รัก...บนสายรุ้ง ตอนที่ 10 ![]() ดึกแล้วกระรอกหลับไปตั้งนานด้วยความเพลีย ดาวพราวฟ้าเป็นสีเงินระยับ ฟ้าไกลๆส่งเสียง ครืนๆของพายุฝนคลื่นซัดสาดจนหนาว ผมปล่อยตัวเองร้องไห้เบาๆริมชายหาดลำพังอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ เหลือเกินแต่ก็กลัวคนรักจะเสียใจและเห็นความอ่อนแอของตัวเอง ร่างเล็กบางัวเงียขณะผมเบียดตัวเข้าไปในอ้อมกอดทั้งสองข้าง โมบายพัดดังกรุ๋งกริ๋งขับกล่อมให้ค่ำคืนนั้นไม่เปล่าเปลี่ยวจนเกินไปนัก เป็นไปได้ผมอยากกอดคนที่ผมรักอย่างนี้นานๆตลอดไปคงจะดี "พี่ต้นน้ำครับ ช่วยพากระรอกมาที่นี่อีกนะครับ " ชายหนุ่มพึมพำพร้อมกระชับวงแขนของผมให้แน่นขึ้นกว่าเดิมก่อนจะส่งเสียงกรนเบาๆให้ได้ยิน ทุกอย่างผ่านไปด้วยความเรียบร้อยอาการของกระรอกไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงต่างคนต่างอ้อยอิ่งเพื่อที่จะประวิงเวลาให้ได้นานเท่านานเพราะ3-4 วันที่ผ่านไปช่างไวเหมือนโกหก พี่โชคมารอรับกระรอกกลับบ้านที่สนามบินพร้อมแสดงสีหน้าพอใจที่เห็นกระรอกมีความสุข "กระรอกกลับบ้านก่อนนะพี่ ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาแห่งความสุขที่ได้อยู่กับพี่อีกตั้งเดือนกว่าๆ กว่าจะกลับมาจากเที่ยวกับที่บ้านถึงจะได้เจอพี่อีกหรืออาจจะไม่ได้เจออีก" เขาบอกผมพร้อมซุกมือของเขาไว้ในมือสองข้างของผม "ไม่หรอก พี่จะรอกระรอกกลับมา" ผมบอกเขา "เข้มแข็งไว้นะคนดีของพี่" ผมบอกเขาพร้อมดึงตัวเขาเข้ามากอดไว้ รถค่อยๆเลื่อนออกไปอย่างช้าๆค่อยๆไกลอออกไปทุกทีๆ เปลวแดดเต้นระยับพร้อมทั้งไอร้อนของปลายฤดูหนาว ฤดูกาลใหม่กำลังจะใกล้เข้ามาพร้อมการจากลาของฤดูหนาวผมจะได้เจอกระรอกอีกไหมในเมื่อเวลาที่เหลือสั้นๆเขาต้องอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด สิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายถ้ามีจริงขอผมได้เจอเขาอีกครั้งด้วยเถอะสาธุ... ผมเรียกแท๊กซี่กลับบ้าน ลางานซะหลายวันไม่รู้พรุ่งนี้จะยุ่งแค่ไหน ป่านนี้เรย์คงถึงนิวยอร์คแล้ว หลังจากเจอกันวันนั้นแล้วผมก็ไม่ได้คุยกับเขาอีกเลย เขาจะโกรธไหมนะที่ไม่ได้เอ่ยคำลาหรือไปส่งที่สนามบิน เขาจะมาจริงใจอะไรกับผมนักหนาในเมื่อเรารู้จักกันได้ไม่นาน.. ทันที่ทีเปิดประตูห้องเข้ามาผมก็พบซองจดหมายสีขาว ลายมือคุ้นตาของเรย์ถูกสอดเอาไว้ใต้ประตูห้อง เรย์แวะมาหาผมที่นี่ขณะผมไปทะเลกับกระรอกหรือนี่? ผมแกะจดหมายนั้นออกและเปิดอ่านอย่างช้าๆ "ต้นน้ำครับ ขณะที่คุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้ผมคงไม่ได้อยู่ที่เมือง ไทยแล้ว เพื่อนของคุณบอกผมว่าคุณไปทะเลกับคนที่คุณรักของคุณ ฟังดูน่าอิจฉาจังเลยนะครับ ต้นน้ำครับ คุณจำวันแรกที่เราเจอกันในงานเดินแบบของพี่โจที่ สุขุมวิทได้ใช่ไหมครับ ทันทีที่ผมเห็นคุณผมบอกตัวเองเลยว่าผม ต้องรู้จักคุณให้ได้ และผมก็ได้รู้จักคุณจริงๆ แต่ช่างน่าเสียดายที่ผม กับคุณได้แค่รู้จักกัน ทานข้าวด้วยกัน เที่ยวด้วยกันไม่สามารถจะ เป็นอะไรไปได้มากกว่านั้น ที่ผ่านมาในชีวิตผมแทบไม่ต้องใช้เวลานานในการรู้จักใครหรือจีบ ใครมีคนผ่านเข้ามาในชีวิตผมเยอะแยะ ผมมักคิดเสมอว่าคงเป็น เพราะคุณเล่นตัวกับผมมากไปหรือเปล่าทำให้ผมหลงและชอบคุณ แต่หลังจากกลับมาจากเที่ยวหลวงพระบางคราวนั้นแล้ว ผมมั่นใจ และเข้าใจตัวเองแล้วหล่ะว่าผมรักคุณจริงๆ 3 ปีนานไปไหมครับคุณว่า? คุณจะลืมผมไหม?ผมคงไม่ได้ติดต่อ คุณตลอด 3 ปีจากนี้ไป แต่ผมขออะไรคุณได้ไหมครับต้นน้ำ อีก 3 ปี ข้างหน้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะกลับมาเจอกันอีกที่ดูโอโม่ของ เรา เพื่อพิสูจน์ความรักที่ผมมีต่อคุณ คงจะไม่น้ำเน่าเกินไปนะ ผม แค่อยากมีรักดีดี อย่างที่คุณมีกับคนรักของคุณ ..ดูแลเขาให้ดีดีใน 6 เดือนที่เหลือนะครับ... แล้วเราจะพบกันครับ จุนเซ (เรย์) ปล..คุณคงจำได้นะ ที่ไหน ดูโอโม่ของเรา ผมพับจดหมายนั้นเก็บอย่างช้าๆ คิดถึงชายหนุ่มร่างสูงโปร่งกับรอยยิ้มนั้น อีกตั้ง 3 ปี ตอนั้นคุณคงมีแฟนเยอะแยะแล้วมั้ง สว่นผมยังไม่รู้เลยว่าจะไปอยู่ส่วนไหนของมุมโลก ภาพถ่ายระหว่างผมกับเขาบนยอดภูสีคราวโน้นโผล่พ้นออกมาจากสมุดบันทึกไดอารี่เล่มล่าสุด ผมเก็บมันเข้าที่เดิมพร้อมยัดใส่ไว้ในลิ้นชักพร้อมกับไดอารี่เล่มก่อนๆ เรย์ครับทั้งคุณและผมสักวันคงไม่ใครก็ใครคงลืมกันไปแล้วก็ได้ เรื่องราวของคุณคงจะจบลงไปพร้อมกับบันทึกหน้าสุดท้ายของไดอารี่ของผมที่เพิ่งจะหมดไป ผมปล่อยตัวเองหลับด้วยความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจและความสับสนต่างๆนานาในหัวใจ รุจน์คนที่ไม่เคยเข้าใจอะไร เรย์คนที่อยู่ไกลแสนไกล และกระรอกคนที่รักที่สุดกำลังจะลาจากไกลไปตลอดชีวิต หรือว่านี่เป็นบทสรุปสุดท้ายในชีวิตรักของผม รักของชายกับชาย |
บทความทั้งหมด
|