|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
วิถีชีวิต : การปกครองในระบอบอิสลาม
بِسْمِ اللهِ الّرحْمنِ الّرحِيْمِ الحَمْدُلِّلهِ رَبِّ العَالَمِيْنِ وَالصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلَى مَنْ لاَ نَبِىَّ بَعْدَهُ سَيِّدِنَا وَرَسُوْلِنَا مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِهِ وَأَصْحَابِهِ أَجْمَعِيْنَ وَبَعْدُ หลักฐานและแนวทางการใช้กฎหมาย และการปกครองในระบอบอิสลาม
อำนาจมีสามอำนาจ คือ 1. อำนาจนิติบัญญัติ [ اَلسُّلْطَةُ التَّشْرِيْعِيَّةُ ] อัลลอฮ์เป็นผู้กำหนด 2. อำนาจบริหาร [ اَلسُّلْطَةُ التَّنْفِيْذِيَّةُ] ศาสดาตามที่อัลลอฮ์กำหนด 3. อำนาจตุลาการ [ اَلسُّلْطَةُ الْقَضَائِيَّةُ ] ศาสดาตามที่อัลลอฮ์กำหนด
กฎหมายมีสองประเภท 1. กฎหมายของอัลลอฮ์ [ قَانُوْنٌ إِلـهِيٌّ ] ไม่มีการเปลี่ยนแปลง 2. กฎหมายที่มนุษย์ร่าง [ قَانُوْنٌ وَضْعِيٌّ ] มีการเปลี่ยนแปลงตาม ความต้องการของผู้มีอำนาจ
-ถ้า ไม่ใช้อำนาจทั้งสามนี้ตามกรอบที่ศาสนากำหนดและไม่ใช้กฎหมายประเภทที่หนึ่ง จะยังผลให้หมดสภาพของการเป็นบริสุทธิ์ชน(มุสลิม) ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า:- [ فَمَنْ لَمْ يَحْكُمْ بِمَا أَنْزَلَ اللهُ فَأُولئِكَ هُمُ الْكَافِرُوْنَ ] ความว่า ใครไม่ตัดสินตามสิ่งที่อัลลอฮ์ประทานมา พวกเขาคือพวก กาเฟร
- ผู้ใช้อำนาจและกฎหมายนี้ต้องเป็นผู้ที่มีความอดทน ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า:- [ فَاصْبِرْ لِحُكْمِ رَبِّكَ ] ความว่า ท่านต้องอดทนต่อการตัดสินแห่งผู้อภิบาลของท่าน ( ซูร่อตุ้ลอินซาน อายะห์ที่ 24 )
- ผู้รู้ทุกคนคือผู้ต้องปฏิบัติตามพันธสัญญาต้องชี้แจง จะปิดบังมิได้ ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า:- [ وَإِذْ أَخَذَ اللهُ مِيْثَاقَ الَّذِيْنَ أُوْتُوا الْكِتَابَ لِتُبَيِّنُنَّهُ لِلنَّاسِ وَ لاَتَكْتُمُوْنَهُ ] [ سُوْرَةُ آلَ عِمْرَانَ ، اَْلآيَةَ : 187 ] ความ ว่า และจงรำลึกถึงขณะที่อัลลอฮ์ทรงเอาคำมั่นสัญญาจากบรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ว่า แน่นอนยิ่งที่พวกท่านจะต้องแจกแจงอธิบายคัมภีร์ให้แจ่มแจ้งแก่ประชาชนทั้ง หลาย และพวกท่านต้องไม่ปิดบังมัน (อาลาอิมรอน 187)
- การปกครองในระบอบอิสลาม เป็นสิ่งที่มุสลิมหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องปฏิบัติตาม ต้องชี้แจงให้ประชาคมรู้และยึดเป็นแนวทาง ไม่มีแนวทางอื่นใดนอกจากแนวทางนี้ แนวทางอื่น ๆ ล้วนแต่เป็นแนวทางซัยตอน เป็นแนวทางที่มีแต่ความขัดแย้งและแตกแยก อัล-กุรอ่านกล่าวว่า:- [ وَأَنَّ هذَا صِرَاطِيْ مُسْتَقِيْمًا فَاتَّبِعُوْهُ وَلاَ تَتَّبِعُوا السُّبُلَ فَتَفَرَّقَ بِكُمْ عَنْ سَبِيْلِهِ ] ความ ว่า และแท้จริงนี้คือแนวทางของฉันที่เที่ยงตรง พวกท่านจงปฏิบัติตาม พวกท่านอย่าได้ตามแนวทางอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้พวกท่านแตกแยกไปจากแนวทางของพระองค์ (ซูเราะห์อันอาม โองการที่ 153) ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า:- أَفَلاَ يَتَدَبَّرُوْنَ الْقُرْآنَ وَلَوْ كَانَ مِنْ عِنْدِ غَيْرِ اللهِ لَوَجَدُوا اخْتِلاَفًا كَثِيْرًا ] ความว่า พวกเขาไม่ได้พิจารณาดูกุรอ่านกันดอกหรือว่า หากไม่ได้มาจากอัลลอฮ์ แน่นอนพวกเขาต้องพบแต่สิ่งที่ขัดแย้งกันอย่างมากมาย
- ไม่มีสิ่งใด ๆ ที่อัลลอฮ์ลืมหรือไม่ได้กล่าวไว้ในอัล-กุรอ่านเลย ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า:- [ مَا فَرَّطْنَا فِي الْكتَابِ مِنْ شَيْئٍ ] ความว่า เราไม่ได้หลงลืมหรือละเลยอันใดในกุรอ่านเลย
- การสืบทอดตำแหน่งมิใช่ได้มาโดยสันติวงศ์ ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า:- [ قَالَ إِنِّيْ جَاعِلُكَ لِلنَّاسِ إِمَامًا ، فَالَ وَمِنْ ذُرِّيَتِيْ ، ، فَالَ لاَ يَنَالُ عَهْدِيْ الظَّالِمِيْنَ ] ความ ว่า อัลลอฮ์ได้กล่าวแก่อิบรอฮีมว่า แท้จริงเราได้ทำให้ท่านเป็นผู้นำแห่งมวลมนุษย์ อิบรอฮีมกล่าวว่า และขอให้ลูกหลานฉันด้วย อัลลอฮ์กล่าวว่า สัญญาของฉันไม่เกี่ยวกับบรรดาผู้ที่ซอลิม(คดโกง , อธรรม)
- ผู้นำต้องเป็นคนในชุมชนนั้น และต้องเป็นผู้รู้ ผู้สามารถฟอกให้สังคมสะอาดได้ ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :- [ رَبَّنَا وَابْعَثْ فِيْهِمْ رَسُوْلاً مِنْهُمْ يَتْلُوْ عَلَيْهِمْ آيَاتِكَ وَيُعَلِّمُهُمُ الْكِتَابَ وَالْحِكْمَةَ وَيُزَكِّيْهِمْ ، إِنَّكَ أَنْتَ الْعَزِيْزُ الْحَكِيْمُ ] ความว่า โอ้ผู้อภิบาลของเรา ได้โปรดแต่งตั้งผู้แทนให้พวกเขาจากพวกเขา เพื่อจะได้อ่านโองการต่าง ๆ ของท่านให้พวกเขา และสอนกุรอ่านตลอด จนฮิกมะฮ์(วิทยปัญญา)ให้แก่พวกเขาและขัดเกลาพวกเขา แท้จริงท่าน ท่านเป็นผู้มีอำนาจและทรงมีวิสัยทัศน์ยิ่ง (ซูเราะห์อัล-บากอเราะฮ์ 129)
- หากใครฝ่าฝืน , ขัดขืนหรือไม่เห็นด้วย โดยไปให้ความสำคัญกับแนวทางอื่นจากแนวทางของอัลลอฮ์ก็ปล่อยเขาไป อัล-กุรอ่านกล่าวท้าทายและเตือนสติไว้ว่า :- [ قُلْ أَتُحَاجَّوْنَنَا فِي اللهِ وَهُوَ رَبُّنَا وَرَبُّكُمْ وَلَنَا أَعْمَالُنَا وَلَكُمْ أَعْمَالُكُمْ وَنَحْنُ لَهُ مُخْلِصُوْنَ ] ความ ว่า จงกล่าวเถิดมูฮัมมัด พวกท่านจะคัดค้านเราในเรื่องบทบัญญัติของอัลลอฮ์กระนั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่พระองค์ก็คือพระผู้อภิบาลของเรา และพระผู้อภิบาลของพวกท่าน ถ้างั้นงานของเราก็งานของเรา และงานของท่านก็งานของท่าน สำหรับเรา เราขอสวามิภักดิ์ และมีความบริสุทธิ์ใจต่อพระองค์ (อัล-บากอเราะฮ์ 139)
- เป็นมุสลิมต้องมีหลักและวิธีคิดตลอดจนต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามอัลลอฮ์ ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :- [ إِنَّمَا كَانَ قَوْلَ الْمُؤْمِنِيْنَ إِذَا دُعُوْا إِلَى اللهِ وَرَسُوْلِهِ لِيَحْكُمَ بَيْنَهُمْ أَنْ يَقُوْلُوْا سَمِعْنَا وَأَطَعْنَا ، وَأُولئِكَ هُمُ الْمُفْلِحُوْنَ . وَمَنْ يُطِعِ اللهَ وَرَسُوْلَهُ وَيَخْشَ اللهَ وَيَتَّقْهِ ، فَأُولئِكَ هُمُ الْفَائِزُوْنَ .] ความว่า แท้จริงคำกล่าวของบรรดาผู้ศรัทธา เมื่อพวกเขาถูกเรียกร้องไปสู่อัลลอฮ์ และรอซูลของพระองค์ เพื่อให้ตัดสินระหว่างพวกเขา พวกเขาจะกล่าวว่า เราได้ยินแล้ว และเราเชื่อฟังปฏิบัติตาม คนเหล่านี้แหละคือผู้ประสบความสำเร็จ และผู้ใดเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์ และเกรงกลัวอัลลอฮ์และยำเกรงพระองค์ คนเหล่านี้แหละคือกลุ่มชนที่ได้รับชัยชนะ (ซูเราะฮ์ อันนูร 51-52)
- อย่าเป็นคนเช่น คนบางกลุ่มเมื่อถูกเรียกร้องให้ใช้หลักการของอัลลอฮ์ พวกเขาพากันผินหลังให้ ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :- [ وَإِذَا دُعُوْا إِلَى اللهِ وَرَسُوْلِهِ لِيَحْكُمَ بَيْنَهُمْ إِذَا فَرِيْقٌ مِنْهُمْ مُعُرِضُوْنَ . وَإِنْ يَكُنْ لَهُمُ الْحَقُّ يَأْتُوْا إِلَيْهِ مُذْعِنِيْنَ . أَفِيْ قُلُوْبِهِمْ مَرَضٌ أَمِ ارْتَابُوْا أَمْ يَخَافُوْنَ أَنْ يَحِيْفَ اللهُ عَلَيْهِمْ وَرَسُوْلُهُ ، بَلْ أُولئِكَ هُمُ الظَّالِمُوْنَ .] ความว่า และเมื่อพวกเขาถูกเรียกร้องไปสู่อัลลอฮ์ และรอซูลของพระองค์ เพื่อให้ตัดสินระหว่างพวกเขา เมื่อนั้นฝ่ายหนึ่งจากพวกเขาจะพากันผินหลังให้ และหากว่าความจริงอยู่ข้างพวกเขาแล้ว พวกเขาจะรีบมาหามูฮัมมัดอย่างนอบน้อม ในหัวใจของพวกเขามีโรคกระนั้นหรือ ? หรือว่าพวกเขาสงสัย หรือว่าพวกเขากลัวว่าอัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์จะลำเอียง มิใช่หรอก เป็นเพราะพวกเขาอธรรมต่างหาก (อัล-บากอเราะฮ์ 48-51)
- พวกเขาชอบหลักการ หลักคิด และหรือวิธีการของญาฮิลียะฮ์หรือ? ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :- [ أَفَحُكْمَ الْجَاهِلِيَّةِ يَبْغُوْنَ ، وَمَنْ أَحْسَنُ مِنَ اللهِ حُكْمًا لِقَوْمٍ يُوْقِنُوْنَ ] ความ ว่า คำตัดสินของคนโง่(กลุ่มชนญาฮิลียะฮ์) กระนั้นหรือที่พวกเขาปรารถนา และใครเล่าที่จะตัดสินดียิ่งกว่าอัลลอฮ์ สำหรับกลุ่มชนที่เชื่อมั่นต่อพระองค์ (ซูเราะฮ์อัล-มาอิดะฮ์ โองการที่ 50)
- คนที่กลัวอัลลอฮ์จะมีสติรับฟังการตักเตือน ส่วนคนที่ชั่วช้าจะหลีกเลี่ยงการตักเตือน ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :- [ سَيَذَّكَّرُ مَنْ يَخْشَى . وَيَتَجَنَّبُهَا اْلأَشْقَى ] ความว่า ผู้ที่มีความยำเกรงจะได้คิด และผู้ที่ชั่วช้าจะหลีกเลี่ยงการตักเตือน (ซูเราะฮ์อะลา 10-11)
- มาเถิดมารวมและร่วมกันในการเปล่งวาจาเดียวกัน ว่าจะไม่สักการะสิ่งใดนอกจากอัลลอฮ์ ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :- [ قُلْ يَا أَهْلَ الْكِتَابِ تَعَالَوْا إِلَى كَلِمَةٍ سَوَاءٍ بَيْنَنَا وَبَيْنَكُمْ أَلاَّ نَعْبُدَ إِلاَّ اللهَ وَلاَ نُشْرِكَ بِهِ شَيْئًا وَلاَ يَتَّخِذَ بَعْضُنَا بَعْضًا أَرْبَابًا مِنْ دُوْنِ اللهِ ، فَإِنْ تَوَلَّوْا فَقُوْلُوا اشْهَدُوْا بِأَنَّا مُسْلِمُوْنَ .] ความ ว่า จงกล่าวเถิดมูฮัมมัด โอ้บรรดาผู้รับคัมภีร์ จงมายังถ้อยคำหนึ่งที่เท่าเทียมกัน ระหว่างเราและพวกท่าน คือ เราจะไม่สักการะนอกจากพระองค์เท่านั้น และพวกเราบางคนก็จะไม่ยึดถืออีกบางคนเป็นพระเจ้าอื่นจากอัลลอฮ์ แล้วหากพวกเขาผินหลังให้ ก็จงกล่าวเถิดว่า พวกท่านจงเป็นพยานด้วยว่า พวกเราเป็นบริสุทธิ์ชน (อาลาอิมรอน 64)
- พวกยะฮูดีและพวกนัศรอนีต้องการให้เราตามพวกมัน ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :- [ وَلَنْ تَرْضَى عَنْكَ الْيَهُوْدُ وَلاَ النَّصَارَى حَتَّى تَتَّبِعَ مِلَّتَهُمْ ] ความว่า และไม่มีวันที่พวกยะฮูดีและพวกนัศรอนีจะยินดีในตัวท่าน นอกจากพวกมันต้องการให้ท่านตามศาสนาของมัน
- หากความเห็นไม่ตรงกันหรือขัดแย้งกัน ต้องปรับกลับไปหาอัลลอฮ์และรอซูล [ يَاأَيُّهَا الَّذِيْنَ آمَنُوْا أَطِيْعُوْا اللهَ وَ أَطِيْعُوْا الرَّسُوْلَ وَأُولِى اْْلأَمْرِ مِنْكُمْ، فَإِنْ تَنَازَعْتُمْ فِيْ شَيْءٍ فَرُدُّوْهُ إِلَى اللهِ وَالرَّسُوْلِ إِنْ كُنْتُمْ تُؤْمِنُوْنَ بِاللهِ وَالْيَوْمِ اْلآخِرِ ] ความว่า โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกท่านจงเชื่อฟังอัลลอฮ์ และพวกท่านจงเชื่อฟังรอซูล หากพวกท่านขัดแย้งกันในเรื่องใด ๆ พวกท่านจงกลับไปหาข้อตัดสินความขัดแย้งของพวกท่านจากอัลลอฮ์และรอซูล หากพวกท่านศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลก (ซูเราะฮ์ อันนิซาอ์ โองการที่ 59)
- คนมีอีหม่านจะลังเลว่าจะทำหรือไม่ตามบัญญัติแห่งอัลลอฮ์มิได้ [ وَمَا كَانَ لِمُؤْمِنٍ وَلاَ مُؤْمِنَةٍ إِذَا قَضَى اللهُ وَرَسُوْلُهُ أَمْرًا أَنْ يَكُوْنَ لَهُمُ الْخِيَرَةُ مِنْ أَمْرِهِمْ ، وَمَنْ يَعْصِ اللهَ وَرَسُوْلَهُ فَقَدْ ضَلَّ ضَلاَلاً مُبْيْنًا ] และ ไม่ใช่ศรัทธาชนชาย และมิใช่ศรัทธาชนหญิง เมื่ออัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์กำหนดให้กระทำการสิ่งใด พวกเขาจะมีความลังเลในการจะทำหรือไม่ทำกิจกรรมของเขานั้น และใครทรยศต่ออัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์ แน่แท้พวกเขาหลงไหลชนิดที่ชัดเจนเหลือเกิน (ซูเราะฮ์อัล-อะห์ซาน โองการที่ 36)
- อำนาจหรือธรรมนูญที่อัลลอฮ์ท่านทรงกำหนดไว้ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :- [ وَلَنْ تَجِدَ لِسُنَّةِ اللهِ تَبْدِيْلاً ] ความว่า ท่านจะไม่พบว่าแนวทางแห่งอัลลอฮ์จะมีการเปลี่ยนแปลง
(โดย อาจารย์อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ) والله سبحانه وتعالى أعلم
//www.sunnahstudent.com/forum/index.php?topic=4752.msg59611;topicseen#new
__________________________________________________________
Create Date : 15 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2552 14:50:03 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1012 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
itoursab |
|
|
|
|
|