เวลาเดินไปยืมหนังสือที่ห้องสมุด ชั้น 4 พอลิฟท์เปิดออกมาจะมีทางเลี้ยวขวาและเลี้ยวซ้าย..
ด้วยเหตุผลใดก็ตาม..เราจะเลี้ยวซ้ายเสมอ ถ้าไม่มีความจำเป็นจริงๆ จะไม่เลี้ยวขวาเด็ดขาด..
ป้าย : ซ้าย หนังสือมนุษย์ศาสตร์ ขวา : หนังสือวิทยาศาสตร์ ..
ยอมรับเลยว่า เราเรียนวิทยาศาสตร์ เพราะ ค่านิยมของสังคม เพราะคนรอบข้างบอกว่า คนเรียนสายวิทย์นั้นเก่ง
แต่คนเรียนศิลป์ไม่เก่ง ด้วยความเป็นเด็กเราก็เลยเข้าใจว่าต้องเรียนให้เก่งๆ จะได้เป็นคนฉลาดและต้องเรียนวิทย์
แต่มาวันนี้เราถึงได้เข้าใจถึงคำว่า ค่านิยม และสิ่งนั้นไม่ได้เป็นตัวตัดสินเลย ว่าสิ่งนั้นดีหรือไม่ดี
คนเราฉลาดไม่ใช่เพราะเรียนวิทย์ แต่เป็นเพราะเราให้คุณค่ากับสิ่งเหล่านั้นต่างหาก ซึ่งในความจริงแล้ว
ไม่ได้มีอะไรยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย วิทย์กับศิลป์ เราเรียนวิทย์ แต่น้องเราเรียนศิลป์ แต่ทุกวันนี้ น้องเราดูจะมีความสุขมากกว่าเรานัก มีเพื่อน มีสังคมที่เข้าใจกัน
ในขณะที่ สังคมของเรา เป็นสังคมที่แก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่นกัน แทบจะไม่มีความจริงใจอยู่เลย.. เราก็ได้แต่ จริงใจกับตัวเอง เพื่อจะยืนหยัดต่อไป.. เราชอบอ่านหนังสือ
ชอบงานศิลปะ ชอบเพลง ชอบภาษา แต่ก็ได้แต่ชอบ สัมผัสอยู่ไกลๆ ผ่านทางหนังสือ หนังสือการ์ตูน เพลง และภาพยนตร์ มันเป็นสิ่งที่ไม่เครียด และเบาพอจะทำให้เราไม่คิดมาก ในสิ่งที่เราเรียนนั้นเรียกได้ว่า ต้องตะกาย เพื่อจะเทียบเท่ากับเพื่อนๆ ในชั้นเดียวกัน ต้องพยายามเพื่อจะได้ส่วนเสี้ยวของคนที่ไม่ต้องพยายาม..
เหนื่อยกับการอยู่ตรงนี้.. แต่ก็ถอยกลับไม่ได้..
เหนื่อย.. แต่ก็ต้องสู้อยู่ต่อไป เราเดินทางนี้มาครึ่งชีวิตแล้ว แต่สักวัน.. ถ้าเราเอาชนะมันได้ทั้งหมด
เราจะกลับไปทำตามหัวใจ.. ตามสิ่งที่เราจากมา...
ปล. ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ยังเขียนบล็อกไม่ค่อยเก่ง เอาคลิป เอาเพลงมาลงยังไม่เป็น
แต่จะศึกษาไปเรื่อยๆ นะคะ หวังว่าจะมีบล็อกดีๆ ให้ทุกท่านอ่านและแชร์กับทุกๆท่านนะคะ J

ที่มาภาพ : //www.bflybook.com/Article/ConceptOfNationalBookInstitute/NaewKid03.gif