นักฝันผู้ชอบเขียนเล่าเรื่อง
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2559
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 สิงหาคม 2559
 
All Blogs
 

โจทย์ประจำหลักกิโลที่ 161 : เบื้องหลัง









หนึ่งในซีรี่ย์ตะพาบของเจ้าของบล็อก



14

นี่เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ทนายผู้ซื่อสัตย์น้อยคนจะได้สัมผัสแต่ถ้าเลี่ยงได้ผมก็ไม่อยากสัมผัส

“เราต้องรอเจ้าอิระวดีในนี้จริงๆ หรือ” ผมถามกับผู้คุมห้องหลังซี่เหล็ก

ผู้คุมชาวอิระวดีคงไม่เข้าใจภาษาของไทยะบุรีเขาจึงยืนนิ่งเฉยหลังซี่ลูกกรง คล้ายกับประติมากรรมที่เรียกว่ายักษ์อย่างที่ผมพบในภาพถ่ายเมืองโบราณจะแตกต่างตรงที่ผู้คุมคนนี้ถือกระบองไฟฟ้าแทนกระบองหินก็เท่านั้น

ผมจึงกลับไปนั่งชันเข่าพิงกำแพงตามเดิมแล้วรออย่างร้อนใจจนกว่าประตูกรงขังนี้จะเปิดออกแต่ผู้ร่วมห้องกรงอีกคนกลับไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจนอนแผ่กับพื้นใช้แขนต่างหมอนหนุนนอนส่งเสียงกรนดังทำลายประสาทหู

บางทีผมก็คิดว่าการเข้ามารับทำคดีความนายมั่นก็เป็นการรนหาที่หากเทียบกับทนายความของสมาพันธ์ท่านอื่นที่กำลังว่าความคดีปล้น ฆ่าชิงทรัพย์ล่อลวงผู้เยาว์ ข่มขืนสาวแก่ ไล่ที่ดิน หรือ ปืนกำแพงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เหล่าๆ นั้นคงจะปิดคดีและศาลตัดสินได้เร็วกว่าไม่ต้องออกจากเขตรัฐสมาพันธ์มาผจญอีกโลกที่ความศิวิไลซ์ถอยหลังลงเหว

แต่พอย้อนความทรงจำถึงวันที่ผมตัดสินใจยกมือขอทำคดีนี้เมื่อสมาพันธ์ประกาศหาทนายอาสาสมัคร

--------------------------------------------------

แฟ้มคดีลับ

ทรราชแห่งรัฐไทยะบุรี

คำพิพากษาสุดท้าย

นายพลอัศวินผู้ต้องโทษคดีทรราช ทำลายแผ่นดินก่อความไม่สงบอันเป็นภัยต่อความั่นคงและความสุขของประชาชนสมควรจักต้องถูกลงทัณฑ์ให้ถึงแก่ความตายโดยการบั่นคอส่วนผู้ให้ความร่วมแก่นายพลอัศวินกระทำการก่อความยากเข็ญแก่แผ่นดินนั้นจักต้องโทษขั้นลดหลั่นกันตามกฎหมายแห่งรัฐไทยะบุรี

แต่ทั้งนี้นายพลอัศวินและพวกพ้องเป็นบุคคลผู้เคยทำคุณงามความดีแก่รัฐศาลแห่งไทยะบุรีจึ่งพิพากษาลดโทษจากบั่นคอเป็นคุมขังในคุกอเวจีส่วนผู้ร่วมกระทำการจะได้รับการผ่อนโทษตามลำดับความยุติธรรม

-----------------------------------------------------

คดีน่าจะจบลงด้วยการให้ผู้ต้องหาทั้งหลายรับโทษตามคำพิพากษาถ้าไม่มีผู้ส่งจดหมายปิดผนึกร้องอุธรณ์ต่อศาลกลางของสมาพันธ์รัฐเสรี

มีใครบางคนต้องการสื่อสารด้วยการบันทึกเสียงผู้หญิงคนหนึ่งแต่ข้อความถูกตัดตอนได้สั้นเสียจนน่าขนลุก

‘คุณเก็บความลับอยู่ไหม’

เพียงแค่ข้อความเดียวจากเทปใจจดหมายปิดผนึกนั้นทำให้สมาพันธ์เต้นเร่าจนต้องสืบหาที่มาของเทปบันทึกเสียงแสนสั้นแต่สิ่งทำให้ผมอยากแกว่งขาหาความจริงไม่ใช่เพราะข้อความในเทป แต่เป็นผลการพิพากษาของศาลแห่งไทยะบุรี

จมูกของผมมักจะทำงานเมื่อได้กลิ่นไม่ชอบมาพากลเบื้องหลังคำตัดสินนั้นต้องมีอะไรแอบซ่อนอยู่เป็นแน่แต่ผมจำเป็นต้องรู้ข้อมูลแวดล้อมอีกมากก่อนที่ผมจะเข้าขออนุญาติศาลแห่งไทยบุรีเพื่อสัมภาษณ์นายพลอัศวินแบบเข่าชนเข่าในคุกอเวจีอันเป็นสถานที่ที่เป็นแหล่งรวมมิตรเหล่านักโทษคดีร้ายแรงระดับนานาชาตินั้น

เป็นที่มาให้ผมต้องตามหาตัวผู้ส่งจดหมายปิดผนึกโชคดีที่วิทยาศาสตร์ด้านการสืบเอกลักษณ์บุคคลก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งที่มาของจดหมายปิดผนึกนั้นจึงไม่ใช่อุปสรรคสำหรับการหาตัวบุคคลแวดล้อมของนายพลอัศวิน แต่ลายวนก้นหอยในลายนิ้วมือที่ปรากฏพาผมให้พบกับเขาวงกตแสนซับซ้อน

เสียงเหล็กกระทบกันทำให้สมองของผมหยุดความคิดคำนึงต่างๆแล้วสั่งดวงตาให้สนใจมองหญิงสาวรูปร่างสันทัดที่ย่างกรายเข้ามาหลังประตูห้องขังเปิดกว้างสิ่งแรกที่สะดุดตาคือแววตาของเธอ มันทั้งคมและแข็งกร้าว

เธอสบตามองผมแวบเดียวแล้วหันเหทิศทางไปยังนายใบ้ที่หลับสนิทสบายอารมณ์บนพื้นเธอย่อเข่าใช้หลังมือแตะบนแก้มเปื้อนสีของนายใบ้ แล้วก็รีบผละตัวถอยห่างเมื่อนายใบ้ลืมตาลุกขึ้นนั่งฉวยคว้าข้อมือของเธอไว้ทันแบบที่คนหลับเป็นตายไม่น่าจะมีประสาทการรับรู้ไว้ได้ขนาดนั้น

การแตะต้องเนื้อตัวอิสตรีที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องในรัฐของสมาพันธ์นั้นเป็นสิ่งผิดมีโทษถึงขั้นขึ้นโบยด้วยหวายและขึ้นบัญชีผู้มีพฤติกรรมข่มเหงเพศหญิงถึงแม้อิระวดีจะยังไม่ได้การประกาศเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกประเทศแห่งสมาพันธ์ก็ตามแต่ผมจึงจำต้องออกปากเตือนในฐานะสุภาพบุรุษ

“นายใบ้ผมว่าคุณปล่อยมือเธอเสียเถอะ”

คำเตือนของทนายมักไม่มีผลอะไรอยู่แล้วจนกว่าพวกลูกความจะเดือดร้อนเวลากำลังจะถูกศาลกำลังตัดสินยิ่งคนที่มีท่าทีแปลกประหลาดอย่างนายใบ้ยิ่งไม่ต้องหวังหรอกว่าเขาจะเชื่อผมในทีแรก

“ปล่อยฉัน”

แต่เสียงเข้มของหญิงสาวกับดวงตาดุกลับมีอำนาจกว่าเสียงของผมมือใหญ่ของนายใบ้ที่ยื้อยุดฉุดข้อมือเธอไว้จึงยอมปล่อยโดยที่ไม่ค่อยยินยอมสักเท่าไหร่

“เจ้าอิระวดีทรงเสด็จประทับรอที่พระตำหนักทองแล้วพวกคุณเดินตามฉันมา ฉันจะเป็นผู้นำทางไปพบเจ้า” เธอลุกขึ้น

ผมไม่รอช้ารีบลุกขึ้นแล้วเดินตามเธอไป “ผมจะได้กระเป๋าของผมคืนหรือเปล่าในนั้นมีของสำคัญของผมอยู่” แล้วถามเรื่องที่กังวล

“ของพวกนั้นจะถูกเก็บจนกว่าพวกคุณจะถูกปล่อยตัว”เธอบอกผมโดยไม่หันมามอง

“แล้วคดีทะเลาะวิวาทแบบนี้อิระวดีตัดสินความอย่างไร”

“ฉันบอกคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้า”

“ส่วนมากเจ้าจะทรงตัดสินความยังไง”

เธอหยุดเท้าหันมามองผมเพียงครู่เดียวก่อนดวงตาคู่นั้นจะเลยผ่านไปที่คนด้านหลัง“คุณไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ จะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนทำไมกัน”

“ผมมีภารกิจที่จำเป็นต้องพึ่งนายใบ้หากเขาต้องโทษจำคุกนานเป็นเดือนผมคงรอไม่ได้”

“ทะเลาะวิวาทส่วนมากเจ้าจะทรงตัดสินให้โบย...”แววตาของเธอกร้าวขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อเธอจ้องนายใบ้อย่างกับมีความแค้นอะไรฝังลึกกันมาก่อน“... ห้าสิบที”

จำนวนครั้งการโบยทำให้ผมหมุนตัวกลับหันหลังไปหานายใบ้แต่ผมไม่จำเป็นต้องเดือดเป็นร้อนแทนนายใบ้ที่เธอกล่าวก็ได้กระมังเพราะใบหน้าของคนก่อเหตุนั้นไม่ได้ตื่นตระหนกสักนิดซ้ำยังยิ้มเหยียดประหนึ่งไม่แยแสต่อความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายถึงห้าสิบที

แต่ถ้าเขาเจ็บหนักจนต้องหยอดน้ำเกลือผมก็เดือดร้อนอยู่ดี “คุณหมอ ผมจะใช้สิทธิ์ทนายผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้สมาพันธ์ในการลดหย่อนโทษให้เขาได้ไหม”ผมหันกลับไปถามเธอ

“คุณไม่เคยพบฉันรู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นหมอ” เธอกอดอกมอง

“ผมมักสังเกตและจดจำคนด้วยลักษณะเด่นของคนๆ นั้น ฉะนั้นแม้คุณหมอจะเผยใบหน้าแค่ครึ่งบนแต่ดวงตาคู่คมสวยของคุณหมอก็ไม่ทำให้ผมลืมได้หรอก”

พลั่ก !!!

ผมล้มลงหน้าคะมำ“นายใบ้ นี่คุณถีบผมทำไม !”

“อ่าวอีบ”

นายใบ้ตอบในเส้นเสียงที่เขาพอจะสื่อสารได้เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ผมรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นใบ้แต่กำเนิดซึ่งผมคงไม่สืบสาวถึงต้นเหตุของความผิดปกติทางการพูดในตอนนี้

“อ่าวอีบอะไร ผมเห็นขาคุณยกเมื่อไว ๆ นี้” ผมท้วงเพราะหลักฐานมันคาตา

“ไอ้อ้ายอีบแอ่อีนอันอั๊กอะอุก”

“???” พอถูกพูดใส่จัดเต็มแบบนี้ สมองของผมก็จับความหมายไม่ทัน “พูดใหม่อีกทีซิ”

“เขาบอกว่าไม่ได้ถีบ แต่ตีนมันชักกระตุก”

ผู้แปลภาษาให้ผมคือคุณหมอสาวและใบหน้าของผมคงประกาศโจ่งแจ้งว่าสงสัยในความสามารถด้านภาษานอกเหนือจากวิชาชีพของเธอเธอจึงไหวไหล่ตอบอย่างไม่แยแส

“บังเอิญว่าฉันเคยรักษาคนป่วยประเภทนี้มาก่อน”แล้วหันหลังเดินต่อ

ส่วนคนที่บังเอิญว่าตีนชักกระตุกก็ยิ้มเยาะเย้ยเดินชูคอผ่านผมไปเจ็บก้นไม่ว่าแต่มันเจ็บใจ นี่ถ้ามีโอกาสผมอยากจะติดต่อกับทางสมาพันธ์แจ้งความจำนงขอเปลี่ยนตัวช่วยที่ไม่เป็นโรคตีนชักกระตุกไร้สาเหตุ

นั่นมันคงเป็นได้แค่ความคิดเพราะก้าวมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่อยากให้ชายพิการเฝ้ารอข่าวจากผมอย่างเดียวดายแค่เรื่องตัวช่วยชวนป่วนลำไส้ใช้เป็นข้ออ้างให้งานล่าช้าไม่ได้ผมจึงเร่งฝีเท้าเดินตามทั้งคู่ไป มองพวกเขาทั้งสองอยู่ห่าง ๆภาพเบื้องหลังของทั้งคู่ทำให้ผมนึกถึงเรื่องเล่าของนายมั่น

ในห้องโถงของพระตำหนักทองไม่ได้ทองอร่ามตามชื่อของสถานที่แต่ความงดงามตระการตาที่เรียกเสียงชื่นชมจากคนต่างชาติอย่างผมได้ดีคือการก่อสร้างที่นำไม้เต็มลำต้นมาประกอบเข้าหากันด้วยการเข้าเดือย

“ไม้สักทอง”

ผมเปรยพลางแหงนมองคานโปร่งสูงประดับประดาด้วยโคมระย้าหลากสีดูสวยงามตามวัฒนธรรมของชาวอิระวดีผมคาดเดาเอาเองว่าอายุของพระตำหนักทองนี้ไม่น่าต่ำกว่าหนึ่งศตวรรษแน่นอนแม้จะมีบางส่วนดูคล้ายว่าผุเก่าไปตามกาลเวลาแต่การบำรุงรักษาสถานที่อันเป็นหลักฐานแห่งความรุ่งเรืองทำได้ดีเกิดคาด

“จากตรงนี้คุณต้องคลานเข้าไป”

คุณหมอสาวบอกเมื่อนำทางจนจวบจะถึงประตูไม้สลักรูปเทพยดาบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานด้านหน้าผมจึงจะย่อตัวทำตามเธอที่เธอบอกแล้วเริ่มคลาน ในใจนั้นก็คิดว่าในศตวรรษนี้ยังมีรัฐที่ยึดขนบธรรมเนียมไว้อย่างเหนียวแน่นหลงเหลืออยู่นอกจากอิระวดี ก็ยังมีรัฐนคราที่เป็นเขตปกครองพิเศษนอกสมาพันธ์ไปทางทะเลตะวันออก

“อย่าทำถือตัวอวดดีที่นี่ใครก็ตามที่ต้องเข้าเฝ้าเจ้า จะต้องคลานเข่าเข้าไป”

ได้ยินเสียงดุดันของเธอจึงหันหน้ากลับไปเห็นนายใบ้ยังยืนแข็งไม่คิดจะย่อเข่าลงคลานแบบผม ทำไมหนอ ทำไมสมาพันธ์ถึงส่งคน ๆนี้มาช่วยผม ครั้นจะให้คลานเข่าย้อนกลับไปก็จะเป็นการทรมาณเข่าตัวเองก็เลยส่งเสียงพูดจากจุดที่ตัวเองอยู่

“นายใบ้อย่าลืมว่าพวกเรามาทำอะไรที่นี่”

เขายืนนิ่งเฉยสักพักแล้วย่อเข่าลงดวงตาคู่นั้นก็เอาแต่จ้องคุณหมอแน่วแน่เหมือนกำลังสื่อสารบางอย่างทางสายตาแทนความสามารถทางการพูดกับคุณหมอสาวที่ผมไม่อาจล่วงรู้

พวกเขาทั้งสองต้องรู้จักกันมาก่อนเพราะแววตาแห่งความคุ้นเคยถึงปรากฏชัดเจนขนาดทำให้ผมกลายเป็นบุคลนอกสายตาไปได้ทันที

เมื่อไม่มีการดื้อดึงต่อประเพณีคุณหมอจึงก้าวเท้าฉับ ๆ จนเกิดเสียงกระดิ่งของห่วงข้อเท้ากระทับกันห่วงข้อเท้าของเธอสร้างความแปลกใจให้อีกข้อคือหญิงสาวชาวเอเชียที่ยังไม่ได้เป็นฝั่งเป็นฝาจะมีห่วงข้อเท้าเป็นสัญลักษณ์แทนการป่าวประกาศว่าเธอคนนั้นยังบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ภมรดอมดม

ผมถูกสั่งห้ามเงยหน้า จึงได้แต่มองพื้นกระดานขัดมันระหว่างทางกระทั่งประตูบานใหญ่ถูกเปิดพอจะได้เห็นบางสิ่งบางอย่างบ้างตามขอบเขตความสามารถการมองเห็นของดวงตามนุษย์ยามต้องก้มหน้าลงผมและนายใบ้คลานตามเสียงกระดิ่งข้อเท้านั้นไป ข้ามธรณีประตูแสนสูงอย่างทุลักทุเลเพื่อเข้าสู่ห้องประทับของเจ้าอิระวดีโดยมีสัญญาณบอกให้ผมหยุดอยู่กับที่เป็นปลายคมของอาวุธด้ามยาวที่ยื่นเข้ามาขัดขวางผมจากซ้ายและขวาแบบไม่ได้แจ้งกันล่วงหน้า

“พวกเจ้าเป็นชาวไทยะรึ”เสียงทรงพลังบนพระที่นั่งกังวานเป็นภาษาไทยะบุรี

“กระหม่อมถือสัญชาติรัฐแห่งสมาพันธ์ส่วนเพื่อนกระหม่อมถือสัญชาติไทยะบุรี” ผมประนมมือตอบ ยังคงก้มหน้ามองพื้นกระดาน

“เหตุใดชาวสมาพันธ์ถึงร่วมหัวจมท้ายก่อเหตุวิวาทกับชายไทยะบุรีในดินแดนของข้าเจ้ามิรู้กฎหมายแห่งอิระวดีหรืออย่างไร”

“พระอาญาไม่พ้นเกล้า”ให้ตายสิ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมพูดด้วยคำราชาศัพท์ของไทยะบุรี“กระหม่อมคุ้นเคยแต่กับรัฐประเทศในเขตปกครองของสมาพันธ์จึงทราบแต่กฎหมายในรัฐของกระหม่อมเองการวิวาทในที่ชุมชนโดยไม่เกิดการบาดเจ็บรุนแรงจะถูกต้องโทษโดยการอบรมและบำเพ็ญประโยชน์แก่กันและกันจนกว่าคู่วิวาทจะสำนึกและให้อภัยกัน”

“กฎหมายของสมาพันธ์นั้นบางครั้งก็หลวมเกินไปให้เสรีภาพแก่ประชาชนของเขาจนเกินควบคุมก็มีแต่คนหนุ่มสาวหรือพวกวัยเด็กเมื่อหัวหนาวเท่านั้นที่ถูกใจแต่อิระวดีก็มีระบบอบการปกครองของตนเองที่สร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่นมานานข้าจึงขอใช้กฎหมายแห่งอิระวดีตัดสินโทษคนที่ก่อเหตุ”

เจ้าอิระวดีเอ่ยเสียงทุ้มน่าฟังจับใจคล้ายกำลังกล่อมให้ผมยอมจำนน“โบยห้าสิบทีถือเป็นโทษหนักในรัฐสมาพันธ์ หากผู้ต้องโทษทนความเจ็บปวดไม่ไหวทรมานถึงวิสัญญีสลบ หรือหมดลมหายใจไปเท่ากับว่าเป็นการลงทัณฑ์ที่ผลของมันเกินกว่าโทษจริงที่พวกเขาได้ กระหม่อมจึงขอพระราชทานโอกาสถามพระราชวินิจฉัยว่าเห็นอย่างไรกับความคิดของกระหม่อมนี้”

“เป็นการลงทัณฑ์ที่ผลของมันเกินกว่าโทษจริงที่พวกเขาได้อย่างนั้นรึ”ทรงตรัสแล้วทรงเปล่งเสียงพระสรวลก้องท้องพระโรง

“ข้าถูกใจสำนวนว่าความเจ้านักแต่ข้าก็ต้องลงทัณฑ์เพื่อนของเจ้าอยู่ดี หากเขาเจ็บปวดทรมานถึงขั้นวิสัญญี นั่นก็ถือว่าสมควรแล้วเขาจักได้รู้ว่าการท้าต่อยตีมันมิได้แค่เกิดบาดเจ็บแต่ตัวแต่อาจสร้างความโกลาหลจนเป็นบ่อเกิดให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องถึงชีวิตได้ แล้วหากผู้เดือดร้อนเหล่านั้นเป็นประชาชนของข้าด้วยแล้วข้าก็มิอาจผ่อนผรน เจ้าคงเข้าใจผู้ปกครองแผ่นดิน ข้าให้ความเห็นแก่เจ้า..พ่อหมอความ... เจ้าจะว่ากระไร”

ผมเผลออวดอ้างสรรพคุณของตนจนเป็นผลให้เจ้าอิระวดีทรงทราบอาชีพของผมได้โดยไม่ต้องบอกผมก่นด่าตัวเองในใจที่มองเกมผิดพลาดเจ้าอิระวดีพระองค์นี้หลักแหลมและน่าเกรงขามกว่าพระฉายาลักษณ์บนป้ายบิลบอร์ด

“โบยไอ้คนตัวใหญ่ข้างหลังนั่นโบยมันเสียห้าสิบที”

สิ้นพระราชดำรัสผู้ลงทัณฑ์ก็ก้าวเข้ามาพร้อมเส้นหวายในมือ ผมเห็นผู้ต้องโทษถูกปลดเปลื้องเสื้อเปลือยเปล่าทั้งกายเพื่อเส้นหวายฟาดลงนายใบ้ถูกจับให้นอนคว่ำ กดหัวให้ต่ำติดกับพื้นกระดานรัดข้อแขนและข้อเท้าด้วยโซ่ตรวนที่ถูกขึงกับเสาสี่ด้าน

แม้คนถูกลงทัณฑ์จะนิ่งเฉยเก็บกลั้นความเจ็บปวดได้ทว่ายามใดที่เกิดเสียงหวายฟาดกระทบเนื้อหนังคราใด หัวใจของผมก็กระตุกครานั้น แต่ไม่ได้มีแต่ผมที่รู้สึกเจ็บแทนยังมีหญิงสาวอีกคนที่คงรู้สึกแบบเดียวกับผม

แววตาเศร้าของเธอคู่นั้นยามมองชายใบ้ถูกลงทัณฑ์มันช่างคลับคล้ายคลับคลา

เสียงหวายฟาดลงครั้งสุดท้ายเป็นการสั่งลาโทษทัณฑ์แก่นายใบ้เสียงกรีดร้องของใครคนหนึ่งก็ดังเข้าในโสตแห่งความทรงจำ

“พี่มั่น !”

เสียงหญิงสาวดังจากบ้านไม้หลังเก่าในวันแรกที่ผมได้พบกับนายมั่นวันนั้น

เปรี้ยง!!!


 .............................................................................................................

โจทย์เหมือนง่าย แต่มันไม่ง่ายเลย

เบื้องหลังงานเขียน มันก็ไม่ง่ายเยย

จะหันหลังให้ มันก็ทำไม่ได้เลย

เย้ เย เย 

เลยต้องเขียนต่อไปเรื่อย ๆ เอย








 

Create Date : 19 สิงหาคม 2559
14 comments
Last Update : 21 สิงหาคม 2559 16:54:40 น.
Counter : 572 Pageviews.

 

สวัสดีค่า คุณบุ๋ม ^^
เรื่องราวชักจะเข้มข้นละ นายมั่นเอ๋ย
เรื่องนี้ชื่อเรื่องเต็มๆ ว่าอะไรคะ คุณบุ๋มส่ง สนพ มั้ย
คิดว่าต้องเป็นเรื่องยาวแน่เลย
แนวนี้นุ่นเขียนไม่เป็นเลยค่ะ เมืองสมมุติ ราชาศัพท์ด้วย ยากๆๆอะ
ว่าแล้วก็ถามเลย เมื่อวานครูอี๊ดปฐมนิเทศน์รุ่นลายเส้น
นุ่นอยู่รุ่นดิสนีย์ค่ะ แต่ได้มาฟังด้วยเมื่อวาน อิอิ
เด๋วก็มีการบ้านกันแล้วคงยุ่งกว่าเดิมแน่
แต่การเขียนก็ทิ้งไม่ได้เนาะ

ขอบคุณมากๆ ค่า


ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog

 

โดย: lovereason 20 สิงหาคม 2559 0:48:51 น.  

 


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
มยุรธุชบูรพา Literature Blog ดู Blog
What I want I cannot have Education Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
หอมกร Music Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


 

โดย: ออมอำพัน 20 สิงหาคม 2559 23:52:42 น.  

 

คนชอบเขียน จะหยุดได้อย่างไรล่ะคะ
เขียนต่อไปเลย สนุกดีออกค่ะ
ส่งกำลังใจให้นะคะ จะได้มีแรงเขียร เย้ๆๆๆ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog
ขอบคุณโหวตด้วยค่ะ

 

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 21 สิงหาคม 2559 11:44:26 น.  

 

แฟ้มลับ ผมเห็นคำนี้ผมนึกขึ้นมาเลยคำว่า "ลับ" ถ้ามันลับ มันจะกลายเป็นของที่ทุกคนรู้ไปทั่ว อย่างบ้านเราเอกสารลับ แต่กระจายไปปทั่วเลย

ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog
+

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 21 สิงหาคม 2559 18:00:31 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
บ้านต้นคูน Food Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Music Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Music Blog ดู Blog
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
ผีเสื้อยิปซี Literature Blog ดู Blog
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog

 

โดย: newyorknurse 22 สิงหาคม 2559 6:23:21 น.  

 

เข้ามาอ่านงานเขียนดีๆค่ะ

 

โดย: Raizin Heart 22 สิงหาคม 2559 10:39:50 น.  

 

เบื้องหลังงานเขียน มันก็ไม่ง่าย จะหันหลังให้ มันก็ทำไม่ได้..นั่นสิ หันหลังเขียนคงจะยากเนอะ หุหุ

 

โดย: kae+aoe 22 สิงหาคม 2559 11:20:23 น.  

 

โอยยย สงสารคนโดนโบย

 

โดย: Kisshoneyz 22 สิงหาคม 2559 15:43:54 น.  

 

ขอบคุณที่ไปทักทายกันที่บล็อกนะคะ
ตะพาบมาเป็นซีรีส์เลย
เขียนแบบนี้ก็เก๋ไปอีกแบบ

 

โดย: เหมือนพระจันทร์ 23 สิงหาคม 2559 22:03:08 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ตุ๊กจ้ะ Hobby Blog ดู Blog
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog

แวะมาอ่านและโหวตให้ค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 26 สิงหาคม 2559 8:27:02 น.  

 

ตามมาอ่านตะพาบตอนสายโด่

เพิ่งกลับมาล่ะค่ะ

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 26 สิงหาคม 2559 20:52:49 น.  

 

ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog

มาอ่านและส่งกำลังใจให้น้องบุ๋มค่ะ

 

โดย: ดอยสะเก็ด 31 สิงหาคม 2559 16:57:18 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog

สวัสดีค่ะ
แวะมาทักทายทำความรู้จัก
พร้อมมอบกำลังใจให้นะคะ

 

โดย: เวียงแว่นฟ้า 1 กันยายน 2559 7:17:41 น.  

 

มารอมุมกล้อง ขอหลับตรงนี้เลยได้มะ แบบว่า ง่วงจริงจัง

 

โดย: เป็ดสวรรค์ 2 กันยายน 2559 1:53:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ชลบุรีมามี่คลับ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




เป็นนัก(หัด)เขียนนิยายพาร์ทไทม์ เป็นคุณแม่ทำงานที่ชอบฝันกลางวันแบบฟูลไทม์ด้วย

บล็อกนี้มีเรื่องเล่ามากมาย เข้ามาค้นหาสิ่งที่อยากรู้ได้ตามสบาย


ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะคะ
สำหรับนักอ่านที่ติดตามนิยายของ จขบ
สามารถอานได้ทั้งทางเวบ

Hongsamut : https://hongsamut.com/writerdetail.php?writerid=3992

และทางเว็บ Dek D ค่ะ
https://my.dek-d.com/redapplels/


เนื้อหา ภาพถ่าย ในบล็อกนี้
ได้รับความคุ้มครอง
ตามกฏหมายพ.ร.บ.
สิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ห้าม
นำไปใช้ คัดลอก ดัดแปลง
แก้ไขส่วนหนึ่งส่วนใดโดย
เด็ดขาดนะจ๊ะ

คนดี...


New Comments
Friends' blogs
[Add ชลบุรีมามี่คลับ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.