เที่ยวพม่า ก่อน นากีสน์ อาการอาหารเป็นพิษเริ่มจู่โจมผมทีละนิด ซวยล่ะสิ จนต้องลากเพื่อนเข้าร้านอาหารสั่ง สตาร์โคล่า โค้กสัญชาติพม่ามากินกัน รสชาติไม่เลวนักหรอกพอให้ไม่น่า เกลียด แต่ห้องน้ำนั่นสิ น่ารังเกียจสุดๆ กว่าจะเสร็จกิจก็ทรมานพอดู เดินมาขึ้นรถเพื่อจะไปยัง เจดีย์ชวาเดกอง เปิดหนังสือโชว์รุปให้กระเป๋าดู พร้อมพยักหน้าเป็นอันว่าใช่ จ่ายค่ารถคนละ 1500 จั๊ตใช้เวลาเดินทางประมาณ ยี่สิบ นาทีก็ถึงที่ที่ผมกับเพื่อนเพิ่งจะนั่งรถผ่านมา ทางขึ้นตัวเจดีย์ดูกว้างใหญ่แต่ผมกับเพื่อนเลือกที่จะเดินลัดเลาะซอยเล็กซอยน้อยเข้าไป ตามแม่ชีและคนพม่าอีก 3-4 คน ผู้คนจอแจคล้ายสลัม ร้านกาแฟมีคนนั่ง แน่นร้าน อยากรู้ว่าเขามุงดูอะไรเลยชะโงกหน้าไปดู เป็นรายการทีวีที่เมืองไทยรายการหนึ่งตอนเย็น แสดงให้เห็นว่าทีวีบ้านเราค่อนข้างเป็นที่นิยมพอสมควร ว่า แต่ว่าพี่หม่องเขาจะฟังรู้เรื่องรึนี่?? สองข้างทางเล็กๆเต็มไปด้วยขยะและน้ำครำ กลิ่นเหม็นอับลอยคลุ้ง หมูสองสามตัวกำลังคุ้ยขยะและน้ำโสโครกตัวมอมแมม แปลกที่ชาวบ้านแถวนั้นยังทำตัวปกติ เหมือนจะไม่สนใจสิ่งรอบๆตัวเหล่านั้น ยังคงนั่งกินกาแฟ สูบบุหรี่คุยกันเหมือนเป็นเรื่องปกติ ทางขึ้นตัวเจดีย์มีทั้งแบบบรรไดและลิฟท์สำหรับคนสูงวัยที่เรี่ยวแรงอาจจะปีนป่ายบันไดเกือบ 200 ขั้นไม่ไหว คิดว่าคงต้องเสียค่าบริการแหละ แต่ไม่ทราบราคา เพราะยังไม่ใช่คนสูงวัย อิอิ สองข้างบันได ขายของที่ระลึกต่างๆมากมายส่วนมากเป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากหินอ่อนและไม้เนื้อแข็ง ก่อนไปเพื่อนคนนึงบอกว่าถ้าทำตัวเนียนๆเขาก็ไม่ เก็บค่าเข้าหรอก เพราะคนไทยกับคนพม่าหน้าตาคล้ายกัน แต่ผมเลือกจะเสียค่าเข้าดีกว่า คนละ 6 เหรียญ ไม่รู้จะโกงเขาไปทำไม เกิดเขาถามว่ามาจากไหน ตอบว่า ไทยแลนด์ คนมาเที่ยวทีหลังจะพลอยรับกรรมเปล่าๆ ถือซะว่าเป็นค่าทำบุญ บำรุงพุทธสถานจะได้สบายใจ ทางเจ้าหน้าที่จะมีสติกเกอร์ดวงสีเขียวติดตรงหน้าอก รู้สึกถึงการเป็นนักท่องเที่ยวขึ้นมาอีกเท่านึง เหอๆ อากาศเริ่มเย็นขณะที่แสงของดวงอาทิตย์สาดส่องเจดีย์น้อยใหญ่ให้เปล่งประกายเหลืองอร่ามชวนให้พิศวงและศรัทธามากขึ้นอีก ข้างๆเจดีย์องค์ใหญ่ ชาวพม่า หลายสิบคนกำลังเดินเวียนเจดีย์รายเล็กๆข้างๆพร้อมยกตะบวยน้ำขึ้นมาอื่มคนละอึกสองอึก คงเกี่ยวกับความโชคดีและราศรีปีเกิด อ้อ ที่นี่ คนพม่า พระ แม่ชี เณร เข้าฟรีไม่ต้องเสีย 6 ดอลล่าร์นะขอรับ รอบๆตัวเจดีย์จะมีศาลาราย เอาไว้ให้คนนั่งพัก นั่งชื่นชมความงามของตัวเจดีย์ที่ทองส่วนนึงถูกลอกมาจากอยุธยา ตอนที่เราเสียกรุงถูกพม่าเผาเสียหายย่อยยับ เณรน้อยเหมือนเด็กเป็นโรคตัวผอมบางเดินมาหยุดตรงหน้าผมกับเพื่อนพร้อมบ่นอะไรพึมพำ นึกว่าแกสวดมนต์ให้ศีลให้พร อุตส่าดีใจที่ไหนได้ ตอนที่เณรแกยื่น มือมาแหละถึงได้ถึงบางอ้อว่า แกอยากได้เงินจากเรา นี่เอง ผมให้ไป 1000 จั๊ต น่าแปลกเหมือนกันนะ ที่พระเณรบ้านเราไม่มาเดินขอเศษตังค์จากญาติโยมแบบนี้ จะว่าไปแล้ว พระ เถร เณร ชี ที่นี่ไม่ค่อยสำรวมเหมือนบ้าน เราสักเท่าไหร่ เท่าที่สังเกต คนพม่าส่วนใหญ่ท่าทางใจดีเป็นมิตร เกือบ 90 เปอร์เซนต์นุ่งโสร่ง หรือ โส่งจี พร้อมกินหมากปากแดง ข้อควรระวังของที่นี่คือระวังเดินเหยียบน้ำหมากที่คายทิ้งไว้ ตามข้างถนนหรือเสาไฟ ที่นี่เปิดให้เข้ามากราบไหว้ เยี่ยมชมถึง 3 ทุ่ม คนพม่าไม่วาลูกเล็กเด็กแดงคนเฒ่าคนแก่ต่างศรัทธาและกราบไหว้องค์เจดีย์ คงเพราะพุทธศาสนามีอิทธิพลต่อ คนที่นี่มากพอดู ความลำบาก ความรำเค็ญด้วยกระมังทำให้ที่นี่เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และวาดหวังถึงผลบุญในภายภพหน้า เย็นมากแล้ว เดินเล่นก็แล้ว ถ่ายรูปก็แล้วจนเบื่อ เลยเดินลงแวะหาไรกินก่อนกลับเข้าโรงแรม แถวตลาด เสียงดังกรุ๊งกริ๊งเหมือนกระดิ่งวัวดังกังวาฬตลอดทางเดิน เดินเข้าไปดูใกล้ๆถึงรู้ว่าเเป็นร้านขายน้ำอ้อยควั่น ควั่นสดๆยกเทขายตรงนั้นเลย ราคาตกอยู่ 2000 จั๊ต ต่อแก้วใหญ่ๆ แพงใช่หยอกนะนั่น ตอนแรกกะจะลองสักหน่อย แต่พอเหลือบไปเห็นอุปกรณ์ต่างๆขึ้นสนิมจนเขรอะ เลยถอดใจ กลัวได้ของแถมคืนนี้ ผมเลือกร้านเล็กๆมีโต็และเก้าอี้ญี่ปุ่นไว้คอยบริการ เป็นข้าวแกงหลายอย่าง บางเจ้าขายก๋วยเตี๋ยว บางเจ้าขายเป็นคล้ายๆเนื้อย่างเสียบไม้เล็กๆไว้คล้ายสะเต๊ะ มีน้ำจิ้มไว้ข้างๆ กินไปเท่าไหร่ก็นับไม้เอา ง่ายๆ สบายๆ มื้อนั้นกับสองสามอย่างผมจ่ายไปพันกว่าจั๊ต ตกราวๆ สามสิบกว่าบาทเอง ถูกกว่าตอนกลางวันอีกเกือบ เท่าตัว ดึกแล้ว เรียกแท็กซี่กลับโรงแรม เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า นอนเอาแรงไว้เดินทางไปมัณฑะเลย์ ![]() สวยอย่างนี้มิน่าแม่ถึงมาคุม อิอิ ![]() เรืองรองผ่องอำไพยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน รอบๆ ชเวดากอง ![]() เครื่องสังฆภัณฑ์สำหรับไหว้พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ![]() รอบๆสุเหร่พญา ![]() สิงห์ต้องแสงยามเย็น ![]() ชเวดากอง ![]() อาสาสมัครที่คอยปัดกวาดทำความสะอาดยามเย็น รอบนี้เป็นชายล้วน ![]() รอบนี้เป็นหญิงล้วน แบ่งรอบแบ่งเพศกันชัดเจน แต่เห็นแล้วก็น่ารักดี ![]() แม่ชีสีชมพู มาไหว้พระกันเป็นหมู่ เขินอายเมื่อรู้ว่าถูกแอบถ่ายรูป คิดถึงที่สุด ............
ตอนนี้เป็นช่วงกำลัง งง งง กับวงจรชีวิตที่เปลี่ยนแปลง ................................. งานเยอะจนยุ่งยิ่ง แต่กลับรู้สึก ตัวเองทำอะไรก็ช้าไปหมด เซ็งว่ะ ![]() โดย: ช่อชบา (HHG
![]() |
บทความทั้งหมด
|
ไปด้วยดิ