สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


 
มกราคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
19 มกราคม 2554
 

BKK - UTTARADIT :: ลานสนสองใบ และค่ำคืนสุดท้าย ณ ภูสอยดาว

หลังจากตอนที่แล้วผ่าน ค่ำคืนอันเหน็บหนาวกับเช้าวันใหม่ ณ ภูสอยดาว โปรแกรมสำหรับเช้าวันนี้ของพวกเราคือ เดินเที่ยวภูสอยดาว พอทุกคนแต่งองค์ทรงเครื่อง เสื้อผ้าหน้าผมพร้อมก็ออกเดินทางกันเลย


พวกเราเดินตรงไปยังที่พักของเจ้าหน้าที่ ขอขีดเส้นใต้ตรงนี้หน่อย ขอบอกว่าห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดมีเพียงห้องเดียว คนมากันเยอะมากแค่วันแรกวันเดียวส้วมเต็มซะงั้น จึงเป็นเหตุให้ต้องเดินไปอาบน้ำไกลมากมายอ่ะ ส่วนน้ำสำหรับใช้ล้างจาน เราก็มาตักเอาด้านหลังบ้านเจ้าหน้าที่นี่แหละ รอจากก๊อกช้านักก็เปิดฝาถังบรรจุน้ำตักกันเลยล่ะ .. กลับไปสู่กันเดินทางกันต่อ



ระหว่างที่รอเพื่อนๆ อยู่นั้นน้าเหี่ยวก็โชว์เสบียงส่วนตัวสำหรับการเดินทางช่วงบ่าย ที่ขีดเส้นใต้ก่อนแพคลงกระเป๋าว่า "ขวดนี้ของเค้าคนเดียว" ส่วนนู่นุ่นก็พร็อบเพียบเชียวนะนู๋ เอ๊ะพวกเรารอใครหว่า


นั่นไงเดินมาแล้นนน ถึงจะช้าแต่ก็ไม่พึ่งพาใคร ไฟเขียวโบกมือหลีกทางตลอด สุดยอดอ่ะคนนี้ จขบ. ขอนับถือไม่ว่าเส้นทางจะลำบากขนาดไหน น้องนู๋ก็ไม่เคยบ่น การท่องเที่ยวมันอยู่ที่ใจ .. ว่าไหมล่ะนู๋


จากบ้านพักเจ้าหน้าที่พวกเราเดินมาตามทางทะลุด้านหลังก็จะเจอลานกางเต็นท์อีกที่หนึ่ง ที่น้องบีเล่าให้ฟังว่าตรงนี้เจ้าที่แรง พวกเราเดินตรงไปตามทางเดินเรื่อยๆ จนมาเจอลานสนอันกว้างใหญ่








คู่นี้ตั้งแต่เดินขึ้นภูมาเป็นคู่สุดท้าย เค้าก็ดูรักกันขึ้นมากมายเชียวนะ มีแอบจิบด้วยอ่ะ เฮ้อ .. จะเดินตกภูไหมเนี่ยน้องช้านนน พวกเราเดินต่อกันมาเรื่อยๆ จนมาเจอขอนยอดฮิต



สาเหตุที่เรียกขอนยอดฮิตก็คือว่า ทุกรีวิวจะต้องมีถ่ายรูปคู่กับขอนนี้ หากเปรียบเสมือนเป็นแหล่งท่องเที่ยวก็เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดยังไงยังงั้น แล้วมีหรือดาราหน้ากล้องอย่างพวกเราจะพลาด




อีน้ามาก่อนเลยอ่ะ บอกแล้วไม่หล่อแต่แปลกเป็นสัญลักษณ์ของอีน้าเหี่ยว ส่วนที่เหลือก็ไม่ยอมแพ้ จนสุดท้ายขอรูปหมูเอ้ยหมู่เลยดีกว่า ครั้นจะถ่ายกันธรรมดาก็ดูจะไม่ใช่เดอะแก๊งค์ มันต้องสิบแอ๊คถึงจะถูก เพื่อนขอมาน้องบีจัดให้





















รูปก็ออกมาอย่างที่เห็นด้วยการตั้งกล้องสิบแชะ ไม่มีการออกแบบท่าเพราะออกมาจากหัวใจ เป็นที่รู้กันท่ามาตรฐานของเดอะแก๊งค์ ส่วนเพื่อนที่มาใหม่ก็งงๆ แต่เดี๋ยวสักพักจะปรับตัวได้เองอัตโนมัติเป็นที่รู้กัน











ขอบอกว่าวิวลานสนบนภูสอยดาวสวยมาก อยากจะถ่ายรูปให้ได้ดังตาเห็นจังเลย คือของจริงสวยกว่านี้มากมายอ่ะ อากาศดีสุดๆ ฟ้าเป็นสีฟ้าสวยจัง คุ้มมากมายกับการตะกายขึ้นมาดู










หลังจากที่เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปเดี่ยวรูปหมู่ สิบแอ็ค ยี่สิบแอ็คแล้วนั้น ก็เดินทางกันต่อจุดหมายต่อไปคือผาดีแทค หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ท่องเที่ยวสองแผ่นดิน"



ที่ตรงนี้เป็นเขตแดนระหว่างไทยและลาว เพียงก้าวขาเดินผ่านหลักเขตเราก็มาอยู่เมืองลาวแล้วล่ะ ส่วนที่เรียกตรงนี้ว่าผาดีแทคเพราะว่าเป็นจุดเดียวที่มีสัญญานดีแทค แต่ใช่ว่าเอไอเอสไม่มีนะ มีเหมือนกันแต่ต้องรูมมิ่งเพราะอิงกับสัญณานจากฝั่งลาว




ซึ่ง ณ จุดนี้นอกจากป้ายเที่ยวสองแผ่นดินแล้ว ตรงข้ามป้ายยังเป็นสถานที่ปลูกสนสามใบสมัยเมื่อพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงเสด็จมาภูสอยดาวด้วยล่ะ





ณ จุดนี้เหล่านางแบบก็เตรียมรอคิวถ่ายรูปกับหลักเขตไทยลาวกันพร้อมหน้า หลักยอดฮิตถือเป็นจุดที่คิวต่อแถุวเพื่อรถถ่ายรูปยาวได้อีกล่ะ




ถ่ายรูปทีไรไม่เห็นมีใครยอมแพ้ใครกันเลยล่ะ อย่าว่าแต่คนอื่นเลย จขบ. ก็ไม่ถอยเหมือนกัน แหมไอ้เรื่องบ้ากล้องเนี่ยไม่มีใครเกิน พอมารวมเซ็ตเดอะแก๊งค์ด้วยหนักเข้าไปใหญ่อ่ะ






จากจุดหลักเขตพวกเราเดินต่อไปยังฝั่งลาว เพื่อไปหาคลื่นโทรรายงานสถานะความสนุกของทริปภูสอยดาว ให้เพื่อนๆ เดอะแก๊งค์ที่ไม่สามารถถ่อสังขารมากะพวกเราได้





















ไม่อยากเชื่อเลยว่า ณ จุดที่สูงสุดแบบนี้จะมีต้นสนขึ้นอยู่เต็มไปหมดพร้อมดอกไม้นานาพันธุ์ เรียกว่าเวลาหนึ่งวันหมดไปกับการเดินถ่ายรูป วิวที่นี่สวยมากๆ สีฟ้าตัดกับสีเขียวของต้นสน ขอบอกว่าค่อยคุ้มกับการตะกายขึ้นมาสูงขนาดนี้




















พวกเราเดินกันมาได้ครึ่งรอบแล้วล่ะ ยังเหลืออีกครึ่งรอบก็เดินกันไปเรื่อยๆ เวลาพวกเรามีเหลือเฟือเดินไปหยุดไปรอกันไปก็สนุกไปอีกแบบ






เดินไปก็ไปเจอป้ายของโครงการคืนป่าของมูลนิธิบลูแพนเน็ตก็เลยขอแบกป้ายกันหน่อย จากนั้นก็เดินต่อไปจนเจอหลุมหลบภัยสมรภูมิร่มเกล้าล่ะ


ว่ากันว่าท่ามกลางความสงบเงียบและทะเลดอกไม้แห่งนี้ในอดีตมีเรื่องราวแห่งการสู้รบเกิดขึ้นที่นี่ ร่องรอยหลุมบังเกอร์และหลุมหลบภัยที่กระจัดกระจายอยู่บริเวณนี้ เป็นเครื่องยืนยันว่า ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ พื้นที่แห่งนี้คือสมรภูมิที่เต็มไปด้วยเสียงปืน และควันไฟจากการสู้รบที่เรารู้จักในนามของ "สมรภูมิร่มเกล้า" ล่ะ


และนอกจากพื้นที่แห่งนี้จะมีสนสามใบแล้ว ไม้ป่าที่ดอกมีกลิ่นหอมสีชมพูแดงแกมม่วง และชื่อแสนจะไพเราะว่า "มณฑาดอย" เป็นไม้เฉพาะถิ่นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับประเทศไทยจะพบเฉพาะทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีความสูงระหว่าง ๑,๐๐๐ - ๑,๘๐๐ เมตร จึงทำให้ไม้ป่าชนิดนี้ จัดเป็นไม้หายากและปัจจุบันอยู่ในสภาพใกล้สูญพันธุ์






จากนั้นพวกเราเดินต่อไปยังจุดชมวิวอีกจุดที่สวยที่สุดในภูสอยดาว ตอนแรกก็แปลกใจทำไมมีคนขึ้นไปแล้วเดินกลับลงมาเร็วจัง ที่ไหนได้พอเห็นทางขึ้นแล้วก็เดินลงกันมาเป็นแถว แต่หารู้ไม่ว่า "พลาดสิ่งที่สวยที่สุด" ไปแล้วล่ะ


ณ จุดนี้จะมองเห็นทิวเขาที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาทั้งสองฝั่งของลานสนสองใบ งานนี้ขอโดดมันทั้งแคบๆ นี่แหละ เอากะเค้าสิไม่ได้มีกลัวตกเขาเอาเสียเลย


พอชื่นชมกับความงามและกระโดดกันเสร็จพวกเราก็เดินลงไปเจอกับเพื่อนๆ ที่นั่งรอเพราะไม่อยากเดินขึ้นเขา แต่ระหว่างทางลงเจอดอกไม้แปลกๆ ด้วยล่ะ


คนก็ซูมกันใหญ่เลย ตอนแรกเราก็นึกว่าเค้าเจออะไรกันมุงกันซะน่าสนใจเชียวเลยขอเก็บภาพมาให้ชมกะเค้ามั้ง






จากนั้นพวกเราก็เดินทางกลับระหว่างทางผ่านผา GSM ด้วยล่ะ ที่เค้าเรียกว่า ผาจีเอ็สเอ็มก็เพราะจุดนี้เป็นจุดเดียวที่มีสัญญาณคลื่น GSM ฝั่งประเทศไทยล่ะ แหมขนาดบนนี้ยังรับสัญญาณแยกค่ายกันเลย








ระหว่างทางก็ผ่านทุ่งดอกหงอนนาค ซึ่งเป็นพืชล้มลุกที่ขึ้นอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ และเจริญได้ดีบนภูเขาสูงที่อากาศหนาวเย็นและชุ่มชื้น ทำให้พื้นลานสนแห่งนี้กลายเป็นทะเลดอกไม้สีม่วง ภูสอยดาวได้ขึ้นชื่อว่าเป็นทุ่งดอกหงอนนาคที่กว้างใหญ่และสวยงามที่สุดในประเทศ ส่วนล่างของดอกเหมือนมีหยดน้ำค้างติดอยู่ให้เห็นทุกดอก จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า "น้ำค้างกลางเที่ยง"








ไม่นานนักพวกเราก็เดินมาถึงเต็นท์จนได้ ภารกิจแรกของพวกเราในเย็นวันนี้คือผลาญอาหารการกินที่ขนขึ้นมาบานตะไทให้หมดสิ้นภายในคืนนี้ แหมยังกะทุบหม้อข้าวไปตีเมืองจันทบุรีเลยทีเดียว













พวกเราทำกับข้าวกันตั้งแต่ห้าโมงเย็นยันสี่ทุ่ม สารพัดเมนูประมาณเกือบสิบสี่อย่างก็วางตรงหน้า ถึงกับกินไม่ลงกันเลยทีเดียวเนื่องจากเยอะจัด แต่ที่เด็ดสุดเห็นจะเป็นข้าวปั้นของอีน้าเหี่ยวนี่ล่ะ ที่หุงข้างปกติกลายมาเป็นข้าวญี่ปุ่นเป็นก้อนๆ ได้ซะงั้น  หลังจากที่อิ่มกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็พบว่ากับข้าวเหลือเยอะมากมายเดินแจกเต็นท์ข้างๆ ก็แล้ว ให้เจ้าหน้าที่ก็แล้วก็ยังไม่สามารถกำจัดได้หมด ก็ไว้กินตอนเช้าล่ะกัน ระหว่างนี้ก็ก๊งวอดก้ากันดีกว่า


จากห้าทุ่มกว่าจนตีสองสมาชิกก็หายกันไปทีละคนสองคนจนเหลืออยู่สี่คน และแล้วเหตุการณ์อันไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้น อีน้าขี้แตกต้องแหวกหญ้าแถวๆ นั้นทำภารกิจเล่นเอาฮากระจายกันเป็นแถบ แล้วท้ายที่สุดอีน้าก็นอนนอกเต็นท์แต่เพียงผู้เดียวเพราะหมดเรี่ยวแรง เฮ้อ ..น่าสงสาร เพราะตืนเช้ามาอีกน้าขาลายเพราะโดนยุงรุมกินเลือดนั่นเอง ... ค่ำคืนสุดท้าย ณ ภูสอยดาวก็ผ่านพ้นไป แต่เรื่องของ The Gang เรายังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ เพราะระหว่างที่ทุกคนนอนหลับไหลกันอยู่นั้น หาได้รู้ไม่เลยว่าพรุ่งนี้เราจะเจอกับศึกหนัก ไว้จะมาเล่าต่อตอนหน้านะคะ ..


Photo and Story By

Patthanid C.

www.patthanid.bloggang.com




Create Date : 19 มกราคม 2554
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2556 0:53:26 น. 8 comments
Counter : 3156 Pageviews.  
 
 
 
 
วันนี้ขอเข้ามา เป็นคนแรกของ ตอนนี้ ซึ่งถือได้ว่า เป็นไฮไลท์ ของทริปนี้ เลยทีเดียว

หากมี ทริปดีดี อย่างนี้อีก อยากไปด้วยกันแบบนี้อีกจังเลย

คิดถึง ในทุก ๆ อย่าง ยกเว้น ข้าวกลายพันธ์
 
 

โดย: Nu' MuuMee IP: 124.120.72.243 วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:1:10:36 น.  

 
 
 
ตอนน้าไป 15 ปีที่แล้ว

สงบ ธรรมชาติกว่านี้อีก มีอยู่แค่คณะเดียว

ช่วยรักษากันให้ดีนะภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการณ์

อย่าให้ช้ำเหมือนภูกระดึง
 
 

โดย: kaikui IP: 108.20.103.249 วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:5:39:25 น.  

 
 
 
ภาพสวย บรรยากาศน่าไปกางเต้นท์มากๆค่ะ...น่าสนุกมากเลยนะคะ....

ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ
 
 

โดย: auau_py วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:7:45:11 น.  

 
 
 
ขนาดอยู่ในป่ายังมีกับข้าวน่ากินเยอะแยะเลยนะครับ
 
 

โดย: ouanoy วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:7:58:10 น.  

 
 
 
แวะมาทักทายครับ ชมภาพแล้วอยากไปบ้าง
 
 

โดย: กัปตันลูกชุบ วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:10:51:39 น.  

 
 
 
มาอ่านอีกรอบค่ะ

ภาพยังสวยเหมือนเดิม

มาเป็นกำลังใจให้สำหรับการกอบกู้บล็อกคืนมาให้ครบนะคะ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:12:49:49 น.  

 
 
 
ของกินเพียบเลยนะคะ
 
 

โดย: ฮันเจฮุัน IP: 125.24.255.229 วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:17:30:38 น.  

 
 
 
หนึ่งธันวาคมนี้ห้ามพลาดชึ้งบัญญากาศดีมากครับๆๆๆ
 
 

โดย: ย.โ IP: 182.52.106.8 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2557 เวลา:15:27:34 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com