เธอทำให้ฉันเห็นวันพรุ่งนี้ ตอนที่ 33
เจนขับรถเข้าลานจอดรถของโรงแรมบูติกริมโขงในตัวจังหวัดนครพนมประมาณสามทุ่มเศษ สภาพของทั้งคู่ดูอ่อนแรงจากการเดินทางร่วมสิบชั่วโมง

“กุญแจห้องคุณมิ้งครับ” เขายื่นกุญแจห้องที่อยู่ติดกันให้ระมิงค์
“ขอบคุณค่ะ”
“คืนนี้ผมไม่รบกวนคุณมิ้งแล้วนะ คุณคงเหนื่อยล้ามากแล้ว”
“ค่ะ คุณเจนก็เหมือนกัน นอนเยอะๆ นะคะ พี่นอนเยอะมากแล้ว”
“พรุ่งนี้เช้า ทานอาหารเช้าพร้อมกันนะ ฝันดีครับ”
“ฝันดีเช่นกันค่ะ”

ต่างคนต่างแยกย้ายเข้าห้องพักที่อยู่ติดกันด้วยรอยยิ้มที่แม้จะเหนื่อยล้าจากการเดินทาง แต่ก็สุขใจอย่างบอกไม่ถูก

ระมิงค์อาบน้ำอาบท่าทาครีมประทินผิวก่อนนอนเรียบร้อยตามด้วยการกินยาแก้ปวดหัวไปหนึ่งเม็ดก่อนจะหยิบสมุดแพลนเนอร์ออกจากกระเป๋าสะพายวางไว้บนเตียง เปิดไฟหัวเตียง เดินไปปิดไฟเพดาน จับหมอนมาพิงหัวเตียงแล้วหย่อนตัวลงบนฟูกนุ่ม เปิดสมุดแพลนเนอร์ขึ้นมาดู คืนนี้เธอเขียนในสมุดวันนี้ว่า “เดินทางไปนครพนมกับคุณเจน”
“มาถึงจนได้นะเกือบอ้วกแตกตาย” เธอรำพึงกับตัวเองเมื่อนึกถึงสภาพตอนเมารถ แล้วหยิบปากกามาเขียนในวันถัดไปว่า “ไปพบแม่คุณเจน”

จากนั้นโทรหาผู้เป็นแม่เพื่อรายงานว่าเธอเมารถเกือบอ้วกแตกอยู่บนภูพาน
“แม่ว่าแล้วเชียวว่าต้องเมารถ เหมือนแม่นี่แหละสมัยก่อนตอนขึ้นดอยเมาตลอด”
“ขากลับหนูจะทำยังไงอ่ะ ต้องเมาอีกแน่ๆ เลย”
“ก็กินยาแก้เมาสิ”
“ยาแก้เมามันง่วงอะ อยากนั่งคุยเป็นเพื่อนคนขับ เผื่อเขาง่วงเหมือนกัน”
“มันมีแผ่นแปะแก้เมารถ ติดไว้ที่พุงนะ”
“เดี๋ยวค่อยไปถามร้านยาเอาละกัน หนูง่วงแล้วแม่ นอนก่อนนะคะ”
“บอกเจนขับรถดีๆ นะ แม่เป็นห่วง”

ขณะที่เจนไม่ทันได้อาบน้ำ เขาสลบไสลไปตั้งแต่ทิ้งตัวลงบนเตียงยันเช้า

....................................

“มอร์นิ่งครับ เมื่อคืนหลับสบายมั้ยครับ” เจนถามเมื่อเห็นหน้าตาของหญิงสาวแช่มชื่นกว่าเมื่อวานหลายเท่า
“สนิทเลยค่ะ นี่อาจจะเป็นคืนแรกที่พี่ไม่ฝันเลยมั้ง”
“ผมก็เหมือนกันครับ หลับเป็นตาย ดีกว่ากินยานอนหลับหลายเท่านัก”
“ฮ่าๆๆ งั้นคุณเหมาะกับทำงานขับรถทัวร์แล้วล่ะค่ะ”
“ฮ่าๆๆ เอางั้นเลยเหรอครับ คุณมิ้งเป็นโฮสเตสนะ ถ้าเป็นคนอื่นนั่งด้วยผมหลับแน่”
“ไม่เอา เมารถ”
“เออจริงลืมไป งั้นเป็นแฟนคนขับนะ เป็นแม่บ้านรออยู่ที่บ้าน”
“เอ้า แบบนี้ก็ได้เหรอ” ระมิงค์ยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดหยอดแต่เช้า
“แทนของหวานมื้อเช้านี้ไง” เจนหมายถึงอาหารเช้าของโรงแรมบนโต๊ะที่ไม่มีของหวานเลยสักอย่างเดียว มีเพียงแตงโมและมะละกอสามสี่ชิ้นที่เขาตักมาเผื่อหญิงสาว

จากร่องรอยคราบน้ำฝนเกาะตัวรถ คาดว่าเมื่อคืนฝนตกปรอยๆ ทั้งคืน เช้าวันนี้จึงไม่ค่อยมีแดด อากาศเย็นชื้นกว่าเมื่อวาน โชคดีที่ระมิงค์มีผ้าคลุมไหล่ที่เธอปักลายเองติดกระเป๋ามาด้วย ทั้งคู่พากันไปเดินเลียบริมโขงใกล้ๆ โรงแรมที่พัก
“คุณมิ้งจะเป็นหวัดหรือเปล่าครับ” เจนถาม
“เปล่าค่ะ พี่ว่าอากาศมันเย็นๆ ก็กลัวจะเป็นหวัดนี่แหละเลยหาผ้ามาคลุมไว้ก่อน เดี๋ยวจะหมดสนุก”
“ที่นี่อากาศดีกว่ากรุงเทพฯ เยอะเลย ผมว่าไม่น่าจะมีเชื้อโรค”
“พี่ก็ว่างั้นล่ะค่ะ ดูสิ หมอกลงด้วย สวยจัง” เธอชี้ให้เขาดูไอหมอกที่ลอยอยู่เหนือแม่น้ำ
“ถ่ายรูปมั้ยครับ เดี๋ยวผมถ่ายให้”
หญิงสาวยินยอมยื่นโทรศัพท์ให้เขาแต่โดยดี ปกติแล้วเธอไม่ใช่คนบ้าถ่ายรูปเหมือนสาวๆ ทั่วไป แต่วิวแพงขนาดนี้ก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปด้วยสักสองสามรูป
“สวยครับคุณมิ้ง” ชายหนุ่มกดชัดเตอร์ในโทรศัพท์มือถือรัวๆ
“อีกรูปนะครับ สวยมากครับ” เขาชมนางแบบจำเป็นไม่ขาดปาก

ระมิงค์โพสท่าไมค่อยถูกเพราะนานๆ จะถ่ายรูปที โดยเฉพาะคนที่อยู่หลังกล้องเป็นหนุ่มรุ่นน้องที่คอยหยอดคำหวานอยู่เรื่อยๆ ก็พาลจะเขินเสียมากกว่า
“ชมวิวหรือคนคะเนี่ย” เธอผลิยิ้มเห็นฟันขาวบวกกับลิปสติกสีชมพูอ่อนบนริมฝีปากยิ่งทำให้เจนชมไม่ขาดปาก
“ทั้งคู่ครับ วิวไม่มีคนก็สวยอยู่แล้ว พอมีคนยิ่งสวยไปใหญ่”
“เวอร์มากคุณเจน พอๆๆ ชมยังกับพี่เป็นนางแบบงั้นแหละ แก่จะตายแล้ว”
“ทำไมชอบว่าตัวเองแก่” เจนทำเสียงดุ
“เอ่อ...” ระมิงค์ชะงัก เธอคิดว่าเขาเริ่มไม่พอใจที่ได้ยินคำนี้บ่อยๆ “ก็พี่แก่จริงๆ นี่คะ” เธอเถียงด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“อยู่กับผม ไม่พูดเรื่องแก่ได้มั้ยครับ” เขาขอร้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“โอเคค่ะ พี่ขอโทษ” ระมิงค์งงตัวเองเหมือนกัน ทำไมต้องขอโทษเขา ทั้งที่เธอด่าตัวเอง
“เราไปอำเภอธาตุพนมกันต่อดีกว่าครับ แม่ผมคงรอพวกเราอยู่” เขาตัดบท
“อ้าว คุณเจนไม่ถ่ายรูปเหรอ เดี๋ยวหมอกจะจางเสียก่อนนะคะ” ระมิงค์ท้วงเพราะเขายังไม่มีรูปที่ระลึกเลย
“ผมถ่ายกับคุณมิ้งได้มั้ย” เขาขอดื้อๆ
“ห๊า!” หญิงสาวได้ยินแล้วถึงกับอ้าปากหวอ
“ไม่ได้หรือครับ” เขาจ้องหน้ารอคำตอบ
“เอ่อ...ได้สิคะ เอากล้องใครดีล่ะ” เธอตอบไปแบบงงๆ แอบกังวลอยู่นิดๆ ว่าการถ่ายรูปคู่กับหนุ่มรุ่นน้องที่อายุห่างกันเจ็ดแปดปีมันจะทำให้เธอดูแก่มากขึ้นไปอีกโดยเฉพาะการเซลฟี่
“กล้องผมดีกว่า ผมจะได้อัพโซเชียลด้วย ได้มั้ยครับ”
“หึๆๆ ได้ค่ะ ถ้าไม่รังเกียจกัน” หญิงสาวยิ้มแหยๆ ด้วยความกระดากใจที่ต้องถ่ายรูปคู่เขา จะยิ้มมากก็เกรงว่าตีนกาจะขึ้นมากไปกว่านี้ จะบอกให้ใช้แอปแต่งรูปช่วยก็คงดูตลกๆ เพราะเท่าที่เห็นผู้ชายจะไม่แต่งรูปด้วยแอปสักเท่าใด ขณะที่เขากลับยิ้มกว้างไม่เก็บอาการ

ตั้งแต่รู้จักกันทั้งคู่แทบจะไม่ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กติดต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊กก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน หรือในไลน์ก็คุยกันน้อยมาก ยกเว้นส่งรูปสำคัญๆ ให้กัน และเจนไม่ใช่คนติดโซเชียลด้วย แต่หลังจากถ่ายเซลฟี่กับสาวที่เขาหมายปอง เขารีบอัพโซเชียลทันที พร้อมกับเขียนข้อความสั้นๆ ว่า “ภาพแรกที่ริมโขง นครพนม” เพียงภาพเดียวก็ทำเอาเพื่อนฝูงในเฟซบุ๊กของเขากดถูกใจกันแทบไม่ทัน ฮือฮาราวกับดาราดังเปิดตัวแฟน เพราะนานๆ เขาจะโพสต์รูปตัวเองสักรูปส่วนใหญ่มักเป็นรูปสินค้าในร้านมากกว่า ตามด้วยคอมเมนต์ยาวเป็นหางว่าวถามถึงระมิงค์ว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร แต่ปราศจากคำเฉลยจากชายหนุ่ม

จากนั้นทั้งคู่จึงเดินทางต่อไปยังอำเภอธาตุพนม



Create Date : 05 กรกฎาคม 2565
Last Update : 5 กรกฎาคม 2565 9:25:51 น.
Counter : 601 Pageviews.

2 comments
Oh!! my sassy boss : บทที่ 28 หน้า 4 unitan
(19 ก.ค. 2567 07:54:02 น.)
:: ชีวิตคือการพบเจอและการเลือก :: กะว่าก๋า
(19 ก.ค. 2567 05:09:21 น.)
๏ ... ต้มยำกุ้ง ... ๏ นกโก๊ก
(16 ก.ค. 2567 10:27:52 น.)
Oh!! my sassy boss ตอนที่ 28 หน้า 3 unitan
(16 ก.ค. 2567 07:47:58 น.)
  
มาอ่านต่อครับ
ขับรถไกล เป็นยานอนหลับอย่างดีเลยครับ

โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 5 กรกฎาคม 2565 เวลา:21:53:50 น.
  
ดีที่คนขับไม่หลับด้วย 555
โดย: Alex on the rock วันที่: 6 กรกฎาคม 2565 เวลา:14:07:05 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Magnolia.BlogGang.com

Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]

บทความทั้งหมด