|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
หากใครผ่านตลาดช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน คงได้เห็นสีเหลืองสดใสของมะไฟสุก วางเรียงรายกันอยู่บนแผงผลไม้ มะไฟออกผลเป็นพวงระย้า มีเมล็ดผลละ 1-2 เมล็ด เนื้อหุ้มเมล็ดสีขาวขุ่น ฟู นุ่ม ฉ่ำน้ำ รสเปรี้ยวอมหวาน มักกินเป็นผลไม้สดหรือทำน้ำมะไฟ ไม่นิยมไปแปรรูป เพราะมีเนื้อน้อย การบริโภคมะไฟจะช่วยให้ร่างกายได้รับโพแทสเซียม ที่มีบทบาทในการควบคุมการเต้นของหัวใจและความคุมความดันโลหิต แมกนิเซียมที่จำเป็นต่อกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกาย วิตามินซีที่ใช้ในการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนัง กระดูก และข้อต่อต่างๆแข็งแรง และยังมีแคลเซียมและน้ำตาลอีกเล็กน้อย นอกจากผลของมะไฟที่มีประโยชน์แล้ว ส่วนอื่นๆของมะไฟยังมีประโยชน์อีกด้วย เช่น ใบของมะไฟ และรากสด-แห้ง ต่างก็มีประโยชน์เช่นกัน โดยมีสรรพคุณในการรักษาโรคและอาหารต่างๆได้ มะไฟ (Burmese grape) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Baccaurea ramiflora Lour จัดเป็นพืชพื้นเมืองของอินโดนิเซีย โดยปลูกกันแพร่หลายในอินเดียและมาเลเซีย และยังพบได้ทั่วไปตามในแถบเอเชีย เป็นไม้ยืนต้น มีผลออกเป็นช่อ ผลอ่อนของมะไฟมีขนคล้ายกำมะหยี่ ถ้าผลแก่ผิวจะเกลี้ยง มีเปลือกสีทอง เนื้อมีสีขาวหรือขาวใสอมชมพู แล้วแต่สายพันธุ์ที่ปลูก ส่วนเมล็ดจะแบนและมีสีน้ำตาล พันธุ์ที่นิยมปลูกทั่วไปได้แก่ พันธุ์เหรียญทอง (ผลใหญ่ ก้นเรียบ มีเนื้อสีขาว), พันธุ์ไข่เต่า (ผลกลมรี ก้นแหลม เนื้อขาวอมชมพู หวานอมเปรี้ยวมากกว่าพันธุ์เหรียญทอง) และอีกสายพันธุ์คือมะไฟสีม่วง โดยเปลือกจะมีสีม่วง (ประเทศจีน) ประโยชน์ของมะไฟ - วิตามินซีจากผลมะไฟ ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ช่วยทำให้ผิวพรรณเรียบเนียน เปล่งปลั่งสดใส
- ทำให้ชุ่มคอ ช่วยขับเสมหะ และช่วยละลายเสมหะ
- ผลใช้เป็นยาช่วยย่อย รักษาอาการอาหารไม่ย่อย
- ผลช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
- แก้อาหารท้องร่วง (รากนำไปต้มกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ)
- ช่วยบรรเทาอาการไข้ที่มีอาการปวดข้อ ปวดเข่า และมีผื่นคล้ายลมพิษ หรือ ไข้ประดง (รากสดหรือรากแห้ง)
- รักษากลาก เกลื้อน และโรคเรื้อน (ใบ)
- แก้อาการผิวหนังอักเสบชนิดที่เป็นถุงน้ำและลอกออกมา (รากสดหรือรากแห้ง)
วิธีทำน้ำมะไฟ - เตรียมวัตถุดิบดังนี้ มะไฟ 500 กรัม, น้ำเชื่อม ½ ถ้วย, เกลือป่น ½ ช้อนชา, น้ำสะอาด 3 ถ้วย
- นำมะไฟมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปปอกเปลือก แล้วนำเนื้อที่ได้ ใส่น้ำต้มให้เดือดประมาณ 10 นาที
- รอจนเนื้อมะไฟเละ หลังจากนั้นให้กรองเอาแต่น้ำ
- ใส่น้ำเชื่อม เกลือป่น ตามลงไป แล้วคนให้เข้ากัน เสร็จแล้วเทใส่ขวด
- นำมาแช่ไว้ในตู้เย็น ถ้าจะดื่มก็ใส่น้ำแข็งด้วยจะดีมาก เสร็จแล้ววิธีทำน้ำมะไฟ
ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2563 |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2563 9:15:57 น. |
|
0 comments
|
Counter : 752 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|