อยู่สบาย ตายสงบ จากไปไม่คิดค้างใคร แง่บๆ

<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
15 พฤศจิกายน 2552
 

วิถีชีวิต : การปกครองในระบอบอิสลาม

بِسْمِ اللهِ الّرحْمنِ الّرحِيْمِ
الحَمْدُلِّلهِ رَبِّ العَالَمِيْنِ وَالصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلَى مَنْ لاَ نَبِىَّ بَعْدَهُ سَيِّدِنَا وَرَسُوْلِنَا مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِهِ وَأَصْحَابِهِ أَجْمَعِيْنَ وَبَعْدُ

หลักฐานและแนวทางการใช้กฎหมาย และการปกครองในระบอบอิสลาม

อำนาจมีสามอำนาจ คือ
1. อำนาจนิติบัญญัติ [ اَلسُّلْطَةُ التَّشْرِيْعِيَّةُ ] อัลลอฮ์เป็นผู้กำหนด
2. อำนาจบริหาร [ اَلسُّلْطَةُ التَّنْفِيْذِيَّةُ] ศาสดาตามที่อัลลอฮ์กำหนด
3. อำนาจตุลาการ [ اَلسُّلْطَةُ الْقَضَائِيَّةُ ] ศาสดาตามที่อัลลอฮ์กำหนด

กฎหมายมีสองประเภท
1. กฎหมายของอัลลอฮ์ [ قَانُوْنٌ إِلـهِيٌّ ] ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
2. กฎหมายที่มนุษย์ร่าง [ قَانُوْنٌ وَضْعِيٌّ ] มีการเปลี่ยนแปลงตาม
ความต้องการของผู้มีอำนาจ

-ถ้า ไม่ใช้อำนาจทั้งสามนี้ตามกรอบที่ศาสนากำหนดและไม่ใช้กฎหมายประเภทที่หนึ่ง จะยังผลให้หมดสภาพของการเป็นบริสุทธิ์ชน(มุสลิม) ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า:-
[ فَمَنْ لَمْ يَحْكُمْ بِمَا أَنْزَلَ اللهُ فَأُولئِكَ هُمُ الْكَافِرُوْنَ ]
ความว่า ใครไม่ตัดสินตามสิ่งที่อัลลอฮ์ประทานมา พวกเขาคือพวก กาเฟร

- ผู้ใช้อำนาจและกฎหมายนี้ต้องเป็นผู้ที่มีความอดทน
ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า:-
[ فَاصْبِرْ لِحُكْمِ رَبِّكَ ]
ความว่า ท่านต้องอดทนต่อการตัดสินแห่งผู้อภิบาลของท่าน
( ซูร่อตุ้ลอินซาน อายะห์ที่ 24 )

- ผู้รู้ทุกคนคือผู้ต้องปฏิบัติตามพันธสัญญาต้องชี้แจง จะปิดบังมิได้
ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า:-
[ وَإِذْ أَخَذَ اللهُ مِيْثَاقَ الَّذِيْنَ أُوْتُوا الْكِتَابَ لِتُبَيِّنُنَّهُ لِلنَّاسِ وَ لاَتَكْتُمُوْنَهُ ]
[ سُوْرَةُ آلَ عِمْرَانَ ، اَْلآيَةَ : 187 ]
ความ ว่า และจงรำลึกถึงขณะที่อัลลอฮ์ทรงเอาคำมั่นสัญญาจากบรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ว่า แน่นอนยิ่งที่พวกท่านจะต้องแจกแจงอธิบายคัมภีร์ให้แจ่มแจ้งแก่ประชาชนทั้ง หลาย และพวกท่านต้องไม่ปิดบังมัน
(อาลาอิมรอน 187)

- การปกครองในระบอบอิสลาม เป็นสิ่งที่มุสลิมหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องปฏิบัติตาม ต้องชี้แจงให้ประชาคมรู้และยึดเป็นแนวทาง ไม่มีแนวทางอื่นใดนอกจากแนวทางนี้ แนวทางอื่น ๆ ล้วนแต่เป็นแนวทางซัยตอน เป็นแนวทางที่มีแต่ความขัดแย้งและแตกแยก อัล-กุรอ่านกล่าวว่า:-
[ وَأَنَّ هذَا صِرَاطِيْ مُسْتَقِيْمًا فَاتَّبِعُوْهُ وَلاَ تَتَّبِعُوا السُّبُلَ فَتَفَرَّقَ بِكُمْ عَنْ سَبِيْلِهِ ]
ความ ว่า และแท้จริงนี้คือแนวทางของฉันที่เที่ยงตรง พวกท่านจงปฏิบัติตาม พวกท่านอย่าได้ตามแนวทางอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้พวกท่านแตกแยกไปจากแนวทางของพระองค์
(ซูเราะห์อันอาม โองการที่ 153)
ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า:-
أَفَلاَ يَتَدَبَّرُوْنَ الْقُرْآنَ وَلَوْ كَانَ مِنْ عِنْدِ غَيْرِ اللهِ لَوَجَدُوا اخْتِلاَفًا كَثِيْرًا ]
ความว่า พวกเขาไม่ได้พิจารณาดูกุรอ่านกันดอกหรือว่า หากไม่ได้มาจากอัลลอฮ์ แน่นอนพวกเขาต้องพบแต่สิ่งที่ขัดแย้งกันอย่างมากมาย

- ไม่มีสิ่งใด ๆ ที่อัลลอฮ์ลืมหรือไม่ได้กล่าวไว้ในอัล-กุรอ่านเลย
ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า:-
[ مَا فَرَّطْنَا فِي الْكتَابِ مِنْ شَيْئٍ ]
ความว่า เราไม่ได้หลงลืมหรือละเลยอันใดในกุรอ่านเลย

- การสืบทอดตำแหน่งมิใช่ได้มาโดยสันติวงศ์
ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า:-
[ قَالَ إِنِّيْ جَاعِلُكَ لِلنَّاسِ إِمَامًا ، فَالَ وَمِنْ ذُرِّيَتِيْ ، ، فَالَ لاَ يَنَالُ عَهْدِيْ الظَّالِمِيْنَ ]
ความ ว่า อัลลอฮ์ได้กล่าวแก่อิบรอฮีมว่า แท้จริงเราได้ทำให้ท่านเป็นผู้นำแห่งมวลมนุษย์ อิบรอฮีมกล่าวว่า และขอให้ลูกหลานฉันด้วย อัลลอฮ์กล่าวว่า สัญญาของฉันไม่เกี่ยวกับบรรดาผู้ที่ซอลิม(คดโกง , อธรรม)

- ผู้นำต้องเป็นคนในชุมชนนั้น และต้องเป็นผู้รู้ ผู้สามารถฟอกให้สังคมสะอาดได้
ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :-
[ رَبَّنَا وَابْعَثْ فِيْهِمْ رَسُوْلاً مِنْهُمْ يَتْلُوْ عَلَيْهِمْ آيَاتِكَ وَيُعَلِّمُهُمُ الْكِتَابَ وَالْحِكْمَةَ وَيُزَكِّيْهِمْ ، إِنَّكَ أَنْتَ الْعَزِيْزُ الْحَكِيْمُ ]
ความว่า โอ้ผู้อภิบาลของเรา ได้โปรดแต่งตั้งผู้แทนให้พวกเขาจากพวกเขา เพื่อจะได้อ่านโองการต่าง ๆ ของท่านให้พวกเขา และสอนกุรอ่านตลอด จนฮิกมะฮ์(วิทยปัญญา)ให้แก่พวกเขาและขัดเกลาพวกเขา แท้จริงท่าน ท่านเป็นผู้มีอำนาจและทรงมีวิสัยทัศน์ยิ่ง
(ซูเราะห์อัล-บากอเราะฮ์ 129)

- หากใครฝ่าฝืน , ขัดขืนหรือไม่เห็นด้วย โดยไปให้ความสำคัญกับแนวทางอื่นจากแนวทางของอัลลอฮ์ก็ปล่อยเขาไป
อัล-กุรอ่านกล่าวท้าทายและเตือนสติไว้ว่า :-
[ قُلْ أَتُحَاجَّوْنَنَا فِي اللهِ وَهُوَ رَبُّنَا وَرَبُّكُمْ وَلَنَا أَعْمَالُنَا وَلَكُمْ أَعْمَالُكُمْ وَنَحْنُ لَهُ مُخْلِصُوْنَ ]
ความ ว่า จงกล่าวเถิดมูฮัมมัด พวกท่านจะคัดค้านเราในเรื่องบทบัญญัติของอัลลอฮ์กระนั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่พระองค์ก็คือพระผู้อภิบาลของเรา และพระผู้อภิบาลของพวกท่าน ถ้างั้นงานของเราก็งานของเรา และงานของท่านก็งานของท่าน สำหรับเรา เราขอสวามิภักดิ์ และมีความบริสุทธิ์ใจต่อพระองค์
(อัล-บากอเราะฮ์ 139)

- เป็นมุสลิมต้องมีหลักและวิธีคิดตลอดจนต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามอัลลอฮ์
ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :-
[ إِنَّمَا كَانَ قَوْلَ الْمُؤْمِنِيْنَ إِذَا دُعُوْا إِلَى اللهِ وَرَسُوْلِهِ لِيَحْكُمَ بَيْنَهُمْ أَنْ يَقُوْلُوْا سَمِعْنَا وَأَطَعْنَا ، وَأُولئِكَ هُمُ الْمُفْلِحُوْنَ . وَمَنْ يُطِعِ اللهَ وَرَسُوْلَهُ وَيَخْشَ اللهَ وَيَتَّقْهِ ، فَأُولئِكَ هُمُ الْفَائِزُوْنَ .]
ความว่า แท้จริงคำกล่าวของบรรดาผู้ศรัทธา เมื่อพวกเขาถูกเรียกร้องไปสู่อัลลอฮ์ และรอซูลของพระองค์ เพื่อให้ตัดสินระหว่างพวกเขา พวกเขาจะกล่าวว่า เราได้ยินแล้ว และเราเชื่อฟังปฏิบัติตาม คนเหล่านี้แหละคือผู้ประสบความสำเร็จ และผู้ใดเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์ และเกรงกลัวอัลลอฮ์และยำเกรงพระองค์ คนเหล่านี้แหละคือกลุ่มชนที่ได้รับชัยชนะ
(ซูเราะฮ์ อันนูร 51-52)

- อย่าเป็นคนเช่น คนบางกลุ่มเมื่อถูกเรียกร้องให้ใช้หลักการของอัลลอฮ์ พวกเขาพากันผินหลังให้
ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :-
[ وَإِذَا دُعُوْا إِلَى اللهِ وَرَسُوْلِهِ لِيَحْكُمَ بَيْنَهُمْ إِذَا فَرِيْقٌ مِنْهُمْ مُعُرِضُوْنَ . وَإِنْ يَكُنْ لَهُمُ الْحَقُّ يَأْتُوْا إِلَيْهِ مُذْعِنِيْنَ . أَفِيْ قُلُوْبِهِمْ مَرَضٌ أَمِ ارْتَابُوْا أَمْ يَخَافُوْنَ أَنْ يَحِيْفَ اللهُ عَلَيْهِمْ وَرَسُوْلُهُ ، بَلْ أُولئِكَ هُمُ الظَّالِمُوْنَ .]
ความว่า และเมื่อพวกเขาถูกเรียกร้องไปสู่อัลลอฮ์ และรอซูลของพระองค์ เพื่อให้ตัดสินระหว่างพวกเขา เมื่อนั้นฝ่ายหนึ่งจากพวกเขาจะพากันผินหลังให้ และหากว่าความจริงอยู่ข้างพวกเขาแล้ว พวกเขาจะรีบมาหามูฮัมมัดอย่างนอบน้อม ในหัวใจของพวกเขามีโรคกระนั้นหรือ ? หรือว่าพวกเขาสงสัย หรือว่าพวกเขากลัวว่าอัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์จะลำเอียง มิใช่หรอก เป็นเพราะพวกเขาอธรรมต่างหาก
(อัล-บากอเราะฮ์ 48-51)

- พวกเขาชอบหลักการ หลักคิด และหรือวิธีการของญาฮิลียะฮ์หรือ?
ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :-
[ أَفَحُكْمَ الْجَاهِلِيَّةِ يَبْغُوْنَ ، وَمَنْ أَحْسَنُ مِنَ اللهِ حُكْمًا لِقَوْمٍ يُوْقِنُوْنَ ]
ความ ว่า คำตัดสินของคนโง่(กลุ่มชนญาฮิลียะฮ์) กระนั้นหรือที่พวกเขาปรารถนา และใครเล่าที่จะตัดสินดียิ่งกว่าอัลลอฮ์ สำหรับกลุ่มชนที่เชื่อมั่นต่อพระองค์
(ซูเราะฮ์อัล-มาอิดะฮ์ โองการที่ 50)

- คนที่กลัวอัลลอฮ์จะมีสติรับฟังการตักเตือน ส่วนคนที่ชั่วช้าจะหลีกเลี่ยงการตักเตือน
ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :-
[ سَيَذَّكَّرُ مَنْ يَخْشَى . وَيَتَجَنَّبُهَا اْلأَشْقَى ]
ความว่า ผู้ที่มีความยำเกรงจะได้คิด และผู้ที่ชั่วช้าจะหลีกเลี่ยงการตักเตือน
(ซูเราะฮ์อะลา 10-11)

- มาเถิดมารวมและร่วมกันในการเปล่งวาจาเดียวกัน ว่าจะไม่สักการะสิ่งใดนอกจากอัลลอฮ์
ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :-
[ قُلْ يَا أَهْلَ الْكِتَابِ تَعَالَوْا إِلَى كَلِمَةٍ سَوَاءٍ بَيْنَنَا وَبَيْنَكُمْ أَلاَّ نَعْبُدَ إِلاَّ اللهَ وَلاَ نُشْرِكَ بِهِ شَيْئًا وَلاَ يَتَّخِذَ بَعْضُنَا بَعْضًا أَرْبَابًا مِنْ دُوْنِ اللهِ ، فَإِنْ تَوَلَّوْا فَقُوْلُوا اشْهَدُوْا بِأَنَّا مُسْلِمُوْنَ .]
ความ ว่า จงกล่าวเถิดมูฮัมมัด โอ้บรรดาผู้รับคัมภีร์ จงมายังถ้อยคำหนึ่งที่เท่าเทียมกัน ระหว่างเราและพวกท่าน คือ เราจะไม่สักการะนอกจากพระองค์เท่านั้น และพวกเราบางคนก็จะไม่ยึดถืออีกบางคนเป็นพระเจ้าอื่นจากอัลลอฮ์ แล้วหากพวกเขาผินหลังให้ ก็จงกล่าวเถิดว่า พวกท่านจงเป็นพยานด้วยว่า พวกเราเป็นบริสุทธิ์ชน
(อาลาอิมรอน 64)

- พวกยะฮูดีและพวกนัศรอนีต้องการให้เราตามพวกมัน
ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :-
[ وَلَنْ تَرْضَى عَنْكَ الْيَهُوْدُ وَلاَ النَّصَارَى حَتَّى تَتَّبِعَ مِلَّتَهُمْ ]
ความว่า และไม่มีวันที่พวกยะฮูดีและพวกนัศรอนีจะยินดีในตัวท่าน นอกจากพวกมันต้องการให้ท่านตามศาสนาของมัน

- หากความเห็นไม่ตรงกันหรือขัดแย้งกัน ต้องปรับกลับไปหาอัลลอฮ์และรอซูล
[ يَاأَيُّهَا الَّذِيْنَ آمَنُوْا أَطِيْعُوْا اللهَ وَ أَطِيْعُوْا الرَّسُوْلَ وَأُولِى اْْلأَمْرِ مِنْكُمْ، فَإِنْ تَنَازَعْتُمْ فِيْ شَيْءٍ فَرُدُّوْهُ إِلَى اللهِ وَالرَّسُوْلِ إِنْ كُنْتُمْ تُؤْمِنُوْنَ بِاللهِ وَالْيَوْمِ اْلآخِرِ ]
ความว่า โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกท่านจงเชื่อฟังอัลลอฮ์ และพวกท่านจงเชื่อฟังรอซูล หากพวกท่านขัดแย้งกันในเรื่องใด ๆ พวกท่านจงกลับไปหาข้อตัดสินความขัดแย้งของพวกท่านจากอัลลอฮ์และรอซูล หากพวกท่านศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลก
(ซูเราะฮ์ อันนิซาอ์ โองการที่ 59)

- คนมีอีหม่านจะลังเลว่าจะทำหรือไม่ตามบัญญัติแห่งอัลลอฮ์มิได้
[ وَمَا كَانَ لِمُؤْمِنٍ وَلاَ مُؤْمِنَةٍ إِذَا قَضَى اللهُ وَرَسُوْلُهُ أَمْرًا أَنْ يَكُوْنَ لَهُمُ الْخِيَرَةُ مِنْ أَمْرِهِمْ ، وَمَنْ يَعْصِ اللهَ وَرَسُوْلَهُ فَقَدْ ضَلَّ ضَلاَلاً مُبْيْنًا ]
และ ไม่ใช่ศรัทธาชนชาย และมิใช่ศรัทธาชนหญิง เมื่ออัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์กำหนดให้กระทำการสิ่งใด พวกเขาจะมีความลังเลในการจะทำหรือไม่ทำกิจกรรมของเขานั้น และใครทรยศต่ออัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์ แน่แท้พวกเขาหลงไหลชนิดที่ชัดเจนเหลือเกิน
(ซูเราะฮ์อัล-อะห์ซาน โองการที่ 36)

- อำนาจหรือธรรมนูญที่อัลลอฮ์ท่านทรงกำหนดไว้ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ดังอัล-กุรอ่านกล่าวว่า :-
[ وَلَنْ تَجِدَ لِسُنَّةِ اللهِ تَبْدِيْلاً ]
ความว่า ท่านจะไม่พบว่าแนวทางแห่งอัลลอฮ์จะมีการเปลี่ยนแปลง

(โดย อาจารย์อับดุลการีม(อรุณ) วันแอเลาะ)
والله سبحانه وتعالى أعلم

//www.sunnahstudent.com/forum/index.php?topic=4752.msg59611;topicseen#new

__________________________________________________________


Create Date : 15 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2552 14:50:03 น. 0 comments
Counter : 1012 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

itoursab
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




New Comments
[Add itoursab's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com