"ไม่มีใครผู้ใด ที่จะทำให้เรา พ้นทุกข์ได้ ตัวของเราเท่านั้น ที่จะทำให้เรา พ้นทุกข์ได้"

สมาชิกหมายเลข 5067499
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ศึกษาและปฏิบัติธรรม มากกว่า 38 ปี
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 5067499's blog to your web]
Links
 

 
89. มาฆบูชา...โอวาทปาฏิโมกข์



วันมาฆบูชา ถือว่า เป็นวันที่มีความสำคัญอย่างมาก สำหรับพวกเราชาวพุทธ
 
เพราะ เป็นวันที่พระพุทธองค์ ทรงแสดงหลักธรรม อันมีความสำคัญอย่างมาก คือ "โอวาทปาฏิโมกข์ 3"
 
***************
 
โอวาทปาฏิโมกข์ 3 เป็นหลักปฏิบัติ เพื่อความพ้นทุกข์ หรือ ดับทุกข์
 
โอวาทปาฏิโมกข์ 3 เป็นแก่นแกนของหลักธรรมทั้งหลาย ถือว่า “เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา”
 
โอวาทปาฏิโมกข์ 3 ประกอบด้วย
 
1.การไม่ทำบาปทั้งปวง (สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง
 
2.การทำกุศลให้ถึงพร้อม (กุสะลัสสูปะสัมปะทา)
 
3.การทำจิตใจให้บริสุทธิ์ (สะจิตตะปะริโยทะปะนัง)
 
***************
 
เพราะว่า
 
สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม (กมฺมุนา วตฺตตีโลโก)
 
กรรมดี หรือ กุศลกรรม มีผลเป็น วิบากกรรมดี หรือ กุศลวิบาก คือ การได้รับ หรือ การได้ประสบกับ “สิ่งที่ดีๆทั้งหลาย” (ทำให้เป็นสุข)
 
กรรมไม่ดี หรือ อกุศลกรรม มีผลเป็น วิบากกรรมไม่ดี หรือ อกุศลวิบาก คือ การได้รับ หรือ การได้ประสบกับ “สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย” (ทำให้เป็นทุกข์)
 
กิเลส ตัณหา และอุปาทาน ที่ครอบงำจิตใจของคนเราอยู่ คือสิ่งชักนำจิตใจของคนเรา ให้คนเรา “ทำกรรมไม่ดี หรือ อกุศลกรรม” โดยมี “โลกียสุข” เป็นเหยื่อล่อ (เป็นอกุศลมูล)
 
ดังนั้น
 
ถ้าพวกเราต้องการจะพ้นทุกข์ หรือ ดับทุกข์
 
พวกเราต้องปฏิบัติตาม “โอวาทปาฏิโมกข์ 3” ทั้ง 3 ข้อ คือ
 
1. ไม่ทำบาปอกุศลทั้งปวง ทั้งทางกาย ทางวาจา และ ทางใจ หมายถึง ไม่สร้างอกุศลวิบาก หรือ วิบากกรรมที่ไม่ดี มาเติมเพิ่มให้กับชีวิต
 
2. ทำกุศลให้ถึงพร้อม ทั้งทางกาย ทางวาจา และ ทางใจ หมายถึง หมั่นสร้างกุศลวิบาก หรือ วิบากกรรมดี มาเติมเพิ่มให้กับชีวิต
 
3. ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ หมายถึง หมั่นชำระล้าง กิเลส ตัณหา และ อุปาทาน ซึ่งเป็นอกุศลมูล หรือ มูลเหตุของอกุศล ออกไปจากจิตใจ ให้หมดสิ้น เพื่อทำให้จิตใจ สะอาดบริสุทธิ์
 
***************
 
 การปฏิบัติธรรม เพื่อความพ้นทุกข์ หรือ ดับทุกข์
 
คือ การปฏิบัติตาม “โอวาทปาฏิโมกข์ 3”
 
โดยใช้ “มรรคมีองค์ ๘” เป็นแนวทางในการปฏิบัติ
 
และใช้ “ศีล สมาธิ และ ปัญญา (ไตรสิกขา)” ขับเคลื่อน
 
***************
 
อกุศลมูล[อะกุสนละมูน] หมายถึง น. รากเหง้าแห่งความชั่ว มี ๓ อย่าง คือ โลภะ โทสะ โมหะ (พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน)
 
ชาญ คำพิมูล
16/2/2565 วันมาฆบูชา

 


Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2565
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2565 7:03:03 น. 2 comments
Counter : 613 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว


 
เห็น หัวข้อเรื่องด้านธรรมมะ เลยเข้ามาดูเพราะผมเพิ่งเขียน
เกี่ยวกับ ธรรมมะ สมาธิ..เหมือนกัน

สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม... ผมจำคำนี้ได้จาก หนังสือเกี่ยว
กับพอจ.จรัญ แห่งสิงห์บุรี ผมอ่านหนังสือที่ รศ.สุทัศศา อ่อนค้อม
ไม่ต่ำกว่า 7 รอบครับ

ผมเองก็ทำงาน กลางคืนนาน เข้าสู่การกีฬา จ๊อกกิ้งแล้วจึงสนใจ
ด้านสมาธิครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:5:45:21 น.  

 
สาธุครับ คุณไวน์กับสายน้ำ ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ ขอให้เจริญในธรรม ยิ่งๆขึ้นไป นะครับ


โดย: chancamp (chancamp ) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:5:06:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.