รักบนสายรุ้งตอนที่ ๘ ![]() เสียงโทรศัพย์มือถือดังถี่และนานปลุกให้ผมสะดุ้งตื่น อากาศรอบๆตัวมืดสนิท ผมคงหลับไปนานจนค่ำเลยหรือ พี่โชคนั่นเองโทรมา เสียงของเขาร้อนรนจนสังเกตุได้ "หายไปไหนมาต้นน้ำ พี่ติดต่อไม่ได้เลย" พี่โชคบ่นผม "อ้อ ไปตรวจงานที่ต่างจังหวัดมาครับ " ผมโกหกพี่เขาไป "พี่อยากเจอนาย อยากคุยเรื่องของกระรอก นายออกมาหาพี่ที่...ได้ไหม? " พี่โชคบอกร้านกาแฟเจ้าประจำแถวทองหล่อ "กระรอกเป็นอะไรหรือพี่" ผมถามพี่เขา "เออน่า นายรีบอาบน้ำแต่งตัวและรีบมาล่ะกัน" เขาพูดก่อนจะวางหูปล่อยให้ผมคาดเดาไปต่างๆนานา กระรอกรู้เรื่องผมไปเที่ยวกับเรย์ หรือ รุจน์บอกทุกอย่างระหว่างเขากับผมให้เขาฟังหมดแล้ว "กระรอกเขาขอร้องให้พี่โทรหานายและช่วยพูดกับนาย " สีหน้าพี่โชคดูเนือยๆเหมือนคนอดนอนมาหลายวัน ขณะนั่งอยู่ตรงหน้าผม "ตอนนี้เขานอนพักอยู่ที่โรงพยาบาล เดี่ยวเราจะไปเยี่ยมกัน" พี่โชคบอกกับผม "กระรอกเป็นอะไรกันแน่ครับ " ผมถามพี่เขา " ก่อนอื่นพี่ต้องขอโทษนายด้วยนะที่ต้องปิดบังนาย ไม่บอกตั้งแต่ตอนแรกเพราะพวกเราคิดว่าจะสามารถช่วยกระรอกได้ แต่ในที่สุดแล้ว..." พี่โชคหยุดพูดพร้อมเอามือปิดเหน้าตัวเองขณะที่ผมใจเต้นแรง ไม่กล้าแม้จะหายใจแรงหรือเอ่ยถามอยากรู้ว่าคำพูดต่อไปจะเป็นยังไง ภาพความขี้เล่นทะลึ่ง และรอยยิ้มนั้นผุดเข้ามาในความคิดเป็นระยะๆ คงไม่จริงหรอกพี่โชคกับกระรอกคงแค่อยากล้อผมเล่นเฉยๆ "กระรอกคงอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน " พี่โชคบอกผม ผมอึ้ง ความรู้สึกเหมือนกำลังตกลงมาจากที่สูง และค่อยๆล่องลอยไปในอวกาศ อันเวิ้งว้างเงียบสงบ นี่กระมังที่เขาเรียกว่า อาการใจหาย "ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเราทุกคนทั้งพี่และพ่อแม่ของเขาพยายามทุกทุกวิถีทางช่วยเหลือเขา แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น " กระรอกเอง เขาคงไม่อยากให้ต้นน้ำไม่สบายใจ เลยพยายามไม่ติดต่อหรือโทรหานาย นายคงรู้ใช่ไหม ว่าเขารักนายแค่ไหน" "กระรอกเป็นอะไรหรือครับพี่" ผมถามคำถามเดิมกับพี่เขาอีกครั้ง " เป็นโรคทางกรรมพันธ์น่ะครับ ต้นน้ำคงเคยได้ยินคำว่า ลูคีเมีย โรคที่เม็ดเลือดขาวเป็นพิษมาบ้างใช่ไหม?" "ครับ".... "ตลอดสองปีที่ผ่านมาพวกเรารักษาเขาทุกวิธีไม่ว่าการเปลี่ยนถ่ายเม็ดเลือดหรือแม้กระทั่งไขสันหลัง จนกระทั่งหมอทาง รพ.แจ้งว่าอย่าทำร้ายคนปว่ยมากไปกว่านี้เลย ยิ่งจะทำให้เขาเจ็บปวดทรมานเปล่าๆ ช่วยทำเวลาที่เหลืออีก 6 เดือนให้เขามีความสุขมากๆดีกว่า" ผมนิ่งอึ้ง ได้แต่เหม่อมองออกไปนอกร้าน ขอบน้ำตามันรื้นออกมาจนปวดตาสองข้าง แค่ 6 เดือนเองหรือที่เขาจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้.. "พี่โชคครับ ผมอยากเจอกระรอก" ผมบอกพี่เขา "กระรอกเขารู้ตัวเองดีเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วหล่ะ แต่ 6 เดือนที่เหลือเราช่วยทำให้เขามีความสุขมากๆได้ไหมต้น" พี่โชคบอกผมก่อนจะผลักประตูเข้าไปยังเตียงนอนของโรงพยาบาล โดยมีร่างซีดขาวของกระรอกนอนหลับอยู่ " พี่ต้นน้ำ" ทันทีที่ก้าวมาในห้อง ร่างผอมบางนั้นเผยอยิ้มและเอ่ยชื่อผมออกมาเบาๆ "กระรอก" เสียงของผมสั่นเครือพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมต้องเสียน้ำตาให้กับคนที่รัก มันต่างกันตรงที่ว่าครั้งโน้นกับครั้งนี้ ความรู้สึกมันช่างแตกต่างกัน ผมโผเข้ากอดร่างนั้นพร้อมทั้งปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย พอๆกับกระรอกเองที่กลั้นความรู้สึกไว้ไม่อยู่เช่นกัน "พี่ต้นน้ำ กระรอกขอโทษนะที่ปิดบังพี่" เขาบอกผมพลางสะอื้น "ไอ้เด้กโง่ ทำไมไม่ยอมบอกพี่สักคำหา" ผมถามเขาด้วยความน้อยใจพร้อมเสียงที่สั่นเครือ พี่โชคแอบไปหลบร้องไห้ที่ริมหน้าต่างคนเดียวเงียบๆ "แล้วพี่จะอยู่ยังไงล่ะครับ " ผมสะอื้นถามเขาเบาๆ กระรอกชายหนุ่มที่เคยร่าเริงคราวโน้นดูผิดไปจากตอนนี้เหลือเกิน ร่างผอมบางของเขายิ่งดูผอมเข้าไปใหญ่ ร่างเขายวบไหวตามแรงหายใจหอบเหนื่อยเข้า-ออก ถี่ๆ "ผมรักพี่ต้นน้ำที่สุดในโลกเลยรู้ไหม" เขาบอกผมพลางเอื้อมมือผมไปซุกไว้ข้างๆแก้มที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาของตัวเอง รอยยิ้มจางๆของเขามันช่างดูเศร้าที่สุดในโลกเลยจริงๆ "พี่ก็รักกระรอกเหมือนกันครับ "ผมบอกเขาเบาๆพร้อมก้มลงจูบเบาๆที่เปลือกตาสองข้างของเขา... |
บทความทั้งหมด
|