|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ล้อชื่อพ่อแม่ ก็แค่อีกเรื่อง(แล้วมันก็ผ่านไป)
ได้เห็นข่าวเด็กโดนล้อชื่อพ่อ ทางทีวี เรื่องนี้ช่างเป็นโมเม้นท์แสนคลาสสิคของชีวิตวัยเรียน เชื่อว่า ทุกคนก็คงเคยผ่าน ถังไม่ได้เจอกับตัว ก็น่าจะส่วนร่วมในเหตุการณ์ สำหรับฉัน จำได้แม่นๆ ก็มีอยู่ 2 เหตุ
เหตุแรก มาจากพี่สาวฉันเอง สมัยอยู่ ป.6 โดนเพื่อนผู้ชายล้อชื่อพ่อทุกวัน บังเอิญวันนั้น มาล้อตอนพักเที่ยง พีสาวเลยเอาช้อนกินข้าวโชกหัว ถึงเลือกออกต้องเรียกผู้ปกครองกันเลยทีเดียว พี่สาวเล่าว่า่ หลังจากวันนั้น เจ้าคนนั้นก็เลิกล้อชื่อพ่อไปเลย
อีกเหตุ ก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเมือ่ตอน ม.ปลาย สมัยที่โรงเรียนใช้ระบบเดินเรียน ต้องเปลี่ยนห้องเรียนทุกชั่วโมง ไอ้เจ้าคนล่้อ ก็อุตส่าห์รีบวิ่งจากห้องแรกหลังหมดชั่วโมง เพื่อจะไปถึงห้องเรียนต่อไปก่อนคนอื่น แล้วก็เขียนชื่อพ่อแม่เพื่อนตัวใหญ่เต็มกระดานดำ คนโดนล้อพอไปถึงห้อง ก็ไม่ว่าอะไร จัดการลบกระดาน แล้วค่อยไปไล่เตะตูดคนเขียน แค่เตะตูด ไม่ได้ต่อยตี เพราะ 2 คนนั้นเป็นเพื่อนกัน และยังเป็นอยู่จนถึงเดี๋ยวนี้
ไม่ได้เจ็บจนฝังใจจำ อย่างที่นักอะไรต่อมิอะไร พูดกันในข่าว ฟังข่าวไปก็นึกไปว่า เด็กเดี๋ยวนี้ช่างบอบบางเสียจริง ครูตีก็ไม่ได้ เพื่อนล้อชื่อพ่อก็ไม่ได้ เป็นแผลกันง่ายเหลือเกิน นึกชอบใจคุณครูด้วย ที่หาทาง "ติดอาวุธ" ให้เด็กได้แบบ น่าเอ็นดู เอาจริงๆ ถึงเด็กคนที่โดนล้อจะได้ชื่อแม่ของคนล้อไป เขาก็อาจจะไม่ได้ไปล้อคืนก็ได้ แต่เขาคงรู้สึกมั่นใจมากขึ้นว่า เขาไม่ได้ตัวเปล่า มี อะไร ที่จะไปต่อกร ด้วยได้ ไม่ใช่จำใจยอมอ่างที่ผ่านๆมา แล้วก็น่าจะทำให้เขากล้าที่จะทำอะไรเพื่อปกป้องตัวเองได้ด้วย
ลองมาคิดอย่างจริงจังกันมั้ย ทำไมเรื่องล้อกันเล่นแบบเด็กๆทีมีมานมนานแล้วนี้ จึงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ในยุคดิจิตอล โลกที่เมื่อเรื่องอะไรก็ตามถูกส่งไปลง social มันจะไม่มีวันลบเลือนหายไปได้อีก โลกที่มีความรู้อยู่ไปเสียทุกที่ จนบางทีเพราะรู้มากนี่เอง เรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งที่ แค่มองให้มันเป็นเรื่องเล็กๆ วางๆ บ้ามๆ เข้าใจ ให้อภัยกันไป เรื่องนี้ก็จะผ่านออกไปจากชีวิตเราเหมือนอีกหลายๆเรื่อง คิดง่ายๆว่า ใครมันจะว่างพอล่้อชื่อพ่อเราได้ตลอดชีวิต วันนึงเดี๋ยวมันก็ต้องเลิกไปเอง
เคยดูสารคดี เขาว่า ความคิดของคนเรานั้น มัันเป็น Infinity รวดเร็ว ว่องไว ไร้ขอบเขต แค่ดีดนิ้วเปาะหนึ่ง ความคิดเราก็พุ่งไปถึงสุดขอบจักรวาลได้แล้ว ดังนั้น ความจริงที่เห็น จะใหญ่ หรือ เล็ก ก็อยู่ที่ความคิด จิตใจ อธิบายไปทางพระ ก็บอกได้ว่า นี่มันเป็น อัตตา หลงไปว่าคำล้อของกู คำด่าของกู พอเป็นของกู ก็เลยเก็บเอามาไว้ เจ็บใจ ฝังใจ ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับกูเลย ลดอัตตา ลดตัวตนลงเสียบ้าง ก็จะไม่ต้องเก็บมาเยอะ ชีวิตจะได้เบา
ฟังแบบนั้น ถ้าคิดว่ามันน่าเบื่อ เข้าใจยากไป มาฟังแบบนี้บ้างก็ได้ I never let no man make me feel worthless Trash talking about me แค่ไม่กี่คำที่ผ่านมาแล้วก็พ้นไป Don't wanna think about it.
Verse แรก จากเพลง Haters got nothing ของ วง Trinity เนื้อเพลงเต็มๆเขาพูดถึงคนที่มีอคติ มักใช้ถ้อยคำท่าทีดูถูก บ่นทอนความฝันของคนอื่น คนแบบนั้น ทำอะไรเราไมไ่ด้หรอก แต่จริงๆ วิธีคิดแบบนี้ มันก็เอาไปใช้ได้กับหลายๆคำพูดร้ายๆที่เราต้องเจอ ถ้าภาษาอังกฤษมันยาวไป ก็จำแค่ว่า แค่ไม่กี่คำที่่ผ่านมาแล้วก็พ้นไป ไม่ได้จำเป็นต้องเก็บมาคิดให้เปลืองสมอง ไม่ถือ ไม่เก็บ ก็ไม่เจ็บ ใจเราเอง เราเลือกได้
แุถมให้อีกสักเรื่อง หลานชายที่ตอนนี้อายุ 17 ตอนสัก ป.3 เคยถูกเพื่อนล้อเรื่องโทรศัพท์รุ่นเก๋ากีกที่แม่ให้เอาไปใช้เวลาไปโรงเรียน เล่าก่อนว่า คุยกันในบ้านจนเขาเข้าใจว่า ทำไมเขาได้เครื่องนั้นไปใช้แทนที่จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ เพราะเขาเข้าใจ เขาจึงให้เพื่อนล้อได้อยู่พักใหญ่ จนวันหนึ่งทนไม่ไหว จึงท้าเพื่อนกลับไปว่า ลองเอาโทรศัพท์มาเขวี้ยงกันมั้ย ดูสิว่าของใครจะพัง เจ้าหลายเล่าว่า เพื่อนเงียบกริ๊บ ไม่มีใครรับคำท้า และก็ ไม่มีใครล้อเรื่องนี้อีกเลย
คนร้ายมักเห็นปมด้อย คนดีมีักเห็นปมเด่น คุณเป็นคนไหน
Create Date : 13 ตุลาคม 2562 |
Last Update : 14 ตุลาคม 2562 22:57:35 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1518 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
วัลยา |
|
|
|
|