สะพายเป้ ไปเหล่พม่า แถวๆสุเหร่พญาจะมีตึกสีเหลืองทรงยุโรปนั่นคือ ศาลาว่าการเมืองย่างกุ้ง หรือ city hall บริเวณนั้นเป็นตรอกซอกซอยเยอะแยะหลังจากเดินเข้าออกตามทุกซอกซอยแล้วก็ทำให้รู้ว่าแต่ละซอยจะขายสินค้าไม่เหมือนกัน ซอยแรกที่เราเดินเป็นซอยร้านถ่ายรูปและคอมพิวเติอร์ ซอยถัดมาจะเป็นซอยขายจิวเวอรี่และเครื่องเงิน ตามทางเท้าแทบจะไม่มีทางเดิน พ่อค้าแม่ค้าวางของขายเกลื่อนไปหมด ส่วนมากจะเป็นแว่นตา กระเป๋าและโปสเตอร์ดารา รูปวิวทิวทัศน์ ต่างๆเหมือนตามต่างจังหวัดบ้านเรา ถามคนแถวนั้นว่าจะไปหาซื้อตั๋วรถทัวร์ไปมัณฑะเลย์ ได้ที่ไหน เขาชี้ไม้ชี้มือให้ข้ามไปตึกทรงยุโรปข้างๆสุเหร่พญาเป็นสำนักงานท่องเที่ยวของพม่า แต่ขอโทษทีเถอะราคาตั๋วต่อ 1 คนตกราวๆ 18500 จั๊ตแพงใช่เล่นจากย่างกุ้งไปมัณฑะเลย์ใช้เวลาเดินทางโดยรถโดยสารประมาณ 8-9 ชั่วโมง ออกจากย่างกุ้ง 5 โมงเย็น ถึงโน่นราวๆ 7 โมงเช้า ผมแวะแลกเงินนิดหน่อยด้านหลังสำนักงานท่องเที่ยวพม่า 1 เหรียญ ยูเอส ตกราวๆ 12000 จั๊ตถือว่าไม่ต่างจากที่แลกในโรงแรมเท่าไหร่นัก ผมถามเขาว่าค่ารถไปมัณฑะเลย์เท่าไหร่ เขาบอก 15000 จั๊ต อืมมยังแพงไปสำหรับผม. ใครๆก็รู้ว่าถูกและดี ไม่มีในโลก แต่ผมไม่อยากไม่ถูกและไม่ดีในเวลาเดียวกัน ค่อยๆเดินหาดีกว่า บางทีถูกและดีอาจจะมีอยู่จริงๆ อิอิ สุดท้ายเราก็ซื้อได้ในราคา 10000 จั๊ต เราตกลงซื้อที่นี่ ถ้าผมเคี่ยวและใจเย็นกว่านี้ อาจจะมีที่ที่ถูกกว่านี้ แต่ไม่ไหวล่ะครับ เดินกันจนขาจะลากอยู่แล้ว สาเหตนึงที่รอให้มันเย็นลงก่อนเพราะในเจดีย์สุเหร่พญาเราต้องถอดรองเท้าเดิน เท้าเปล่าๆ แดดร้อนๆบนพื้นกระเบื้องคงจะไม่ไหวกระมังครับผมว่า เด็กสาวราว11 -12 ขวบชี้ไม้ชี้มือให้เราหยอดเงินลงในกล่องก่อนจะเดินเข้าไป " Donation donation " เธอบอก ผมชะงักและล้วงกระเป๋าหยิบเงินจั๊ตออกมาราวๆ 300 จั๊ต " No no 500 jatt "เธอบอก ฟะ! ไหนบอก Donation แล้วแต่จะทำบุญ ไหงมาบอกให้ใส่ 500 จั๊ต ทำไมล่ะ ผมล้วงๆกำๆได้ราวๆ 350 จั๊ตลงในกล่อง เธอทำหน้าตาพอใจ พลางเชื้อเชิญให้เราเข้าไปข้างใน ตกลงสองคนเราจ่าย 350 จั๊ตเอง ขอเตือนว่าภายในสุเหร่พญาพวกที่ชวนคุย ชวนซื้อตั๋วรถ เครื่องบิน หรือจองโรงแรมมีเยอะแยะมากแม้แต่ขอเงินไทยไว้สะสมก็มี " สะหวาดดีค้าบบ" ฃายวัยกลางคนทักทายเป็นภาษาไทยและเดินเข้ามาชวนคุย " ผมชอบประเทศคุณมากโดยเฉพาะเงินของคุณ คุณมีให้ผมสะสมมั่งไหม? " เขาเอ่ยถามพร้อมทั้งโชว์ใบละ 20 บาทของไทยให้ดู โห หากินง่ายขนาดนี้เชียวรึลุง สักพักชายหนุ่มคนหนึ่งก็เข้ามาแนะนำตัวเองว่าชื่อ สตีฟ มาจากรัฐฉานที่ทีผมจะไปพอดี เขาบอกว่ามาที่ย่างกุ้งเพื่อเรียนภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษเขาค่อนข้างดีทีเดียว ผิดแต่พูดเร็วและรัวไปหน่อย "คุณต้องจองตั๋วรถ ตั๋วเครื่องบินและโรงแรมก่อนนะ" เขาบอกผม " I can help you " เขาเสนอตัว ไม่ใช่จะมองโลกในแง่ร้ายหรอกนะ แต่ที่เขาอาสาเพราะคิดว่าเขาใจดีจริงหรือ สำหรับผมเขาก็หารายได้จากธุระกิจเหล่านี้แหละ ผมปฏิเสธเขาไปบอกว่าจองทุกอย่างหมดแล้ว เขาทำหน้าเสียและชวนผมคุยเรื่องอื่น โดยเฉพาะเรื่อิงเงินเดือนและรายได้ของผมที่ทำ สตีฟหนุ่มพม่าดูท่าทีสนใจและถามถึงเรื่องการไปหางานทำที่กรุงเทพว่ามีทางไหนพอช่วยแนะนำให้ได้บ้าง ผมไม่รู้จะบอกยังไง ได้แต่ยิ้มๆและจะช่วยหาลู่ทางดูให้ เฮ้อ เพราะความขัดสนและอยากมีโอกาสที่ดีทั้งนั้นไม่ว่าชนชาติไหน ก็อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่าเป็นอยู่เสมอ โดยเฉพาะประเทศด้วยพัฒนาและปกครองด้วยทหารแบบนี้ แต่ทำยังไงได้ล่ะปัญหาแรงงานพม่าที่ทะลักเข้าไทยในทุกวันนี้ก็สร้างความปวดหัวให้กับรัฐบาลและนายจ้างหนักหนาพออยู่แล้ว ผมคงช่วยสตีฟไม่ได้จริงๆ สุเหร่พญาเจดีย์ สวยงามมากๆ ความงามอีกด้านของสุเหร่พญา City hall ของ ย่างกุ้ง ตึกสวยทรงยุโรปอีกอันนึง รูปปั้นสิงห์ตอนโดนแดดพระอาทิตย์ยามเย็น อาหารเช้าสบายๆที่โรงแรม ลำแสงสุดท้ายที่ย่างกุ้ง พระอาทิตย์กำลังตกดินที่ทะเลสาปอินยา หลังโรงแรม |
บทความทั้งหมด
|