั่น คล้ายอาการของโรคมาลาเรีย ดังนั้นสารสกัดจากต้นซินโคนานี้ จึงนำมาใช้รักษาผู้ป่วยโรคมาลาเรียได้ (ปัจจุบันเรารู้จักสารนี้ในชื่อ ยาควินิน)

วิธีการแบบนี้เรียกว่า การใช้พิษต้านพิษ (likes cure likes) ที่กลายมาเป็นหัวใจหลักของโฮมีโอพาธีสืบเนื่องมาจนปัจจุบัน และเพราะศาสตร์นี้ใช้หลักหนามยอกเอาหนามบ่งนี้เอง จึงถูกขนานนามว่า Homeopathy มาจากคำในภาษากรีก คือ Homeo แปลว่า “เหมือน” ส่วน Pathy แปลว่า “เจ็บป่วย” ซึ่งนพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล แห่งศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี ได้นิยามคำว่าโฮมีโอพาธีเป็นภาษาไทยไว้อย่างสละสลวยว่า “เวชกรรมความคล้าย” นั่นเอง

การรักษาแบบโฮมีโอพาธี

โฮมีโอพาธี นั้นเชื่อว่าชีวิตมนุษย์เกิดจากการรวมตัวเป็นหนึ่งของร่างกายและพลังงาน (จิต วิญญาณ ชี่ หรือปราณ) และเมื่อสองสิ่งนี้ขับเคลื่อนควบคู่กันอย่างสมดุล ร่างกายจะแข็งแรงไม่เจ็บป่วย แต่เมื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเสียสมดุล แปลว่าคุณต้องเจ็บป่วยแน่ๆ โฮมีโอพาธีจึงเป็นการรักษาทั้งร่างกายและพลังงานให้อยู่ในภาวะปกติเสมอนั่นเอง

โดยยาโฮมีโอพาธีจะเน้นกระตุ้นให้ร่างกายสู้กับความเจ็บป่วยได้ด้วยตัวเองตามธรรมชาติ ผลระยะยาวจึงเป็นการมีร่างกายแข็งแรงขึ้น ภูมิต้านทานดีขึ้น และไม่เจ็บป่วยง่ายอีกต่อไป

โฮมีโอพาธี vs ภูมิเพี้ยน

เพื่อนสาวคนดังกล่าวเล่าถึงกระบวนการรักษาภูมิเพี้ยนของเธอด้วยโฮมีโอพาธีให้ฟังว่า

“หลังจากหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโฮมีโอพาธีก็พบว่าค่อนข้างปลอดภัย ค่าใช้จ่ายไม่เยอะ คุ้มค่าที่จะลองเผื่ออาการจะดีขึ้น ตอนไปถึงคลินิคต้องกรอกข้อมูลสุขภาพเบื้องต้น เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง ความดันโลหิต ประวัติการแพ้ยาและอาหาร เหมือนเวลาไปหาหมอตามปกติ จากนั้นคุณหมอจะซักประวัติ ชวนคุยทุกอย่าง

เพื่อเก็บข้อมูล ตั้งแต่อาการของโรค บุคลิกภาพ ความชอบ พฤติกรรมการบริโภค และประวัติสุขภาพของครอบครัว ฯลฯ ก่อนนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวล

“คุณหมอจะมีตำรับยาโฮมีโอพาธีเล่มหนึ่ง เอาไว้เปรียบเทียบกับข้อมูลของเราว่าเหมาะกับยาโฮมีโอพาธีตัวไหน แอบถามได้ความว่า ตำหรับยานี้รวบรวมกันมาตั้งแต่สมัยหมอฮาห์เนมานน์ และพัฒนาต่อๆ มา ทุกวันนี้มีจึงมียาโฮมีโอพาธีที่ผ่านการรับรองแล้วกว่าสามพันรายการ

“และจากการเทียบข้อมูลกับตำรับยาพบว่า ภูมิเพี้ยนของฉันน่าจะถูกโรคกับยาโฮมีพาธีที่สกัดจากพิษงูฝรั่งและดอกไม้ฝรั่งชนิดหนึ่ง จากนั้นคุณหมอก็จ่ายยาโฮมีโอพาธีสกัดจากพิษงูให้กิน 2 เม็ด ยานี้เป็นเม็ดน้ำตาลหน้าตาคล้ายลูกปัดกลมๆ เล็กจิ๋ว ได้จากการเจือจางพิษงูเป็นร้อยๆ ครั้ง จนไม่เหลือความเป็นพิษ เหลือแต่พลังงานที่เกิดขึ้นขณะทำละลายกับน้ำ คุณหมอบอกว่าพลังงานจากพิษงูในเม็ดน้ำตาลนี่แหละ ที่จะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายฉันเอาชนะผื่นภูมิเพี้ยนได้

“สองสัปดาห์หลังจากรับยา 2 เม็ด พบว่าอาการผื่นคันเริ่มดีขึ้น แม้ฝนจะตกกระหน่ำ แต่ผื่นกลับไม่ค่อยขึ้นเหมือนเมื่อก่อน เป็นอันว่ายาโฮมีโอพาธีตัวแรกนี้ถูกโรคกับฉันแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องทดลองใช้ยาอีกตัวแต่อย่างใด แต่ตลอดระยะเวลาการรักษาฉันต้องงดอาหารและของใช้ที่มีส่วนผสมของ การบูร พิมเสน และมิ้นท์ เพราะจะไปรบกวนการออกฤทธิ์ของยาได้ เมื่อกลับมาพบแพทย์อีกครั้ง ภูมิเพี้ยนของฉันแทบหายสนิท เป็นอันว่าจบสิ้นกระบวนการรักษาด้วยความแฮปปี้ พร้อมค่าใช้จ่ายเพียง 1,500 บาทเท่านั้น
นี่คือคำบอกเล่าโดยตรงจากเพื่อนสาวที่ลองใช้วิธีโฮมีโอพาธีค่ะ และเท่าที่สอบถามเพิ่มเติมจากคุณหมอทำให้ทราบว่า โฮมีโอพาธีนั้นมีกฎสำคัญอยู่ 3 ประการ คือ

ตัวยาที่ใช้ต้องได้จากสารสกัดพิษตามธรรมชาติ ทั้งจากพืช สัตว์ และแร่ธาตุ ซึ่งต้องผ่านการพิสูจน์ความเป็นพิษกับคนปกติมาแล้ว เพื่อให้แน่ใจลักษณะอาการจากฤทธิ์สารพิษนั้นๆ
ต้องใช้ยาแต่น้อย เพราะแม้จะถูกเจือจางนับร้อยนับพันครั้งตามแต่สูตรการรักษา จนแทบปราศจากพิษแล้วก็ตาม แต่เพราะสารตั้งต้นมีความเป็นพิษ การใช้น้อยๆ ไว้ก่อนย่อมปลอดภัยกว่า
ต้องใช้ทีละตำรับ ทุกวันนี้ตำรับยาโฮมีโอพาธีมีมากกว่า 3,000 รายการ แต่ละคน แต่ละโรคอาจใช้ยารักษาไม่เหมือนกัน บางคนอาจต้องใช้ยาถึง 5 ชนิด จึงจะหาย ส่วนบางคนอาจจะหายตั้งแต่ครั้งแรกก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ต้องลองใช้ยาทีละตำรับ เพราะการใช้ยาโฮมีโอพาธีปนกันอาจทำให้เกิดโรคอื่นขึ้นมาก็ได้

โฮมีโอพาธีรักษาอะไรได้บ้าง

โฮมีโอพาธีเป็นการรักษาแบบองค์รวม ที่ดูแลทั้งร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆ กัน และใช้รักษาได้หลายโรค เช่น ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ไอ เครียด นอนไม่หลับ ไปจนถึงโรคเรื้อรังอย่างภูมิแพ้ โรคกระเพาะ และมะเร็งและ 5 โรคยอดฮิตที่คนนิยมรักษาด้วยยาโฮมีโอพาธี ได้แก่ ภูมิแพ้ ปวดหัวไมเกรน นอนไม่หลับ เด็กสมาธิสั้น และกระเพาะลำไส้แปรปรวน (IBS)

นอกจากนี้ แพทย์ด้านศาสตร์ชะลอวัย ยังมีการนำยาโฮมีโอพาธีมาใช้ควบคู่กับกระบวนการ anti-aging ด้วย เพราะ anti-aging ไม่ใช่แค่การลดริ้วรอยเพื่อความงาม แต่เป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเช่นเดียวกับโฮมีโอพาธี คลินิกบางแห่งจึงใช้หลักการพิษต้านพิษของโฮมีโอพาธีเพื่อปรับสมดุลร่างกายแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามอาการของแต่ละคน เริ่มตั้งแต่การซักประวัติ ให้ยาตามอาการ ปรับไลฟ์สไตล์ เปลี่ยนวิถีการกินอยู่ ควบคู่กับการออกกำลังกายและขับถ่ายให้เป็นกิจวัตร แต่ระยะเวลารักษารวมทั้งค่าใช้จ่ายนั้นขึ้นอยู่กับอาการและการตอบสนองของร่างกายผู้ป่วย

อย่างไรก็ตาม ทั้ง anti-aging และโฮมีโอพาธีนั้นไม่ได้เหมาะเฉพาะแต่กับคนป่วยเท่านั้น คนไม่ป่วยที่ต้องการสร้างเสริมสุขภาพก็ใช้ได้เช่นกัน ลองปรึกษาได้ที่คลินิคธรรมชาติบำบัดใกล้บ้านนะคะ




ขอบคุณข้อมูลจาก
//www.healthandcuisine.com




 

Create Date : 15 กันยายน 2554
7 comments
Last Update : 15 กันยายน 2554 10:29:40 น.
Counter : 4149 Pageviews.

 

จากบล็อกพี่นาถ
สงสัยเขามีแขกเยอะค่ะน้องกบ

รักษาสุขภาพนะคะ

 

โดย: nart (sirivinit ) 15 กันยายน 2554 15:11:55 น.  

 

แวะมาเยี่ยมบล๊อกม่วงสวยมาก
เรื่องก็น่าสนใจ

 

โดย: ยายเก๋า (ชมพร ) 15 กันยายน 2554 17:04:34 น.  

 

บทความน่าสนใจค่ะน้องกบ
เพราะพี่ก็เป็นภูมิแพ้เหมือนกัน

 

โดย: เนินน้ำ 15 กันยายน 2554 17:56:52 น.  

 



สวัสดีค่ะคุณกบ..

แวะมาอ่านสิ่งใหม่ๆของวงการแพทย์ด้วยค่ะ

แวะเอารูปพี่ปลาที่เป็นอัมพาตครึ่งซีกมาให้ชม..

ตอนนี้กลับมาทำกายภาพที่บ้านแล้วค่ะ..

คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะถึงจะเดินได้

แวะมาบอกว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของพี่ปลาค่ะ

ช่วยอวยพรวันเกิดให้พี่ปลาด้วยนะค่ะ

ขอกราบขอบพระคุณมากๆค่ะ

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 15 กันยายน 2554 20:17:03 น.  

 


มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามอ่านครับ เพิ่งจะทราบนะครับว่ามีอาการแพ้แบบนี้ด้วย

อิอิ

 

โดย: อาคุงกล่อง 16 กันยายน 2554 0:01:03 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับคุณกบ

เป็นศาสตร์ที่น่าสนใจมากเลยครับ








 

โดย: กะว่าก๋า 16 กันยายน 2554 6:25:30 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีเช้าวันศุกร์ค่ะคุณกบ

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 16 กันยายน 2554 7:53:38 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
15 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.