|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
29 มกราคม 2553
|
|
|
|
การขายสมบัติชาติ
โดย ทวีศักดิ์ รักยิ่ง ศูนย์บริการวิชาการธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
จากการที่ผมได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนารัฐวิสาหกิจของไทย ซึ่งมีพัฒนาการตั้งแต่การจัดตั้งรัฐวิสาหกิจของไทย เมื่อ พ.ศ.2475 จนถึงปัจจุบัน ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่มีรัฐวิสาหกิจจำนวน 100 กว่าแห่ง ปัจจุบันเหลืออยู่ 58 แห่ง นโยบายของรัฐบาลแต่ละสมัย พร้อมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตั้งแต่แผนที่ 1 พ.ศ.2504-2509 ถึงปัจจุบัน ก็ต้องการที่จะส่งเสริมรัฐวิสาหกิจให้มีการบริหารแบบเอกชนเพิ่มขึ้นโดยการจ้างเอกชนดำเนินการบ้าง ให้สัมปทานบ้าง หรือแม้กระทั่งการแปรรูปให้เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้กำหนดให้ไทยดำเนินการ
เราต้องยอมรับความจริงว่า ประเทศของเราได้เลือกระบบเศรษฐกิจของประเทศแบบระบบตลาดเสรี และประเทศได้อยู่ในระบบนี้มานานพอสมควรแล้ว ทำให้เราต้องปรับตัวไปกับระบบนี้ของกระแสการเปลี่ยนแปลงแข่งขันของโลกอยู่ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากย่อมจะมีฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ต่างฝ่ายต่างสร้างวาทกรรมขึ้นมารองรับความคิดเห็นของฝ่ายตนเอง ดังเช่นเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ฝ่ายต่อต้านจะสร้างวาทกรรมว่าเป็นการขายสมบัติชาติ ส่วนฝ่ายที่เห็นด้วยก็ได้สร้างวาทกรรมว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งสองฝ่ายมองจากเหตุการณ์ที่ประสบในปัจจุบันในภาพกว้างที่ประชาชนสามารถรับรู้ข้อมูลจากสื่อได้ แต่ไม่ได้มองลงไปในรายละเอียดและไม่ได้มองลงไปในการแก้ไขปัญหา
วันนี้ผมจะพูดถึงวาทกรรม : การขายสมบัติของชาติถ้าเรามองกันว่าการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นการขายสมบัติชาตินั้น เมื่อเปรียบเทียบกับการให้เอกชนต่างชาติเข้ามาขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย หรือการให้เอกชนได้รับสัมปทานภูเขาทั้งลูกระเบิดไปทำหิน ทำปูนซึ่งดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้เป็นการขายสมบัติชาติมากกว่าหรือไม่ ทั้งๆที่ดำเนินการโดยเอกชนได้รับประโยชน์ไปเต็ม 100%
ส่วนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น รัฐเองยังเป็นเจ้าของส่วนใหญ่มากกว่า 50% อยู่ รัฐถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม บางแห่งมากกว่า 80% ด้วยซ้ำผลประโยชน์ที่ได้ก็ตกอยู่กับรัฐเป็นส่วนใหญ่และถ้ามองอีกมุมหนึ่งเมื่อมีการแปรรูปแล้วกิจการดำเนินการได้ดีขึ้น ก้าวหน้าขึ้น อย่างเช่นปตท. นอกจากสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้ประเทศแล้ว โดยได้มีการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผลดำเนินงานก็ก้าวกระโดดขึ้นจากเดิมมีทรัพย์สินเพียง 2 แสนล้านบาท และเงินนำส่งรัฐปีละ 1 หมื่นล้านบาทก่อนการแปรรูปปัจจุบันมีทรัพย์สินประมาณ 9 แสนล้านบาทและเงินนำส่งรัฐประมาณปีละ 6 หมื่นล้านบาทประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นนี้กลับเข้าสู่รัฐเป็นส่วนใหญ่ทั้งรายได้และมูลค่าทรัพย์สินของรัฐที่เพิ่มขึ้นนี่น่าจะเป็นการทำประโยชน์ให้แก่สมบัติของชาติมากกว่าหรือไม่
อีกประเด็นหนึ่งที่ผมอยากให้มองกันให้มากขึ้น คือการคอร์รัปชันในรัฐวิสาหกิจ ถ้าเปรียบเทียบกันว่าแปรรูปเป็นการขายสมบัติชาติแต่การดำเนินการปัจจุบันที่มีการคอร์รัปชันกันถือว่าเป็นการโกงชาติหรือไม่ งบประมาณการลงทุนของรัฐวิสาหกิจทั้งหมดปีละกว่า 5 แสนล้านบาท ผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง เราสูญเสียไปเท่าใดจากการคอร์รัปชันทั้งในระดับการเมือง กรรมการ ผู้บริหาร หรือแม้กระทั่งระดับพนักงานที่ทำงานกันแบบเช้าชามเย็นชามทำงานปกติไม่เต็มเวลา และมีการเบิกจ่ายค่าล่วงเวลากัน เหล่านี้ก็ถือเป็นการคอร์รัปชันเช่นกันต่างคนต่างเอาประโยชน์จากองค์กร ไม่มีใครมีความรู้สึกเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง กระบวนการตรวจสอบของเราเป็นระบบตั้งรับ เข้าไปได้ไม่ถึงทุกกระบวนการ รัฐวิสาหกิจจะถูกตรวจสอบเพียงจากกระทรวงสังกัด รวมถึงกระทรวงการคลังที่กำกับดูแล และ สตง.เท่านั้น
แต่เมื่อรัฐวิสาหกิจแปรรูปเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากการตรวจสอบดังกล่าวมาแล้วยังถูกตรวจสอบเพิ่มเติมจาก ก.ล.ต., ตลาดหลักทรัพย์ฯ, นักวิเคราะห์หลักทรัพย์, องค์กรRating ทั้งในและต่างประเทศ, สมาคมนักลงทุนไทย รวมถึงที่สำคัญที่สุด คือ ผู้ถือหุ้นทั้งไทยและต่างประเทศที่มีความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของทำให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้น ซึ่งสะท้อนออกมาด้วยผลดำเนินงานที่ดีขึ้น ตัวอย่างที่เราเห็นกันเมื่อปีที่แล้วที่ อสมท นักการเมืองต้องการเปลี่ยน Board เพื่อวัตถุประสงค์ไม่ดีต่อองค์กรแต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ยอม ช่วยกันคัดค้านในที่ประชุมผู้ถือหุ้น ทำให้การเปลี่ยน Board ครั้งนั้นไม่สามารถทำได้สำเร็จ
นอกจากนั้น ถ้าเรามองในเชิงโอกาส การที่รัฐวิสาหกิจซึ่งมีทรัพย์สินรวมกันทั้งหมด กว่า7 ล้านล้านบาท การเสียหายจากการขาดประสิทธิภาพน่าจะมีจำนวนมาก แต่บางแห่งมักจะอ้างว่าเป็นการบริการสังคมทำให้ขาดทุนเราควรจะมีการศึกษากันอย่างจริงจังในรัฐวิสาหกิจทุกแห่งว่าเป็นการขาดทุนจากการบริการสังคมเท่าใด และขาดทุนจากการบริหารจัดการเท่าใด นำมาเปิดเผยต่อสังคมให้รับทราบแต่ถ้ารัฐวิสาหกิจนั้นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯจะต้องรายงานให้ผู้ถือหุ้นทราบผลการดำเนินงานโดยละเอียด ถ้าเราลองเปรียบเทียบง่ายๆ เช่นบริษัททีโอทีของไทยกับเทเลคอมมาเลเซีย ของเขามีผลตอบแทนต่อทรัพย์สินสูงกว่าของเราถึง 2 เท่า บริษัท กสทโทรคมนาคมของเราเปรียบเทียบกับสิงคโปร์ ผลตอบแทนต่อทรัพย์สินของสิงคโปร์ก็สูงกว่าเราเช่นกัน และถ้าเราลองมองลงลึกไปอีกขั้น รัฐวิสาหกิจบางแห่งมีการจัดตั้งบริษัทลูกและนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิต, ปตท.แม้กระทั่งการประปา จะเห็นว่าบริษัทลูกเหล่านั้นไม่ก่อปัญหาทางด้านการเงินให้แก่ภาครัฐและมีผลการดำเนินงานที่ดี
ผมคิดว่าผู้คนที่เกี่ยวข้องในประเทศของเราควรที่จะมานั่งคุยกันในการแก้ปัญหามากกว่าคิดจะต่อต้านแล้วสร้างวาทกรรมการขายสมบัติชาติมาสนับสนุน จะเกิดคุณูปการต่อประเทศมากกว่า หรือจะปล่อยให้โกงชาติต่อไปสิ่งใดที่ทำไปแล้วไม่ดี บกพร่องก็สร้างกติกาใหม่หรือสิ่งใดลืมพิจารณาไปก็ควรนำมาพิจารณาไว้ดังเช่นเหตุการณ์ปัจจุบันที่การบินไทย กรรมการของบริษัทมีการขนกระเป๋า 40 ใบ โดยไม่ผ่านกระบวนการศุลกากร โดยใช้อำนาจของกรรมการการกระทำการดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเราควรช่วยกันหาทางป้องกันร่วมกัน
อย่าลืมว่าประโยชน์ของการแปรรูปไปเป็นเอกชนอย่างหนึ่งที่สำคัญ คือหยุดการโกงเพราะนั่นคือโรคที่กำลังรุมเร้าประเทศไทยอย่างรุนแรง คือการคอร์รัปชัน ต้องหยุดให้ได้ถ้าหยุดได้ประเทศไทยไปรอด อย่างอื่นค่อยมาแก้ทีหลัง
ที่มา: ASTVผู้จัดการรายวัน 26-01-2553
Create Date : 29 มกราคม 2553 |
|
36 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2553 10:40:09 น. |
Counter : 2611 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: Gopz 6 ตุลาคม 2554 3:50:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: แมลงปอ IP: 182.53.203.181 16 เมษายน 2555 22:17:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชิบุลิ 18 เมษายน 2555 7:21:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 3 ตุลาคม 2555 17:00:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 3 ตุลาคม 2555 23:06:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 4 ตุลาคม 2555 23:39:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 5 ตุลาคม 2555 23:36:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 6 ตุลาคม 2555 1:24:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 6 ตุลาคม 2555 15:51:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 7 ตุลาคม 2555 0:57:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 7 ตุลาคม 2555 21:07:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 10 ตุลาคม 2555 9:09:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 16 ตุลาคม 2555 14:35:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 16 ตุลาคม 2555 23:12:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 19 ตุลาคม 2555 13:23:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 19 ตุลาคม 2555 17:10:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 20 ตุลาคม 2555 16:18:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 20 ตุลาคม 2555 20:57:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 21 ตุลาคม 2555 20:20:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: meeudon 11 พฤศจิกายน 2555 0:07:48 น. |
|
|
|
| |
|
|
good governance |
|
|
|
|