bloggang.com mainmenu search





โจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 347
 
 
 


 

"ติดเป็นนิสัย"
 
 



 
โจทย์โดย 
น้องปรินซ์  คุณจันทราน็อคเทิร์น
 
 



 
คำอธิบายโจทย์ (แนวทางการเขียน)




อะไรบ้างที่เผลอหรือไม่เผลอก็ต้องทำตลอดจนติดเป็นนิสัย อาจเป็นสิ่งที่ชอบ หรือไม่ชอบก็ได้ มาเขียนถึงสิ่งที่ติดเป็นนิสัยให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน





---------------------------------------------------------------




ขอส่งการบ้านตะพาบก่อนหนึ่งวันนะครับ  พอดีเป็นวันที่จะต้องอัพบล็อกอยู่แล้วด้วย  และปกติวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์  จะมีะไรต้องทำเยอะมากๆ  กลัวว่าจะไม่ได้เข้าบล็อกครับ

 
 

 
กลับมาเล่าประสบการณ์ในการไปเรียนต่อปริญญาโทต่างประเทศกันอีกครั้งนะครับ  อย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ
 
 
 


ก่อนไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศชีวิตส่วนตัวและชีวิตปีแรกในการทำงานของเจ้าของบล็อกยุ่งเหยิงมากครับ
 
 



ตอนยังเรียนอยู่ก็ใช้ชีวิตเหมือนกับนักเรียนทั่วๆไปที่มีพ่อ  แม่  คอยสนับสนุน  ทำอะไรไม่ได้  ไม่สะดวก  ก็ร้องหา  “พ่อ ... แม่”  ถึงตอนเริ่มทำงานก็บ่นกับพ่อ  แม่  เสมอว่า  เงินเดือนน้อยมาก  งานยุ่งมาก  เจ้านายดุมาก  เครียดมาก  ถึงขั้นอยากจะลาออกถึงแม้ว่าได้เข้าไปทำงานยังไม่ถึง  3  เดือน 
 
 



ด้วยความที่เจ้าคุณพ่อกับคุณนายแม่อยากให้ลูกรับราชการสักคนหนึ่งก็พยายามประคับประคองเจ้าของบล็อกอยู่ตลอดเวลา  คอยรับฟังเวลาเจ้าของบล็อกเครียดจากที่ทำงาน  แม้กระทั่งเรื่องเงินเดือนของเจ้าของบล็อกที่รับจากที่ทำงานเดือนละหมื่นนิดๆ  (เมื่อ  30  ปีที่แล้ว)  เจ้าคุณพ่อก็เพิ่มให้อีกเท่านึงเป็นสองหมื่นกว่าๆ  เพราะกลัวเจ้าของบล็อกจะลาออกจากราชการไปทำงานบริษัทเอกชน
 












เมื่อเจ้าของบล็อกได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ  ต้องรับผิดชอบทุกอย่างด้วยตัวเอง  ตั้งแต่ต้องตื่นนอนเองเพราะไม่มีคนมาปลุก  หาข้าวกินเอง  ต้องจัดตารางชีวิตตัวเอง  ทำทุกอย่างเอง  ....  แม่แต่ในเรื่องค่าใช้จ่ายรายเดือนก็ต้องรับผิดชอบเอง  จัดสรรปันส่วนเองให้ใช้ได้ครบเดือน  ....  เจ้าของบล็อกได้บอกจำนวนเงินที่เจ้าคุณพ่อกับคุณนายแม่จะต้องส่งให้เป็นรายเดือน  (ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากโขอยู่)  และเจ้าของบล็อกก็ตั้งใจเอาไว้อย่างยิ่งว่าจะไม่รบกวนอะไรไปมากกว่านี้อีก
 















 
 
เจ้าของบล็อกเริ่มปรับตัวในการที่จะรับผิดชอบสิ่งต่างๆทั้งหมดด้วยตัวเองโดยการ
  “จด”  ทุกอย่างไว้ในสมุดโน๊ตที่พกในเป้สะพายหลังตลอดเวลา  เวลาตื่นนอนตอนเช้า  ลุกขึ้นมาจิบกาแฟตอนเช้า  เจ้าของบล็อกจะถือสมุดโน๊ตติดมือพร้อมปากกา  1  แท่ง  และใช้เวลาที่จิบกาแฟตอนเช้านั่งนึกและเรียบเรียงว่า  “วันนี้ต้องทำอะไรบ้าง  และจัดลำดับความสำคัญ”  และในระหว่างวันเมื่อเจ้าของบล็อกได้ทำสิ่งที่ต้องทำแล้วเจ้าของบล็อกจะเปิดสมุตโน๊ตและทำเครื่องหมายให้รู้ว่าสิ่งนั้นได้ทำสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว  ถ้ามีสิ่งที่ได้ทำไปบ้างแล้วและยังไม่สำเร็จ  เจ้าของบล็อกจะเขียนหมายเหตุเอาไว้ว่า  “ได้ทำแล้ว  แต่ไม่เสร็จเพราะเหตุอะไร  พร้อมกับเขียนวัน เวลาที่คาดว่าจะสำเร็จเอาไว้ด้วย”
 
 


 
ก่อนนอนเจ้าของบล็อกจะเปิดสมุดโน้ตดูอีกครั้งว่ามีสิ่งไหนที่ทำสำเร็จไปแล้วบ้าง  ยังมีสิ่งที่ทำไม่สำเร็จหรือไม่  และคิดว่าจำทำสำเร็จเมื่อไหร่












 
เฉพาะในเรื่องการเรียน  ..... ถึงการเรียนปริญญาโทกฎหมายที่มหาวิทยาลัยโมแนช  เมืองเมลเบิร์น  ประเทศออสเตรเลีย  (Monash  University, Melbourne, Australia: คนไทยบางคนอาจจะออกเสียงว่า  “มหาวิทยาลัยโมนาช”  แต่คนออสซี่จะออกเสียงว่า  “โม – แนช”)  จะต้องเขียนตอบทั้งหมด  (จริงๆเป็นการพิมพ์ลงในโปรแกรม  word  แล้วสั่ง  print  ออกมาเป็นเหมือนการทำรายงานแล้วส่ง)  แต่โชคดีอยู่อย่างหนึ่งทีแทบจะไม่มีการสอบแบบเป็นทางการในห้องสอบ  (Supervised  Examination)  แต่จะมีตัวเลือกให้นักศึกษาเลือกว่า  หนึ่ง  จะทำรายงาน  (Dissertation)  ในจำนวนคำ  (words)  ที่ตกลงกันทั้งหมด  และตัวเลือกทีสอง  จะทำรายงาน  (Dissertation)  ในจำนวนคำ  (words)  ที่ตกลงกันทั้งหมด  และทำข้อสอบแบบที่เอากลับไปทำที่อื่นได้และนำมาส่งตามวัน – เวลา  ที่กำหนด  ซึ่งจะมีตั้งแต่  1  วัน  (คือรับข้อสอบตอนเช้าและนำมาส่งตอนเย็น)  3  วัน  และ  7  วัน
 



 
ซึ่งนักเรียนแต่ละคนสามารถที่จะตกลงกับอาจารย์แต่ละวิชาที่สอนตั้งแต่ครั้งแรกๆที่เข้าเรียนว่าจะเลือกการวัดผลแบบไหน
 
 



และแน่นอนที่สุดว่า ....  เจ้าของบล็อกเลือก  100%  Dissertation  ครับ  เพราะเจ้าของบล็อกรู้ตัวดีว่าเป็น  perfectionist  ไม่สามารถทำอะไรภายในเวลาจำกัดได้ 
 
 




ก่อนที่จะเริ่มเรียนแต่ละวิชาทางมหาวิทยาลัยจะส่งหนังสือทั้งหมดและ  list  บทความหรือสื่อต่างๆที่จะต้องอ่านประกอบในวิชานั้นๆมาที่บ้าน  เรามีหน้าที่ที่จะอ่านหนังสือหลักและดู  list  บทความหรือสื่อออนไลน์ต่างๆที่จะต้องอ่านประกอบในวิชานั้นๆ  (เราสามารถเข้าถึงบทความและสื่อต่างๆโดยทางห้องสมุดคณะนิติศาสตร์และห้องสมุดของมหาวิทยาลัย) 
 
 




ถ้าเราตั้งใจว่าจะทำ  dissertation  ส่งตอนสอบแล้วทางที่ดีที่สุดเราจะต้องหา  Topic  ที่เราสนใจเกี่ยวกับวิชานั้นๆ  เมื่อเริ่มเรียนชั่วโมงแรกๆ  เราสามารถที่จะแจ้งกับอาจารย์ผู้สอนได้เลยว่าเราต้องการที่จะทำ   dissertation  ในหัวข้ออะไร  ซึ่งอาจารย์ผู้สอนอาจจะเสนอแนวคิดที่แตกต่างออกไปให้เราเก็บเอาไปคิดอีกได้ครับ  แล้วค่อยมา  confirm  กับอาจารย์ผู้สอนในครั้งต่อไป
 




 
เมื่อได้หัวข้อในการทำ  dissertation  แล้ว  เราจะต้องเอาหัวข้ออันนั้นมาแตกย่อยๆเป็น  part  ซึ่งก็แล้วแต่เนื้อหาว่าจะมีกี่  part  แล้วทำความเห็นของเราต่อเนื้อหา  Topic  (ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากเพราะคือการตอบข้อสอบนั่นเอง)   และสรุปรวบยอดอีกทีหนี่ง  พอเราได้  outline  ทั้งหมดแล้วถ้าจะให้ดี  ให้เริ่ด  ให้เราเอาไปให้อาจารย์ผู้สอนตรวจ  outline  เราก่อน  เพราะอาจารย์ผู้สอนเค้าจะให้มีคอมเม้นท์มาว่าควรจะเพิ่มตรงไหน  ตัดตรงไหน  แล้วเราจึงเอาไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเขียน  dissertation 
 




 
พอเราเขียน  dissertation  เสร็จ  เราสามารถที่จะส่ง  draft  ให้อาจารย์ผู้สอนตรวจดูก่อนได้นะครับ  อาจารย์ก็จะมีคอมแม้นท์ให้แก้ไข  เมื่อเราแก้ไขเสร็จเราก็สามารถส่งไปตรวจ  gramma  ก่อนที่จะส่งอาจารย์ได้อีกด้วย  ทำให้  dissertation  สมบูรณ์ยิ่งขึ้น  เจ้าของภาษาอ่านแล้วไม่สะดุด
 
 




กระบวนการทั้งหมดนี้ถ้าเราวางแผนดีๆ  จะทำให้เราสามารถทำ  dissertation  ของเราเสร็จก่อนถึงกำหนดส่งครับ  เรายังมีเวลาอ่านทบทวน  เพิ่ม  หรือตัด  ข้อความได้อีกนะครับ
 
 




เจ้าของบล็อกทำกระบวนการแบบนี้  12  ครั้ง  ใน  12  วิชาที่เรียนในชั้นปริญญาโทครับ 












 
 
มันก็เลยติดเป็นนิสัยว่าถ้ามา  project  อะไรเข้ามาเจ้าของบล็อกจะต้องเริ่มวางแผนยาวๆเลยครับ 
 
 


แม้แต่ในตอนนี้ที่ไม่ได้ทำงานแล้วก็ยังติดนิสัยที่เล่ามาแล้วทั้งหมดนะครับ
 
 



เจ้าของบล็อกยังนั่งเรียบเรียงสิ่งที่จะต้องทำในวันนึงๆทุกๆเช้าตอนกินกาแฟ  ยังนั่งทบทวนว่าวันนี้ทำอะไรสำเร็จไปบ้าง  มีอะไรยังเหลือค้างอยู่บ้างทุกๆวันก่อนนอน
 



 
ถ้ามี  project  ใหญ่ๆเข้ามา  เช่น  family  trip  ไปต่างจังหวัดนานๆ  เจ้าของบล็อกจะเริ่มทำคล้ายๆกับเป็น  dissertation  เล็กๆ  หาข้อมูลที่พัก  ที่เที่ยว  ร้านอาหาร  ของฝาก  ฯลฯ
 
 



เจ้าของบล็อกชอบนะครับ  ...  ชอบให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามที่เราวางแผนไว้  แต่ถ้ามีอะไรที่ทำให้ไม่เป็นไปตามทีวางแผนไว้เราก็จะสามารถมีข้อมูลสำรองเอาไว้ให้เราหยิบมาใช้ได้ทันที 
 


 
 





 
140139138




 
Create Date :08 มีนาคม 2567 Last Update :8 มีนาคม 2567 12:19:43 น. Counter : 463 Pageviews. Comments :13