All Blog
|
My Memories at the Base of Annapurna Sanctuary "The Annapurna Sanctuary is a high glacial basin lying 40 km directly north of Pokhara. This oval-shaped plateau sits at an altitude of over 4000 metres." วิกิพีเดีย : แอ่งธารน้ำแข็งระดับสูงที่ทอดตัวห่างจากเมืองโพคารา 40 กม. มีลักษณะเป็นที่ราบสูงรูปไข่ที่ตั้งอยู่บนความสูงมากกว่า 4000 เมตร.. ![]() เมื่อฉันได้ดูหนังเรื่อง The Secret Life of Walter Mitty และรีวิว "สองหมื่นห้านิดๆพิชิตหิมาลัย" ของ Nutsuksawakhon ณ พันทิป.. แรงบันดาลใจหนึ่งที่ฝังอยู่ในจิตใจก็ถูกปลุกขึ้นมา.. ให้ฉันเผชิญโชคชะตาทีรออยู่ข้างหน้าที่..เนปาล.. ฉันได้ใช้วันลาพักร้อนทั้งหมดในการเซ็ตเวลาเพื่อท่องเที่ยวในครั้งนี้..และก็ไม่ผิดหวัง หลังจากเก็บสะสมค่าเดินทางและค่าอุปกรณ์ที่จำเป็นเป็นเวลา 5 เดือน..(รวมทั้งจองตั๋วเครื่องบินการบินไทยช่วงโปรโมชั่นได้สำเร็จ (Round Trip ราคารวม vat ประมาณ 12,000 เท่านั้น!!) ก็ได้เวลาเดินทางตามกำหนดการสู่จุดมุ่งหมายที่ประเทศเนปาล..!! ![]() และนี่คือกำหนดการเดินทาง หลังจากที่คุยกับเอเจนซี่ Adventure Great Himalaya Trekking and Expendition Ptvd. โดยติดต่อกับคุณปู (ตัวแทนจากไทย) และคุณบาบู (เจ้าของที่เนปาล) เรียบร้อยแล้ว (คุยติดต่อกันทางอีเมล์ค่ะ) Day 1: Arrive Kathmandu (1300m.) have a welcome dinner. Day 2: Taking Tourist Bus to Pokhara O/N stay at Hotel in Pokhara. Day 3: Drive to Nayapul and trek to Ghandruk. (1750m.) 4-5 hrs walks. Day 4: Trekking Ghandruk to Chhomrong (2170m.) 5-6 hrs. Day 5: Trekking Chomrong to Himalaya Hotel (2920m.) 6 hrs. Day 6: Trekking Himalaya Hotel to Annapurna Base Camp (4,130m.) 5-6 hrs. Day 7: Trekking Annpurna Base Camp to Dovan (2,505m.) 6-7 hrs. Day 8: Trekking Dovan to Jhinu Danda (1780 m.) 6-7 hrs. Day 9: Trekking Jhinu Danda to Siwai Bus Station, Drive to Nayapul, and Take Bas To Pokhara. Day 10: Taking Tourist Bust to Kathmandu O/N in Kathmandu. Day 11: Visit Swayambhunath stupa in the morning, Departure Kathmandu, Fly back to Thailand. กำหนดการนี้ได้รับการปรับแล้วค่ะ หน้าตาที่เอเจนซี่เสนอมาจะคล้ายๆกัน แต่จะแตกต่างนิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วไม่แตกต่างกันค่ะ เพราะเป็นการเดินตามสภาพร่างกายและความพร้อมในแต่ละวัน :) ![]() วันที่แรกที่เรามาถึง กาฐมาณฑุ เราได้ซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นอื่นๆ ที่ต้องใช้จากร้านในทาเมล ซึ่งสะดวกและมีให้เลือกหลากหลายมาก ถ้าเราเจอคนขายเก่งๆ เค้าจะแนะนำวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆให้ด้วยค่ะ เสร็จธุระ เราได้ไปเลี้ยงต้อนรับกันในตอนค่ำ เป็นอาหารพื้นเมืองและชมการแสดง และได้พบกับลูกทัวร์ชาวมาเลเซียที่เพิ่งได้กลับมาจาก Poon Hill ด้วย เค้าได้แชร์ประสบการโดดบันจี้จั๊มและการขึ้นปูนฮิลล์ให้ฟังอย่างสนุกสนาน เมื่อเบียร์และเหล้าต้อนรับเริ่มออกฤทธิ์..555+ ![]() วันที่สอง..เดินทางโดยรสบัสไปโพคารา จุดเริ่มต้นของการเทร็ค..เราพักทานอาหารและเข้าห้องน้ำตามจุดแวะพักประมาณ 2-3 ครั้ง เป็นการนั่งรถยาวนานประมาณ 7-8 ชม. แต่สามารถดูวิวข้างทางและหลับพักผ่อนเอาแรงก่อนการเดินทางในวันพรุ่งนี้.. ![]() มาในคราวนี้ ประกอบด้วยฉันกับเพื่อนอีก 1 คน ไกด์กับพอร์เตอร์อีก 2 รวมเป็น 4 คนค่ะ เดินดุ๊กๆเข้าไปในเขตอุทยาน โดยมีคุณไกด์ทำเรื่อง Permit ต่างๆ ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง (โดยมากแล้วเอเจนซี่จะจัดการเรื่องนี้ให้เป็นอย่างดีค่ะ) ![]() จุดเริ่มต้นเทร็ค ไกด์บอกว่าคือ New Bridge เราเดินผ่านหมู่บ้าน มีลูกเสือยืนอยู่หน้าร้านขายของ หน้าตาจิ้มลิ้มแบบเนปาล น่ารักทีเดียว เลยขอถ่ายรูปสักแชะนึง ![]() วันแรกที่เทร็กกิ้ง (วันที่ 3 ของกำหนดการ) เราเดินผ่านทุ่งนา บ้านเรือน ข้ามแม่น้ำและเดินขึ้นเขาอย่างต่อเนื่องในช่วงท้าย เพื่อไปหมู่บ้าน Ghandruk (กานดรุก) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาสูงระดับ 1,750 ม. เห็นแต่ตัวเลขอาจนึกภาพไม่ออกนะคะ..แต่ให้ลองนึกถึงขั้นบันไดดอยสุเทพต่อๆกันไปสองชั้น ประมาณนั้นเลยค่ะ แต่ต่างตรงที่เป็นทางดิน หรือบันไดหิน สลับกับนาขั้นบันไดของหมู่บ้านค่ะ พอเดินผ่านทุ่งนามาสักพัก เราเจอน้ำตกใหญ่ที่ต้องข้ามด้วยเท้า (ไม่มีสะพาน) ไกด์ข้ามได้แบบไร้รอยเปียก..ส่วนเราสองคน.. รองเท้าแฉะกันไปตามระเบียบ ทั้งรองเท้าและถุงเท้าด้านใน.. TT ![]() วิวโดยรอบของวันแรก เป็นพื้นที่สีเขียวชอุ่ม แดดเดือนกันยาค่อนข้างแรง อากาศคล้ายๆกับประเทศไทยเรา เพียงแต่มีภูมิประเทศที่แปลกตา ภูเขาสูง บ้านเรือน ลม หน้าผา ทุกอย่างดูแปลกใหม่และน่าสนใจไปหมด อาจจะเป็นเพราะการเริ่มต้น นำช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นและความสนุกให้มีอยู่ในใจนักเดินทางอย่างเราๆ :) ![]() แค่วันแรกก็เหนื่อยแล้ว..!! ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ฉันได้ฟิตซ้อมร่างกายมาพอสมควร ด้วยการลงแข่งวิ่งมินิมาราธอน และฝึกซ้อมเป็นประจำที่สวนสาธารณะ แต่ฉันก็ไปถึงที่พักวันแรกด้วยความอ่อนล้า.. เพราะระหว่างทางอดไม่ได้ที่จะเก็บขยะตามทางขึ้นเขาไปด้วย (ไกด์บอกว่า Good job และช่วยเก็บด้วย!!) แต่หลังจากทางขึ้นหมู่บ้านกานดรุก ชั้นเก็บได้เปลือกลูกอมจำนวนมาก พลางคิดว่า..อาจจะไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวแล้วละ เด็กในหมู่บ้านที่ได้รับขนมจากนักท่องเที่ยวก็มีส่วนเหมือนกันที่ทิ้งขยะเหล่านี้.. แต่หลังจากพักและรับประทานอาหารมื้อเย็นในวันนั้น ร่างกายก็รู้สึกดีขึ้น อาหารดีๆ มีส่วนช่วยได้มาก เพราะฉันได้สั่งไก่ทอดกับเฟรนช์ฟราย(อร่อยมาก) ส่วนเพื่อนสั่งโมโม เราทานกันอย่างหิวโหย ส่วนไกด์และลูกหาบนั้นได้ Dalbat ช่วยเพิ่มพลังแล้วในครัวเรียบร้อย!! ![]() วันที่ 6 เป็นวันที่ขึ้นถึง Annapurna Base Camp อันเป็นจุดสูงสุดของเป้าหมาย..หลังจากพักผ่อนนอน(ไม่ค่อย)หลับด้วยความเหนื่อยล้า เช้าวันรุ่งขึ้น ดูเหมือนว่าพระอาทิตย์จะเป็นใจ ฉายแสงอุ่นทาบทอเบสแคมป์ที่หนาวเย็น ให้ได้สัมผัสรังสีแห่งความมีชีวิตอีกครั้ง !! ![]() เช้าวันนั้น ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น หลังจากเมื่อวานหมอกที่เต็มไปหมดทำให้ฉันทำใจไว้ระดับหนึ่งว่าคงจะมองไม่เห็นอะไร แต่หลังจากที่เพื่อนมาปลุกแล้วโชว์รูปภูเขาธารน้ำแข็งให้เห็น ชั้นตะลึงด้วยความตื่นเต้น แล้วจึงรีบลุกออกจากถุงนอนออกไปเพื่อถ่ายรูปภูเขายามเช้า.. ![]() ฉันปีนขึ้นไปตรงจุดชมวิว และถ่ายรูปที่ระลึกไว้หลายใบ พลางคิดว่าชั่วชีวิตนี้จะได้กลับมาอีกครั้งไหมนะ? เพราะว่าการขึ้นไปที่ตรงนั้นคนเดียวค่อนข้างอันตราย..หลายครั้งการตัดสินใจจึงต้องถามคนใกล้ตัวด้วยว่าพร้อมไหม.. เพราะตอนนั้น คนข้างๆฉันมีอาการหายใจหอบ และหัวใจเต้นแรง เนื่องมาจากความกดอากาศลดต่ำลงมาก ณ วินาทีนั้น.. ฉันตัดสินใจด้วยความปวดใจและบอกไกด์ว่า "เราจะเดินต่อไป" เพื่อนฉันรับคำและยิ้มให้..เราค่อยๆเดินกันไปถึง ABC โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะได้เห็นยอดเขาหรือไม่ได้เห็น และการเดินขึ้นต่อไปจะอันตรายต่อคนข้างๆ หรือไม่ แต่ตอนนั้นเราพร้อมเสี่ยงด้วยกัน.. คืนนั้นฉันร้องไห้.. ![]() ว่าจะไม่ดราม่าแล้วเชียว (ฮา) แต่มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง..ถ้าเช้าวันนั้นอากาศไม่เปิด และอาการของคนข้างๆ ไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ ฉันคงต้องเสียใจมากกว่าดีใจเป็นแน่แท้.. ![]() อยากจะบอกสักเล็กน้อย..กับอาหารเช้าที่ ABC เราตากแสงแดดอุ่นกินขนมปันแซนวิชชีสและไข่ดาว มันเป็นมื้อที่เรียบง่ายมาก เพราะจากประสบการณ์ หากทานแน่นไปจะเดินเขาไม่ไหว.. อาหารเนปาลจานใหญ่กว่าไทย 3 เท่า (โดยทั่วไป) ฉะนั้นจึงต้องเซฟไว้ก่อน เพราะกินไม่หมดแล้วเสียดายของ เกรงใจไกด์ของเราด้วย.. ![]() เช้าวันนั้น หลังจากถ่ายรูปกันจนพอใจ เราก็เดินลงหิมาลัยด้วยความอาลัย..เราแวะถ่ายรูปริมทางไปตลอดทางที่มีหนูไพกา (pika mouse) วิ่งดุ๊กๆ ในทุ่งหญ้าข้างทาง และมีเหยี่ยวบินอยู่บนฟ้า (ได้อารมณ์พื้นเมืองจริงๆ) ทิศที่มุ่งหน้าไปเราเห็น MBC และธารน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่ของเทือกเขาหิมาลัยตรงหน้า..ช่างคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ ![]() ![]() ระหว่างทาง ไม่ลืมที่จะชื่นชมธรรมชาติโดยรอบ ในฤดูมรสุมที่เรามา แม้จะมีข้อเสียที่มีทากชุกชุมและมีโอกาสที่จะไม่เห็นยอดเขาสูงมาก แต่เราก็มีรางวัลตรงที่ในฤดูนี้จะมีดอกไม้ป่าสวยๆ พากันทยอยบานเต็มยอดเขา เป็นรังและที่อาศัยของเหล่าหนูไพกา (เนปาลเรียกมันว่ากระต่ายชนิดหนึ่ง) และเป็นกำลังใจให้นักเดินทางได้ชื่นชมธรรมชาติไปตลอดทาง ดอกไม้สีเหลือง ม่วง ขาว ผลัดกันแย้มกลีบออกมาให้ชม หลากหลายชนิดและสีสัน.. ![]() หลังจากการเดินทาง.. เราให้รางวัลตัวเองด้วยการไปนั่งร้าน The Habour ที่โพคารา สั่งเมนูที่แนะนำโดยพนักงาน คือ Grilled Chicken จัดว่าประทับใจ และประสบความสำเร็จอย่างสูงในการสั่งอาหารในร้านหรู.. กับอีกอย่าง คือ Roasted Lamb ของคนข้างๆ.. ![]() หน้าตาของ Roasted Lamb เสิร์ฟคู่กับมันบด.. ก็ประมาณนี้แหละนะ ตอนแรกนึกว่ามาเนื้อๆ แต่แฟนบอกว่าแบบนี้แหละถูกแล้ว..อืมส์.. ค่าอาหารมื้อนี้เราจัดไป 1800 รูปีเนปาล.. บวก vat และเซอร์วิสชาร์ตแล้ว.. อาจจะแพงหน่อย แต่จัดว่าคุ้มและประทับใจ :) ![]() หลังกลับจากโพคารา เรากลับมาที่กาฐมาณฑุอีกครั้ง.. ฉลองกันด้วยพิซซ่าถาดใหญ่และเลือกซื้อของฝาก.. อย่าลืมว่า นั่งร้านอาหาร มีเซอร์วิสชาร์ต 10% และ vat 13% ค่อนข้างสูง แต่ถ้ามองจากค่าเงินรูปีแล้วถือว่าให้อภัยได้และไม่ได้แพงอย่างที่คิดนะ.. ![]() และก็ไม่มี..ทริปใดที่ไม่เลิกรา..เรากลับบ้านกันในวันรุ่งขึ้น โดยเก็บเอาความทรงจำและความระลึกถึงเมืองอันสวยงามและเก่าแก่นี้ไว้ในใจ.. ![]() ทะเลสาบเฟวา.. ![]() เจ้าควายน้อยที่โพคารา.. ![]() เส้นทางในหมู่บ้านที่กานดรุก.. ![]() และค่ำคืนที่ทาเมล.. บันทึกนี้..คงจะเป็นเหมือนสมุดโน้ตเล็กๆ ให้เรากลับมาอ่านอีกครั้งเมื่อวันเวลาผ่านไป ภาพเก่าๆ ย้อนให้ความทรงจำในเวลานั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง.. ![]() ดอกไม้ที่กานดรุก ก่อนจบบันทึกนี้ ไม่ลืมที่จะขอบคุณไกด์แสนดีของพวกเรา คุณ Janak คุณพ่อลูกสามชาวเนปาล และคุณลิมบู พอร์เตอร์ยิ้มเก่ง คุณพ่อของลูกสาวตัวน้อย ที่คอยให้กำลังใจเราทุกสเตชั่น จากวันแรกจนวันสุดท้าย.. ![]() เรากับคุณจานัค ![]() คุณลิมบูกับเพื่อนไกด์ที่มาทักทาย ![]() สุดท้ายนี้ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้นะคะ.. ขอโทษถ้าภาพไม่สวยหรือบรรยายไม่เก่งนะคะ ^^,, ลากันด้วยภาพสุดท้าย ABC ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ :) ![]() โดย: สมาชิกหมายเลข 4507140
![]() |
mossymoon
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Hello Everyone!! Thank you for visit me here :) I've had enjoy in my life as I am.. aren't you? I would like you to have a great day in you life in everyday..!! Luv <3 <3 <3
Friends Blog
Link |
ขอบคุณที่พาไปในที่ที่คงไม่มีโอกาสได้ไปละ