ทำไมต้องแกงจืดลูกรอก
สวัสดีครับ อาหารเป็นอะไรที่บอกถึงเอกลักษณ์และความเป็นอยู่ของคนที่อยู่ในถิ่นนั้นครับ หรือภาษาอังกฤษจากพูดว่า "You are what you eat" เช่น ในประเทศที่ทานอาหารรสจัด ก็จะบอกถึงการดำเนินชีวิตที่เร่งร้อน ดุเดือดเรื่องการทำงาน หรือ ในประเทศที่ทานอาหารรสจืด ก็จะบอกถึงการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย สบายๆ เป็นต้น
สำหรับอาหารไทยก็เป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์ มีความโดดเด่นในตัวของมันเอง นอกจากความเป็นเอกลักษณ์แล้ว อาหารไทยยังมีความสวยงาม ประดิษประดอย ซึ่งไม่เหมือนอาหารในที่อื่นๆ และรสชาติก็กลมกลืนกันได้ดีอีกด้วยครับ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น??? ในความคิดผม ผมว่าอาจจะเป็นไปได้ที่ว่าคนไทยเป็นคนที่มีสุนทรีในการทำอาหาร มีความตั้งใจในการทำอาหาร เช่นอาหารที่มีความแกะสลักให้ดูน่าทาน มีกรรมวิธีในการทำที่คุณคาดไม่ถึง และยังใส่ส่วนประสมที่ได้มากจากหลายๆประเทศแล้วได้รสชาติที่กลมกลืนกัน
จากที่ผมได้เขียนขึ้นหัวไว้คุณๆก็คงรู้แล้วใช่ไหมครับว่าวันนี้เราจะทำอาหารไทยกันครับ แต่ก่อนที่ผมจะทำผมก็มีเรื่องอยากจะบอกว่า ตัวผมเองไม่ค่อยมีความสันทัดในเรื่องอาหารไทยสักเท่าไหร่ ที่ต้องออกตัวแบบนี้ไม่ใช่ว่าผม "กระแดะ" ครับแต่เพราะว่าผมไม่มีความสามารถประดิษประดอยได้สวยงามเท่าไหร่ ดังนั้นวันนี้ผมเลยมีผู้ช่วยในเรื่องอาหารไทยครับ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าเธอเตรียมอะไรมาบ้าง
เริ่มจาก
ไส้หมูอ่อน
กุ้งขนาดกลาง (ล้างทำความสะอาดและปอกเปลือก)
หมูสับ
ไข่ไก่
น้ำซุป (หรือน้ำเปล่า)
กระเทียมสับละเอียด
รากผักชีสับละเอียด
พริกไทย
น้ำปลา
กระเทียมเจียว
ต้นหอมหั่น, ใบผักชี, ขึ้นฉ่ายซอย (สำหรับโรยหน้า)
เรามาดูวิธีการจัดเตรียมกันต่อเลยครับ
1. เตรียมทำลูกรอก โดยทำความสะอาดไส้หมูทั้งด้านในและด้านนอก เสร็จแล้วนำไปแช่ในน้ำส้มสายชูสักพักเพื่อดับกลิ่น เสร็จแล้วนำไปลองใส่น้ำเพื่อตรวจสอบว่ามีรอยรั่วหรือไม่ ถ้ามีก็ให้ใช้มีดตัดส่วนที่รั่วออก จากนั้นจึงมัดปลายข้างหนึ่งของไส้ให้แน่น
2. ตอกไข่ใส่ชามและคนให้เข้ากัน กรอกไข่ลงไปในไส้อ่อนที่เตรียมไว้เสร็จแล้วมัดปลายอีกข้างให้แน่น กรอกไข่จนไส้อ่อนหมด
3. ต้มน้ำด้วยไฟอ่อนๆ (ห้ามใช้ไฟแรงเด็ดขาดเพราะจะทำให้ไส้อ่อนแตก) ใส่ไส้อ่อนลงไปต้มในน้ำจนไข่สุกดี ปิดไฟ นำออกมาสะเด็ดน้ำ ทิ้งไว้ให้เย็นจึงนำไส้อ่อนมาหั่นตามขวาง เพื่อความสวยงามอาจบากผิวด้านบนและล่างให้เป็นรูปกากบาท
4. เตรียมหมักหมูสับโดยนำกระเทียม, รากผักชีและพริกไทยไปผสมกับหมูสับ ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที จึงนำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ เตรียมไว้ใส่ในแกงจืด
5. ตั้งน้ำซุปในหม้อด้วยไฟร้อนปานกลาง เมื่อน้ำเดือด ใส่หมูสับที่ปั้นเตรียมไว้ลงไปต้ม จากนั้นจึงใส่กุ้งลงไปต้มต่อจนเกือบสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา
6. ใส่ลูกรอกที่เตรียมไว้แล้วลงไปต้มต่อ คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน จึงปิดไฟ
7. ตักแกงจืดใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยต้นหอม, ผักชี, ขึ้นฉ่ายและกระเทียมเจียว เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ
คุณๆทราบไหมครับว่าทำไมถึงต้องชื่อแกงจืดลูกรอก คุณๆลองดูที่ภาพสิครับ ลักษณะของไส้อ่อนที่ใส่ไข่ลงไปรูปร่างเหมือนอะไร มันเลยได้ชื่อนั้นแหละครับ ช่างประดิษประดอยจริงๆ ผมลืมอะไรไปอย่าง คือภาพที่เห็นต้องตัดต่อนิดหน่อยครับ เนื่องจากคนที่ทำอาหารเธอไม่อยากออกหน้าน่ะครับ และผมก็ลืมถ่ายรูปตอนที่เพิ่งทำเรียบร้อยไปแล้วมานึกได้อีกทีก็ทานไปครึ่งหนึ่งแล้วก็เลยได้ภาพมาแบบนี้ (ก็มันอร่อยนี่ครับ) เอาล่ะครับผมก็จบการทำอาหารไทยเพียงเท่านี้แล้วผมจะหาคนมาทำอาหารไทยให้ทานอีกนะครับ เอาล่ะครับเรามาฟังเพลงกันดีกว่าครับ เป็นเพลงที่มีทำนองความเป็นไทยแต่ฟังแล้วไม่น่าเบื่อครับ ลองฟังกันดูครับ สวัสดี
Create Date : 20 มีนาคม 2553 |
Last Update : 20 มีนาคม 2553 11:31:20 น. |
|
85 comments
|
Counter : 3743 Pageviews. |
|
|
วันนี้คุณวีมาตอนกลางวันได้นะเนี้ย...
กินข้าวแล้วค่ะ...อิ่มไว้ก่อน
กินข้าวกับไข่ดาวค่ะ... ด้านล่างเต็มไปด้วยผู้คน และผู้ชุมนุม
นึกว่าเป็นถนนคนเดินซะอีก แต่ว่าอากาศด้านล่างร้อนจริง ๆ นะ
เค้าเรียกว่าลูกรอก...แฮะ ๆ เพิ่งรู้อ่ะ