space
space
space
<<
กุมภาพันธ์ 2564
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
space
space
13 กุมภาพันธ์ 2564
space
space
space

เปิดสวนเกษตรกร 2 วัย “ฟ้าใสฟาร์ม” สวนเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรรุ่นใหม่ และ “ไร่ อ.การเกษตร” โค่นสวนยาง
               เกษตร 360° ฉบับนี้ จะพาไปลงพื้นที่เยี่ยมเยียน 2 เกษตรกรต่างวัย ชาวจังหวัดสตูล ที่เปลี่ยนแปลงชีวิต จากนักวิจัยอิสระดีกรีการศึกษาปริญญาโท ที่ลาออกจากงานประจำมุ่งมั่นทำการเกษตรตามแนวทางเกษตรธรรมชาติ และอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน ที่ใช้เวลาหลังเกษียณอายุราชการเริ่มต้นทำการเกษตรด้วยใจรัก ยอมโค่นสวนยางพารา 44 ไร่ หันไปปลูกพืชอย่างอื่นทดแทน
“ฟ้าใสฟาร์ม” สวนเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรรุ่นใหม่
               บนพื้นที่ จำนวน 2 ไร่ ติดชายเขา หมู่ 5 ตำบลควนสะตอ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล เป็นที่ตั้งของ “ฟ้าใสฟาร์ม” โดยมี นางสาวฟ้าใส บุญส่ง อายุ 42 ปี เป็นเจ้าของ ได้ลงมือลงแรงร่วมกับ นายนิเวศ ชายฝั่ง ผู้เป็นคู่ชีวิตที่ลาออกจากงานประจำตำแหน่งนักพัฒนาองค์กรเอกชนมาช่วยกันปรับเปลี่ยนพื้นที่เพาะปลูกพืชไม้และพรรณไม้นานาชนิดกว่า 2,000 ประเภท โดยปลูกอย่างผสมผสานเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
               นางสาวฟ้าใส เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปว่า เมื่อปี 2553 ตนเองได้สำเร็จการศึกษาปริญญาโทด้านการส่งเสริมการเกษตรจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) และเริ่มอาชีพการเป็นนักวิจัยอิสระ ควบคู่กับทำงานประจำ พร้อมทั้งได้ศึกษาแนวทางเกษตรธรรมชาติ ของมาซาโนบุ ฟูกูโอกะ ชาวญี่ปุ่นทำให้เล็งเห็นว่าปัจจุบันคนเรามีอายุเฉลี่ยที่สั้นลง เนื่องจากกินพืชผักที่มีสารพิษไปสะสมในร่างกาย จึงอยากจะผันตัวมาทำการเกษตรที่ปลอดภัย ทำให้ตนเองตัดสินใจลาออกจากงานประจำ โดยมีความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะมาทำการเกษตรตามแนวทางเกษตรธรรมชาติเน้นการเพาะปลูกพืชทุกชนิดเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น
               ในปี 2554 จึงได้เข้ามาซื้อที่ดินต่อจากเจ้าของเดิม จำนวน 2 ไร่ ปลูกพืชผักและพรรณไม้นานาชนิดเท่าที่จะหาพันธุ์มาปลูกได้ อาทิ ผักกวางตุ้ง คะน้า อ้อย ชะพลู ขมิ้น พริกขี้หนู เตยหอม กระชาย บัวบก อัญชัน กุหลาบ รวมทั้งพันธุ์ไม้พื้นเมืองอีกหลายชนิด โดยปลูกตามแนวคิดเกษตรธรรมชาติให้ทุกอย่างอยู่กันอย่างสมดุล เกื้อกูลซึ่งกันและกัน ซึ่งต้นทุนการเพาะปลูกจะต่ำมาก ๆ เนื่องจากพันธุ์ก็หาได้จากท้องถิ่น ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมี ทำให้ไม่มีรายจ่ายในส่วนนี้ ต่อมามีเจ้าหน้าที่เข้ามาแนะนำให้ขอมาตรฐาน organic Thailand จากสำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ตนจึงได้ยื่นคำขอไปและได้รับการตรวจสอบมาตรฐานโดยอยู่ในระยะปรับเปลี่ยนเพียง 3 เดือน ก็ผ่านมาตรฐานและได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง
               ผลผลิตของฟาร์มในระยะแรกเริ่ม จะเน้นการริโภคเองและแจกจ่ายเพื่อนบ้าน ต่อมาเริ่มมีคนเข้ามาติดต่อขอซื้อจึงแบ่งขาย ปัจจุบันผลผลิตบางส่วนจะนำมาวางจำหน่ายที่ตลาดเกษตรกร หน้าศาลากลางจังหวัด และผลผลิตอีกจำนวนหนึ่งจะทำการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของฟาร์ม อาทิ แชมพูสระผมจากดอกอัญชัน ชาใบหม่อน ชารางจืด สบู่ขมิ้น ฯลฯ จำหน่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Facebook Line เป็นต้น สร้างรายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งรายได้อีกทางของฟาร์มมาจากการเพาะและจำหน่ายพันธุ์ไม้ท้องถิ่น ซึ่งบางชนิดหายากเป็นที่ต้องการ เช่น ยอบ้าน แคนา จำปาดะ หมากมหก ผักหวานบ้าน ผักปรัง เป็นต้น
               “ได้ยึดถือและน้อมนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวปฏิบัติเจริญรอยตามพระองค์ ซึ่งตนเองมองว่าทุกอย่างตามแนวพระราชดำรินั้น สามารถทำได้ทันทีและเน้นการพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด สร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง จนในขณะนี้ฟ้าใสฟาร์มเป็นสถานที่ศึกษาดูงานด้านเศรษฐกิจพอเพียงและด้านเกษตรอินทรีย์ ของผู้สนใจทั่วไป เยาวชน ชุมชนต่าง ๆ ที่ติดต่อเข้ามาศึกษาดูงานอย่างไม่ขาดสาย และมีความตั้งใจจะพัฒนาให้มีหลักสูตรเรียนรู้ด้านการพึ่งพาตนเองและด้านเกษตรอินทรีย์ ให้บุคคลที่สนใจเข้ามาฝึกอบรมได้ต่อไป… เจ้าของ “ฟ้าใสฟาร์ม” กล่าว”
 
ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร
 


Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2564
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2564 9:45:54 น. 0 comments
Counter : 711 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6126135
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6126135's blog to your web]
space
space
space
space
space