Group Blog
 
All Blogs
 
ชุดที่ ๖โชคสองชั้นของพระอภัยมณี ตอนที่ ๑

พระอภัยมณีฉบับเร่งรัด

ชุดที่ ๖ โชคสองชั้นของพระอภัยมณี

ตอนที่ ๑ "กระดาษแทนแผ่นทองประคองเขียน"

ฑ.มณฑา

เมื่อ อุศเรน พากองเรือที่เหลือจากการรบ พร้อมด้วยความเจ็บป่วยทางกายและความแค้นแน่นในอุรา กลับไปยังกรุงลังกาแล้ว สินสมุท ก็นำขบวนเรือของตน ซึ่งมี นางสุวรรณมาลี ศรีสุวรรณ และ อรุณรัศมี พร้อมด้วย พระอภัยมณี มุ่งหน้ากลับ ไปกรุงผลึกของนางสุวรรณมาลีบ้าง แต่ด้วยความที่เป็นเรือใหญ่แล่นได้ช้าจึงเสียเวลาโต้คลื่นอยู่ในท้องทะเล เป็นเวลานานแรมเดือน

พระอภัยมณีก็กลัดกลุ้มอยู่ในใจ ที่นางสุวรรณมาลีไม่ยอมให้เห็นหน้าเลย คงหลบอยู่แต่ในห้องพักของตน กับลูกเลี้ยงหลานเลี้ยงทั้งสองเท่านั้น พระอภัยจึงได้เขียนเพลงยาวฝากให้สินสมุทนำสารไปให้แม่เลี้ยง ซึ่งนางก็รู้ทันว่าจะถูกเกี้ยวจึงไม่ยอมอ่าน สินสมุทพ่อสื่อตัวดี ก็อ้อนวอนอยากจะฟังคารมของพ่อ ซึ่งเป็นเนื้อความออดอ้อนตามแบบฉบับ

"กระดาษแทนแผ่นทองประคองเขียน ด้วยพากเพียรพยายามตามสมร
จนเรือแตกแยกย้ายกระจายจร แต่อาวรณ์หวังสวาทไม่ขาดวั
ถึงตายแล้วแคล้วคลาดในชาตินี้ ขอให้พี่ขึ้นไปปะบนสวรรค์
เป็นบุญปลอดรอดมาเห็นหน้ากัน ไฉนขวัญนัยนาไม่ปราณี
หรืองามปลื้มลืมคำที่ร่ำว่า พอเห็นหน้าน้องก็เดินทำเมินหนี
เหมือนแค้นเคืองปลดหมดไมตรี เมื่อไม่มีความผิดสักนิดเดียว
ไม่ไต่ถามความจริงมานิ่งโกรธ ประทานโทษเถิดแม่คุณอย่าฉุนเฉียว
ไม่ลวงหลอกดอกสักสิ่งจริงจริงเจียว อย่าโกรธเกรี้ยวให้ช้ำระกำกรอม
แม่ขวัญเมืองเคืองแค้นพี่แสนทุกข์ ไม่มีสุขโศกรูปจนซูบผอม
ทุกเช้าค่ำกำสรดสู้อดออม หวังถนอมเสน่ห์นวลสงวนงาม
นึกจะใคร่ไปเยือนเหมือนหนึ่งญาติ เห็นกริ้วกราดเกรงใจจึงไต่ถาม
ถ้าโทษพี่นี้ผิดอย่าปิดความ จงตอบตามใจจริงทุกสิ่งเอย"

นางสุวรรณมาลีนั้น แม้ว่าจะได้รักพระอภัยอยู่ตั้งแต่ได้พบกันครั้งแรกที่เกาะแก้ว พิศดารแล้ว เมื่อพระอภัยอาศัยลงเรือ ท้าวสิลราช พระบิดาของนางกลับเมือง ก็เคยได้แลกแหวนกับสร้อยสังวาลย์ไว้เป็นพยาน แต่เมื่อเรือแตกอีกครั้ง นางอยู่ข้างสินสมุทร แต่พระอภัยไปอยู่ฝ่ายอุศเรน คู่หมั้นหมายของนางสุวรรณมาลี พระอภัยเห็นแก่ความถูกต้อง และเพื่อตอบแทนบุญคุณของอุศเรน จึงจำใจต้องเก็บความรู้สึกของตนไว้ในอก นางสุวรรณมาลีไม่เข้าใจก็คิดว่าพระอภัยลืมความหลัง จึงแค้นนักไม่ยอมคืนดีด้วย ทีแรกตั้งใจจะไม่ตอบเพลงยาว สินสมุทก็อ้อนวอนอีก นางจึงเขียนตัดสวาท ให้ขาดสะบั้นไปเลย

"จงคิดว่าข้าน้อยนี้เหมือนบุตร ให้ซื่อสุจริตจิตอย่าคิดไฉน
ถ้าทำสัตย์เสียด้วยกันแล้ววันไร จะได้ไปเฝ้าแหนแทนบิดา
เป็นอันขาดชาตินี้ไม่มีผัว แม้นทำชั่วเชิญพระองค์ลงโทษา
จงออกโอษฐ์โปรดตรัสสัตย์สัญญา ที่พูดจาไว้แต่หลังอย่าหวังคิด
ซึ่งซักถามตามระบอบให้ตอบถ้อย เหมือนฟื้นฝอยหาตะเข็บให้เจ็บจิต
ช่วยเฉลี่ยเกลี่ยไกล่เสียให้มิด ด้วยชอบผิดพระก็รู้อยู่แก่ใจ
แต่ยามยากปากน้องนี้น้ำท่วม มิได้ร่วมเรียงชิดพิสมัย
ถึงลดเลี้ยวเกี้ยวพานประการใด ก็ไม่ได้ดอกพระองค์อย่าสงกา
น้องตั้งสัตย์ตัดขาดแล้วชาตินี้ อันสามีขี้ขลาดไม่ปรารถนา
จะขออยู่ผู้เดียวด้วยลูกยา เป็นสัจจาใจจริงทุกสิ่งเอย"

พระอภัยก็หน้าแห้งไป แม้จะส่งสารไปอีกกี่ฉบับ ก็ไม่ทำให้นางใจอ่อนลงได้ จนต้องออกอุบายหลอกสินสมุทให้ไปหาศรีสุวรรณ แล้วหน่วงเหนี่ยวตัวไว้ ตนเองแอบเข้าไปหานางสุวรรณมาลีถึงที่พัก แต่ปรากฏว่านางก็รู้ทัน พอเห็นลูกเลี้ยงหายไปนานผิดสังเกต ก็รีบแต่งตัวเป็นชายชาวกะลาสี แอบออกไปเดินเล่นอยู่ภายนอกที่พัก พระอภัยอุตส่าห์เสกแป้งแต่งกายเป็นอันดี จึงต้องกอดแต่หมอนข้างที่วางไว้แทนกาย ขายหน้านางสาวสนมกำนัลไปหลายเบี้ย ต้องยึดเอาผ้าสะใบไปห่มแก้เก้อ และตั้งแต่นั้นก็ไม่ได้พบหน้านางสุวรรณมาลีอีกเลย

จนกระทั่งขบวนเรือได้มาถึงเมืองผลึก นางสุวรรณมาลีก็ขอพาลูกหลานเข้าไปเฝ้าพระมารดาก่อน แล้วจะออกมาเชิญให้พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณ ไปพักผ่อนในเมืองผลึกสักเดือนหนึ่ง จึงค่อยกลับไปยังกรุงรัตนาบ้านเกิดของสองพี่น้อง นางมณฑา ซึ่งเป็นมเหสีของท้าวสิลราช พระมารดาของนางสุวรรณมาลีได้พบหน้าพระธิดาและได้ทราบข่าวพระสวามี ที่พลัดหายไปในท้องทะเลแล้ว ก็โศกเศร้าโสกาอาดูรเป็นอันมาก ครั้นค่อยสร่างโศกแล้วนางสุวรรณมาลีก็แนะนำสินสมุทรและอรุณรัศมี ให้กราบพระมารดา แล้วจึงเล่าเรื่องที่ได้รับความช่วยเหลือ จากสินสมุทร พระอภัยมณี และศรีสุวรรณให้ทราบ

นางมณฑาจึงยกกรุงผลึก ให้พระอภัยมณีครอบครองสืบแทนท้าวสิลราช ด้วยถือว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อพระธิดา ได้พากลับมาบ้านเมืองได้ พระอภัยมณีก็ถ่อมตัวว่าไม่ได้ทำอะไรเลย เดิมก็ขออาศัยโดยสารเรือท่านท้าวสิลราชจะกลับบ้านเมือง เมื่อรบกับโอรสของเจ้ากรุงลังกาก็มิได้ช่วยเหลือ จนมีความผิดติดตัวมาทุกวันนี้ เมื่อได้มาส่งถึงเมืองเรียบร้อยแล้วก็จะขอลากลับไป

นางมณฑานั้นอยากจะได้พระอภัยมณีไว้เป็นเขยขวัญ จึงอ้อนวอนขอให้พระอภัยรับราชสมบัติกรุงผลึกจนได้

"จึงมอบราชสมบัติทั้งฉัตรชัย ให้อยู่ในปราสาททองอันรองเรือง
แล้วเลือกเหล่าสาวสุรางค์นางน้อยน้อย ที่เรียบร้อยรุ่นราวทั้งขาวเหลือง
เป็นโมงยามปรนนิบัติไม่ขัดเคือง ทั้งงานเครื่องงานกลางสำอางตา"

พระอภัยจึงครอบครองกรุงผลึกเป็นที่เกษมสำราญทุกประการ แต่ในใจนั้น ก็หวังจะได้อภิเษกกับนางสุวรรณมาลีอยู่เสมอ ซึ่งนางก็รู้ตัวเป็นอย่างดีจึงหาอุบายขอลาพระมารดาไปบวช นางมณฑาก็ทักท้วงว่าถึงเดือนหน้าก็จะจัดงานอภิเษก ให้เป็นมเหสีพระอภัยอยู่แล้วจะทำอย่างไร นางสุวรรณมาลีขอผัดผ่อนว่า ให้ได้บวชรักษาศีลถวายกุศลแก่พระบิดาเสียก่อน เพราะได้บนตัวไว้ หลังจากนั้นก็คงไม่มีอะไรขัดข้อง

"อยู่กำปั่นนั้นเธอเฝ้าแต่เข้าหา ยังอุตส่าห์มิให้พบเที่ยวหลบหนี
แม้นหมายมาดปรารถนาตรงสามี ป่านฉะนี้ก็เป็นเมียเธอเสียแล้ว
เดี๋ยวนี้เล่าสาวสนมเป็นไหนไหน เห็นจะไม่พันผูกถึงลูกแก้ว
จงทรงพระอนุญาตอย่าคลาดแคล้ว จงผ่องแผ้วภิญโญโมทนา"

นางมณฑาไม่รู้จะทัดทานอย่างไร จึงให้ไปขออนุญาตพระอภัยซึ่งได้เป็นเจ้ากรุงผลึกอยู่ในขณะนั้น ซึ่งมีสิทธิขาดอยู่แต่ผู้เดียว แล้วแต่จะยอมหรือไม่

นางสุวรรณมาลีก็ดีใจ พาสาวสรรค์กำนัลใน จัดดอกไม้ธูปเทียนไปลาพระอภัยมณีออกบวช ตามที่ได้บนตัวเอาไว้เมื่อครั้งเรือแตกกลางทะเล

"ประณตนั่งตั้งธูปเทียนบุบผา แล้ววันทาทูลถวายฝ่ายกุศล
ข้าขอบังคมลาฝ่ายุคล ด้วยได้บนตัวมาในวารี
จะไปบวชตรวจน้ำให้บิตุเรศ อยู่ขอบเขตเขารุ้งริมกรุงศรี
พระโฉมยงจงสำราญผ่านบุรี ให้เป็นที่พึ่งพาประชากร “

พระอภัยก็ใจหาย แสนเสียดายว่านางอยู่แค่เอื้อมแล้ว จะมาต้องพลัดพรากจากกันไปเป็นคนละเพศอีก

"ไม่เหมือนคิดผิดคาดประหลาดหนอ เห็นรอมร่อหรือมาร้างให้ห่างแห
จึงว่าพี่นี้ชะรอยบุญน้อยแท้ จะตั้งแต่ตรอมตรมระทมทวี
ถึงพาราว่าจะสมอารมณ์คิด หรือดวงจิตจะมาอางขนางหนี
เมื่อโฉมยงทรงพรตดาบสินี ก็ตัวพี่นี้จะอยู่กับผู้ใด"

ทั้งสองก็ตัดพ้อต่อว่าเล่นสำนวนกันอยู่พอควร

"ทั้งแสนสาวชาวแม่ออกแซ่ซ้อง แต่ตัวน้องดอกจะลารักษาศีล
ไม่ไกลใกล้ไปมาริมธานินทร์ ใช่จะสิ้นคืนวันดังบัญชา"

ฯลฯ

"พระฟังนางเปรียบประเทียบถ้อย ล้วนเรียบร้อยรื้อว่ามารศรี
อันตัวพี่ฝีปากไม่อยากดี จะพาทีห้ามปรามก็ขามใจ
แต่จะถามตามจริงสักสิ่งหนึ่ง จะถือโทษโกรธขึ้งไปถึงไหน
หากจะว่าถ้าพี่มิให้ไป จะขืนใจหรือสมรจะผ่อนตาม"

"นางนบนอบตอบว่าถ้าเช่นนั้น กระหม่อมฉันก็ต้องสนองถาม
ว่าเกี่ยวข้องน้องไฉนในใจความ จึงห้ามปรามโปรดเล่าให้เข้าใจ"

"พระยิ้มพลางทางสนองว่าน้องรัก ที่รมจักรเจ้าไปเล่าบอกเขาไฉน"

"นางว่าเล่าเขาก็จริงทุกสิ่งไป แต่จริงใจนั้นจริงยิ่งกว่าคำ"

สุดท้ายพระอภัยก็ต้องยอมให้นางสุวรรณมาลีออกบวช แต่อยากจะได้คำมั่นสัญญาว่าเมื่อไรจะสึก

"นางแกล้งว่าน่ารำคาญด้วยผ่านเกล้า มีแต่เซ้าซี้ซักเสียหนักหนา
ฉวยบวชไปไม่ถึงวันที่สัญญา เป็นวาจากรรมเปล่าไม่เข้าการ"

พระอภัยมณีก็สุดที่จะทัดทานไว้ได้อีกจำต้องยอมอนุญาต นางสุวรรณมาลี จึงไปบวชเป็นชีอยู่ที่เขาศีขรินทร์ สินสมุทกับอรุณรัศมีก็ตามไปบวชด้วยรวมทั้งนางกำนัลอีกเป็นจำนวนมาก.

################



Create Date : 18 มีนาคม 2551
Last Update : 18 มีนาคม 2551 11:52:20 น. 4 comments
Counter : 659 Pageviews.

 
อ้าวคราวนี้พระอภัย ใช้คารมกล่อมไม่สำเร็จแฮะ


โดย: ข้าวโพดแมวติสต์แตก วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:18:12:54 น.  

 
คนเป็นพระเอกไม่ต้องทำอะไรมากหรอกครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:5:33:15 น.  

 
น้องตั้งสัตย์ตัดขาดแล้วชาตินี้ อันสามีขี้ขลาดไม่ปรารถนา.
..........................................................................
พระอภัยคงหน้าหงายไปเลย แต่ก็ยังตื้ออยู่นั่น
งานนี้ไม่ง่ายแฮะ...


โดย: วิรุฬห์ IP: 124.122.150.112 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:15:32 น.  

 
คนเจ้าชู้ต้องหน้าทนครับ
เขาว่า ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก เป็นความจริงมาตั้งนานแล้วครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:39:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.