เก็บรักไว้ ให้หัวใจที่รอ ตอนที่ 16
ตอนที่ ๑๖

กิจการร้านเพาะชำต้นไม้ของปริญและเพื่อนไปได้ด้วยดี มีลูกค้าทั้งขาประจำและขาจร ถ้าเป็นขาประจำก็จะเป็นเจ้าของรีสอร์ทต่างๆ ที่จะมาสั่งคราวละมากๆ รวมทั้งแพรวม่ายสาวสวยลูกหนึ่ง เจ้าของรีสอร์ทที่เปิดใหม่อยู่แถบชานเมือง ปกติแล้วปริญจะไม่ได้มาคุมหน้าร้านด้วยตนเอง แต่หากเขามีเวลาว่างหรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์เขาก็มาดูแลแทนเพื่อน จนได้มีโอกาสพบกับแพรว เธอเดินลงมาจากรถกระบะสองตอนสีดำอย่างปราดเปรียว

“คุณชนะไม่อยู่หรือคะวันนี้” แพรวถอดแว่นกันแดดสีน้ำตาลลายกระขึ้นคาดศีรษะมองหาชนะหุ้นส่วนของปริญ
“วันนี้ชนะหยุดครับ ติดต่อเรื่องอะไรไว้ครับ” ปริญถามอย่างสุภาพ แพรวสำรวจบุคลิกท่าทางของปริญจากภายนอกแล้ว เขาไม่น่าจะใช่ลูกจ้างคนใหม่ของชนะแน่ๆ จึงบอกวัตถุประสงค์ของเธอไป
“แพรวจองต้นไม้ไว้น่ะค่ะ ไม่แน่ใจว่าเขาเตรียมให้หรือยัง แต่ไม่รีบนะคะ ผ่านมาทางนี้พอดีเลยแวะถามสักหน่อย”
“งั้นเหรอครับ ไม่แน่ใจว่าจะใช่ตรงนี้หรือเปล่า ลองเดินมาดูสิครับ” ปริญเชิญแพรวมาหลังร้าน เพื่อดูต้นไม้ที่เพื่อนเตรียมไว้บางส่วน
“อ๋อใช่เลยค่ะ แต่สั่งมากกว่านี้นะคะ”
“ครับๆ ยังไม่ครบครับ คุณจะมารับวันไหนนะครับ”
“อาทิตย์หน้าค่ะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แพรวจะขึ้นเชียงใหม่สักสามสี่วัน ยังไงแพรวจะโทรมาถามอีกทีนะคะ ขากลับจะได้แวะอีกที คุณชื่ออะไรคะ”
“ผมปริญครับ”
“เบอร์โทรอะไรคะ เผื่อคราวหน้าไม่เจอคุณชนะจะได้ติดต่อคุณปริญแทน” ปริญไม่ตอบแต่เปิดกระเป๋าสตางค์พร้อมหยิบนามบัตรส่งให้ลูกค้าสาวสวย
“อุ๊ย! อยู่ป่าไม้นี่เอง” เธอส่งยิ้มให้เหมือนจะอยากคุยต่อเรื่องงานของเขา
“คุณต้องการอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่าครับ” ปริญยิ้มด้วยไมตรี
“หึๆๆ ตอนนี้ยังหรอกค่ะ แต่มาคราวหน้าไม่แน่ แล้วแพรวจะมาโทรหานะคะ บายค่ะ” แพรวโบกมือลาแล้วเดินกลับขึ้นรถ ท่าทางของเธอดูคล่องแคล่วสมกับเป็นเจ้าของกิจการ
ปริญมองตามไปถึงรถ บังเอิญเห็นลูกชายวัยเจ็ดขวบของเธอนั่งอยู่เบาะข้างคนขับ แพรวหันมายิ้มและโบกมือให้เขาอีกครั้ง ก่อนสวมแว่นกันแดดแล้วขับรถออกไป

วันรุ่งขึ้น ปริญถามชนะถึงต้นไม้ที่แพรวจองไว้ พร้อมกับสอบถามภูมิหลังของลูกค้ารายนี้ละเอียดเป็นพิเศษ
“ถามทำไมเนี่ย มึงสนใจเขาเหรอ” ชนะแซวเพื่อนขณะที่พักทานอาหารกลางวันกันที่ร้านขนมจีนที่อยู่ข้างๆ ร้านตัวเอง
“จะบ้าเหรอ เขามีลูกแล้ว กูจะไปยุ่งทำไม”
“แล้วถามทำไม”
“กูเห็นท่าทางเขาแปลกๆ เมื่อคืนก็โทรหากูด้วย เพราะกูดันให้นามบัตรเขาไป”
“หา...โทรหามึงเนี่ยนะ โทรทำไมวะ”
“กูจะรู้มั้ยเนี่ย เขาก็ถามกูว่าย้ายมาอยู่นานหรือยัง เขาเคยรู้จักกับคนที่ทำงานป่าไม้ด้วย แต่ย้ายไปแล้ว ก็เป็นพี่ที่กูย้ายมาแทนเขานี่แหละ”
“คุณแพรวเธอเป็นคนเสน่ห์แรง อายุเกือบสี่สิบมีลูกคนหนึ่งแล้วนะแต่หุ่นยังเซี๊ยะอยู่เลย หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ตามจีบเพียบ พ่อเธอเป็นเศรษฐีค้าไม้อยู่เมืองแพร่ เลิกกับผัวที่เป็นสารวัตรไปพักใหญ่แล้ว แม่งผัวขี้หึงเป็นบ้าเลยมึง ทางที่ดีมึงอย่าไปยุ่งดีกว่า”
“อ้าว เลิกกันแล้ว จะหึงทำไมอีกวะ” ปริญสงสัย
“ก็เลิกเพราะขี้หึงมากไปไง คุณแพรวรำคาญ ถึงเลิกก็ยังตามประกบเมียเก่าอยู่ห่างๆ หมาหวงก้างน่ะเข้าใจป่ะ” ชนะอธิบาย
“ทำไมมึงรู้ดีจัง หรือว่ามึงก็เคยจีบเขาเหมือนกัน”
“เฮ้ย ไอ้บ้า กูไม่เอาหรอก กูกลัวไม่แก่ตายว่ะ อีกอย่างกูไม่ใช่สเป็คเธอด้วย เธอชอบพวกข้าราชการ”
“ฮ่าๆๆๆๆ” ปริญหัวเราะเสียงดัง
“ขำอะไรวะ” ชนะมองหน้าเพื่อนแล้วเกาหัวด้วยความสงสัย
“กูได้คำตอบแล้วว่าคุณแพรวโทรหากูทำไม”
“ทำไมวะ”
“ก็กูไง...ข้าราชการ” ปริญชี้ที่หน้าตัวเอง
“ฮ่าๆๆๆ แจ๊กพอตเลย มึงเตรียมตัวเจอกับผัวเก่าเขาได้เลยว่ะเพื่อน” ชนะพูดกลั้วหัวเราะ
ขนมจีนมื้อเที่ยงของสองหนุ่มจึงได้อรรถรสเพิ่มขึ้นด้วยการนินทาถึงม่ายสาวพราวเสน่ห์ที่ใครๆ ก็รู้จักเธอดี

และเป็นจริงดังคาด ความเป็นข้าราชการของปริญกลายเป็นเป้าหมายในการจู่โจมของแพรว เธอหมั่นโทรหาเขาเป็นประจำเกือบทุกวัน พยายามหว่านล้อมให้เขาออกไปทานข้าวสักมื้อกับเธอให้ได้ แต่เขาก็ยังคงปฏิเสธเรื่อยมาโดยอ้างโน่นอ้างนี่สารพัด เพราะไม่ต้องการให้ภูษิตสามีเก่าของเธอมาราวีอย่างที่คนอื่นๆ เคยเจอมา มันจะส่งผลต่อหน้าที่การงานและชื่อเสียงของเขาในอนาคตได้
จนสุดความอดกลั้นของปริญ เมื่อแพรวกระหน่ำกดโทรศัพท์หาเขาอยู่ครึ่งวัน แต่ปริญไม่ยอมรับโทรศัพท์ทั้งที่เป็นวันหยุด ปริญและชนะยอมปิดร้านหนีไปเที่ยวแม่สอดกันสองคน แพรวร้อนรนมาก เพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
“หนีไปไหนเนี่ย” เธอพึมพำกับตัวเองอย่างหงุดหงิดก่อนขับรถไปตามหาบ้านของปริญในตัวเมือง
แพรวถามหาบ้านของผู้ใหญ่บ้าน เพื่อสืบว่าหมู่บ้านนี้มีคนที่นามสกุลเดียวกับปริญหรือไม่ เพราะเชื่อว่าปริญเป็นคนในพื้นที่ ครอบครัวของเขาก็คงจะเป็นที่รู้จักพอสมควร ในที่สุดก็เจอบ้านของสดศรี ญาติฝ่ายพ่อของปริญซึ่งนามสกุลเดียวกับเขา
“สวัสดีค่ะ คุณป้า ป้าพอจะรู้จักบ้านของปริญที่ทำงานป่าไม้หรือเปล่าคะ” เธอเดินไปเข้าถามป้าที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้หวายในบ้าน”
“ปริญ??? ลูกชายวารีใช่มั้ย” สดศรีถามเพราะเข้าใจว่าแพรวจะรู้จักชื่อแม่ของปริญ ทั้งที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยแต่สวมรอยพยักหน้าว่าใช่ เพื่อให้สดศรีบอกทางไปบ้านเผื่อว่าจะเป็นบ้านของหนุ่มเป้าหมายจริงๆ
“หนูตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทาง แล้วเลี้ยวขวาจะเจอวัด บ้านเขาอยู่ทางเข้าวัดนั่นแหละ ลองไปถามคนแถวนั้นดูอีกทีนะ”
“ค่ะๆ ขอบคุณค่ะ”
แพรวไม่ล้มเลิกความตั้งใจ เธอไปถึงหน้าบ้านปริญจนได้ ประตูรั้วเหล็กเปิดแง้มไว้ เธอจึงถือวิสาสะผลักประตูเข้าไปช้าๆ
“สวัสดีค่ะ คุณแม่ของปริญใช่มั้ยคะ” เธอทักทายขณะที่วารียืนกวาดขยะอยู่ในบ้าน
“อุ้ย!” วารีสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อหันมาเห็นสาวสวยปากแดงยืนอยู่หน้าบ้าน “หนูเป็นใครเหรอ” เธอถามกลับด้วยความงง
“หนูชื่อแพรวค่ะ ปริญอาจจะยังไม่เคยเล่าให้แม่ฟังว่าเรารู้จักกันมาสักระยะแล้วค่ะ ปริญอยู่มั้ยคะคุณแม่” เธอถามพร้อมกับใช้สรรพนามเรียกวารีอย่างสนิทสนม
“ไม่อยู่หรอก เขาออกไปข้างนอกแต่เช้าแล้ว” วารีโต้ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ “เอ๊ะ ถ้ารู้จักกัน ทำไมไม่บอกกันล่ะ นัดกันไว้หรือเปล่า”
“อ๋อ...เอ่อ... คือ...เขานัดหนูไว้แต่หนูติดต่อเขาไม่ได้น่ะค่ะ” แพรวอ้างไปเรื่อย
“รู้จักชนะมั้ย ลองโทรหาชนะสิ เขาไปด้วยกัน”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่ หนูลาล่ะค่ะ” แพรวไหว้วารีก่อนขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว และไม่ลืมที่จะกดโทรศัพท์ไปยังเบอร์ของชนะทันที ซึ่งตอนนี้อยู่กับปริญที่ตลาดริมเมย
ชนะชะงักเมื่อเห็นเบอร์ของม่ายสาวขึ้นบนจอมือถือของเขา
“ตายห่าล่ะมึง” ชนะอุทานเสียงดัง “คุณแพรวโทรเข้าเครื่องกู”
“เอาไงดีวะไอ้ปริญ” ชนะลุกลี้ลุกลน
“มึงจะกลัวอะไร มึงก็รับไปดิ เขาไม่ได้ตามมึงซะหน่อย ตามกูนี่ มึงก็บอกไปว่าไม่ได้อยู่กับกู จบ” ปริญไม่มีทีท่าสะทกสะท้าน
“ฮะ...ฮัล...โหลครับ” ชนะตื่นเต้นจนมีพิรุธ
“วันนี้ทำไมชนะปิดร้านล่ะคะ” แพรวถามเสียงดุ
“อ๋อ...ผมมีธุระด่วนน่ะครับ เพื่อนตาย....” ชนะโกหก ขณะที่ปริญฟังอยู่ข้างๆ หัวเราะคิกคัก
“แล้วปริญอยู่ด้วยกันกับคุณหรือเปล่าคะ”
“เอ่อ...เปล่านี่ครับ ผมมาคนเดียว” ชนะเริ่มคล่องขึ้น
“อ้าวเพื่อนที่ตาย ไม่ใช่เพื่อนปริญด้วยหรือคะ” แพรวซัก
“อ้อ...ไม่ใช่ครับ เพื่อนของผม เป็นเพื่อนที่เคยทำงานด้วยกันน่ะครับ”
“แต่แม่ของปริญบอกว่าปริญมากับชนะนี่คะ” แพรวเถียง
ปริญดัดเสียงให้ใหญ่ขึ้นแล้วพูดแทรกใส่โทรศัพท์เพื่อให้สถานการณ์สมจริงสมจัง “เฮ้ย ชนะเสร็จยังวะ แขกมากันเต็มแล้ว”
“เอ่อ คุณแพรวครับ เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะครับ ผมต้องไปรดน้ำศพเพื่อนแล้ว สวัสดีครับ” ชนะรีบตัดสายทิ้งและปิดเครื่องทันที เขาถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก เพราะไม่เคยจะโกหกแล้วตื่นเต้นเช่นนี้มาก่อน
“ไอ้ปริญ มึงนะมึง กูโกหกแฟนกูยังไม่เครียดเท่านี้เลย”
“ฮ่าๆๆๆๆ ขอบใจมากเพื่อน” ปริญตบไหล่เพื่อนเบาๆ
“แล้วพรุ่งนี้เกิดเขาไปตามถึงที่ทำงานล่ะ มึงจะทำไง”
“ไม่กล้าหรอก สถานที่ราชการเสียชื่อสาวสังคมตายห่า”
“ระวังจะเสร็จแม่ม่ายสาวสังคมนะมึง โสดๆ ล่ำๆ อย่างมึงน่ะใครๆ ก็อยากกิน” ชนะเย้าเพื่อน
“ทะลึ่งแล้วมึงนี่” ปริญถองไปที่ท้องของเพื่อนจนตัวงอ ก่อนที่จะหัวเราะสนุกสนาน
“เฮ้ย! แต่เมื่อกี๊คุณแพรวพูดถึงแม่มึงด้วยว่ะ ไม่ใช่ตามไปถึงบ้านมึงแล้วรึ” ชนะตั้งข้อสังเกต ทำเอาปริญหัวเราะต่อไม่ออก



Create Date : 04 กรกฎาคม 2557
Last Update : 5 ตุลาคม 2560 9:51:41 น.
Counter : 975 Pageviews.

0 comments
: รูปแบบของชีวิต : กะว่าก๋า
(17 เม.ย. 2567 04:37:20 น.)
15/04/67 สมาชิกหมายเลข 4675166
(15 เม.ย. 2567 09:46:52 น.)
15 เมษายน 2567 คุกกี้คามุอิ
(15 เม.ย. 2567 04:15:53 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 35 : กะว่าก๋า
(13 เม.ย. 2567 05:51:40 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Magnolia.BlogGang.com

Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]

บทความทั้งหมด