การเกษตร
อาหาร
การถนอมอาหาร
<<
ธันวาคม 2563
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
3 ธันวาคม 2563
ประโยชน์จากผลิตผลพลอยได้จากกระบวนการแปรรูปสับปะรด (เปลือกสับปะรด)
ราบิวเวอเรีย สำหรับกำจัดแมลงศัตรูพืช
กล้วยไม้อัจฉริยะ
ไร่ อ.การเกษตร โค่นสวนยาง 44 ไร่ สร้างรายได้หลังเกษียณ
เปิดสวนเกษตรกร 2 วัย ฟ้าใสฟาร์ม สวนเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรรุ่นใหม่ และ ไร่ อ.การเกษตร โค่นสวนยาง
ท่องเที่ยวเชิงเกษตร เขาค้อเที่ยวได้ตลอดปี
บลอนด์ดาคิแตน โคเนื้อสายพันธุ์ฝรั่งเศส ให้เนื้อคุณภาพดี
ขนแพะ (Goat Fiber) 2
ขนแพะ (Goat Fiber)
ไก่กระดูกดำ
น้ำผึ้งแท้ ควรมีลักษณะ อย่างไร
จิ้งหรีดออร์แกนิคเงินล้าน
การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผึ้ง
น้ำข้าวกล้องงอกเพื่อสุขภาพ สรรพคุณที่ไม่ธรรมดา
วิธีทำน้ำมันตะไคร้หอม
สบู่เหลวฟักข้าว
ปลาเส้น ผลิตภัณฑ์ชุมชนน่าซื้อจากบ้านตะเคียนดำ
รำข้าวอัดเม็ดผสมผงผักโมโรเฮยะ นวัตกรรมข้าวไทยเป็นลูกอมเม็ดเคี้ยวเพื่อสุขภาพ
แมลงวันไผ่ ศัตรูพืชอุบัติใหม่ที่น่าจับตามอง
เลี้ยงแมลงหางหนีบ (Earwigs) ควบคุมศัตรูพืช
ปทุมมา ไม้ดอกพันธุ์ไทย
ปุ๋ยน้ำแขวนลอยสูตรเข้มข้น
ประโยชน์จากผลิตผลพลอยได้จากกระบวนการแปรรูปสับปะรด (เปลือกสับปะรด)
ราบิวเวอเรีย สำหรับกำจัดแมลงศัตรูพืช
กล้วยไม้อัจฉริยะ
บัวบกและวิธีทำชาใบบัวบก
หนานเฉาเหว่ย
การผลิตกระชายดำคุณภาพเพื่อการส่งออก
ถั่วดาวอินคา
กล้วยหิน เพิ่มรายได้ ให้ประโยชน์
ทำปุ๋ยหมักใต้ต้นลำไย ลดต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต
เทคนิคปลูกกล้วยไข่ (ต้นทุนต่ำ) คุณภาพดีมาตรฐานส่งออก
มะไฟ
การปลูกพืชในพื้นที่จำกัด
การปลูกมะนาวนอกฤดูในบ่อซีเมนต์
ผักกูด พืชป่าที่เป็นอาหารได้
การเพาะพืชต้นอ่อนทานตะวัน
ข้าวลูกผสม คืออะไร?
การอนุรักษ์พันธุกรรมข้าว
การทำน้ำตาลจาก
ถั่วลิสงคั่วทราย
น้ำตาลโตนดเมืองเพชรบุรี
การทำน้ำตาลมะพร้าว
ราบิวเวอเรีย สำหรับกำจัดแมลงศัตรูพืช
ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนมีสภาพภูมิอากาศเหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกพืชหลายชนิดที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ เช่น ข้าว มันสำปะหลัง อ้อย ยางพารา ไม้ดอก ไม้ประดับ ผลไม้และผักต่างๆ เป็นต้น ผลผลิตทางการเกษตรเหล่านี้สร้างรายได้เข้าประเทศปีละหลายแสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม การเพาะปลูกพืชเหล่านี้มีปัญหาหลักอย่างหนึ่งคือ การเข้าทำลายของแมลงศัตรูพืช ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากในระยะหลายปีที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ยิ่งเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดปัญหาการระบาดของแมลงศัตรูพืชรุนแรงยิ่งขึ้น ทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหายจำนวนมาก เพื่อป้องกันและควบคุมแมลงศัตรูพืชอย่างแพร่หลาย แม้ว่าจะได้ผลดีในระยะสั้น แต่แมลงหลายชนิดสามารถพัฒนาการดื้อต่อยาฆ่าแมลงได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นสารเคมียังออกฤทธิ์ทำลายแมลงที่เป็นประโยชน์อื่นๆ เช่น ศัตรูธรรมชาติของแมลงศัตรุพืช ทำให้ระบบนิเวศน์เสียสมดุลเกิดการระบาดของแมลงศัตรูพืชอย่างรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมได้
การป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชโดยใช้ชีวภัณฑ์จากจุลินทรีย์ที่สามารถก่อโรคอย่างจำเพาะในแมลง เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส ถือว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม การใช้จุลินทรีย์เหล่านี้แม้ว่าจะมีข้อดีหลายอย่างแต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ออกฤทธิ์ช้ากว่าการใช้สารเคมี ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะทำให้แมลงตายได้และจุลินทรีย์ให้เหมาะสมกับชนิดของแมลงที่กำลังระบาด ซึ่งบางครั้งมีแมลงหลายชนิดเข้าทำลายพืชพร้อมกันทำให้ควบคุมยาก จึงต้องใช้จุลินทรีย์หลายชนิดร่วมกับวิธีการอื่นๆ เป็นการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน (Integrated pest management : IPM) จึงจะได้ประสิทธิภาพสูงสุด
จุลินทรีย์ที่นิยมใช้และออกฤทธิ์ต่อหนอนแมลงหลายชนิด ได้แก่ แบคทีเรียบีที (Bacillus thuringiensis) อย่างไรก็ตามเชื้อบีทีจะใช้ได้กับแมลงประเภทปากกัดและทำลายพืชจากภายนอกเท่านั้น เช่น หนอนผีเสื้อต่างๆ ทั้งผีเสื้อกลางวัน และผีเสื้อกลางคืน บีทีไม่สามารถใช้กำจัดเพลี้ยได้ดีจึงเป็นเชื้อราที่สามารถงอกและเจริญเข้าไปในตัวเพลี้ยได้ดีจึงเป็นเชื้อราที่สามารถงอกและเจริญเข้าไปในตัวเพลี้ยจนทำให้เพลี้ยตายได้ จากการคัดเลือกเชื้อราต่างๆในคลังจุลินทรีย์ของศูนย์พันธุ์วิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (สวทช.) พบว่าเชื้อราบิวเรอเรีย Beauveria bassiana BCC2600 สามารถออกฤทธิ์ต่อเพลี้ยกระโดสีน้ำตาล เพลี้ยแป้ง และเพลี้ยอ่อนได้ดี การทดสอบในภาคสนามทั้งนาข้าว ไร่มันสำปะหลัง และแปลงถั่วผักยาว พบว่า สามารถควบคุมเพลี้ยได้ดีเทียบเท่ากับการใช้สารเคมี นอกจากนั้น เรายังได้พัฒนาสูตรอาหารและวิธีการเลี้ยงเชื้อราให้ได้ผลผลิตสูงและคงประสิทธิภาพในการกำจัดแมลงได้ดี สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้ผู้สนใจนำไปผลิตใช้ได้
ราบิวเวอเรียสายพันธุ์ สวทช. (Beauveria bassiana BCC2660) เป็นเชื้อราที่แยกได้จากธรรมชาติในประเทศไทย ลักษณะเป็นเส้นใยสีขาว เมื่อเจริญเต็มที่จะสร้างสปอร์สีขาวขนาดเล็กคล้ายผงแป้ง มีคุณสมบัติในการก่อโรคในแมลงศัตรูพืชหลายชนิด แต่ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยง
ราบิวเวอเรียฆ่าแมลงได้อย่างไร : เมื่อสปอร์ของราชนิดนี้ปลิวไปตกบนผิวของแมลงในสภาวะที่มีความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสม สปอร์จะงอกและแทงทะลุเข้าไปภายในตัวของแมลงมีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวน ทำให้แมลงเป็นโรคและตายในที่สุดซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน เชื้อราจะใช้สารอาหารจากตัวแมลงเพื่อเพิ่มจำนวนและสร้างเส้นใยสีขาวขึ้นมาปกคลุมตัวแมลง จากนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นสปอร์ ซึ่งสามารถกระจายไปกับลม น้ำ หรือการสัมผัสของแมลงที่เดินผ่าน ทำให้สามารถควบคุมแมลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากผิวของแมลงแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ทำให้มีความไวต่อราบิวเวอเรียไม่เหมือนกัน ราชนิดนี้จึงออกฤทธิ์ได้ดีกับแมลงบางชนิดเท่านั้น เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยไฟ และแมลงหวี่ขาว เป็นต้น
ข้อควรคำนึงในการใช้ราบิวเวอเรีย : เนื่องจากสปอร์ของราบิวเวอเรียไม่ชอบน้ำ ดังนั้น จึงต้องผสมสารช่วยลดแรงตึงผิวหรือสารจับใบในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้สปอร์ราบิวเวอเรียกระจายตัวสม่ำเสมอ และสามารถเกาะติดกับตัวแมลงได้ดีขึ้น เมื่อทำการผสมสปอร์รากับน้ำแล้วให้ฉีดพ่นทันที การผสมทิ้งไว้นานจะทำให้ประสิทธิภาพลดลง ทำการฉีดพ่นช่วงเย็นทุก 3-7 วัน ติดต่อกันอย่างน้อย 3 ครั้ง และพ่นให้สปอร์ราสัมผัสกับตัวแมลง หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขณะมีแดดจัดเนื่องจากแสงแดดและความร้อนจะทำลายสปอร์ราบิวเวอเรีย ควรเก็บรักษาเชื้อราในที่แห้งและเย็น ห้ามตากแดดหรือเก็บในที่มีความร้อน ผู้ทำการผลิตสปอร์ราไม่ควรทำการต่อเชื้อเอง เนื่องจากการต่อเชื้อแต่ละครั้งจะทำให้ประสิทธิภาพการทำลายแมลงลดลงเรื่อยๆ การใช้หัวเชื้อใหม่ทุกครั้งในการผลิตจะทำให้ได้สปอร์ราที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ข้อดีของการใช้ราบิวเวอเรีย
รักษาสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์ เนื่องจากราบิวเวอเรียไม่ทำลายแมลงที่เป็นประโยชน์ เช่น ตัวห้ำ ตัวเบียน
เป็นวิธีการที่ไม่มีสารพิษตกค้าง ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และผู้บริโภค
สามารถใช้ได้กับระบบเกษตรปลอดภัย และเกษตรอินทรีย์
สามารถใช้ร่วมกับยาฆ่าแมลง และช่วยลดการดื้อยาของแมลงศัตรูพืช
ออกฤทธิ์เสริมกับชีวภัณฑ์อื่นๆ เช่น ไวรัสเอ็นพีวีและเชื้อแบคทีเรียบีที ทำให้สามารถควบคุมแมลงศัตรูพืชได้ดียิ่งขึ้น
เกษตรกรสามารถผลิตราบิวเวอเรียใช้เองได้
ปัจจุบันทีมวิจัยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กำลังทำการทดสอบการใช้เชื้อราบิวเวอเรียสายพันธุ์ BCC2660 ควบคุมแมลงในสวนกล้วยไม้ ซึ่งแมลงเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ บั่วกล้วยไม้ และเพลี้ยไฟ โดยทำการทดสอบในแปลงเกษตรกรอาสาสมัครผู้เข้าร่วมโครงการในหลายพื้นที่ คือ สมุทรสาคร นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพมหานคร นอกจากนั้น ทีมวิจัยยังได้ทำการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสปอร์ราสด (ก้อนเชื้อสด) แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 3 ราย เพื่อทำการผลิตสปอร์ราบิวเวอเรียส่งให้แปลงทดสอบต่างๆ โดยทีมวิจัยได้ช่วยให้คำแนะนำปรับปรุงวิธีการผลิตให้ได้สปอร์ที่มีคุณภาพดีตามมาตรฐานที่กำหนด
ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร
Create Date : 03 ธันวาคม 2563
Last Update : 3 ธันวาคม 2563 11:00:12 น.
0 comments
Counter : 495 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
สมาชิกหมายเลข 6126135
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Webmaster - BlogGang
[Add สมาชิกหมายเลข 6126135's blog to your web]
https://www.sgethai.com/vacuum-sealer/
Bloggang.com