14
นี่เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ทนายผู้ซื่อสัตย์น้อยคนจะได้สัมผัสแต่ถ้าเลี่ยงได้ผมก็ไม่อยากสัมผัส
เราต้องรอเจ้าอิระวดีในนี้จริงๆ หรือ ผมถามกับผู้คุมห้องหลังซี่เหล็ก
ผู้คุมชาวอิระวดีคงไม่เข้าใจภาษาของไทยะบุรีเขาจึงยืนนิ่งเฉยหลังซี่ลูกกรง คล้ายกับประติมากรรมที่เรียกว่ายักษ์อย่างที่ผมพบในภาพถ่ายเมืองโบราณจะแตกต่างตรงที่ผู้คุมคนนี้ถือกระบองไฟฟ้าแทนกระบองหินก็เท่านั้น
ผมจึงกลับไปนั่งชันเข่าพิงกำแพงตามเดิมแล้วรออย่างร้อนใจจนกว่าประตูกรงขังนี้จะเปิดออกแต่ผู้ร่วมห้องกรงอีกคนกลับไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจนอนแผ่กับพื้นใช้แขนต่างหมอนหนุนนอนส่งเสียงกรนดังทำลายประสาทหู
บางทีผมก็คิดว่าการเข้ามารับทำคดีความนายมั่นก็เป็นการรนหาที่หากเทียบกับทนายความของสมาพันธ์ท่านอื่นที่กำลังว่าความคดีปล้น ฆ่าชิงทรัพย์ล่อลวงผู้เยาว์ ข่มขืนสาวแก่ ไล่ที่ดิน หรือ ปืนกำแพงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เหล่าๆ นั้นคงจะปิดคดีและศาลตัดสินได้เร็วกว่าไม่ต้องออกจากเขตรัฐสมาพันธ์มาผจญอีกโลกที่ความศิวิไลซ์ถอยหลังลงเหว
แต่พอย้อนความทรงจำถึงวันที่ผมตัดสินใจยกมือขอทำคดีนี้เมื่อสมาพันธ์ประกาศหาทนายอาสาสมัคร
--------------------------------------------------
แฟ้มคดีลับ
ทรราชแห่งรัฐไทยะบุรี
คำพิพากษาสุดท้าย
นายพลอัศวินผู้ต้องโทษคดีทรราช ทำลายแผ่นดินก่อความไม่สงบอันเป็นภัยต่อความั่นคงและความสุขของประชาชนสมควรจักต้องถูกลงทัณฑ์ให้ถึงแก่ความตายโดยการบั่นคอส่วนผู้ให้ความร่วมแก่นายพลอัศวินกระทำการก่อความยากเข็ญแก่แผ่นดินนั้นจักต้องโทษขั้นลดหลั่นกันตามกฎหมายแห่งรัฐไทยะบุรี
แต่ทั้งนี้นายพลอัศวินและพวกพ้องเป็นบุคคลผู้เคยทำคุณงามความดีแก่รัฐศาลแห่งไทยะบุรีจึ่งพิพากษาลดโทษจากบั่นคอเป็นคุมขังในคุกอเวจีส่วนผู้ร่วมกระทำการจะได้รับการผ่อนโทษตามลำดับความยุติธรรม
-----------------------------------------------------
คดีน่าจะจบลงด้วยการให้ผู้ต้องหาทั้งหลายรับโทษตามคำพิพากษาถ้าไม่มีผู้ส่งจดหมายปิดผนึกร้องอุธรณ์ต่อศาลกลางของสมาพันธ์รัฐเสรี
มีใครบางคนต้องการสื่อสารด้วยการบันทึกเสียงผู้หญิงคนหนึ่งแต่ข้อความถูกตัดตอนได้สั้นเสียจนน่าขนลุก
คุณเก็บความลับอยู่ไหม
เพียงแค่ข้อความเดียวจากเทปใจจดหมายปิดผนึกนั้นทำให้สมาพันธ์เต้นเร่าจนต้องสืบหาที่มาของเทปบันทึกเสียงแสนสั้นแต่สิ่งทำให้ผมอยากแกว่งขาหาความจริงไม่ใช่เพราะข้อความในเทป แต่เป็นผลการพิพากษาของศาลแห่งไทยะบุรี
จมูกของผมมักจะทำงานเมื่อได้กลิ่นไม่ชอบมาพากลเบื้องหลังคำตัดสินนั้นต้องมีอะไรแอบซ่อนอยู่เป็นแน่แต่ผมจำเป็นต้องรู้ข้อมูลแวดล้อมอีกมากก่อนที่ผมจะเข้าขออนุญาติศาลแห่งไทยบุรีเพื่อสัมภาษณ์นายพลอัศวินแบบเข่าชนเข่าในคุกอเวจีอันเป็นสถานที่ที่เป็นแหล่งรวมมิตรเหล่านักโทษคดีร้ายแรงระดับนานาชาตินั้น
เป็นที่มาให้ผมต้องตามหาตัวผู้ส่งจดหมายปิดผนึกโชคดีที่วิทยาศาสตร์ด้านการสืบเอกลักษณ์บุคคลก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งที่มาของจดหมายปิดผนึกนั้นจึงไม่ใช่อุปสรรคสำหรับการหาตัวบุคคลแวดล้อมของนายพลอัศวิน แต่ลายวนก้นหอยในลายนิ้วมือที่ปรากฏพาผมให้พบกับเขาวงกตแสนซับซ้อน
เสียงเหล็กกระทบกันทำให้สมองของผมหยุดความคิดคำนึงต่างๆแล้วสั่งดวงตาให้สนใจมองหญิงสาวรูปร่างสันทัดที่ย่างกรายเข้ามาหลังประตูห้องขังเปิดกว้างสิ่งแรกที่สะดุดตาคือแววตาของเธอ มันทั้งคมและแข็งกร้าว
เธอสบตามองผมแวบเดียวแล้วหันเหทิศทางไปยังนายใบ้ที่หลับสนิทสบายอารมณ์บนพื้นเธอย่อเข่าใช้หลังมือแตะบนแก้มเปื้อนสีของนายใบ้ แล้วก็รีบผละตัวถอยห่างเมื่อนายใบ้ลืมตาลุกขึ้นนั่งฉวยคว้าข้อมือของเธอไว้ทันแบบที่คนหลับเป็นตายไม่น่าจะมีประสาทการรับรู้ไว้ได้ขนาดนั้น
การแตะต้องเนื้อตัวอิสตรีที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องในรัฐของสมาพันธ์นั้นเป็นสิ่งผิดมีโทษถึงขั้นขึ้นโบยด้วยหวายและขึ้นบัญชีผู้มีพฤติกรรมข่มเหงเพศหญิงถึงแม้อิระวดีจะยังไม่ได้การประกาศเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกประเทศแห่งสมาพันธ์ก็ตามแต่ผมจึงจำต้องออกปากเตือนในฐานะสุภาพบุรุษ
นายใบ้ผมว่าคุณปล่อยมือเธอเสียเถอะ
คำเตือนของทนายมักไม่มีผลอะไรอยู่แล้วจนกว่าพวกลูกความจะเดือดร้อนเวลากำลังจะถูกศาลกำลังตัดสินยิ่งคนที่มีท่าทีแปลกประหลาดอย่างนายใบ้ยิ่งไม่ต้องหวังหรอกว่าเขาจะเชื่อผมในทีแรก
ปล่อยฉัน
แต่เสียงเข้มของหญิงสาวกับดวงตาดุกลับมีอำนาจกว่าเสียงของผมมือใหญ่ของนายใบ้ที่ยื้อยุดฉุดข้อมือเธอไว้จึงยอมปล่อยโดยที่ไม่ค่อยยินยอมสักเท่าไหร่
เจ้าอิระวดีทรงเสด็จประทับรอที่พระตำหนักทองแล้วพวกคุณเดินตามฉันมา ฉันจะเป็นผู้นำทางไปพบเจ้า เธอลุกขึ้น
ผมไม่รอช้ารีบลุกขึ้นแล้วเดินตามเธอไป ผมจะได้กระเป๋าของผมคืนหรือเปล่าในนั้นมีของสำคัญของผมอยู่ แล้วถามเรื่องที่กังวล
ของพวกนั้นจะถูกเก็บจนกว่าพวกคุณจะถูกปล่อยตัวเธอบอกผมโดยไม่หันมามอง
แล้วคดีทะเลาะวิวาทแบบนี้อิระวดีตัดสินความอย่างไร
ฉันบอกคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้า
ส่วนมากเจ้าจะทรงตัดสินความยังไง
เธอหยุดเท้าหันมามองผมเพียงครู่เดียวก่อนดวงตาคู่นั้นจะเลยผ่านไปที่คนด้านหลังคุณไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ จะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนทำไมกัน
ผมมีภารกิจที่จำเป็นต้องพึ่งนายใบ้หากเขาต้องโทษจำคุกนานเป็นเดือนผมคงรอไม่ได้
ทะเลาะวิวาทส่วนมากเจ้าจะทรงตัดสินให้โบย...แววตาของเธอกร้าวขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อเธอจ้องนายใบ้อย่างกับมีความแค้นอะไรฝังลึกกันมาก่อน... ห้าสิบที
จำนวนครั้งการโบยทำให้ผมหมุนตัวกลับหันหลังไปหานายใบ้แต่ผมไม่จำเป็นต้องเดือดเป็นร้อนแทนนายใบ้ที่เธอกล่าวก็ได้กระมังเพราะใบหน้าของคนก่อเหตุนั้นไม่ได้ตื่นตระหนกสักนิดซ้ำยังยิ้มเหยียดประหนึ่งไม่แยแสต่อความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายถึงห้าสิบที
แต่ถ้าเขาเจ็บหนักจนต้องหยอดน้ำเกลือผมก็เดือดร้อนอยู่ดี คุณหมอ ผมจะใช้สิทธิ์ทนายผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้สมาพันธ์ในการลดหย่อนโทษให้เขาได้ไหมผมหันกลับไปถามเธอ
คุณไม่เคยพบฉันรู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นหมอ เธอกอดอกมอง
ผมมักสังเกตและจดจำคนด้วยลักษณะเด่นของคนๆ นั้น ฉะนั้นแม้คุณหมอจะเผยใบหน้าแค่ครึ่งบนแต่ดวงตาคู่คมสวยของคุณหมอก็ไม่ทำให้ผมลืมได้หรอก
พลั่ก !!!
ผมล้มลงหน้าคะมำนายใบ้ นี่คุณถีบผมทำไม !
อ่าวอีบ
นายใบ้ตอบในเส้นเสียงที่เขาพอจะสื่อสารได้เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ผมรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นใบ้แต่กำเนิดซึ่งผมคงไม่สืบสาวถึงต้นเหตุของความผิดปกติทางการพูดในตอนนี้
อ่าวอีบอะไร ผมเห็นขาคุณยกเมื่อไว ๆ นี้ ผมท้วงเพราะหลักฐานมันคาตา
ไอ้อ้ายอีบแอ่อีนอันอั๊กอะอุก
??? พอถูกพูดใส่จัดเต็มแบบนี้ สมองของผมก็จับความหมายไม่ทัน พูดใหม่อีกทีซิ
เขาบอกว่าไม่ได้ถีบ แต่ตีนมันชักกระตุก
ผู้แปลภาษาให้ผมคือคุณหมอสาวและใบหน้าของผมคงประกาศโจ่งแจ้งว่าสงสัยในความสามารถด้านภาษานอกเหนือจากวิชาชีพของเธอเธอจึงไหวไหล่ตอบอย่างไม่แยแส
บังเอิญว่าฉันเคยรักษาคนป่วยประเภทนี้มาก่อนแล้วหันหลังเดินต่อ
ส่วนคนที่บังเอิญว่าตีนชักกระตุกก็ยิ้มเยาะเย้ยเดินชูคอผ่านผมไปเจ็บก้นไม่ว่าแต่มันเจ็บใจ นี่ถ้ามีโอกาสผมอยากจะติดต่อกับทางสมาพันธ์แจ้งความจำนงขอเปลี่ยนตัวช่วยที่ไม่เป็นโรคตีนชักกระตุกไร้สาเหตุ
นั่นมันคงเป็นได้แค่ความคิดเพราะก้าวมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่อยากให้ชายพิการเฝ้ารอข่าวจากผมอย่างเดียวดายแค่เรื่องตัวช่วยชวนป่วนลำไส้ใช้เป็นข้ออ้างให้งานล่าช้าไม่ได้ผมจึงเร่งฝีเท้าเดินตามทั้งคู่ไป มองพวกเขาทั้งสองอยู่ห่าง ๆภาพเบื้องหลังของทั้งคู่ทำให้ผมนึกถึงเรื่องเล่าของนายมั่น
ในห้องโถงของพระตำหนักทองไม่ได้ทองอร่ามตามชื่อของสถานที่แต่ความงดงามตระการตาที่เรียกเสียงชื่นชมจากคนต่างชาติอย่างผมได้ดีคือการก่อสร้างที่นำไม้เต็มลำต้นมาประกอบเข้าหากันด้วยการเข้าเดือย
ไม้สักทอง
ผมเปรยพลางแหงนมองคานโปร่งสูงประดับประดาด้วยโคมระย้าหลากสีดูสวยงามตามวัฒนธรรมของชาวอิระวดีผมคาดเดาเอาเองว่าอายุของพระตำหนักทองนี้ไม่น่าต่ำกว่าหนึ่งศตวรรษแน่นอนแม้จะมีบางส่วนดูคล้ายว่าผุเก่าไปตามกาลเวลาแต่การบำรุงรักษาสถานที่อันเป็นหลักฐานแห่งความรุ่งเรืองทำได้ดีเกิดคาด
จากตรงนี้คุณต้องคลานเข้าไป
คุณหมอสาวบอกเมื่อนำทางจนจวบจะถึงประตูไม้สลักรูปเทพยดาบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานด้านหน้าผมจึงจะย่อตัวทำตามเธอที่เธอบอกแล้วเริ่มคลาน ในใจนั้นก็คิดว่าในศตวรรษนี้ยังมีรัฐที่ยึดขนบธรรมเนียมไว้อย่างเหนียวแน่นหลงเหลืออยู่นอกจากอิระวดี ก็ยังมีรัฐนคราที่เป็นเขตปกครองพิเศษนอกสมาพันธ์ไปทางทะเลตะวันออก
อย่าทำถือตัวอวดดีที่นี่ใครก็ตามที่ต้องเข้าเฝ้าเจ้า จะต้องคลานเข่าเข้าไป
ได้ยินเสียงดุดันของเธอจึงหันหน้ากลับไปเห็นนายใบ้ยังยืนแข็งไม่คิดจะย่อเข่าลงคลานแบบผม ทำไมหนอ ทำไมสมาพันธ์ถึงส่งคน ๆนี้มาช่วยผม ครั้นจะให้คลานเข่าย้อนกลับไปก็จะเป็นการทรมาณเข่าตัวเองก็เลยส่งเสียงพูดจากจุดที่ตัวเองอยู่
นายใบ้อย่าลืมว่าพวกเรามาทำอะไรที่นี่
เขายืนนิ่งเฉยสักพักแล้วย่อเข่าลงดวงตาคู่นั้นก็เอาแต่จ้องคุณหมอแน่วแน่เหมือนกำลังสื่อสารบางอย่างทางสายตาแทนความสามารถทางการพูดกับคุณหมอสาวที่ผมไม่อาจล่วงรู้
พวกเขาทั้งสองต้องรู้จักกันมาก่อนเพราะแววตาแห่งความคุ้นเคยถึงปรากฏชัดเจนขนาดทำให้ผมกลายเป็นบุคลนอกสายตาไปได้ทันที
เมื่อไม่มีการดื้อดึงต่อประเพณีคุณหมอจึงก้าวเท้าฉับ ๆ จนเกิดเสียงกระดิ่งของห่วงข้อเท้ากระทับกันห่วงข้อเท้าของเธอสร้างความแปลกใจให้อีกข้อคือหญิงสาวชาวเอเชียที่ยังไม่ได้เป็นฝั่งเป็นฝาจะมีห่วงข้อเท้าเป็นสัญลักษณ์แทนการป่าวประกาศว่าเธอคนนั้นยังบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ภมรดอมดม
ผมถูกสั่งห้ามเงยหน้า จึงได้แต่มองพื้นกระดานขัดมันระหว่างทางกระทั่งประตูบานใหญ่ถูกเปิดพอจะได้เห็นบางสิ่งบางอย่างบ้างตามขอบเขตความสามารถการมองเห็นของดวงตามนุษย์ยามต้องก้มหน้าลงผมและนายใบ้คลานตามเสียงกระดิ่งข้อเท้านั้นไป ข้ามธรณีประตูแสนสูงอย่างทุลักทุเลเพื่อเข้าสู่ห้องประทับของเจ้าอิระวดีโดยมีสัญญาณบอกให้ผมหยุดอยู่กับที่เป็นปลายคมของอาวุธด้ามยาวที่ยื่นเข้ามาขัดขวางผมจากซ้ายและขวาแบบไม่ได้แจ้งกันล่วงหน้า
พวกเจ้าเป็นชาวไทยะรึเสียงทรงพลังบนพระที่นั่งกังวานเป็นภาษาไทยะบุรี
กระหม่อมถือสัญชาติรัฐแห่งสมาพันธ์ส่วนเพื่อนกระหม่อมถือสัญชาติไทยะบุรี ผมประนมมือตอบ ยังคงก้มหน้ามองพื้นกระดาน
เหตุใดชาวสมาพันธ์ถึงร่วมหัวจมท้ายก่อเหตุวิวาทกับชายไทยะบุรีในดินแดนของข้าเจ้ามิรู้กฎหมายแห่งอิระวดีหรืออย่างไร
พระอาญาไม่พ้นเกล้าให้ตายสิ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมพูดด้วยคำราชาศัพท์ของไทยะบุรีกระหม่อมคุ้นเคยแต่กับรัฐประเทศในเขตปกครองของสมาพันธ์จึงทราบแต่กฎหมายในรัฐของกระหม่อมเองการวิวาทในที่ชุมชนโดยไม่เกิดการบาดเจ็บรุนแรงจะถูกต้องโทษโดยการอบรมและบำเพ็ญประโยชน์แก่กันและกันจนกว่าคู่วิวาทจะสำนึกและให้อภัยกัน
กฎหมายของสมาพันธ์นั้นบางครั้งก็หลวมเกินไปให้เสรีภาพแก่ประชาชนของเขาจนเกินควบคุมก็มีแต่คนหนุ่มสาวหรือพวกวัยเด็กเมื่อหัวหนาวเท่านั้นที่ถูกใจแต่อิระวดีก็มีระบบอบการปกครองของตนเองที่สร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่นมานานข้าจึงขอใช้กฎหมายแห่งอิระวดีตัดสินโทษคนที่ก่อเหตุ
เจ้าอิระวดีเอ่ยเสียงทุ้มน่าฟังจับใจคล้ายกำลังกล่อมให้ผมยอมจำนนโบยห้าสิบทีถือเป็นโทษหนักในรัฐสมาพันธ์ หากผู้ต้องโทษทนความเจ็บปวดไม่ไหวทรมานถึงวิสัญญีสลบ หรือหมดลมหายใจไปเท่ากับว่าเป็นการลงทัณฑ์ที่ผลของมันเกินกว่าโทษจริงที่พวกเขาได้ กระหม่อมจึงขอพระราชทานโอกาสถามพระราชวินิจฉัยว่าเห็นอย่างไรกับความคิดของกระหม่อมนี้
เป็นการลงทัณฑ์ที่ผลของมันเกินกว่าโทษจริงที่พวกเขาได้อย่างนั้นรึทรงตรัสแล้วทรงเปล่งเสียงพระสรวลก้องท้องพระโรง
ข้าถูกใจสำนวนว่าความเจ้านักแต่ข้าก็ต้องลงทัณฑ์เพื่อนของเจ้าอยู่ดี หากเขาเจ็บปวดทรมานถึงขั้นวิสัญญี นั่นก็ถือว่าสมควรแล้วเขาจักได้รู้ว่าการท้าต่อยตีมันมิได้แค่เกิดบาดเจ็บแต่ตัวแต่อาจสร้างความโกลาหลจนเป็นบ่อเกิดให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องถึงชีวิตได้ แล้วหากผู้เดือดร้อนเหล่านั้นเป็นประชาชนของข้าด้วยแล้วข้าก็มิอาจผ่อนผรน เจ้าคงเข้าใจผู้ปกครองแผ่นดิน ข้าให้ความเห็นแก่เจ้า..พ่อหมอความ... เจ้าจะว่ากระไร
ผมเผลออวดอ้างสรรพคุณของตนจนเป็นผลให้เจ้าอิระวดีทรงทราบอาชีพของผมได้โดยไม่ต้องบอกผมก่นด่าตัวเองในใจที่มองเกมผิดพลาดเจ้าอิระวดีพระองค์นี้หลักแหลมและน่าเกรงขามกว่าพระฉายาลักษณ์บนป้ายบิลบอร์ด
โบยไอ้คนตัวใหญ่ข้างหลังนั่นโบยมันเสียห้าสิบที
สิ้นพระราชดำรัสผู้ลงทัณฑ์ก็ก้าวเข้ามาพร้อมเส้นหวายในมือ ผมเห็นผู้ต้องโทษถูกปลดเปลื้องเสื้อเปลือยเปล่าทั้งกายเพื่อเส้นหวายฟาดลงนายใบ้ถูกจับให้นอนคว่ำ กดหัวให้ต่ำติดกับพื้นกระดานรัดข้อแขนและข้อเท้าด้วยโซ่ตรวนที่ถูกขึงกับเสาสี่ด้าน
แม้คนถูกลงทัณฑ์จะนิ่งเฉยเก็บกลั้นความเจ็บปวดได้ทว่ายามใดที่เกิดเสียงหวายฟาดกระทบเนื้อหนังคราใด หัวใจของผมก็กระตุกครานั้น แต่ไม่ได้มีแต่ผมที่รู้สึกเจ็บแทนยังมีหญิงสาวอีกคนที่คงรู้สึกแบบเดียวกับผม
แววตาเศร้าของเธอคู่นั้นยามมองชายใบ้ถูกลงทัณฑ์มันช่างคลับคล้ายคลับคลา
เสียงหวายฟาดลงครั้งสุดท้ายเป็นการสั่งลาโทษทัณฑ์แก่นายใบ้เสียงกรีดร้องของใครคนหนึ่งก็ดังเข้าในโสตแห่งความทรงจำ
พี่มั่น !
เสียงหญิงสาวดังจากบ้านไม้หลังเก่าในวันแรกที่ผมได้พบกับนายมั่นวันนั้น
เปรี้ยง!!!
เรื่องราวชักจะเข้มข้นละ นายมั่นเอ๋ย
เรื่องนี้ชื่อเรื่องเต็มๆ ว่าอะไรคะ คุณบุ๋มส่ง สนพ มั้ย
คิดว่าต้องเป็นเรื่องยาวแน่เลย
แนวนี้นุ่นเขียนไม่เป็นเลยค่ะ เมืองสมมุติ ราชาศัพท์ด้วย ยากๆๆอะ
ว่าแล้วก็ถามเลย เมื่อวานครูอี๊ดปฐมนิเทศน์รุ่นลายเส้น
นุ่นอยู่รุ่นดิสนีย์ค่ะ แต่ได้มาฟังด้วยเมื่อวาน อิอิ
เด๋วก็มีการบ้านกันแล้วคงยุ่งกว่าเดิมแน่
แต่การเขียนก็ทิ้งไม่ได้เนาะ
ขอบคุณมากๆ ค่า
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog