Group Blog
 
All Blogs
 
ชุดที่ ๘ เมืองผลึกรับศึกเทศ ตอนที่ ๑

พระอภัยมณีฉบับเร่งรัด

ชุดที่ ๘ เมืองผลึกรับศึกเทศ

ตอนที่ ๑ “ เมื่อไรจึงได้มาเห็นหน้ากัน “

ฑ.มณฑา

เมื่อพระอภัยมณีได้ครองกรุงผลึก และอภิเษกกับนางสุวรรณมาลี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก้เกิดความคิดถึงพระบิดามารดาที่กรุงรัตนา เพราะตั้งแต่ออกจากเมืองเนื่องจากไปเรียนวิชาเป่าปี่ อันไม่เหมาะสมกับตำแหน่งรัชทายาทเมื่อครั้งกระโน้นก็เป็นเวลาเนิ่นนานมาแล้ว ไม่ได้ข่าวว่ายังเป็นสุขหรือไฉน แต่ครั้นจะไปเยี่ยมเยียนในเวลานี้ ก็เกรงว่าทางเมืองลังกา ที่ยังมีข้อแค้นเคืองกันอยู่ จะยกทัพมาทำศึกสงคราม ก็จะไม่มีใครป้องกันเมืองผลึก

พระอภัยมณีจึงมอบหมายให้ศรีสุวรรณพระอนุชา และสินสมุทโอรสที่เกิดจากนางผีเสื้อสมุทร กลับไปเยี่ยมท้าวสุทัศน์พระราชบิดา แล้วให้รีบกลับมาเพื่อที่จะได้ช่วยเหลือการศึกในภายหน้า ศรีสุวรรณก็ยินดีที่จะได้พานางอรุณรัศมีธิดาของตนไปเยี่ยมปู่ด้วย จึงสั่งให้อังกุหร่านายกองเรือจัดเตรียมการที่จะเคลื่อนขบวนกำปั่นไปในวันรุ่งขึ้น

นางสุวรรณมาลีก็เศร้าสร้อย ที่สินสมุทลูกเลี้ยงและหลานอรุณรัศมี จะต้องจากไปไกลในครั้งนี้

โอ้ลูกเอ๋ยเคยเห็นอยู่เย็นเช้า จะเปลี่ยวเปล่าอกแม่ชะแง้หา
เมื่อยากเย็นเห็นกันทุกวันมา ถึงพาราแล้วจะไปเสียไกลลับ
ยามเสวยเคยร่วมสุวรรณภาชน์ เมื่อไสยาสน์ยามหลับเคยรับขวัญ
ถึงยามสรงทรงสุคนธ์ปนสุวรรณ แม่เคยกันเกศเกล้าพระเมาลี
จะจากไปไกลเนตรทุเรศร้าง ฬครจะสางสระผมให้สมศรี
ทั้งทางไกลไปมาก็กว่าปี ถูกธุลีลมต้องจะหมองมัว

แล้วศรีสุวรณก็ลาพี่ชายพี่สะใภ้ พาลูกหลานมาลงเรือกำปั่น แล่นใบไปได้เดือนหนึ่งก็ถึงเมืองรมจักร ซึ่งนางมณฑามารดาของนางเกษรา ยกให้ศรีสุวรรณครอบครองทั้งเมืองทั้งธิดา แต่ศรีสุวรรณได้ฝากเพื่อนพราหมณ์ วิเชียน โมรา สานน อยู่ดูแล ในระหว่างที่ตนเองออกไปตามหาพี่ชาย เมื่อแวะเยี่ยมมเหสีเกษราได้สามวันแล้ว ก็เดินทางต่อไปอีกเดือนหนึ่งก็ถึงกรุงรัตนา ท้าวสุทัศน์ และนางประทุมมเหสีก็ดีใจมาก ที่โอรสซึ่งจากไปนานกว่าสิบปี ได้พาหลานมาให้เชยชมถึงสองคน

ศรีสุวรรณก็เล่าเรื่องที่ผ่านมา ตั้งแต่พลัดพรากจากพระอภัยมณี เพราะนางผีเสื้อสมุทรลักพาตัวไป จนเกิดสินสมุท ส่วนตนเองได้ครองเมืองรมจักร และอภิเษกกับนางเกษรา จนเกิดนางอรุณรัศมี แล้วจึงได้พบกับพระอภัยซึ่งได้ครองเมืองผลึก อภิเษกกับนางสุวรรณมาลี แต่ที่ไม่ได้พามาด้วยก็เพราะต้องอยู่รักษาเมืองผลึก ซึ่งกำลังมีศึกติดพันกันอยู่ ท้าวสุทัศน์ก็ชื่นชมหลานชายหญิง ที่เพิ่งจะได้พบหน้ากัน

ประโลมลูบจูบจอมถนอมแนบ น้อยหรือแทบย่าปู่ไม่รู้จัก
ล้วนละม้ายคล้ายพ่อนรลักษณ์ พลางเชยพักตร์พิศวาสนาถนัดดา
กุมารชายฝ่ายท้าวสุทัศน์อุ้ม นางประทุมกอดอรุณอุ่นหนักหนา
ทรงสำรวลสรวลสันต์จำนรรจา ด้วยนัดดาโอรสยศยง

ส่วนทางกรุงผลึกนั้น พระอภัยมณีก็จัดการให้บำเหน็จรางวัลแก่พวกพ้องชาวเรือแตก ที่มาจากเกาะแก้วพิศดารด้วยกัน และได้ช่วยราชการสงครามจนมีชัยแก่อุศเรนโอรสเจ้ากรุงลังกา โดยประทานเมียสาวให้ตามเผ่าพันธุ์ภาษาของแต่ละคน ให้เงินอีกคนละห้าร้อยชั่ง พร้อมด้วยกำปั่นบรรทุกข้าวปลาอาหาร และบ่าวไพร่อีกคนละร้อย เหมือนกันหมดทั้งร้อยคน บรรดาพวกเรือแตกทั้งสิบสองภาษาเหล่านั้นก็ดีใจ พากันกลับไปบ้านเมืองเดิมของตน และอาสาจะช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่องศัตรูที่จะมาย่ำยีกรุงผลึกให้ต่อไป

พวกจีนแล่นแผนที่ตะวันออก ออกเส้นนอกแหลมเรียวเลี้ยวเฉลียง
ไปกังตั๋ง กังจิ๋ว จุนติ๋วเชียง เข้าลัดเลี่ยง อ้ายมุ้ย แล่นฉุยมา
ทั้งพวกแขกแยกเยื้องเข้าเมืองเทศ อรุมเขต คุ้งสุหรัด ปัตหนา
ไปปะหัง ปังกะเราะ เกาะชวา มะละกา กะเลหวัง ตรังกานู
วิลันดามาแหลมโล้บ้านข้าม เข้าคุ้งฉลาม แหลมเงาะ เกาะราหู
อัดแจจาม ข้ามหน้ามลายู พวกญวนอยู่เวียตนามก็ข้ามไป
ข้างพวกพราหมณ์ข้ามไปเมืองสาวถี เวสาลี หูโลม โรมวิสัย
กบิลพัศดุ์ โรมพัฒน์ ถัดถัดไป เมืองอภัยสาลีเป็นที่พราหมณ์
ข้างพวกไทยได้ลมก็แล่นรี่ เข้ากรุงศรีอยุธยาภาษาสยาม
พม่ามอญย้อนเข้าอ่าวพุกาม ฝรั่งข้ามฟากเข้าอ่าวเยียระมัน

เมื่อจัดการบ้านเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มีความสุขสำราญอยู่กับนางสุวรรณมาลี มเหสีที่กว่าจะได้อภิเษกก็แสนจะยากเย็น จนมีพริดาแฝดสององค์ ให้ชื่อว่า สร้อยสุวรรณ กับ จันทร์สุดา

แล้วพระองค์ทรงสำราญผ่านสมบัติ แต่นางกัตริย์มเหสีนั้นขี้หึง
เห็นโปรดใครใหญ่ขึ้นก็มึนตึง จึงทรงครรภ์ไม่ทันถึงในครึ่งปี
ครั้นคลอดราชธิดาเป็นฝาแฝด ดังทองแปดนพคุณจรูญศรี
ไม่คลาดเคลื่อนเหมือนกันสิ้นทั้งอินทรีย์ พระอัยกีก็รักใคร่กระไรเลย
เห็นหลานมากอยากเลี้ยงเข้าเคียงข้าง พระทัยนางนึกนิยมชมลูกเขย
แล้วว่าดีมีถมหรอกนมเนย ขอให้เคยคู่แฝดสักแปดคราว

ทางฝ่ายสุดสาครซึ่งอยู่ที่เมืองการะเวกนั้น ก็เลี้ยงน้องที่เป็นทายาทของพระสุริโยทัย กับมเหสีจันทวดีสองคน คือ นางเสาวคนธ์กับหัสไชย เพลิดเพลินอยู่จนเวลาล่วงไปถึงสิบปี ก็เกิดรำลึกขึ้นมาได้ว่า ตนได้ลาพระเจ้าตาออกจากเกาะแก้วพิศดารมา ก็เพื่อจะเที่ยวตามหาพระอภัยมณีผู้เป็นบิดา และสินสมุทพี่ชาย แต่กลับมาหลงความสุขอยู่ในวังเมืองการะเวกจนถึงป่านนี้ จึงคิดจะลาพระเจ้ากรุงการะเวก ออกไปติดตามหาพระบิดา แต่ผู้เดียวกับม้ามังกร จึงสั่งเสียน้องทั้งสอง

แม่นงเยาว์เสาวคนธ์อย่าซนวิ่ง เป็นผู้หญิงเนื้อตัวจะมัวหมอง
พระอนุชาอย่าไปเต้นเล่นคะนอง อยู่ในห้องหัดหนังสืออย่าดื้อดึง
พลางสวมสอดกอดสองพระน้องแก้ว แม้ไปแล้วพี่จะนึกรำลึกถึง
ไม่รู้เรื่องเมืองผลึกยังลึกซึ้ง เมื่อไรจึงจะได้มาเห็นหน้ากัน

แต่ทั้งสองพี่น้องไม่ยอมให้สุดสาครไปคนเดียว จะขอตามไปด้วย ถึงจะห้ามปรามอย่างไรก็ไม่ฟัง จึงพากันไปเฝ้าพระบิดาพร้อมกันทั้งสามองค์ สุดสาครก็ขอลาไปคนเดียว เจ้ากรุงการะเวกก็ไม่ห้าม แต่ให้จัดพลโยธีลงเรือสักพันลำ ไปส่งให้ถึงเมืองผลึก สุดสาครก็ว่าอย่าต้องให้ลำบากถึงเพียงนั้นเลย ไปตามลำพังกับม้ามังกรจะสะดวกกว่า สองพี่น้องก็อ้อนวอนพระบิดา ขอตามสุดสาครไปด้วย

เจ้ากรุงการะเวกก็สงสารลูก ว่ารักใคร่สนิทสนมกลมเกลียวกันมาตลอดเวลาสิบปี ถ้าจะแยกจากกันก็จะเป็นการทำลายจิตใจลูก จึงอนุญาตให้ไปได้และสั่งให้จัดเรือกำปั่นร้อยลำ เอาไพร่พลบงเรือไปห้าหมื่นคน มีอาวุธน้อยใหญ่ครบเป็นกองทัพเรือ ส่วนเรือลำทรงนั้นเป็นเรือใหญ่ ยาวสามเส้นมีห้องหับเรียบร้อย ตกแต่งเหมือนอย่างอยู่ในวัง มีพี่เลี้ยงนางกำนัลครบตามตำแหน่ง

ฝ่ายโฉมจันทวดีนารีราช แสนสวาทลูกน้อยละห้อยไห้
จะจากวังทั้งสามตามกันไป เป็นจนใจที่จะขัดจะทัดทาน
จัดสุรางค์นางสนมพี่เลี้ยงพร้อม ทั้งคนกล่อมกล่าวเกลี้ยงล้วนเสียงหวาน
เจ้าขรัวนายสำหรับบังคับการ ตรวจเครื่องอานพร้อมเพรียงจนเสียงเครือ
เร่งให้คนขนส่งลงกำปั่น ทั้งกำนัลน้อยใหญ่ดีใจเหลือ
พอรุ่งรางต่างคนมาลงเรือ มีหมอนเสื่อสารพัดจัดประจง

เมื่อกองทัพเรือของกรุงการะเวกแล่นออกสู่ปากน้ำ สุดสาครก็บริกรรมคาถาเรียกม้ามังกรให้ขึ้นมาบนเรือ แล้วสั่งว่าในเวลากลางวันจะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ตามใจ แต่เวลาค่ำต้องกลับมานอนที่กำปั่นลำทรงนี้

กองเรือเดินทางมาได้สิบห้าวัน ก็ถึงเกาะกาวินจึงแวะจอดเรือเข้าไปหาน้ำท่ามาเป็นเสบียงบนเรือ เกาะนี้เป็นที่อาศัยของผีเสื้อยักษ์ พอได้กลิ่นมนุษย์มันก็พากันบินมาฝูงใหญ่นับหมื่นแสน แต่ละตัวโตใหญ่ขนาดแบเอาผู้คนไพร่พลจากเรือ ขึ้นไปบนเกาะได้

สุดสาครกับน้องออกมาจากห้อง ผีเสื้อก็โฉบเอาเสาวคนธ์และหัสไชยไปได้ สุดสาครจึงฉวยไม้เท้าวิเศษ ขึ้นหลังม้ามังกรรีบตามขึ้นไปบนเกาะ เข้าฟาดฟันกับหมู่ผีเสื้อ จนตายยับเยินไปเป็นอันมาก ต้องทิ้งผู้คนและน้องทั้งสองลง

สุดสาครก็อุ้มน้องขึ้นม้ามังกร พากลับมาที่เรือกำปั่นให้อยู่แต่ในห้อง และสั่งการให้ลูกเรือถอนสมอกางใบเรือเตรียมออกเดินทาง แต่ตนเองคว้าเกาทัณฑ์เขาควาย ขึ้นม้ามังกรกลับไปที่เกาะ ข้ามป่าละเมาะไปจนถึงเนินเขา หน้าถ้ำนางพญาผีเสื้อยักษ์ ใหญ่ตัวเท่าช้าง นอนจำศีลอยู่ สุดสาครก็เอาเกาทัณฑ์ยิงถูขมับถึงสองครั้ง แต่ไม่ระคายผิวหนัง ผีเสื้อยักษ์ก็โมโหโกรธาคลานออกมาจากถ้ำ พอบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ก็ถูกฟ้าผ่าเปรี้ยง หัวขาดกระเด็นตกลงมาตายคาที่ สุดสาครก้เข้าไปควักแก้วตาผีเสื้อมาได้ทั้งสองดวง

เมื่อกลับมาถึงเรือกำปั่น สุดสาครก็ให้ช่างในเรือทำสายสร้อยเพ็ชร ประดับแก้วตาผีเสื้อยักษ์ ผูกข้อมือน้องทั้งสองให้ติดตัวไว้ป้องกันอันตราย แล้วก้ออหกเรือเดินทางต่อไปอีกสามเดือน ก็เข้าเขตกรุงผลึก เห็นกองตระเวนเรือกวดขันเหมือนกับอยู่ในระหว่างศึกสงคราม จึงจอดพักอยู่ที่หน้าด่าน แล้วให้นายด่านเข้าไปกราบทูลพระเจ้ากรุงผลึก ให้ทราบควมว่าบัดนี้ได้มีโอรสชื่อสุดสาคร จะมาขอเฝ้าพระบิดา

แต่ขณะนั้นทางกรุงผลึกกำลังมีเรื่อง เดือดร้อนวุ่นวายอย่างใหญ่หลวง สุดสาครจึงต้องจอดเรือรออยู่ที่ด่านนั้นนานสักหน่อย เหตุการณ์ภายในเมืองเป็นอย่างไร ก็จะได้นำมาขยายให้ทราบ ในตอนหน้า.

##########



Create Date : 20 มีนาคม 2551
Last Update : 20 มีนาคม 2551 20:00:12 น. 4 comments
Counter : 548 Pageviews.

 
ใกล้จบแล้วหรือเนี่ย


โดย: ข้าวโพดแมวติสต์แตก วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:18:50:08 น.  

 
ยังครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:5:38:25 น.  

 
สุดสาครจะได้เจอพ่อแล้ว....

ตอนนี้สุดสาครก็โตเป็นหนุ่มแล้ว ...ใครจะเป็นคู่ครองของสุดสาครล่ะครับ


โดย: วิรุฬห์ IP: 124.120.234.95 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:51:25 น.  

 
ก็พี่น้องเมืองการะเวกไงครับ เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก
จะไปไหนเสีย.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 23 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:25:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.