space
space
space
<<
กุมภาพันธ์ 2564
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
space
space
13 กุมภาพันธ์ 2564
space
space
space

ไร่ อ.การเกษตร” โค่นสวนยาง 44 ไร่ สร้างรายได้หลังเกษียณ

“ไร่ อ.การเกษตร” โค่นสวนยาง 44 ไร่ สร้างรายได้หลังเกษียณ
               นายอาดินัน นุ้ยเด็น อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งมะปรัง ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ใช้เวลาหลังเกษียณอายุราชการเริ่มต้นสร้าง “ไร่ อ.การเกษตร” ทำการเกษตรด้วยใจรักหวังให้คนรุ่นลูกได้สานต่อ
               อดีต ผอ. เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นราคายางพาราตกต่ำและต้นยางพาราในสวนของพื้นที่หมู่ 8 ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอตวนกาหลง มีอายุเกือบ ๆ 30 ปี ให้ผลผลิตต่อไร่ลดน้อยลง จึงตัดสินใจโค่นต้นยางพารา จำนวน 44 ไร่ เพื่อปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอย่างอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงและมีอนาคตกว่า ตนเองได้แบ่งพื้นที่ จำนวน 24 ไร่ เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน เพราะเล็งเห็นว่าปาล์มน้ำมันยังคงมีอนาคตในด้านราคา มีโรงงานรับซื้อผลผลิตในพื้นที่และตั้งใจให้ปาล์มน้ำมันเป็นพืชหลักของสวน ส่วนพื้นที่อีก 20 ไร่ หลังปลูกปาล์มแล้ว ได้ทยอยปลูกกล้วยไข่ เพื่อเสริมให้เป็นรายได้ในช่วงแรกที่ปาล์มน้ำมันยังไม่ให้ผลผลิต และในพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันได้ปลูกมะละกอ ฮอลแลนด์ จำนวน 600 ต้น และกล้วยหอมทองอีกจำนวนหนึ่งแซมลงไปด้วยเพื่อใช้พื้นที่ให้เต็มศักยภาพ
               การจัดการในสวนได้แรงคนหนุ่มซึ่งเป็นลูกและหลานชาย ที่มีใจรักในการเกษตร เข้ามาเป็นหลักในการดูแลในสวน จำนวน 4 คน ได้แก่ นายอดิสร ปะดุกา นายอภิชาต หวันตาหา นายอิสมาแอล หวันตาหา และนายกิตตินันท์ นุ้ยเด็น เป็นกำลังหลักในการดูแลสวนทั้งหมดเริ่มต้นตั้งแต่การเตรียมพื้นที่ก่อนปลูก การปลูก การดูแลรักษา ตลอดจนเก็บเกี่ยวผลผลิต
               สำหรับการวางระบบน้ำได้นายกิตตินันท์ ลูกชายคนเล็ก เป็นคนจัดการทั้งหมด โดยศึกษาวิธีการจากแหล่งความรู้ในอินเทอร์เน็ตและสอบถามผู้มีความรู้ความชำนาญโดยในพื้นที่ไร้ได่ขุดสระน้ำขนาดย่อมและติดตั้งเครื่องสูบน้ำเดินท่อวางระบบไว้เต็มพื้นที่ 44 ไร่ เพื่อหล่อเลี้ยงปาล์มน้ำมัน กล้วยไข่ กล้วยหอมทอง และมะละกอฮอลแลนด์ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องสภาวะแล้ง
               ตอนนี้ปาล์มน้ำมันกำลังเติบโตเข้าปีที่ 2 ส่วนกล้วยไข่และมะลกอฮอลแลนด์เริ่มทยอยให้ผลผลิตและส่งขายออกสู่ตลาดแล้ว สำหรับกล้วยไข่เริ่มแรกจัดได้ 30-50 กิโลกรัมต่อวัน ขายส่งแม่ค้าตลาดนัดต่าง ๆ ในจังหวัดสตูล ราคากิโลกรัมละ 15-20 บาท สร้างรายได้ต่อวัน ประมาณ 700 บาท ซึ่งคาดว่าผลผลิตต่อวันจะขยับสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ส่วนมะละกอฮอลแลนด์สามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณวันละ 50 กิโลกรัม ขายส่งกิโลกรัมละ 30 บาท สร้างรายได้ต่อวันประมาณ 1,500 บาท
               “ปัจจุบันผมอายุ 64 ปี แล้ววางแผนว่าหากสวนมีรายได้หลักจากปาล์มน้ำมันเมื่อไหร่ จะวางมือพักผ่อนให้ลูกเข้ามาบริหารจัดการ ดูแลกันเอง เชื่อว่าเขาทำได้ และทำได้ดีกว่าเราด้วย เพราะเราเห็นว่าเขารักในการเกษตร ตรงนี้ถือว่าเป็นโชคดีที่ผมมีลูกหลานที่มีใจรักการเกษตรมาสืบทอดต่อ ถึงเวลานั้นผมคงได้เกษียณอีกครั้งเป็นหนที่สอง…” อดีต ผอ. อาดินัน กล่าวทิ้งท้าย
               ทางด้าน นายสมมารถ สยมภาค เกษตรจังหวัดสตูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เตรียมขยายผลเป็นแหล่งเรียนรู่ เพื่อให้เกษตรกรชาว และประชาชนทั่วไปที่สนใจด้านการปลูกกล้วยไข่ กล้วยหอมทอง และมะลอกอฮอลแลนด์ เข้ามาศึกษาเรียนรู้ได้ และทาง “ไร่ อ.การเกษตร” มีความยินดีที่จะเผยแพร่ความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ให้แก่ผู้สนใจอื่น ๆ เพื่อสร้างรายได้ที่มากกว่า และลดพื้นที่ปลูกยางพาราของจังหวัดเป็นหนึ่งในนโยบายของ นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฎฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ซึ่งตรงนี้สามารถเป็นแบบอย่างได้เป็นอย่างดี
 
ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร
 




 

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2564
0 comments
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2564 9:48:22 น.
Counter : 1182 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

space

สมาชิกหมายเลข 6126135
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6126135's blog to your web]
space
space
space
space
space