Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
28 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 

อดีต ปัจจุบันส่งผ่านถึงอนาคตจะเป็นฉันใด





เมื่อครั้งที่ไปเรียนอยู่ที่เมืองหลวง และได้ทำงานอยู่ที่นั่นหลายปี
แรกๆก็มีเพื่อนๆอยู่ด้วยกัน หารค่าห้องกันได้
แต่สุดท้ายต้องแยกย้าย เพราะเพื่อนไปเรียนต่อคนละที่
เสียดายค่าเช่าจึงย้ายไปหาที่อยู่ใหม่



ครั้งที่ย้ายไปสิงสถิตอยู่แถวๆสุขุมวิทเพราะใกล้ที่ทำงาน
คุณยายอาศัยอยู่กับหลานชายสองคน
แบ่งพื้นที่บ้านบางส่วนให้เช่า
บ้านอยู่ติดกับคลองแสนแสบ ค่าเช่าไม่แรงเกินไปพอรับได้
มีต้นไม้มากมายบรรยากาศดี
หลานชายสองคนไม่เป็นพิษเป็นภัย เพราะเป็นผู้ชายนะฮ้า




ในแต่ละวันมีเรือหางยาวแล่นผ่านไปมาไม่ค่อยหนาตามากนัก
จากพระโขนงมาสุดทางที่ประตูน้ำ
น้ำสีดำๆส่งกลิ่นกรุ่นกำจายมาตามสายลม
ช่วงบ่ายในยามว่าง มักมายืนมองไปยังท่าน้ำฝั่งตรงข้าม
แล้วจินตนาการเอาว่าเมื่อครั้งที่น้ำยังใสไหลริน
ขวัญกับเรียมคงจะแหวกว่ายไปมาที่คลองแสนแสบแห่งนี้



แต่ตอนที่มองลงไป น่าจะแสบแสนคันมากกว่า
เพราะทั้งดำทั้งเหม็น ตกลงไปในน้ำคงจะทั้งคันทั้งแสบเหลือประมาณ
วันลอยกระทงหลังเลิกงาน
เดินกลับบ้าน เดินลุยน้ำจากปากซอย ประมาณสะโพก
เดินมาถึงห้องพักที่อยู่ชั้นล่าง น้ำปริ่มขอบเตียงแต่ยังไม่ถึงที่นอน
เสื้อผ้าของใช้ทุกอย่างวางอยู่บนเตียง
ไม่กล้าเปิดไฟ เพราะกลัวไฟดูด





นอนมองน้ำสะท้อนแสงเทียน วับๆแวมๆแสนจะโรแมนติค
ในเวลากลางวัน เรือหางยาวแล่นผ่าน
น้ำจะกระฉอกขึ้นมาเกือบถึงที่นอนต้องปิดประตูห้องเอาไว้
ลงจากเตียงลุยน้ำออกไปหาอาหารมาตุนไว้
จะไปไหนก็ไปไม่ได้ เพราะยังห่วงงาน




ก่อนออกไปลุยน้ำต้องทาวาสลีนที่เท้าเพื่อทำให้เท้าชุ่มชื้นกันน้ำกัดเท้า
ทุกครั้งที่จะขึ้นเตียง ต้องนำผ้าแห้งมาเข็ดขาทีละข้าง
ก้าวขึ้นเตียงใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดอีกครั้งแล้วซับให้แห้ง
จึงก้าวขึ้นเตียงได้ ทาด้วยยากันเชื้อราอีกรอบ





นอนมองน้ำเป็นคลื่นน้อยๆในวันลอยกระทง
ออกจากบ้านไปทำงานสวมกางเกงขาสั้นสะพายเป้
ห้องน้ำที่บ้านไม่ต้องพูดถึงเข้าไม่ได้
ต้องไปอาศัยห้องน้ำอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันที่ทำงานเช่นกัน




เย็นวันหนึ่ง มีคนมาเคาะประตู เปิดมาเจอ
เจ้าน้อย(อ.น้อย อานนท์ ศิริสมบัติวัฒนา) เจ้าแดง เจ้าบั๊น
มาถึงก็เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ลากตัวให้ไปพักด้วยกันที่ซอยเซ็นหลุยส์
ที่บ้านนายอานนท์ มีอามากับพี่สาวอยู่หลายคน
เรื่องนี้เคยเล่าไว้เมื่อครั้งก่อนใน

“อานนท์ที่รัก”




ในยามที่เกิดวิกฤต เข้าใจในความรู้สึกในยามนี้เลยค่ะ
ครั้งนั้นกว่าที่น้ำจะลด ก็กินเวลาเป็นเดือน
จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ต่อมาอีก 12 ปีจึงเกิดน้ำท่วมใหญ่อีกครั้ง
เราคงไม่โชคร้ายจนเกินไป ปีหน้าฟ้าใหม่ ฟ้าฝนอาจเมตตา
เลื่อนเวลาให้พอมีเวลาลุกขึ้นมาอีกครั้ง
คงไม่บาปซ้ำกรรมซัด ท่วมแบบนี้ติดๆกันหลายปี




ไม่มีข้อมูลเชิงวิชาการหรอกค่ะ แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
หวังใจว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น เพียงวันนี้เราจะผ่านมันไปได้
เหมือนทุกครั้งที่เคยผ่านมันมาแล้ว






ลองมาย้อนอดีตไปด้วยกัน


.
.
.
.


































พ.ศ.2485





เกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ เนื่องจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงมาก ไหลล้นคันกั้นน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำตลอดแนว ซึ่งวัดระดับน้ำท่วมที่สะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ได้ 2.27 เมตร นับว่าเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะมีการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่อย่างเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ เพื่อมากักเก็บน้ำ





พ.ศ.2518





พายุดีเปรสชั่นได้พาดผ่านตอนบนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีปริมาณน้ำสูงทางภาคกลางตอนบน จนเป็นเหตุให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมกรุงเทพมหานคร





พ.ศ.2521




พายุลูกใหญ่ 2 ลูก คือ "เบส" และ "คิท" ได้พาดผ่านพื้นที่ตอนบนลุ่มน้ำปริมาณสูง รวมไปถึงปริมาณน้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลบ่าเข้าท่วมเป็นจำนวนมาก ทำให้ด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานครถูกน้ำท่วมไปโดย
ปริยาย




พ.ศ.2523





ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ทวีระดับความสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนที่สะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ 2.00 เมตร ระดับน้ำสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2 เมตร ประกอบกับมีฝนตกในพื้นที่กรุงเทพมหานครถึง 4 วัน 4 คืน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่





พ.ศ.2526




พายุหลายลูกพัดผ่านเข้าภาคเหนือ และภาคกลางในช่วง กันยายน - ตุลาคม ทำให้น้ำท่วมในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมากอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งวัดปริมาณฝนตลอดทั้งปีได้ 2119 มม. จากค่าฝนเกณฑ์เฉลี่ยอยู่ที่ 1,200 มม. ส่งผลให้กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล น้ำท่วมเป็นเวลานานที่สุดถึง 4 เดือน ประเมินความเสียหายสูงถึง 6,598 ล้านบาท





พ.ศ.2529





ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ที่กรุงเทพฯในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะที่เขตราษฎร์บูรณะ ถนนวิภาวดีตั้งแต่ช่วงสะพานลอยเกษตรเข้าไป ย่านถนนสุขุมวิท ย่านรามคำแหง ย่านบางนา ทำให้การจราจรติดขัดมาก แต่อย่างไรก็ดี ในครั้งนั้นอยู่ในช่วงที่น้ำทะเลไม่ได้หนุน ทำให้มีการระบายน้ำออกเป็นไปอย่างรวดเร็ว




พ.ศ.2533




เดือนตุลาคม พายุโซนร้อน "อีรา" และ "โลล่า" ได้พัดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือทางจังหวัดบุรีรัมย์, สุรินทร์ ทางภาคตะวันออกและภาคกลาง ทำให้ฝนตกหนักที่กรุงเทพมหานครถึง 617 มม. เลยทีเดียว ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30-60 ซม. ในหลายพื้นที่ ทั้งบริเวณเขตมีนบุรี, หนองจอก, บางเขน, ดอนเมือง, บางกะปิ, พระโขนง, ลาดกระบัง, ลาดพร้าว, บึงกุ่ม และปริมณฑล โดยน้ำท่วมขังเป็นเวลานานกว่า 1 เดือน ประเมินความเสียหายสูงถึง 177 ล้านบาท




พ.ศ.2537





พายุฝนฤดูร้อน ถล่มกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลเมื่อวันที่ 7 และ 8 พฤษภาคม 2537 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันที่บริเวณถนนจันทร์ เขตยานนาวา ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ย่านสะพานควาย ถนนประดิพัทธ์ สวนจตุจักร ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซอยสุทธิสารตลอดทั้งซอย รวมไปถึง ถนนวิภาวดีรังสิตและรัชดาภิเษก ถนนลาดพร้าว ถนนสุขุมวิท ตั้งแต่ย่านพระโขนง จนถึงอำเภอสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ส่วนถนนสาธร โดยเฉพาะซอยเซ็นต์หลุยส์ มีน้ำท่วมขังมากที่สุดประมาณ 50 ซม. และจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ส่งผลให้การจราจรของกรุงเทพมหานครเป็นอัมพาต เกิดไฟฟ้าดับหลายจุด สร้างความเดือดร้อนทั่วทุกพื้นที่





พ.ศ.2538



พายุหลายลูก ได้พัดผ่านทั้ง ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพายุโอลิส ที่ถล่มกระหน่ำ ทำให้เกิดในตกหนักอย่างต่อเนื่องหลายวัน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูง โดยวัดที่สะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2538 มีค่าระดับสูงถึง 2.27 เมตร (รทก.) ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

คันกั้นน้ำริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ระดับสูงถึง 1 เมตร โดยเฉพาะบริเวณถนนจรัลสนิทวงศ์ เขตบางพลัด บางกอกน้อย และถนนเจริญกรุง เขตคลองสาน รวมระยะเวลาน้ำท่วมประมาณ 2 เดือน สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก การคมนาคมเป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องอาศัยเรือในการเดินทาง เพราะเกือบจะทั่วทุกพื้นที่ กลายเป็นคลองไปหมด แทบจะแยกไม่ออกว่า ตรงไหนเป็นน้ำจากแม่น้ำ คลอง หรือน้่ำจากน้ำท่วม




พ.ศ.2539



มีฝนตกหนักในภาคเหนือและภาคกลางทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณมาก ทำให้ระดับน้ำสูงล้นแนวป้องกันน้ำท่วมเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำฝั่งธนบุรี บริเวณถนนจรัลสนิทวงศ์ ถนนเจริญนคร ฝั่งพระนคร บริเวณถนนสามเสนถนนพระอาทิตย์ ซึ่งน้ำได้ท่วมขังกินระยะเวลานาน 2 เดือนเลยทีเดียว ตั้งแต่ พฤศจิกายน -ธันวาคม 2539





พ.ศ.2541




เหตุการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพครั้งนี้ไม่รุนแรงเท่าไร วัดน้ำฝนได้สูงสุดที่สถานีดับเพลิงพญาไท 2541 มม. ส่วนจุดที่น้ำระบายออกได้ช้าที่สุดคือถนนประชาสงเคราะห์ (จากแยกดินแดงยาวตลอดสาย) เขตดินแดงท่วมสูง 20 ซม. นาน 19 ชม. ส่วนระดับน้ำที่ท่วมสูงสุดคือ ถนนเพลินจิต และถนนราชดำริ เขตปทุมวัน ท่วมสูง 20 - 40 ซม. นาน 11 ชม.






พ.ศ. 2554




ถึงแม้ว่าน้ำจะยังไม่เข้าท่วมกรุงเทพฯ แต่มีความเป็นไปได้สูงมากว่ากรุงเทพฯ จะประสบปัญหาน้ำท่วมเหมือนในปีก่อน ๆ และจะรุนแรงเทียบเท่ากับปี 2538 เลยทีเดียว




หมายเหตุ : ภาพน้ำท่วมในอดีตจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติค่ะ



HotLine สายด่วนน้ำท่วม
สำนักนายกรัฐมนตรี โทร.1111
สายด่วน ปภ. (กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย) โทร.1784
บริการแพทย์ฉุกเฉิน และนำส่งโรงพยาบาล ฟรี โทร.1669
ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท โทร.1146
ตำรวจทางหลวง สอบถามเส้นทางน้ำท่วม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โทร.1193
การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690
สายด่วน กฟภ. โทร.1129
ท่าอากาศยานไทย โทร.0-2535-1111
ศูนย์ประสานและติดตามสถานการณ์น้ำ โทร.0-2243-6956



แอมอร





 

Create Date : 28 ตุลาคม 2554
11 comments
Last Update : 28 ตุลาคม 2554 15:43:39 น.
Counter : 1045 Pageviews.

 

ผมอยู่กับน้ำท่วมกรุงเทพตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๘๕ อายุ ๑๐ ขวบเศษ ที่สวนอ้อยนี้เองครับ

แล้วก็ท่วมในปัจจุบันอีกหลายครั้ง แม้ฝนตกหนักนานกว่าครึ่งชั่วโมงก็ท่วมครับ แต่อยู่ไม่นานก็แห้ง

ขอบคุณที่เอาคำเตือนเรื่องผู้ที่ถูกน้ำท่วมสูง แล้วจะอยู่เฝ้าบ้าน ไปวางในกระทู้ของผม ที่ไร้สังกัด อาจมีประโยชน์แก่ผู้อ่านตามสมควรครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 28 ตุลาคม 2554 19:01:48 น.  

 


เรื่องราวในอดีต..ชวนอ่านเพลินเลยค่ะ


แถมแจกแจงข้อมูลสถิติลำดับน้ำท่วม กทม.ให้อีก
แต่ปี 2554 นี้ คงจะหนักหนาสาหัส
ทังด้านสังคม และเศษฐกิจเอาการอยู่

 

โดย: เริงฤดีนะ 28 ตุลาคม 2554 19:36:58 น.  

 

คุณแอมอรขา
แล้วเราจะฝ่าวิกฤตน้ำกัดเท้าไปด้วยกันนะคะ
ข้าสาร อาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋องโอเค
หมูเค็ม หมูหยอง หมูทุบ หมูแผ่นโอเค
เตรียมพร้อมหรือยังค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 28 ตุลาคม 2554 19:58:40 น.  

 


หมอแอมแม่นอีกแล้วค่ะ
เมื่อเย็นดูข่าวพระโขนงน้ำทะลัก ^^

เรื่องน้ำท่วมเต็มกรุงเทพ ต้องใช้เรือพายเนี่ย
เคยฟังผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง ก็ยังนึกไม่ค่อยออก
ขอบคุณพี่แอมที่เอารูปมาให้ดู
.
.

ขออย่าให้เป็นอย่างนี้อีกเลยค่ะ



 

โดย: ที่เห็นและเป็นมา 28 ตุลาคม 2554 22:14:05 น.  

 

ถ้าจำไม่ผิด ปี 26 ครับ ที่ผมเจอกับน้ำท่วมหนัก ตอนนั้นเรียนอยู่ กทม. ท่วมนานหลายเดือนจริงๆ แต่ก็อยู่เผชิญกับน้องน้ำได้แค่ 4-5 วัน ก่อนเผ่นกลับใต้สบายไป

กลับไปอีกทีน้ำงวด ช่วยชาวซอยทำความสะอาด เจอหอยขมกวาดมากองเป็นภูเขาเลยนะคุณแอม

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 28 ตุลาคม 2554 22:30:43 น.  

 

เคยเดินตกท่อกรุงเทพฯ ตอนน้ำท่วมด้วยอ่ะค่ะ ^^

 

โดย: ดาริกามณี 29 ตุลาคม 2554 0:21:26 น.  

 

อ่านเพลิน... ลืมไปเลยว่ามาทำอะไร ( ขอบคุณสำหรับคำอวยพร - วันเกิดนะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ เช่นกันค่ะ )

 

โดย: ดาริกามณี 29 ตุลาคม 2554 0:22:19 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่แอม

ตอนผมเรียนที่ลาดกระบัง
ก็เจอน้ำท่วมสูงถึงเอวครับ

ตอนนั้นเกาะรถดับเพลิงไปเรียน 555

ไมไ่ด้นึกเป็นทุกข์เลย
สนุกมาก
คงเพราะไม่ไ่ด้รับผิดชอบอะไรในชีวิตมาก


ตอนนี้คนที่ถูกน้ำท่วม
คงเครียดไปหมดนะครับ
บ้านเสียหาย ทรัพย์สินสูญหาย




 

โดย: กะว่าก๋า 29 ตุลาคม 2554 6:15:16 น.  

 

สวัสดีครับ ครู ยังมีเวลาค้นคว้าหาข้อมูล สถิติ ย้อนหลังมาเผื่อแผ่ เพื่อนๆชาวบล็อกแก็งส์กัน ละเอียดยิบได้ขนาดนี้ แสดงว่าไม่เครียดเพราะน้ำท่วมไม่ถึง หรือไม่ก็....ท่วมมานานแล้วจยชิน...555.........
เคยได้ยินคำๆหนึ่ง จากผู้ใหญ่บางคนสมัยโน้นกล่าวว่า "ชินแล้วสบาย"
ดูแล้วน่าจะจริง และน่านำมาปรับใช้นะครับ
รักษาสุขภาพนะครับครู

 

โดย: พายุสุริยะ 29 ตุลาคม 2554 11:19:21 น.  

 

อ่านก็แล้ว นึกภาพก็แล้ว ได้แต่สะเืทือน
แล้วถามพี่แอมว่า "ห่วงงานมากเิกินไปหรือป่าว"

ยามเรือแล่นผ่านมา เกรงน้ำหวั่นน้ำจะเข้าห้อง ย่องถึงเตียง
ใกล้ ริบหรี่ๆ ซะงั้น

หนักหนาสาหัส ไม่เบากับกลิ่นน้ำที่ต้องทน

รินยังไม่เคยเจอเหตุการณ์ เหมือนถูกปล่อยเกาะอย่างนี้
แต่เห็นภาพแล้ว นึกภาพตาม ซึมไปเลยเชียว

แค่ตอนนี้น้ำยังไม่เปียกทรีน ก็ควรย้ายก่อน
เพราะสิ่งปฏิกูลต่างๆ ลอยตามน้ำมาถูกตัว
อะไรจะเกิดขึ้นกันเล่า

หยองกันสุดๆ = ="



ส่วนน้องรินตอนนี้เบื่อกับน้องน้ำแล้ว
ขอซบอกพี่ทรายไปก่อน

เด็กแรงน้อย ต้องพี่ทราย แข็งแรง อิอิ ช่วยได้


 

โดย: Rinsa Yoyolive 29 ตุลาคม 2554 15:06:39 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องริน

น้องรินในตอนนั้นพี่ไม่ได้รู้สึกว่าลำบากมากหรอกค่ะ
ออกจะสนุกด้วยซ้ำที่ได้ลุยน้ำเย็นๆ
อากาศหนาวสุดขั้วเลยเชียว
ฟันกระทบกันดังกึกๆ

หลังจากไปลี้ภัยซะสามเดือน
กลับมาถึงห้องอีกครั้ง ทุกอย่างแห้งสนิท
อะไรเก็บได้เก็บ อะไรเก็บไม่ได้ก็ทิ้งไป
และชีวิตก็ต้องไปต่อ...

.
.

รู้สึกแมนมากๆๆๆตอนลุยน้ำ อิ อิ


แอมอร

 

โดย: peeamp 29 ตุลาคม 2554 15:33:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


peeamp
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]




บางที ปลายทางก็ไม่ได้สำคัญมากไปกว่า


.....

สิ่งที่อยู่ระหว่างทาง


..............^^....
และความสุขในปัจจุบัน

ก็เป็นสิ่งที่เราจับต้องได้

....^^.....^^......


โดยไม่ต้องรอคอย

ความสุขของอนาคต



ปูปรุง








New Comments
Friends' blogs
[Add peeamp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.