เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูฝัน บทที่ 6 บทที่ ๖ ช่วงเข้าพรรษาของทุกปีเป็นฤดูฝนเหมาะแก่การทำนาเป็นอย่างยิ่ง แต่ดูเหมือนปีนี้จะมีน้ำมากกว่าปกติ เพราะฝนตกคราวละนานๆ วันชัยหวั่นใจอยู่ว่าน้ำจะมากเกินไปจนทำให้ท่วมนาข้าวของเขา ทุกๆ ปีสุโขทัยมักเจอกับน้ำท่วมจะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน และน้ำเหนือที่ไหลบ่าลงมาสู่แม่น้ำยมที่ไหลผ่านสุโขทัย วันชัยและชาวบ้านเคยชินกับสถานการณ์นี้ หากถึงฤดูน้ำหลาก พวกเขาจะเก็บเกี่ยวข้าวก่อนกำหนด ดีกว่าปล่อยให้นาเสียหายทั้งหมด ข่าวทางโทรทัศน์ภาคค่ำแจ้งว่าปีนี้ฝนจะมาเร็วขึ้น นานขึ้น และมากขึ้น โดยพื้นที่ในจังหวัดสุโขทัยหลายอำเภอจะเป็นพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ไม่ทันไรสภาพอากาศก็เป็นจริงดังข่าวว่า ฟ้าขมุกขมัว และมีฝนตกหนักทั้งวันทั้งคืน แม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนชาวบ้านในหลายๆ พื้นที่ต่างออกมาเตรียมรับมือกับปริมาณน้ำที่ไม่อาจจะคาดเดาได้ ชั่วข้ามคืนปริมาณน้ำในแม่น้ำจำนวนมากเอ่อท้นตลิ่ง และคันดินกั้นน้ำที่อยู่รอบพื้นที่เกษตรกรรมพังครืนลงมาจากการที่ฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน น้ำเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว รวมทั้งผืนนาของครอบครัววันชัยด้วย ไม่มีใครสามารถรับมือได้ทัน ขณะที่ข้าวในนาก็เพิ่งจะตั้งท้องได้ไม่นานยังไม่พร้อมที่จะถูกเก็บเกี่ยว คืนนั้นชาวบ้านแต่ละคนแทบข่มตาหลับกันไม่ลงด้วยความตื่นตระหนกกับอุทกภัยที่คาดเดาความเสียหายไม่ได้ ทันทีที่ฟ้าสาง น้ำท่วมหมู่บ้านแล้ว วันชัยปลดเรือที่ผูกไว้หลังบ้าน แล้วพายออกไปดูสถานการณ์ ขณะที่ฝนยังโปรยปรายลงมาเรื่อยๆ เขาน้ำตาซึมเมื่อเห็นแปลงนากลายเป็นบึงน้ำขนาดย่อมๆ เช่นเดียวกับผืนนาของคนอื่นๆ ที่ต้องประสบภัยเหมือนๆ กัน ชั้นล่างของบ้านซึ่งเป็นร้านขายของชำของวรรณาก็ถูกน้ำท่วมเกือบถึงเอว โชคดีที่พวกเขาฟังคำเตือนจากทางการก่อนหน้านี้ วันชัย วรรณา และวันรบจึงช่วยกันเก็บข้าวของขึ้นที่สูงบ้างแล้ว แต่บางส่วนก็จำต้องปล่อยให้น้ำท่วมเสียหายไปบ้าง เพราะบ้านของพวกเขาไม่ได้ใหญ่โตนัก ทำให้ไม่มีที่เก็บของมากพอ ปีนี้น้ำมาไวไปหน่อยนะ ระหว่างที่วันชัยจูงเรือกลับเข้าบ้าน เขารำพึงเบาๆ กับวรรณาด้วยเสียงสั่นเครือ แล้วเอาเรือไปผูกโยงไว้กับเสาบ้าน ยังดีที่ยังเหลือชีวิตให้เราสู้ต่อไป วรรณาจับมือสามีเพื่อให้กำลังใจ วันรบเป็นไงบ้าง อยู่ข้างบนเหรอ วันชัยถามหาลูกชาย อืม นั่งร้องไห้อยู่น่ะ วรรณาตอบ เป็นอะไร เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปดูลูกหน่อย วันชัยเดินขึ้นชั้นบนของบ้านที่มีข้าวของกองระเกะระกะไปหมด เห็นลูกชายนั่งกอดเข่าสะอึกสะอื้นอยู่ในมุมห้อง วันรบลูกพ่อ เป็นอะไรหรือลูก เราก็เจอน้ำท่วมทุกปี มากบ้างน้อยบ้างตามแต่พระพิรุณจะกรุณา วันชัยเข้าไปนั่งใกล้ๆ ลูกชาย พลางลูบศีรษะด้วยความห่วงใย ฮือๆๆ เด็กชายร้องไห้ไม่หยุด โผซบอกผู้เป็นพ่อ ป่านนี้แปลงผักที่โรงเรียนของผมคงถูกน้ำท่วมหมดแล้ว ฮือๆๆ วันรบคร่ำครวญถึงแปลงผักที่โรงเรียนซึ่งกำลังโตวันโตคืน แต่ยังไม่ทันได้เก็บผลผลิตก็ต้องเจอกับน้ำท่วมอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ วันรบ ฟังพ่อนะ แม่บอกกับพ่อว่าน้ำท่วมครั้งนี้ยังดีที่ยังเหลือชีวิตให้เราสู้ต่อไป พ่อก็เห็นด้วยกับแม่ นาของเราจมอยู่ในน้ำ ปีนี้ไม่ทันได้เกี่ยวเลย พ่อเสียใจมาก สงสารข้าวในนากำลังตั้งท้องอยู่เลย แต่พ่อก็ต้องยอมรับว่านี่คือเหตุสุดวิสัยที่เราไม่อาจจะไปห้ามธรรมชาติได้ แต่ถ้าน้ำลด พ่อก็จะปลูกข้าวใหม่ เพราะที่นาเราไม่ได้หายไปไหน เหมือนแปลงผักของลูก ถ้าน้ำลด ลูกก็สามารถปลูกใหม่ได้ ถ้าลูกยังมีความตั้งใจที่จะทำมันอยู่และอดทนที่จะรอวันนั้น ลูกจะสู้เหมือนพ่อกับแม่ไหม วันชัยถามลูกชาย วันรบมองหน้าพ่อ แล้วพยักหน้าก่อนปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม แล้วเมื่อไหร่เราจะไม่ต้องเจอกับน้ำท่วมอีกล่ะครับพ่อ วันรบถาม เมื่อทางการหาวิธีป้องกันน้ำท่วมให้เราได้ และที่สำคัญคือเราต้องไม่ทำลายป่าต้นน้ำ ตอนนี้ป่าบนเขาแทบไม่เหลือไว้อุ้มน้ำ หรือชะลอน้ำแล้ว วันชัยอธิบาย ถ้าผมโตเป็นผู้ใหญ่ ทำงานแล้ว ผมจะพาพ่อกับแม่ไปอยู่ที่อื่นที่น้ำไม่ท่วมครับ พ่อกับแม่คงอยู่ที่นี่แหละวันรบ พ่อเชื่อว่าสักวันเราต้องแก้ปัญหานี้ได้ ลูกเรียนให้สูงๆ แล้วไปช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมของประเทศนะลูกนะ วันชัยบอก ครับพ่อ ผมจะตั้งใจเรียนกลับมาช่วยบ้านเรา เด็กชายยิ้มอย่างมีความหวัง |
บทความทั้งหมด
|