รัก....บนสายรุ้ง ตอนที่ 7




หรืออาจจะเป็นเพราะเรย์ชายหนุ่มหน้าตาดีเขาแค่อยากจะมีอะไรด้วย หน้าตาอย่างเขาคงยากที่ใครจะปฏิเสธ ซึ่งเขาก็มั่นใจว่าผมก็คงเป็นหนึ่งในนั้นด้วย
มีคนเคยบอกว่าความใสบริสุทธิ์ของเราจะหมดไปเมื่อวัยและประสบการณ์ของเราเพิ่มขึ้น มันคงจะจริง ความรักของผมมันไม่ใสและบริสุทธิ์เหมือนครั้งแรกเลย ถามว่าผมรักกะรอกไหม?
ผมรักนะ แต่ผมก็กันส่วงนหนึ่งไว้รักตัวเองด้วยเช่นกัน
เรย์จัดการจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมหรูที่หลวงพระบางไว้เสร็จสรรพ ผมมีหน้าที่เพียงแพคกระเป๋าและออกเดินทางเท่านั้น ดูเขาระริกระรี้เป็นพิเศษ ผิดกับผมที่วิตกและครุ่มคิดหลายอย่างทั้งหน้าที่การงานที่ทำและกระรอกที่เงียบหายติดต่อไม่ได้ ป่านนี้ไม่รู้ออกจาก รพ.หรือยัง
แต่เอาเถอะแค่การไปเที่ยว2-3 วันคงไม่เป็นไรมากหรอกมั้ง

เอาไว้กลับมาจากทริปนี้ค่อยไปเที่ยวสองต่อสองกับกระรอกที่ทะเลที่เราเคยตกลงกันไว้ ส่วนรุจน์เองก็ชื่นมื่นกับริวที่สิงค์โปร์ยังไม่กลับมา เอาเข้าจริงๆระหว่างรุจน์กับริวก็คบกันได้นานกว่าที่ผมคาดไว้การยอมรับข้อผิดพลาดและการให้อภัยและความใจเย็นของริว นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่คบกันได้ยืดยาวขนาดนี้...
โรงแรมหรูที่หลวงพระบางอดีตเคยเป็นวังของพระเจ้าแผ่นดินมาก่อนมันดูขลังและมีเสน่ห์น่าหลงใหลทันทีที่เปิดประตูห้องพักผมก็พบเตียงนอนขนาดใหญ่กลางห้อง เรย์มองหน้าผมแล้วยิ้มๆแบบมีเลศนัยนี่แสดงว่าตลอดสองคืนที่นี่ผมกับเขาต้องนอนเตียงเดียวกันหรอกหรือ ...คิดแล้วก็ว้าวุ่นใจ

บรรยากาศยามเย็นของหลวงพระบางดูสบายๆผู้คนที่นี่เป็นมิตรและยิ้มแย้ม ผมกับเรย์ยืนอยู่บนยอดเขาภูสี ชื่นชมกับวิวของบ้านเมืองเบื้องล่าง แม่น้ำคานกับแม่น้ำโขงไหลเอื่อยๆคนละฟากฝั่ง แต่มันก็ไหลมาบรรจบกันได้อยู่ดี...
ดวงตาของเรย์ฉายแววนิ่ง สายตาที่ทอดมองไปไกลเขากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่นะ ลมเย็นพัดโชยมาทำให้ผมยาวสลวยนั้นสยายตามแรงของลม เผยให้เห็นสันจมูกด้านข้างที่โด่งได้รูป ของเขาอย่างชัดเจนกลิ่นหอมอ่อนๆจากโรลออนในตัวเขาผ่านเข้ามาตามลมเป็นระยะ

"ต้นน้ำ คุณเชื่อเรื่องโชคชะตาไหม?" เขาถามผม

"ทำไมหรือครับ " ผมถามเขา

"เพราะโชคชะตาหรือเปล่าที่ทำให้ผมได้รู้จักคุณและได้มายืนอยู่ที่นี่ด้วยกัน" เขาบอกผม

" คงอีกนาน กว่าผมจะได้กลับเมืองไทย"

"คุณจะคิดถึงผมไหม?" เขาถาม....

มีเพียงความเงียบและแววตาที่ครุ่นคิดเท่านั้นที่ผมให้กับเรย์ได้ในเมื่อคนที่ผมรักและผูกพันธ์ในขณะนี้คือคนอีกคนนึงไม่ใช่เรย์

"ต้นน้ำ คุณเคยอ่านหนังสือแปลของญี่ปุ่นไหม?"

"เรื่องอะไรครับ "ผมถามเขา

" Blu Rosso " เขาตอบ

"เคยสิ เป็นหนึ่งในหนังสือที่ผมชอบเลยหล่ะ " ไม่นึกว่าชายหนุ่มจะชอบและอ่านหนังสือรักโรแมนติกแบบนั้นด้วยเหมือนกันกับผม

" aware kotoshi no aki mo inumeri"
*น่าเศร้าเหลือเกิน ฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ล่วงเลยไปแล้ว *

กลอนสั้นโบราณของญี่ปุ่น เขาท่องบทกลอนนั้นเบาๆใน บลู รอสโซ่ ให้ผมฟัง ผมยิ้มให้กับความช่างจดจำและละเอียดอ่อนของเขา

"ผมคิดถึงยอดโบถส์ดูโอโม่ในเมืองฟลอเรนซ์จัง ที่จุนเซกับอาโออิ สัญญาว่าจะมาเจอกันภายใน 7 ปีข้างหน้า" เขาบอกกับผม

"ต้นน้ำครับ อีก 3 ปีข้างหน้าเรามาเจอกันที่นี่ ตอนนี้ เวลานี้กันอีกดีไหม?" เขาถามผมพลางเอื้อมมือมาโอบไหล่ผมเอาไว้

"ผมไม่อยากเชื่อเรื่องอนาคตและคำสัญญาเท่าไหร่ครับ " ผมบอกเขา

"แต่ผมจะมาจริงๆนะครับ เหมือนที่ จุนเซทำกับ อาโออิ " เขาพูดพร้อมทั้งเกี่ยวนิ้วก้อยผมเบาๆ

เย็นมากแล้ว แม่น้ำสีขุ่นไหลเอื่อยๆ ไฟตามบ้านวอวแวมพร้อมควันอ้อยอิ่ง ดอกลีลาวดีหอมอบอวลไปทั่วภูเขาของยอดภูสี
ผมทำผิดกับกระรอกไหมนะ ที่มากับเรย์แบบนี้แต่ผมก็สัญญากับตัวเองเอาไว้ว่า ยังไงผมก็จะไม่เผลอใจไปมีอะไรกับเรย์เกินเพื่อนอย่างแน่นอน

"กลับลงไปกันเถอะครับ เย็นแล้ว" ผมบอกเขา

เราเลือกร้านอาหารง่ายๆติดริมแม่น้ำโขง อากาศค่อนข้างหนาวแต่เขยลาว หรือเบียร์ลาวที่สั่งมาก็ช่วยให้อบอุ่นได้ดีทีเดียว....

......

" เรย์ครับ ผมมีเรื่องจะบอกคุณ" ผมตัดสินใจบอกเขาเรื่องกระรอก

"อะไรหรือครับ " เขาถามผมขณะกำลังอร่อยกับอาหารลาวข้างหน้า

"ผมมีคนรักแล้วครับ " เขาชะงักนิดนึงและมองหน้าผมนิ่งๆ



"ผมเจอคุณช้าไปจริงๆ" เขาพึมพำ

"เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้นี่ครับ" ผมบอกเขา

"เพื่อนแอบรักเพื่อนได้ป่ะ" เขาถามผมพร้อมกับหัวเราะกลบเกลื่อน

แต่อย่างน้อยแล้วมันก็ทำให้ผมไม่รู้สึกผิดกับกระรอกมากไปกว่านี้ และสบายใจที่จะไปไหนมาไหนกับเรย์ในฐานะเพื่อน ถ้าไม่มีใครในตอนนี้ผมอาจจะรักเขาไปแล้วก้ได้ตลอดสามวันสองคืนที่หลวงพระบาง เรย์ไม่ได้ทำอะไรก้าวก่ายหรือล่วงเกินกับผมเลยนอกจากการกอดจูบเท่านั้น แม้จะมีบางครั้งเกือบเลยเถิดถึงขั้นจะถอดเสื้อผ้าก็ตามที
ความรักมันออกแบบไม่ได้จริงๆแหละ ดูอย่างเรย์ ชายหนุ่มที่เพรียบพร้อมไปทุกอย่างสิ เขาจะเลือกใครก้ได้แต่ทำไมต้องมาติดกับใครก้ไม่รู้ อย่างผมที่ไม่มีอะไรดีเด่ไปกว่าคนอื่นเลยแถมหัวใจยังไม่ว่างอีกต่างหาก
..คงได้แต่เฝ้าฝัน สักวันคงได้รักกัน ..รักกัน สักวัน


..........



............
"เฮ้ยมาทำไรที่สนามบิน" เสียงคุ้นหูดังแว่วมาจากเบื้องหลัง ขณะผมยืนรอเรย์เข้าห้องน้ำอยู่ด้านนอก รุจน์น่ะเอง แล้วเขามาทำอะไรที่นี่นี่?

"เราไปเที่ยวมาว่ะ" ผมบอกมันขณะที่เรย์เดินมาข้างๆพร้อมสายตามองแบบงงๆ

"กลับมาจากสิงค์โปร์แล้วหรือ" ผมถาม

"อืมมก็งั้นๆแหละคงสนุกสู้นายไม่ได้" รุจน์พูดพร้อมเสียงกระแทกนิดๆ

"เออ เรย์ครับ นี่เพื่อนผมรุจน์ " ผมแนะนำให้คนทั้งสองได้รู้จักกันก่อนที่บรรยากาศจะอึมครึมไปมากกว่านี้

รุจน์ผมผมค้อนๆก่อนจะยื่นมือให้เรย์สัมผัส สีหน้าของเขาซึมจนเห็นได้ชัดพร้อมทั้งขอตัวไปทำธุระต่อ เขาคงจะมาหาลูกค้าและตรวจสอบการก่อสร้างแถวๆนี้ข้อความจากมือถือดังขึ้น จากรุจน์น่ะเองเขาจะแวะมาหาผมที่ห้องคืนนี้
ดูจากสีหน้าและแววตาแล้วเขาคงมีเรื่องข้องใจมากมายที่จะถามผมโดยเฉพาะเรื่องของเรย์เพื่อนใหม่ของผม
หลังๆมานี้ผมพยายามเลี่ยงที่จะเจอกับรุจน์หรือเจอให้น้อยลงและคิดกับเขาแค่เพื่อนจริงๆผมสงสารริวและไม่อยากทำผิดกับกระรอกให้มากไปกว่านี้


"ดีเนอะ หาได้เร็วดี" เขาพูดประชดขณะอยู่ในห้องกับผม

"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย"ผมย้อนถาม

" นายชอบมันใช่ไหม?" รุจน์ถามพลางจ้องหน้าผม

"ชอบหรือไม่ชอบมันเกี่ยวอะไรกับนายวะ" ผมชักโมโห

"แล้วเราล่ะ" เขาถามผม

"นายก็มีริวแล้วนี่ แถมยังไปเที่ยวด้วยกันที่สิงค์โปร์อีก แล้วจะเอาอะไรอีก" ผมถาม...

"ดีเนอะ แฟนตัวเองไม่สบายยังแอบหนีเที่ยวกับคนอื่นอีก" เขาประชดผม

"หยุดเลยนะรุจน์ มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว" ผมปรามเขา

"มันจริงไหมล่ะ มั่วไม่เลือก" เขาด่าผม

"รุจน์นายไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า ทางที่ดีนายกลับไปก่อนดีกว่า" ผมไล่เขาเพราะเริ่มเดือดทีละนิดแล้ว พร้อมอาการไมเกรนที่เป็นประจำเวลาเครียด
ผมยืนหันหลังให้เขาพร้อมเลือกที่จะเงียบดีกว่าไปต่อปากต่อคำให้มันรุนแรงขึ้นกว่านี้

"ต้นน้ำนายไม่รู้อะไรหรือรู้สึกอะไรกับเราเลยหรือที่ผ่านมา" เขาถามผม

ทำไมจะไม่รู้ล่ะ แต่ในเมื่อเราต่างคนต่างมีคนที่เรียกว่าคนรัก เราก็ควรจะหักห้ามใจตัวเองและขีดเส้นเอาไว้แค่ในฐานะเพื่อน สิ่งที่เคยเกิดขึ้นเราย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ นอกซะจากจะทำวันพรุ่งนี้ให้ดีที่สุด

"เราเข้าใจนายผิดไปจริงๆ" เขาตะโกนไล่ผมก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยความฉุนเฉียว
รุจน์นายเองที่ล้ำเส้น เส้นที่เราสองคนขีดมันขึ้นมาพร้อมกติกาของหัวใจ
อาการไมเกรนเริ่มรุนแรงขึ้นทีละนิดๆจนต้องกินยาระงับก่อนที่จะล้มตัวลงนอนด้วยความเพลีย..



Create Date : 24 กันยายน 2550
Last Update : 24 กันยายน 2550 22:46:20 น.
Counter : 469 Pageviews.

1 comments
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 347 "ติดเป็นนิสัย" multiple
(15 มี.ค. 2567 10:45:06 น.)
ติดป้าย สมาชิกหมายเลข 4313444
(6 มี.ค. 2567 10:31:40 น.)
ตะพาบ หลักที่ 344 Rain_sk
(27 ม.ค. 2567 15:00:58 น.)
🚘ช่วงนี้เติมเต็มถัง🚘 โอน่าจอมซ่าส์
(30 ม.ค. 2567 15:40:09 น.)
  
แวะมาอ่านจ้า
โดย: ผุ๋งผิ๋ง วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:18:16 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Pranrak.BlogGang.com

Bear leader
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด