|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | |
|
|
|
ไร่ อ.การเกษตร โค่นสวนยาง 44 ไร่ สร้างรายได้หลังเกษียณ |
|
“ไร่ อ.การเกษตร” โค่นสวนยาง 44 ไร่ สร้างรายได้หลังเกษียณ นายอาดินัน นุ้ยเด็น อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งมะปรัง ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ใช้เวลาหลังเกษียณอายุราชการเริ่มต้นสร้าง “ไร่ อ.การเกษตร” ทำการเกษตรด้วยใจรักหวังให้คนรุ่นลูกได้สานต่อ อดีต ผอ. เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นราคายางพาราตกต่ำและต้นยางพาราในสวนของพื้นที่หมู่ 8 ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอตวนกาหลง มีอายุเกือบ ๆ 30 ปี ให้ผลผลิตต่อไร่ลดน้อยลง จึงตัดสินใจโค่นต้นยางพารา จำนวน 44 ไร่ เพื่อปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอย่างอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงและมีอนาคตกว่า ตนเองได้แบ่งพื้นที่ จำนวน 24 ไร่ เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน เพราะเล็งเห็นว่าปาล์มน้ำมันยังคงมีอนาคตในด้านราคา มีโรงงานรับซื้อผลผลิตในพื้นที่และตั้งใจให้ปาล์มน้ำมันเป็นพืชหลักของสวน ส่วนพื้นที่อีก 20 ไร่ หลังปลูกปาล์มแล้ว ได้ทยอยปลูกกล้วยไข่ เพื่อเสริมให้เป็นรายได้ในช่วงแรกที่ปาล์มน้ำมันยังไม่ให้ผลผลิต และในพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันได้ปลูกมะละกอ ฮอลแลนด์ จำนวน 600 ต้น และกล้วยหอมทองอีกจำนวนหนึ่งแซมลงไปด้วยเพื่อใช้พื้นที่ให้เต็มศักยภาพ การจัดการในสวนได้แรงคนหนุ่มซึ่งเป็นลูกและหลานชาย ที่มีใจรักในการเกษตร เข้ามาเป็นหลักในการดูแลในสวน จำนวน 4 คน ได้แก่ นายอดิสร ปะดุกา นายอภิชาต หวันตาหา นายอิสมาแอล หวันตาหา และนายกิตตินันท์ นุ้ยเด็น เป็นกำลังหลักในการดูแลสวนทั้งหมดเริ่มต้นตั้งแต่การเตรียมพื้นที่ก่อนปลูก การปลูก การดูแลรักษา ตลอดจนเก็บเกี่ยวผลผลิต สำหรับการวางระบบน้ำได้นายกิตตินันท์ ลูกชายคนเล็ก เป็นคนจัดการทั้งหมด โดยศึกษาวิธีการจากแหล่งความรู้ในอินเทอร์เน็ตและสอบถามผู้มีความรู้ความชำนาญโดยในพื้นที่ไร้ได่ขุดสระน้ำขนาดย่อมและติดตั้งเครื่องสูบน้ำเดินท่อวางระบบไว้เต็มพื้นที่ 44 ไร่ เพื่อหล่อเลี้ยงปาล์มน้ำมัน กล้วยไข่ กล้วยหอมทอง และมะละกอฮอลแลนด์ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องสภาวะแล้ง ตอนนี้ปาล์มน้ำมันกำลังเติบโตเข้าปีที่ 2 ส่วนกล้วยไข่และมะลกอฮอลแลนด์เริ่มทยอยให้ผลผลิตและส่งขายออกสู่ตลาดแล้ว สำหรับกล้วยไข่เริ่มแรกจัดได้ 30-50 กิโลกรัมต่อวัน ขายส่งแม่ค้าตลาดนัดต่าง ๆ ในจังหวัดสตูล ราคากิโลกรัมละ 15-20 บาท สร้างรายได้ต่อวัน ประมาณ 700 บาท ซึ่งคาดว่าผลผลิตต่อวันจะขยับสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ส่วนมะละกอฮอลแลนด์สามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณวันละ 50 กิโลกรัม ขายส่งกิโลกรัมละ 30 บาท สร้างรายได้ต่อวันประมาณ 1,500 บาท “ปัจจุบันผมอายุ 64 ปี แล้ววางแผนว่าหากสวนมีรายได้หลักจากปาล์มน้ำมันเมื่อไหร่ จะวางมือพักผ่อนให้ลูกเข้ามาบริหารจัดการ ดูแลกันเอง เชื่อว่าเขาทำได้ และทำได้ดีกว่าเราด้วย เพราะเราเห็นว่าเขารักในการเกษตร ตรงนี้ถือว่าเป็นโชคดีที่ผมมีลูกหลานที่มีใจรักการเกษตรมาสืบทอดต่อ ถึงเวลานั้นผมคงได้เกษียณอีกครั้งเป็นหนที่สอง…” อดีต ผอ. อาดินัน กล่าวทิ้งท้าย ทางด้าน นายสมมารถ สยมภาค เกษตรจังหวัดสตูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เตรียมขยายผลเป็นแหล่งเรียนรู่ เพื่อให้เกษตรกรชาว และประชาชนทั่วไปที่สนใจด้านการปลูกกล้วยไข่ กล้วยหอมทอง และมะลอกอฮอลแลนด์ เข้ามาศึกษาเรียนรู้ได้ และทาง “ไร่ อ.การเกษตร” มีความยินดีที่จะเผยแพร่ความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ให้แก่ผู้สนใจอื่น ๆ เพื่อสร้างรายได้ที่มากกว่า และลดพื้นที่ปลูกยางพาราของจังหวัดเป็นหนึ่งในนโยบายของ นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฎฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ซึ่งตรงนี้สามารถเป็นแบบอย่างได้เป็นอย่างดี ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร
Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2564 |
|
0 comments |
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2564 9:48:22 น. |
Counter : 1182 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|