77. จงอย่าหลงยึดมั่นถือมั่น ในร่างกายของตน
ร่างกายของเรานี้
ไม่ว่าเราจะดูแลอย่างไร? ดีแค่ไหน?
สุดท้ายแล้ว
ก็ต้องแก่ ต้องเฒ่า ต้องตาย และ ต้องนำเอาไปเผา
***************
ไม่มีผู้ใด ที่จะสามารถหยุดยั้ง “ความหนุ่มความสาว” เอาไว้ได้ยาวนาน
ไม่ช้าไม่นาน ผิวกายของเรา ก็ต้องเหี่ยวต้องย่น
ไม่ช้าไม่นาน เส้นผมของเรา ก็ต้องหงอกต้องขาว
ไม่ช้าไม่นาน ร่างกายของเรา ก็ต้องแก่ต้องเฒ่า
ไม่ช้าไม่นาน ตัวของเรา ก็ต้องตาย จากโลกนี้ไป
***************
และ ไม่มีสิ่งใด ที่จะสามารถหยุดยั้ง “ไม่ให้เราต้องแก่และไม่ให้เราต้องตาย” ได้
ไม่ว่าวิทยาการทางการแพทย์ จะเจริญก้าวหน้าไป มากมายแค่ไหน
ก็ไม่สามารถจะช่วยหยุดยั้ง “ไม่ให้เราต้องแก่และไม่ให้เราต้องตาย” ได้
อย่างมาก ที่สามารถจะช่วยได้ คือ ช่วยให้ชะลอวัยได้บ้าง และ ช่วยยืดอายุขัยได้บ้าง แต่ไม่มากนัก
***************
ไม่ว่าจะแก่ช้า หรือ แก่เร็ว ก็ต้องแก่
ไม่ว่าจะตายช้า หรือ ตายเร็ว ก็ต้องตาย
เพราะ ไม่มีผู้ใด ที่จะสามารถล่วงพ้นความแก่ไปได้
และ ไม่มีผู้ใด ที่จะสามารถล่วงพ้นความตายไปได้
***************
๗. ฐานสูตร
ว่าด้วยฐานะที่ควรพิจารณาเนืองๆ
[๕๗] ภิกษุทั้งหลาย ฐานะ ๕ ประการนี้
ที่สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต ต้องพิจารณาเนืองๆ
ฐานะ ๕ ประการ อะไรบ้าง
คือ สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต ควรพิจารณาเนืองๆ ว่า
๑. เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้
๒. เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้
๓. เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
๔. เราจะต้องพลัดพราก จากของรักของชอบใจ ทั้งสิ้น
๕. เรามีกรรมเป็นของตน เป็นผู้รับผลของกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมใดไว้ จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม ย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
{ที่มา: โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม: ๒๒ หน้า: ๙๙-๑๐๐}
***************
ในความเป็นจริงแล้ว
ร่างกายของเรา เป็นแค่พียง ที่อาศัยชั่วคราวของชีวิตและจิตใจของเรา เท่านั้นเอง
ดังนั้น เราจึงไม่ควร “ไปหลงใหลและไปหลงยึดมั่นถือมั่น” ในร่างกายของเรา
***************
จงอย่าทุกข์ใจ และ จงอย่าวิตกกังวลใจ
เมื่อร่างกายของเรา ต้องแก่ต้องเฒ่า
เพราะความแก่ความเฒ่า คือธรรมดาของร่างกาย
***************
จงอย่าทุกข์ใจ และ จงอย่าวิตกกังวลใจ
ไปกับความตาย ที่จะมาถึงเรา ในอีกไม่ช้าไม่นาน
เพราะความตาย คือธรรมดาของชีวิต
และ “การตายของคนเรา” เป็นแค่เพียง การเปลี่ยนภพเปลี่ยนภูมิ ตามกรรมตามวิบาก ตามวาระอันควร เท่านั้นเอง
***************
เพราะ
ร่างกายของเรา คือสิ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิตและจิตใจของเรา ในขณะที่เรา ยังมีลมหายใจอยู่
และ ร่างกายของเรา เป็นสิ่งที่ไม่อาจจะดูแลรักษา ให้คงสภาพอยู่ดังเดิมได้
ดังนั้น เราจึงควร “หมั่นดูแลรักษาร่างกายของเรา” ตามสมควร
เพื่อประโยชน์สุขของชีวิต ในชาตินี้
***************
เพราะ
จิตใจของเรา คือสิ่งที่จะนำพาชีวิตของเรา ไปสู่ภพภูมิใหม่ เมื่อเราต้องตายจากโลกนี้ไป
และ จิตใจของเรา เป็นสิ่งที่สามารถจะพัฒนา ให้เจริญขึ้นได้ ให้สูงขึ้นได้ และ ให้สะอาดบริสุทธิ์มากขึ้นได้
ดังนั้น เราจึงควร “มุ่งเน้นพัฒนาจิตใจของเรา” ให้เจริญขึ้น ให้สูงขึ้น และ ให้สะอาดบริสุทธิ์มากขึ้น
เพื่อประโยชน์สุขของชีวิต ทั้งในชาตินี้ และ ชาติต่อๆไป
เพราะ จิตใจที่ได้รับการพัฒนา ให้เจริญขึ้น ให้สูงขึ้น และ ให้สะอาดบริสุทธิ์มากขึ้น
จะนำพาความสุขสงบ มาสู่ชีวิตของเรา
และ จะนำพาชีวิตของเรา ไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้น
***************
เพราะ
ความสุขและความทุกข์ เกิดขึ้นที่จิตใจของเรา
และ การทำความดับแห่งกองทุกข์ ต้องทำที่จิตใจของเรา
ดังนั้น เราจึงควร “มุ่งเน้นพัฒนาจิตใจของเรา” เป็นหลัก
“พิศเพ่งพัฒน์จิตแจ้ง นั่นแท้พึงทำ”
ชาญ คำพิมูล
Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2564 |
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2564 16:02:20 น. |
|
0 comments
|
Counter : 664 Pageviews. |
|
|
|
| |