Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
19 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
น้ำท่วม...คิดถึงตาจัง




นั่งชมข่าวน้ำท่วม เพิ่งจะรู้ว่าเขามีนิคมอุตสาหกรรมที่อยุธยาและที่ปทุมธานีด้วย
คิดว่ามีเฉพาะแถวๆสมุทรปราการกับชลบุรี
สงสัยอยู่ภายในใจ จนอยากระบายออกมาเป็นตัวหนังสือ
เขาปลูกสร้างกันกลางทุ่งขนาดนั้น ไม่เคยศึกษากันบ้างเลยหรือ
ว่าแถวนั้นมีคลองตั้งกี่คลอง คำว่าคลองก็ต้องเป็นที่ลุ่มเคยทำนามาก่อน




เห็นน้ำท่วมครั้งนี้ย้อนคิดถึงคำพูดตา นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ
ตั้งแต่อยุธยาเป็นต้นมานั่นก็ที่ลุ่ม สุวรรณภูมินั่นเดิมเรียกว่าหนองงูเห่า
นึกสงสัยว่าทำไมเขาไม่ไปสร้างกันที่อื่น
บางประเทศเห็นเขาสร้างนิคมอุตสาหกรรมกันบนที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล
ไกลจากแหล่งชุมชนมากๆแล้วลงทุนอีกนิด
สร้างรางรถไฟเพื่อขนส่งสินค้า
ไม่ต้องใช้รถสิบล้อสิบแปดล้อวิ่งให้ถนนพัง




ทุกปีในฤดูน้ำหลากน้ำจากคลองจะเอ่อขึ้นมาจนถึงเชิงบันได
น้ำเหนือจะไหลลงมา จากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ
และพัดพาเอาตะกอนดินที่เป็นปุ๋ยลงมาสู่ท้องทุ่งนา
แถวบางเลน นครชัยศรี นนทบุรี ปทุมธานี
จึงมีดินดีอุดมไปด้วยโคลนเลน เหมาะแก่การเพาะปลูกข้าว
ทำสวนทุเรียน ทำสวนส้มโอทำสวนผัก โดยไม่ต้องง้อปุ๋ย
พืชที่ปลูกในละแวกนี้จึงมีรสดีมีชื่อเสียงโด่งดัง



น้ำท่วมทุกครั้ง เราก็ใช้เรือไม่ได้เดือดร้อน
ตาเล่าว่าปีไหนน้ำมากน้ำจะสูงขึ้นมาถึงชานเรือน
ไม่ต้องออกไปหากับข้าวที่ไหนนั่งตกปลากันบนบ้านสบายใจ
เมืองใหญ่ๆที่เป็นเมืองหลวงต้องติดต่อค้าขายกันทางน้ำ
จึงนิยมปลูกบ้านแปลงเมืองกันที่ริมฝั่งแม่น้ำนั่นเอง



วันเวลาผ่านไป เมืองใหญ่มีผู้คนอาศัยมากขึ้น ผู้คนอพยพย้ายถิ่นฐาน
วิ่งเข้าหาความเจริญ บ้านที่เคยยกใต้ถุนสูง
เพื่อให้น้ำลอดผ่านไปอย่างสะดวกง่ายดาย หายไปจากชุมชน
มีบ้านตึกโผล่ขึ้นมาแทน บ้างก็ทำชั้นล่างแปลงเปลี่ยนกั้นเป็นผนังปูน
เพราะชะล่าใจ ที่น้ำไม่เคยท่วมมาหลายสิบปี
มีคลองชลประทานและมีถนนผุดขึ้นมากั้นทางน้ำไว้
น้ำปีนี้ทำให้ห้องใต้ถุนจมอยู่ใต้น้ำ






“ คุณตาเคยพูดว่าเสียดายที่ดินดีๆ เหมาะแก่การเพาะปลูกอาหาร
จะกลายเป็นบ้านจัดสรรไปซะหมด
ชาวสวนชาวนาชาวไร่ขายที่ดินทำกินอพยพเข้าป่าขึ้นไปอยู่บนที่ดอน
ปลูกข้าวบนที่ดอน แต่ปลูกบ้านที่อยู่อาศัยบนที่ลุ่ม
ในอนาคตน้ำหลากมา น้ำมันไม่มีที่ไป จะเกิดอะไรขึ้น”



หากว่าตายังมีชีวิตอยู่คงจะงงสงสัยที่คนสมัยนี้ฉลาดแต่ไม่เฉลียว
ไม่เคยเรียนรู้ธรรมชาติกันบ้างเลย
คงจะตอบตาไปว่า ผู้บริหารบ้านเมืองรุ่นก่อนๆ
ไม่เคยเรียนภูมิศาสตร์ประเทศไทย เลยไม่รู้ว่าน้ำจะมาจากทางไหนกันบ้าง




นั่งทอดถอนใจ กับประเทศไทยจริงๆคนเก่งๆก็เยอะ
คนเรียนเมืองนอกก็แยะ
แต่ทำไมกันหนอ เรื่องที่ชาวนาแก่ๆมองเห็นมาตั้งหลายสิบปี
พวกเขาถึงไม่เห็น หรือว่าไม่อยากเห็น
ใครใคร่ปลูกสร้างอะไรก็ทำไป ผังเมืองไม่ต้อง
มีปัญหาค่อยแก้กันทีหลัง เพราะคนที่สร้างปัญหาไว้ไม่ได้อยู่แก้
เกิดปัญหาแล้ว แทนที่จะช่วยกันคิดช่วยกันแก้ โทษกันไปโทษกันมา
นี่แหละของแท้ ประเทศไทย






แอมอร



ท้ายเรื่อง ที่บ้านน้ำไม่ท่วม แต่เจอผลกระทบหลายอย่าง
ขอส่งกำลังใจถึงผู้ประสบภัย อย่าท้ออย่ายอมแพ้ สู้ๆๆๆ
แล้วเจอกันค่ะ









Create Date : 19 ตุลาคม 2554
Last Update : 19 ตุลาคม 2554 6:36:56 น. 17 comments
Counter : 566 Pageviews.

 
ผมเข้ามาเป็นคนแรก อ่านแล้วเห็นด้วยกับคุณตาทุกอย่าง

เพราะผมคงจะอ่อนกว่าท่านไม่กี่ปี
แต่ผมไม่เคยมีความคิดอย่างท่าน เพราะเป็นคนกรุงเทพ

เคนนั่งรถผ่านอยุธยาแถวที่เป็นนิคมอุตสาหกรรมทางขวามือ เป็นโรงงานเตี้ย ๆ ชั้นเดียว
คงมีความเชื่อมั่นว่าน้ำป่าจะไม่ข้ามทางรถไฟไปท่วมเขตของเขากระมัง

ปีนี้ธรรมชาติสอนบทเรียนให้เขาแล้ว ต่อไปเขาคงก่อกำแพงคอนกรีตแบบบ้านจัดสรร
ทำประตูกั้นน้ำได้ แล้วทีนี้น้ำภายนอกก็จะสูงขึ้น บ้านใต้สุนสูงริมแม่น้ำก็จะถึงพื้นเรือนบ้างละครับ

ผมอ่านข้อขียนของคุณแล้วถูกใจ เพราะเป็นเรื่องจริงที่ไม่ได้ตำหนิใคร
และอ่านได้ลมุนละไมราบรื่นมากครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:6:51:59 น.  

 
คุณตาคิดดีจังค่ะ เห็นน้ำท่วมปีนี้แล้วปวดใจ จะมีสักกี่คนที่คิดเป็น และ แก้ปัญหาได้ตรงจุด...พูดยากจังค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:02:48 น.  

 
แวะมาทักทายครับ
อย่าท้ออย่ายอมแพ้ สู้ๆๆๆ


โดย: แป๊ะอีกแล้ว วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:28:52 น.  

 
อ่านแล้วพี่ขนลุกเลยจริงๆ
อ่านไปพยักหน้าไป คุณตาถูกต้องทุกอย่าง
เราไม่ศึกษาภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศ ไม่มีการวางผังเมืองอย่างถูกต้องและจริงจัง อยากปลูกอะไรก็ปลูก จนปิดกั้นทางเดินของน้ำตามธรรมชาติซะหมด น้ำท่วมโทษใครไม่ได้ นอกจากตัวเอง มนุษย์ทำเองทั้งนั้น


โดย: kapeak วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:8:34:07 น.  

 

น้ำท่วมสมัยคุณตาพี่แอมดูจะมีความสุขจังเลยค่ะ
ไม่ได้เดือดร้อน หมดตัวกันแบบตอนนี้

เหมือนที่พี่แอมเคยบอกว่า 'ธรรมชาติเอาคืน' นั่นเลย
ในบ้านเมืองเราเนี่ยค่ะ นิคว่าไม่มีใครจะเก่งเรื่องน้ำ
เท่ากับในหลวงของเรา พระองค์ทรงมีสายพระเนตรที่กว้างไกล
และเห็นก่อนที่ปัญหาจะเกิดเสียอีก

ทำไมถึงดื้อรั้นและเฉยชากันอย่างนี้ก็ไม่รู้

แต่สิ่งที่มากับน้ำหลาก ก็ยังมีน้ำใจค่ะพี่แอม
ตอนนี้ดูแต่ข่าวน้ำท่วมทุกวัน
ทหาร+ตำรวจก็ช่วยกันเยอะนะ
แต่ข่าวจะเป็นของสื่อซะละมาก
แต่ก้อไม่ว่ากันค่ะ เค้าเหนื่อยน่าดูเหมือนกัน

โชคยังดีของพี่แอม และผู้ที่น้ำยังไม่ท่วม
เป็นกำลังใจให้กัน และสู้ๆค่ะ




โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:14:38:04 น.  

 
พี่เพิ่งกลับเข้ามาค่ะ ตอนที่เขียนตั้งใจว่าจะกล่าวถึงในหลวง
เรื่องการทำแก้มลิง และการทำโครงการอีกมากมาย
แต่เกรงว่าเรื่องราวจะยาวเกินไป

ขอบคุณที่นิคช่วยมาเสริมให้
ทำให้เอนทรี่นี้สมบูรณ์ขึ้น อย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก
ตอนนี้บางบัวทองรถผ่านไม่ได้
ต้องไปใช้บริการรถไฟฟรีเข้ากรุงเทพ

แต่อีกไม่นานหากน้ำทะเลหนุน หรือฝนตกลงมา
เส้นศาลายา งิ้วลายคงท่วม
สมาชิกในบ้านที่ไปทำงานที่กรุงเทพคงกลับบ้านไม่ได้
ต้องย้ายไปพักบ้านพักแถวๆเมืองทอง
หากเมืองทองธานีท่วมอีก ค่อยย้ายกันอีกรอบค่ะ


แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:15:20:12 น.  

 

บ้านน้าพงษ์ อยู่แถวบางบัวทองเหมือนกันค่ะพี่แอม
แต่เป็นด้านที่ยังไม่ท่วม
อยู่ไกลจากรพ.บางบัวทองไปสิบกว่ากิโล
เนี่ยก็โทรหากันทุกวัน
ช่วงนี้ใครๆ ก็เหนื่อยกันแย่ค่ะ
เค้าบอกย้ายของสำคัญขึ้นข้างบนหมด
กะเตรียมกระสอบทราย
เป็นชาวบ้าน ก็ทำได้แค่นี้เอง นิ



โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:15:31:15 น.  

 
บ้านทรงไทยภาคกลาง
แฝงภูมิปัญญาในการอยู่ร่วมกันธรรมชาติเอาไว้หมด
ไม่ว่าจะเป็นการยกพื้นสูง
เพราะน้ำท่วมสูง

ชายคายาวเพระากันฝนสาด

ฯลฯ

แล้วเราก็ลืมสิ่งต่างๆเหล่านี้ไปจนหมดสิ้น
เพราะมัวแต่ไปวิ่งตามเอกลักษณ์ฝรั่งครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:18:00:09 น.  

 
อ่านแล้วสะเทือนใจ เพราะทั้งหมดนั้น
ก็ฟังแม่และคุณตาคุณยายมาเยอะเหมือน
กัน แต่จะบอกให้นะครับ แม้เราจะเห็นว่า
บ้านใต้ถุนสูงมีประโยชน์ในการนี้ แต่บ้าน
ในกรุงเทพฯก็จำเป็นต้องใช้พื้นที่ชั้นล่าง
ให้คุ้มด้วย

ปัญหามันจึงอยู่ที่ว่า เมื่อที่ดินแพงมาก
จำเป็นต้องใช้พื้นที่ให้คุ้มอย่างที่ว่า ผังเมือง
ก็ควรจะมีการแก้ไขเรื่องนี้เพื่อรองรับให้
สอดคล้อง

และแหล่งนิคมอุตสาหกรรมควรอยู่ใน
ที่สูงอย่างน้อยก็สูงกว่าถนน ไม่ใช่อยู่ใน
แอ่งทั่วไปหมดอย่างที่เพิ่งได้เห็น

พูดไปเดี๋ยวจะโดนว่า พูดจาเหมือนคนดู
ฟุตบอล


โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:20:17:54 น.  

 
เรื่องสนามบิน 40 ปีที่ว่าพ่อผมเล่าให้ฟังว่าในหลวงเคยพูดไว้ว่าไม่เหมาะสมในการสร้าง แต่ก็นะนักการเมืองก็ดึงดัน จำได้ว่าแค่ถมทรายอย่างเดียวใช้เวลาไปกว่า 30 ปีแล้ว

คนไทยคนเก่งเยอะ แต่ไม่อยากเปิดตัวครับ ประเทศนี้เป็นแบบนี้แหละใครเก่งโดน (เล่นงาน) ก่อน


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:2:10:03 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่แอม






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:6:13:18 น.  

 
เหมือนที่แม่เล่าทุกอย่างเลยค่ะคุณแอมอร
สมัยก่อนที่บ้านแม่ก็บอกว่าน้ำท่วมเป็นเรื่องปกติ
เพราะว่ามันเป็นเรื่องของฝนฟ้า .. แต่ว่ามันไม่หนักหนา
เท่าตอนนี้เพราะว่าสิ่งก่อสร้าง บ้านเรือนและก็ธรรมชาติ
มันไม่เหมือนสมัยก่อน ต้นไม้ดูดน้ำ .. หายไปเยอะ น้ำเลยท่วมเร็ว
แหล่งน้ำมากแต่ว่าไม่มีที่ระบายออกอย่างเร็วมันก็ทำให้
น้ำขัง

เรียกว่าบ้านเมืองเรานี้ ..ถ้าไม่แก้ไขตรงนี้ก็รับรองว่า
ต้องเจออย่างนี้อีกเรื่อยๆ และมันจะรุนแรงมากขึ้น
คาดว่า ปีนี้ ยามนี้ เป็นตัวอย่างศึกษาอย่างดีที่ทุกคนจะต้อง
ระวังและให้ความสำคัญไม่แพ้กว่าการแก้ปัญหาอย่างอื่นล่ะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:11:35:36 น.  

 
ก็เอาที่นาไปทำอุตสาหกรรม


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:15:50:59 น.  

 


ราตรีสวัสดิ์ครับ น้องแอม



โดย: nulaw.m วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:22:50:50 น.  

 
พี่แอม สะเืืทือนใจไปเลยเนอะ
เอาที่น่าไปทำอุตสาหกรรมไปหมดเลย

ที่นาถูกกว้านซื้อทำโรงงานปล่อยน้ำเสียออกมาสุ่คลอง

แล้วธรรมชาิติมาทวงคืนกันแบบนี้

จะโทษใครได้เล่า

โรงานแต่ละแห่งการลงทุนไปเท่าไหร่

เยอะมาก ๆ เลยค่ะพี่แอม

เจอไปหลายนิคมแล้ว

ตอนนี้พากันปิดโรงงานกันเยอะเลย

สงสัยคนหนีกลับบ้านนอกไปก่อนด้วย
เห็นข่าวแล้

สงสารจริงๆ คะ่พี่แอม





โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 21 ตุลาคม 2554 เวลา:0:20:20 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่แอม









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 ตุลาคม 2554 เวลา:6:05:35 น.  

 




โดย: เจียวต้าย วันที่: 26 ตุลาคม 2554 เวลา:6:45:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

peeamp
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]




บางที ปลายทางก็ไม่ได้สำคัญมากไปกว่า


.....

สิ่งที่อยู่ระหว่างทาง


..............^^....
และความสุขในปัจจุบัน

ก็เป็นสิ่งที่เราจับต้องได้

....^^.....^^......


โดยไม่ต้องรอคอย

ความสุขของอนาคต



ปูปรุง








New Comments
Friends' blogs
[Add peeamp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.