Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
1 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
หอมกลิ่นดอกซ่อนชู้



กลิ่นดอกซ่อนชู้กลุ่นกลิ่นกำจาย หอมเย็นตลบอบอวนในอากาศ ยิ่งอากาศเย็นย่ำลงกลิ่นของมันยิ่งแรงขึ้น แต่หญิงสาวซึ่งนั่งอยู่หน้าแจกันเบญจรงค์ใบใหญ่กลับนั่งนิ่งอยู่เช่นนั้น

ภายในแจกันใบใหญ่ปักดอกซ่อนกลิ่นหรือดอกซ่อนชู้ไว้เกือบยี่สิบช่อ ก้านดอกยาวประกอบด้วยดอกตูมสีขาว มีแต้มสีชมพูระเรื่อปลายดอกตูมซึ่งจะผลิบาน ไล่เรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ดอกเริ่มบานจะเริ่มบานตั้งแต่ชั้นล่างสุด บานไล่กันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงดอกด้านบนสุด เมื่อดอกด้านบนเบ่งบานเต็มที่ก็แปลว่าดอกด้านล่างสุดนั้นได้เหี่ยวแห้งโรยราตกอยู่บนพื้นเสียแล้ว

“นันท์...ทำไมมานั่งมืด ๆ ไม่เปิดไฟ”

เสียงนั้นมาพร้อมกับแสงไฟถูกเปิดขึ้น ทำให้ห้องซึ่งตกอยู่ในความสลัวรางจากบรรยากาศยามย่ำค่ำ สว่างจนเห็นร่างผอมเพรียวนั่งพับเพียงอยู่หน้าแจกันใบโต

ชายหนุ่มเดินไปนั่งอยู่เคียงข้าง ดวงตาคู่สวยโศกสลด แต่ไม่มีน้ำตาอยู่ที่นั่น นอกจากว่าสายตาของเธอกำลังทอดตามองนิ่งไปยังดอกซ่อนกลิ่นในแจกัน

“กินข้าวหรือยัง”

ถึงรู้ว่าจะไม่ได้รับคำตอบจากร่างบาง แต่เขาก็ยังอยากจะถาม ความห่วงใยของคนเรามันห้ามกันไม่ได้เหมือนความรักที่ไม่เคยห้ามได้ แม้จะรู้ว่าจะไม่ได้รับรักตอบ แต่ก็ยังรัก

“นันท์ผอมไปนะ”

เงียบ...มีเพียงความเงียบที่ตอบคำเขาแทน ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ สุดท้ายจึงได้แต่นั่งมองร่างบางนั้นอยู่เงียบ ๆ ก็ในเมื่อเธอพอใจที่จะนั่งอยู่แบบนี้ เขาก็จะนั่งเป็นเพื่อนเธอ เหมือนทุกวันที่เธอทำ ซึ่งมันเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ ปานณรงค์จากไป...

------------------
นันท์วรานั่งจ้องโทรศัพท์มาเกือบสามชั่วโมงแล้ว หลังจากที่เธอเพียรโทรไปหาปานณรงค์ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แต่สายโทรศัพท์นั้นกลับไร้วี่แววคนรับสาย แล้วเขาก็ไม่ได้โทรกลับ

ระยะหลัง ๆ นี้ปานณรงค์เป็นเช่นนี้เสมอ เธอโทรไปก็ไม่รับสาย หรือหากรับสายก็รีบคุยรีบวาง โดยอ้างว่าติดลูกค้า งานยุ่งหรืออะไรก็แล้วแต่ ...สำหรับนันน์วราแล้วการเปลี่ยนแปลงของคนรักครั้งนี้ทำให้เธอรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่าง

ตั้งแต่คบกันมาปานณรงค์ไม่เคยทำตัวเหลวไหลในเรื่องผู้หญิงเลยสักครั้ง ด้วยต่างฝ่ายต่างถือการให้เกียรติซึ่งกันและกันมาตลอด ในเมื่อตกลงใจจะเดินร่วมทางกันแล้วความไว้วางใจจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความรักของทั้งคู่

นันท์วราจึงไม่เคยหวาดระแวงคนรัก แม้งานของเขาจะทำให้ต้องพบกับผู้คนมากมายอยู่ตลอดเวลา รวมถึงไปสัมมนาอยู่บ่อย ๆ จนกระทั่งเขาเริ่มพูดถึงอนาคต ซึ่งเธอตกลงใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน รอเพียงเขาเก็บเงินก้อนใหญ่ให้ได้อีกสักหน่อยเท่านั้น

แต่มาระยะสามเดือนหลังมานี้ ดูเหมือนปานณรงค์จะไม่ค่อยมีเวลาสำหรับคนรักเช่นเธอเลย เสาร์อาทิตย์ที่เคยได้ใช้เวลาด้วยกันกลายเป็นอดีตเหมือนจะยาวนานไปทุกที งานยุ่ง ติดประชุมกับลูกค้า ต้องไปสัมนาต่างจังหวัด หรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่บอกกลายเป็นข้อแก้ตัวประจำของปานณรงค์ไปแล้ว

ที่น่าแปลกไปอีกคือ โทรศัพท์ที่เคยได้คุยกันในทุกวัน ถึงไม่ได้เจอกันห่างหาย จากทุกวันกลายเป็นอาทิตย์ละสามครั้ง กลายเป็นสองอาทิตย์ครั้ง และบางทีกลายเป็นเดือนละครั้งด้วยซ้ำ นันท์วราพยายามคิดว่าเธอทำอะไรผิดไป แต่ทุกครั้งที่ถามเหมือนปานณรงค์จะไม่พอใจไปทุกครั้ง ตามด้วยคำแก้ตัว เครียด งายเยอะ ยุ่ง เหนื่อย...สารพัดที่เขาจะหามาบอกได้

ที่แปลกไปกว่านั้นคือ...ปานณรงค์บอกเธอว่าเขาไปสัมมนาต่างจังหวัด แต่เพื่อนสนิทเธอกลับเห็นเขาขับรถเข้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังกับใครบางคนที่ไม่ใช่เธอ

ความหวาดระแวงที่ไม่เคยได้เกาะกุมจิตใจเธอ จู่ ๆ ก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นโดยไม่ให้ได้ตั้งตัว และยิ่งโทรศัพท์ไปแล้วเขาไม่รับสายและไม่โทรกลับยิ่งทำให้เธอร้อนรน...

“พี่ไปไหนทำไมไม่รับโทรศัพท์นันท์”

นันท์วรากรอกเสียงถามลงไปในโทรศัพท์เครื่องจิ๋วหลังจากต่อสายไปหาเขาเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ สุดท้ายจึงมีเสียงคนรับโทรศัพท์

............................

“พี่รู้ไหมว่านันท์ห่วงพี่แค่ไหนที่พี่ไม่ยอมรับสายและไม่โทรกลับ”

..........................

มีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมา พร้อมกับการกดวางสายไปในทันที นันท์วราต่อสายกลับไปใหม่และพบว่าปลายสายปิดเครื่องไปเสียแล้ว

แต่ก่อนที่นันท์วราจะได้ทำอะไรต่อ เสียงโทรศัพท์ของเพื่อนสนิทก็ดังขึ้นเสียก่อน

“นันท์ ออนไลน์หรือเปล่า”

“เปล่ามีอะไรหรือ ป๋อม” ถึงจะรู้ว่าพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองเสียงสั่นขนาดไหนแต่มันก็ยังสั่นอยู่ดี ปลายสายจึงย้อนถามกลับมาว่า

“แกเป็นอะไรหรือเปล่า”

“..................................”

“นันท์เป็นอะไร ใครทำอะไรแกอีกหรือพี่ปาน”

“ป๋อม...ชั้นจะทำยังไงดี” ท้ายสุดเธอเก็บมันต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว “พี่ปานเค้าแปลก ๆ ไปแล้วตะกี้ชั้นโทรไปมีคนรับสายแต่ไม่พูดตัดสายชั้นทิ้งไปเลย พอโทรใหม่ก็ปิดเครื่องไปแล้ว”

“นี่นันท์ ถ้าชั้นจะบอกอะไรแก ๆ จะเชื่อชั้นไหม” เสียงเครียด ๆ ของเพื่อนสาวทำให้หัวใจซึ่งอ่อนไหวเกิดลางสังหรณ์แปลก ๆ ขึ้น

“เรื่องอะไรเกี่ยวกับชั้นหรือ”

“เกี่ยวกับแก และพี่ปานของแกโดยตรงเลย”

“อะไร” คำถามนั้นสั่นจนนันท์วรารู้สึก หัวใจเธอเต้นแรง หน้าตาร้อนผ่าวจากความโกรธที่หาที่มาไม่ได้ แต่หาต้นเหตุได้

“ชั้นเจอผู้หญิงคนหนึ่งในโลกออนไลน์ ในอีกล็อกอินหนึ่งของชั้น แกก็รู้ว่าชั้นเล่นเกมเยอะขนาดไหน เผอิญว่าล็อคอินอันนี้ชั้นใช้เล่นเกม เลยไม่ค่อยมีใครรู้ว่าชั้นเป็นใคร ชั้นเห็นผู้หญิงคนนั้นกับพี่ปานแกคุยกันหวานแหว๋วในนั้น เลยลองแอดเขาไป”

มาถึงตรงนี้หัวใจชั้นแทบจะหลุดกองลงไปที่พื้น หรือนี่ความเปลี่ยนแปลงที่ชั้นรู้สึกได้ นี่หรือความไว้ใจซึ่งกันและกัน

“ถ้าแกไม่เชื่อเอาพาสเวิร์ด กับล็อคอินชั้นเข้าไปดูได้เลย ผู้หญิงคนนั้นใช้ล็อคอินว่า ธารน้ำ ส่วนพี่ปานของแก ใช้ล็อคอินว่า เดวิลแมน เขาไปดูเอาเอง เดี๋ยวจะหาว่าชั้นใส่ความแฟนแก แล้วแกอาจจะได้เหตุผลว่าทำไมเขาเปลี่ยนไป คนที่เค้าสัญญาว่าจะแต่งงานกันเขาทำกันแบบนี้ ไปดูเองซะนันท์ถ้าแกไม่อยากกลายเป็นคนโง่ให้พี่ปานนั่งหัวเราะกับผู้หญิงคนนั้น”

ความเสียใจประดังเข้าสู่ใจเธอ ตั้งแต่รู้ว่าเขามีอีกล็อคอินหนึ่งเพื่อใช้คุยกับผู้หญิงคนนั้น ใจขณะที่เธอมีอีกล็อคอินของเขาซึ่งไม่เคยมีความเคลื่อนไหวให้เห็น เขาให้เหตุผลว่างานยุ่ง ไม่มีใครคุยด้วย ..

และเธอจะกล้าเข้าไปดูอีกล็อคอินหนึ่งซึ่งเธอเพิ่งรู้หรือไม่...หัวใจเธอทำใจที่จะดูไหวหรือเปล่า...เธอเจ็บไปทั้งใจ ความไว้วางใจถูกกระทืบจนแบบติดดิน แต่เธอก็ยังอยากจะรู้

“ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ไหนป๋อม”

“โฟร์ไฟล์บอกว่าเปิดร้านอะไรสักอย่างอยู่เชียงรายหาง่ายจะตายไป อ้อ...ชั้นจะบอกแกไว้ก่อนเข้าไปดูเลยว่าให้ทำใจไว้เยอะ ๆ ความบังเอิญของโลกออนไลน์ก็คือเพื่อนของยัยผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเพื่อนเล่นเกมกะชั้น เค้าเล่าให้ชั้นฟังว่า ยัยนี่เพิ่งไปวีนแตกกับสาวใหญ่อีกคนในห้องสนทนา เพื่อแย่งพี่เดวิลแมนของแกนี่แหละ พี่ปานแกนี่เสน่ห์แรงไม่เบาเลย ทั้งสาวเล็กสาวใหญ่ติดกันตรึม”

หลังจากนั้นนันท์วราไม่รู้เลยว่าตัวเองวางสาย หรือเพื่อนตัดสายไป เพราะสมองเธอมันมึนไปกับข้อมูลที่ได้รับ ล็อกอิน พร้อมพาสเวิร์ดเปิดเข้าไปดูความจริงถูกกำอยู่ในมือ อยู่แค่ว่าเธอทำใจได้แค่ไหนที่จะเปิดเข้าไปเผชิญความจริงที่ไม่อาจโกหกได้อีกต่อไปแล้ว ...

--------------------
ประตูบ้านถูกผลักเข้ามาพร้อมร่างสูงใหญ่ในชุดนายทหารของบางคนเดินเข้ามาหาร่างบางที่ยืนกำอะไรอยู่ในมือ

“นันท์”
เสียงทุ้มเอ่ยเรียกพร้อมกับสัมผัสของมือหนาจับที่ต้นแขน ก่อนจะขยับไปยืนตรงหน้า เพื่อพบว่าดวงตาสองข้างแดงช้ำ เหม่อลอย

“นันท์ เป็นอะไร” ครั้งนี้น้ำเสียงห่วงใยพร้อมกับการเขย่าแขนทำให้เจ้าของร่างบางเรียกสติกลับคืนมาได้อีกครั้ง

“รัชย์”

“อืม ...ใช่ดีที่ยังจำได้ เป็นอะไรไป เรียกตั้งนานไม่ยอมเปิดประตูให้ ผมเลยเดินเข้ามาเอง แล้วประตงประตูก็ไม่ล็อคด้วย อันตรายรู้ไหม”

“รัชย์” ชื่อของเขาหลุดออกมาจากปากซีดของหญิงสาวตรงหน้า พร้อมกับน้ำตาเม็ดเล็กร่วงริน เงียบ ๆ

หัวใจรัชย์กระตุกวาบ...น้ำตาของนันท์วราทำให้เขาเจ็บปวด เพียงเธอไม่รักเขา และกำลังจะแต่งงานกับคนที่เธอรัก แค่นั้นก็เหมือนหัวใจถูกฉีกอยู่แล้ว แต่หากจะให้เขาทิ้งเธอไป เขาก็ทำไม่ได้อยู่ดี เขารักเธอเกินกว่าจะทำอย่างนั้น ถึงเธอจะไม่รักเขา แต่เขาก็ยังอยากเห็นคนที่เขารักมีความสุข และพร้อมจะยืนอยู่กับความเจ็บปวดของตัวเองใกล้ๆ เธอ แค่นั้นก็พอ

นันท์วราซุกตัวเข้าสู่อ้อมกอดของเขาซึ่งเขาก็รับมันด้วยความเต็มใจ ถึงจะรู้ว่าการทำแบบนี้ยิ่งทำให้ตัวเองเจ็บปวด แต่เขาทนเห็นเธอมีน้ำตาไม่ได้ สองมือของเขากอดเธอเอาไว้หลวม ๆ ความเงียบของเขา กับเสียงร้องไห้ของเธอทำให้เกิดช่วงสูญญากาศระหว่างกันขึ้น

ใจหนึ่งเขายินดีที่จะให้เธอยืมอกร้องไห้อย่างนี้ตลอดไป ...แต่ใจหนึ่งเขารู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ นันท์วราเพียงแค่อ่อนแอ และเขาผ่านเข้ามามาจังหวะนี้...

“มีอะไรให้รัชย์ช่วยไหม”

เขาเอ่ยถามเมื่อรู้สึกว่าอาการตัวสั่นระรัวของเธอคลายลง และเสียงร้องไห้เงียบไปแล้ว นันท์วราผละออกจากอ้อมแขนเขา ความอบอุ่นคลายลงเหลือเพียงความหวานเหน็บ

“ใครทำอะไรนันท์” เธอได้แต่ส่ายหน้าไม่ยอมตอบคำถาม “งั้นมีอะไรให้รัชย์ช่วยไหม”


ท่าทางลังเลของหญิงสาว ทำให้เขาอดมองตามปฏิกิริยาที่เธอค่อย ๆ ยกมือที่กำอะไรบางอย่างเอาไว้ขึ้นมา ทีท่าลังเลปรากฏขึ้นก่อนที่เธอจะยื่นของสิ่งนั้นมาให้เขา
มันเป็นแผ่นกระดาษซึ่งจดล็อคอินและพาสเวิร์ดเพื่อเปิดหน้าเวปเพจอะไรสักอย่างในนั้น

“เปิดให้นันท์หน่อย”

“อะไร”

“รัชย์จะช่วยนันท์ไม่ใช่เหรอ ช่วยเปิดมันแล้วดูแทนนันท์หน่อย”

รัชย์รับกระดาษแผ่นนั้นมา แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หากเขาเปิดมัน เขาอาจจะได้รู้เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นได้ โต๊ะทำงานเล็ก ๆ ของนันท์วราตั้งอยู่เบื้องหลัง เขาถือพาสเวิร์ดนั้นไปและเปิดเครื่องโน้ตบุ๊คบนโต๊ะเธอ

หน้าเวปเพจของโซเชี่ยนเนตเวิร์คยอดฮิตโผล่ขึ้นมาทันทีที่เขาเปิดเวปเบาเซอร์ เขาใส่ล็อคอินและพาสเวิร์ดเข้าไป ปรากฏว่ามันกลายเป็นล็อคอินของใครบางคนที่เขาไม่รู้จัก

“เปิดแล้ว จะให้ดูอะไร”

“เลื่อนลงไปเรื่อย ๆ แล้วดูสิว่ารัชย์รู้จักใครบ้าง”

ถึงจะเป็นคำสั่งแปลก ๆ แต่เขาก็ยอมทำ นั่นเป็นเพราะไม่ว่าจะเป็นอะไรที่นันท์วราต้องการหากไม่เหลือบ่ากว่าแรง หรือเป็นเรื่องผิดกฏหมายเขามักจะเต็มใจที่จะทำให้เธอเสมอ และแล้ว....

ภาพของใครบางคนก็โผล่พ้นขอบจอโน้ตบุ๊คขึ้นมา ภาพของผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งครั้งนันท์วราเคยเลือกแทนเขาโผล่ขึ้นมาสบตาท้าทายอยู่ตรงหน้า พร้อมกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ในทางทางที่สนิทสนมกันเกินกว่าการเป็นเพื่อน
“เปิดดูต่อไป” เสียงเย็น ๆ ของนันท์วราซึ่งมายืนอยู่เบื้องหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ดังขึ้น รัชย์หันไปมองก็พบว่าดวงตาคู่นั้นจ้องมองภาพหน้าจอด้วยสายตาเจ็บปวด ถึงไม่มีน้ำตา แต่เขารู้ว่าอีกไม่นานมันจะรินไหลอีกครั้งและมากมาย

นี่คือเหตุผลของความเสียใจของเธอในวันนี้....

-----------------------------
รัชย์ เป็นเพื่อนสนิทที่พยายามจะเปลี่ยนแปลงสถานะจากเพื่อนเป็นอย่างอื่น นันท์วรารู้ แต่เธอมีปานณรงค์อยู่แล้ว รัชย์จึงเป็นได้เพียงเพื่อนเท่านั้น และคงจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป ถึงเธอจะไม่มีใครก็ตาม

ทำไมเธอไม่รักรัชย์...เพราะเขาเป็นเพื่อน เป็นพี่ชาย เป็นหลายอย่างที่ดีเกินกว่าจะกลายมาเป็นแฟน คนรัก สิ่งหนึ่งที่เธอกลัวมาตลอดคือ ทุกสิ่งที่เธอเคยพูดเคยเล่าได้ เคยทำได้ทุกอย่างในสถานะเพื่อน พี่ชาย ของรัชย์จะต้องเปลี่ยนไปทันทีที่เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น และเธอไม่อยากจะเสียมันไป ทั้งรู้ว่าเขาเสียใจ ทั้งรู้ว่าเขาเจ็บปวดทุกครั้ง แต่รัชย์ก็ไม่เคยถอยห่างไปจากเธอ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีรัชย์ยังคงสม่ำเสมอ แม้กระทั่งวันที่เธอปฏิเสธความรักของเขา...

และวันนี้วันที่เธอไม่รู้จะทำอย่างราไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น รัชย์ก็เดินเข้ามา เหมือนห่วงยางที่ถูกโยนลงมาตอนที่เธอกำลังจะจมน้ำ แม้จะรู้ว่าเขาจะต้องเจ็บปวดกับเธอ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านั้นอีกแล้ว เธอต้องการหลักที่แข็งแรงพอที่จะทำให้เธอได้เผชิญความจริงนั้นได้

ภาพของปานณรงค์กับผู้หญิงคนนั้น ที่เชียงราย หลายต่อหลายครั้งเป็นเหมือนสิ่งยืนยัน ให้เธอแน่ใจว่า เขากับหล่อนมีอะไรกันมากกว่าเพื่อนปกติ ปานณรงค์ทำงานที่กรุงเทพฯ ในขณะที่เธออยู่ฉะเชิงเทรา และผู้หญิงคนนั้น อยู่เชียงราย...

เธอไม่เคยรู้เลยว่าเขามีสัมนาที่เชียงรายถี่ขนาดนั้น เธอไม่เคยรู้เลยว่าการที่เขาไม่ได้มาหาเธอไม่ใช่เพราะงานยุ่ง แต่เป็นเพราะเขาเอาเวลาเหล่านั้นไว้ที่เชียงรายกับผู้หญิงคนนั้น ....

ภาพเหล่านั้นในอารบั้มภาพของหล่อน แสดงวันเวลา และสถานที่ชัดเจนราวกับจะประกาศให้โลกรู้ว่าหล่อนกับแฟนของนันท์วราคือคู่รักที่รักกันมากมาย เหมือนการประกาศให้โลกรับรู้ว่า นี่คือผู้ชายของชั้น...

ภาพที่หล่อนลงมาที่ กรุงเทพฯ ไปเที่ยวล่องลำน้ำเจ้าพระยากับปานณรงค์ ภาพที่หล่อนไปช้อปปิ้ง ภาพปานณรงค์กินไอศครีม กินอาหารญี่ปุ่นกับหล่อน เพลงที่ปานณรงค์ส่งให้หล่อนผ่านหน้าเวปเพจ ย้ำให้เห็นว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่สิ่งที่เพื่อนกับเพื่อนทำด้วยกัน และทุกสิ่งเหมือนสิ่งที่เขาทำให้เธอตั้งแต่เริ่มคบกัน ถึงมันจะน่าขำกับวิธีจีบสาวที่เหมือนลอกตำรามาเป๊ะ ๆ เปลี่ยนเพียงตัวแสดงเท่านั้น แต่นันท์วราขำไม่ออก...

“ผู้หญิงสมัยนี้หน้ามันไม่มียางหรือไงนะ” เสียงป๋อมดังมาตามสาย หลังจากรัชย์กลับไปแล้ว “แฟนเค้า ผัวใครคิดอยากจะได้ก็แย่ง”

“มันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ บางทีเค้าอาจจะไม่รู้” นันท์วรายังคงมองโลกในแง่ดี ทั้งที่ใจเจ็บไปทั้งใจ

“บ้าซิไม่รู้ ...ผู้ชายอายุขนาดนี้ ทำงานระดับนี้ถ้าไม่มีแฟน หรือเมียก็เป็นเกย์แล้ว แต่จะว่าไป ถ้ามันอยากได้มันก็จะเนียนไม่รู้ เนียนแป๋ว ก็กรูจะเอาใครจะทำไม แกอย่ามองโลกในแง่ดีนักเลย”

“แล้วแกจะให้ชั้นทำยังไง”

“ตอนนี้สิ่งที่แกต้องทำ ก็ทำใจไว้เลย แล้วก็ถามพี่ปานไปตรง ๆ นั่นแหละว่าหล่อนเป็นใคร ถ้ายังปากแข็งไม่ตอบก็เอาหน้าเวปนี้แหละเปิดให้ดูไปซะ...นันท์ถ้าแกจะว่าชั้นว่าเป็นเพื่อนเลวที่เอาเรื่องพวกนี้ให้แกดูชั้นก็จะไม่ว่าแกนะ แต่ชั้นไม่อยากเห็นเพื่อนเป็นคนโง่ให้เขาหลอก ตั้งแต่แรกแล้วชั้นก็เคยบอกแกแล้วว่า ผู้ชายคนนี้เอาเปรียบแก เทียบกับรัชย์รายนั้นยังดีกว่าร้อยเท่า เห็นแบบนี้แล้วก็เลิกกับมันซะเถอะ อย่าเก็บมันเอาไว้เลย”
“ชั้นไม่เคยว่าแกป๋อม ชั้นรู้ว่าแกหวังดี...ห่วงชั้น แต่เรื่องนี้ยังไงชั้นก็ต้องเป็นคนตัดสินใจ ชั้นกับเขาคบกันมานาน พอที่จะเห็นความดีความเลวของกันและกันแล้ว เพียงแต่ชั้นอาจจะมั่นใจเกินไปว่าเขาจะซื่อตรงเหมือนคำพูดที่หลุดจากปากของเขา จนกลายเป็นวางใจ”

“ผู้ชายนะแก ...ไปไว้ใจได้ยังไงยิ่งห่างกันแบบนี้ด้วย มันก็เหมือนหมานั่นแหละเลี้ยงดียังไงก็ไม่พ้นกับไปกินอาจมอยู่ดี”

“ผู้ชายบางคนก็ไม่เป็นอย่างนั้นหรอกป๋อม อย่าเหมารวม”

“ก็เหมือนกันนั่นแหละ ส่วนมากมันก็แบบนี้ทั้งนั้น ลองมีผู้หญิงมายั่วมาอ่อยให้หน่อยขี้คร้านจะวิ่งตามเขาไปไม่ทัน”

“นั่นมันก็เฉพาะผู้ชายที่จิตใจไม่หนักแน่ไงป๋อม”

“แกก็รู้นี่นันท์ แล้วไอ้แบบหนักแน่นอย่างรัชย์ทำไมแกไม่ชอบ”

“ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ไม่มีเหตุผล”

“เออ...ชั้นได้ยินเรื่องแปลก ๆ มาด้วย เพื่อนเล่นเกมของชั้นมันบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นมีคนตามรังคราญ เค้าเลยเอนมาหาพี่ปานของแก เหมือนแกล้งเล่นผัวเมียนั่นแหละ แต่ทีนี้พอเล่นกันไปเล่นกันมาเลยเอากันจริง ๆซะละมั้ง”

“แกเห็นเขาไปนอนด้วยกันหรือไง” นันท์วราแย้ง ถึงจะปวดร้าวในใจ น้ำขม ๆ จะไหลย้อนมาในคอจนปากคอฝืดเฝื่อนแต่เธอก็ยังต้องฟัง

“บ้าใครเขาจะให้ดูขนาดนั้นล่ะแก ...ในหน้าเวปแกไม่เห็นเหรอ ทั้งรักทั้งคิดถึง ทั้งห่วงใยสารพัด ไหนจะพี่ปานแกขึ้นล่องเชียงรายยังกะน้ำมันราคาลิตรละสิบสองบาทขนาดนั้นอีก แล้วมันจะแปลว่าอะไร”

อืม...มันแปลว่าอะไร...มันก็แปลว่าปานณรงค์เปลี่ยนใจไปแล้ว คำว่ารักที่เคยบอก ก็กลายเป็นแค่เคยรัก ...เหมือนลมที่พัดมาให้พอเย็นฉ่ำใจ แต่พอมันผ่านไปสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือซากปรักหักพังของใจที่ไม่แข็งแรงพอ ของเธอนั่นเอง

------------------------------
“พี่แค่ช่วยเค้า....” ปานณรงค์เดินวนไปวนมาอยู่ตรงหน้า ก่อนจะหันมายืนจ้องหน้าเธอซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว “มันไม่มีอะไรจริง ๆ นันท์”

น้ำเสียงและสีหน้าของปานณรงค์ไม่ได้ทำให้นันท์วราเชื่อเลยสักนิดเดียว เธอรู้จักเขาดีเกินกว่าเขาคิด

“ที่พี่ไปเชียงรายก็แค่ไปทำงาน”

“แล้วที่พี่ไปเที่ยวสวนสัตว์กับเขาก็แค่ไปสัมมนาเหรอคะ”

นันท์วราเอ่ยถาม สายตาของปานณรงค์เบิกกว้างเหมือนตกในใจสิ่งที่ได้ยิน เพียงแค่นันท์วราเอ่ยถามถึงผู้หญิงที่เชียงราย เขาก็เริ่มอยู่ไม่ติดจนกระทั่งต้องมาหาเธอที่บ้าน ทั้งที่เขาไม่เคยมาเป็นเดือนแล้ว

“พี่ไปสัมนาที่เชียงราย แต่พี่ไปเที่ยวสวนสัตว์ที่เชียงใหม่ด้วยงั้นหรือคะ แล้วเวลาไปสัมนาเนี่ยเค้าไปกันเดือนเว้นเดือนหรือคะ”

“นันท์เอาอะไรมาพูด”

“พี่จะโกหกนันท์ไปอีกนานแค่ไหน”

“พี่โกหกอะไร” ปานณรงค์ใช้เสียงดุใส่เธอ แต่นันท์วราเสียใจจนเกินกว่าจะรู้สึกอะไรไปกว่าความชาเสียแล้ว ไม่ว่าอย่างไรวันนี้ต้องตัดสินใจเสียที

“พี่ก็รู้ว่าพี่โกหกอะไร นี่นะหรือคนที่เรียกร้องให้ไว้ใจซึ่งกันและกัน พี่จะโกหกนันท์เรื่องผู้หญิงคนนั้นไปอีกนานแค่ไหน นันท์เคยบอกใช่ไหมว่า ถ้ามีใครใหม่ให้บอกไม่ต้องไปแอบ ๆ ซ่อน ๆ แบบนั้น ถ้าพี่เจอคนถูกใจ ถ้าพี่จะยกเลิกสัญญาของเราก็แค่บอกมา ถึงนันท์จะเสียใจ แต่นันท์ก็เข้าใจ มันคงจะดีกว่าถ้าพี่จะทำแบบนั้น ไม่ใช่พี่รั้งเอาไว้ทั้งสองคน พี่มันเห็นแก่ตัว”

“เดี๋ยวนันท์ นี่มันเรื่องอะไรกัน ใครเอาอะไรให้นันท์ดู ใครบอกอะไร ไอ้รัชย์ใช่ไหม”

“รัชย์มาเกี่ยวอะไร เรื่องนี้มันเรื่องของเราสองคนต่างหาก อ้อ...เป็นสามคนแล้วสินะ” นันท์วรายิ้มเศร้า ๆ

“นันท์”

ปานณรงค์เดินมาทรุดนั่งอยู่ตรงหน้าจับมือเธอเอาไว้ สัมผัสเขาไม่เหลือความอบอุ่นอีกแล้ว เหมือนบรรยากาศด้านนอกที่ดวงอาทิตย์เริ่มละฟ้า ราตรีแห่งความเหน็บหนาวกำลังมา กลิ่นของดอกซ่อนชู้ส่งกลิ่นกำจาย

“พี่มีแค่นันท์เท่านั้น”

“แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ”

“เอ๊ะ!!! นันท์ ทำไมไม่เชื่อพี่ล่ะ” เขาปล่อยมือเธอ พร้อมออกอาการหัวเสียอีกครั้ง นันท์วรายิ้มเศร้า ๆ อีกครั้ง ครั้งนี้เธอขยับลุกเดินไปเปิดโน้ตบุ๊คและหันมันมาให้เขาเห็น

“พี่ว่าให้นันท์เชื่อพี่ แล้วนี่คืออะไร...ธารน้ำ ...เดวิวแมน...”

ภาพของหญิงชายคู่หนึ่งถ่ายภาพด้วยกันประหนึ่งคู่รักปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เพลงโปรดของเธอ ซึ่งเขาเป็นคนส่งให้ดังจากยูทูปบนหน้าเวปเพจของผู้หญิงคนนั้น

“พี่ปานจะให้นันท์เชื่ออะไรเหรอคะ ในเมื่อภาพพวกนี้มันไม่ได้บอกให้นันท์เชื่อได้เลย...หรือนี่คือการช่วยเหลือเค้า อย่างที่พี่พูดหรือคะ ...พี่เคยบอกว่าคนเป็นแฟนกันไม่มีอะไรต้องปิดบังกัน ถ้าพี่คิดจะช่วยเค้า ทำไมพี่ไม่เคยบอกนันท์ล่ะคะ ...พี่มาบอกตอนที่นันท์รู้เองแบบนี้เค้าเรียกว่า ...ข้อแก้ตัว...พี่เคยคิดไหมว่าถ้านันท์เห็นภาพพวกนี้แล้วนันท์จะรู้สึกยังไง หรือพี่มีความสุขจนไม่ได้คิดอะไร ...ส่วนผู้หญิงคนนั้น ธารน้ำนั่น...เธอเป็นคนปัญญาอ่อนหรือคะ โตจนขนาดมีกิจการเป็นของตัวเอง การศึกษาก็ดีหน้าตาก็ใช้ได้ แต่ทำไมชอบใช้ผู้ชายร่วมกับคนอื่นคะ...และ ถ้าจะบอกว่าไม่รู้ว่าพี่มีแฟนมันก็คงเป็นไปไม่ได้ ผู้ชายสมัยนี้ถ้าไม่เป็นเกย์ กระเทยก็มีแฟนกันไปหมดแล้วล่ะ....”

“พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเค้าจริง ๆ นันท์ อย่าให้รัชย์มายุแหย่ให้เราทะเลาะกันอย่างนี้สิ นันท์ไม่เชื่อใจพี่หรือครับ”

“นันท์เชื่อใจพี่....เคยเชื่อใจพี่ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว...การกระทำของพี่ ภาพพวกนี้ สิ่งที่พี่สื่อสารกันผ่านโลกออนไลน์มันบอกทุกอย่างแล้วว่าความเชื่อใจระหว่างเรามันจบแล้ว”

ดวงตาของปานณรงค์วาววับ ด้วยความโกรธ เขาเข้ามากระชากแขนเธอเต็มแรง และเขย่าเธอราวกับเธอกลายเป็นวัตถุอะไรสักอย่าง ความโกรธของเขารุนแรงราวกับพระเพลิง

“ยังไงพี่ก็ไม่ยอมเสียนันท์ให้ไอ้รัชย์หรอก ถึงพี่มีเค้าพี่ก็มีนันท์ด้วย พี่จะแต่งงานกับนันท์”

“แต่นันท์ไม่แต่งงานกับพี่” เธอโต้กลับด้วยน้ำเสียงดุเดือดพอกัน

“จะไปแต่งกับไอ้รัชย์หรือไง”

“มันก็คงดีกว่าแต่กับคนหลอกลวงอย่างพี่ละกัน”
ถึงใจจะไม่ได้คิดอย่างนั้น แต่พอความโมโหขาดสติเข้าครอบงำ และต้องการให้อีกฝ่ายเจ็บเหมือนตนเองคำพูดทำร้ายใจซึ่งกันและกันผุดขึ้นเพื่อตอบแทนความหลอกลวงที่ได้รับ หวังให้อีกฝ่ายเจ็บปวดด้วย

“งั้นก็ให้มันกินเดนพี่ไปแล้วกัน”

นันท์วราถูกคนรักลากตัวไปกระแทกลงบนโซฟาตรงนั้น เธอทั้งร้องทั้งดิ้น แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของปานณรงค์ได้ ความบ้า หวง และรัก ของเขาทำให้เขากลายเป็นคนบ้า ไม่มีอะไรหยุดเขาได้นอกจากสิ่งเดียวเท่านั้น

กลิ่นดอกซ่อนชู้หอมฉุน ลอยอวนอยู่ในบรรยากาศยามค่ำคืน...

-----------------
รัชย์เปิดประตูบ้านเข้ามาด้วยความเป็นห่วงหลังจากได้รับโทรศัพท์จากคนที่เขา หลงรัก สภาพของบ้านเหมือนเกิดการต่อสู้ขึ้น และภาพของนันท์วราที่เหมือนตุ๊กตาเก่า ๆ หมดสภาพสักตัว นั่งพิงผนังด้วยสายตาเหม่อลอย เขาวิ่งเข้าไปหาเธอ

“นันท์ เป็นอะไรไป”

ชายหนุ่มพยายามลูบไปตามเนื้อตัวเพื่อหาร่องรอยบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นนอกจากความบาดเจ็บในจิตใจที่เกินเยียวยาของเธอ แต่ปรากฏว่าไม่มีร่องรอยบาดเจ็บใด ๆ บนร่างกายเธอสักรอย นอกจากรอยแดง ๆ บนข้อมือเท่านั้น

“มันไปไหนแล้วผมจะไปลากคอมันมาเข้าคุก”

“ไม่รัชย์” มือบางเกาะกุมมือเขาเอาไว้ทันทีก่อนที่เขาจะถลาออกไป ด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด

“มันทำร้ายนันท์”

“เขาไม่ได้ทำร้ายนันท์ เชื่อนันท์สิ” ดวงตาแดงช้ำของเธอ ดึงสติเขาให้คืนมาอีกครั้ง “เขาไปแล้ว จะไม่มากวนนันท์อีกแล้ว”

น้ำตาเม็ดใสหยดลงบนหลังมือชายหนุ่ม แต่มันให้ความรู้สึกร้อนผ่าวราวกับถูกน้ำร้อนลวก เธอร้องไห้อีกแล้ว....ส่วนเขาทำอะไรให้เธอไม่ได้นอกเสียจากนั่งอยู่เป็นเพื่อนเหมือนที่เป็นในทุกขณะ

--------------------

สุดท้ายแล้วนันท์วราก็ตัดใจจากปานณรงค์ไม่ได้อยู่ดี....ในเมื่อเธอไม่ได้เขา ก็จะไม่มีใครได้เขาไป และเขาก็จะไม่ได้ออกไปทำร้ายหลอกลวงใครอีก...ไม้เบสบอลที่ถูกเก็บอยู่ใต้โต๊ะกลิ้งออกมา และเธอก็เอื้อมมือคว้ามันเอาไว้ ในขณะที่ปานณรงค์กำลังขาดสติเพราะต้องการเอาชนะเธอ นันท์วราเงื้อมือที่มีมันขึ้นไปจนสุดแขน

.................................

.....................

.............

........

...

..

.........

.....................

.................................

แปลงดอกซ่อนชู้แปลงใหม่ของเธอกำลังชูช่อดอกอวดความงามสมบูรณ์ของต้นสาวเต็มแปลงใหม่ซึ่งอุดมไปด้วยปุ๋ยชั้นดี ในขณะที่แปลงข้างๆ ดอกที่กำลังเริ่มบานก็เริ่มส่งกลิ่นหอมตลบอบอวน และมากขึ้นทันทีที่ดวงอาทิตย์ละขอบฟ้า

นันท์วราก้มลงตัดดอกซ่อนชู่ในแปลงนั้นมาถือไว้ ภายในใจก็ยังครุ่นคิดต่อไปว่า...เธอควรจะไปเชียงรายเพื่อหาปุ๋ยมาให้ดอกซ่อนชู้ของเธอดีไหม...

the end....

ปล.โปรดอย่าถามว่าเป็นเรื่องจริงไหม 5555 เด้วคนเขียนตอบว่าเป็นเรื่องจริงแล้วจะยุ่ง ขออยู่ในดาร์คโหมดสักนิดนะคะ อิอิ
----------------

สวัสดีค่ะ...เพื่อน ๆ ชาวถนนทุกท่าน

วันนี้เกิดอาการดาร์คโหมดกำเริบ เลยได้เรื่องสั้นเรื่องนี้ออกมาหนึ่งเรื่อง
เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกของปีนี้ และปีที่แล้วเชีย (5555)

ทั้งที่เริ่มต้นการเขียนด้วยเรื่องสั้น แท้ๆ แต่พักหลัง ๆ กลับไม่ได้เขียนเรื่องสั้นสักเท่าใด
อาจเพราะไม่ได้แรงบันดานใจแรง ๆ เลยหมดไป แต่เหมือนพักนี้จะได้ไฟแปลก ๆ ทำให้เกิดอาการฮึดขึ้นมาอีกครั้ง

บอกตัวเองว่าจะพยายามเขียนเรื่องสั้นให้ได้ปีละสิบสองเรื่อง ตั้งแต่ปีหน้าตั้งสเกลเอาไว้
แต่ถึงเวลาจริง ๆ ไม่รู้จะทำไ้ด้อย่างที่คิดไหม เพราะชีวิตมีเรื่องราวมากมายเหลือเกิน
และนัทก็เป็นพวกสาวอารมณ์ศิลปิน มีอารมณ์ถึงเขียนงานได้ มันเลยขาด ๆ ติด ๆ ขัด ๆ ไปเรื่อยประกอบกับความขี้เกียจและเล่นเกมเพลินมากมาย 5555 จนกว่าจะมีคำสั่งเดทลายยยย ออกมานั่นแหละถึงจะรีบจุดไฟให้ตัวเอง 5555

แต่งานเรื่องสั้นเป็นงานที่ตั้งใจ และปีหน้าจะพยายามทำให้ได้เืดือนละเรื่อง (นั่นหมายความว่าต้องออกเที่ยว ต่างจัังหวัดให้ได้เดือนละหนึ่งครั้งด้วยหรือเปล่าฟ่ะ) สู้ๆๆ

ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่แวะเข้ามาและทิ้่งร่องรอยไว้เป็นกำลังใจนะคะ
ตอนนี้ขอแว่บไปเขียนเรื่องยาวต่อก่อน เด้วไฟมอดแล้วจะแย่อีก 5555 --"

เจ้านัทจ้า /เปียร์รสุ/ปรานต์ปัณฑ์

ปล. เงาหัวใจในม่านฝน กับ กลางผืนทรายฯ จะอัปตอนต่อไปในบล็อคพรุ่งนี้จ้า







Create Date : 01 กันยายน 2554
Last Update : 1 กันยายน 2554 12:29:22 น. 4 comments
Counter : 736 Pageviews.

 
ตามเข้ามาอ่านค่ะ หักมุมได้อย่างหวาดๆ


โดย: goldensun IP: 203.144.220.246 วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:20:41:28 น.  

 
น่าสยองนะคะ
แวะไปห้องนิยายบ้านเราบ้างก็ได้นะ :)


โดย: gymstek วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:21:11:42 น.  

 



โดย: ฮิปโปร้อยฝัน วันที่: 11 ตุลาคม 2554 เวลา:19:41:10 น.  

 


โดย: peter125 (steven1064 ) วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:10:49:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เปียร์รุส
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




In Rememberกองความทกข์ทับถมกองพะเนินเหมือนกองหิมะขาวโพลนตรงหน้าแต่..มันจะแตกต่างกันตรงที่ เมื่ออากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น กองหิมะก็จะละลายกลายเป็นน้ำไป...แต่ความทุกข์ที่เกาะกุมแนบแน่นอยู่ชิดติดเนื้อใจนั้น...วันใดถึงจะหายเจ็บปวดและ...ทรมานเสียที



:::คำเตือน:::ขอสงวนสิทธิ์ใด ๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยาย เรื่องสั้น ในบล็อคแห่งนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์

:::แจ้งข่าว:::
10 ส.ค. 57 อัปฯ นิยาย

เรื่อง : ตราบเวลามิอาจกั้นรัก บทที่ 1

สวัสดีค่ะ หล้งจากห่างหายไปนานมากกกับ การเขียนนิยายในบล็อค พยายามเจียดเวลามาจัดการงานค้างในไหดองค่ะเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ คนไหนยังคงจำกันได้และแวะเวียนมาอ่าน ลงคอมเม้นให้ด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจล่วงหน้าค่า... ^_^

ขอบคุณค่ะ
นัท
เปียรุส / ปรานต์ปัณฑ์
วังน้ำเขียว โคราชค่ะ




:::บอกเล่า::: ห้องที่งดการให้กุญแจ คือ

ฝากฟ้าถามดาวถึงข่าวคราวความรัก

เกลียวใจใยรัก (หัวใจที่ปลายฝัน)

ก็แค่ใครคนหนึ่งซึ่งคิดถึงเธอ

ทะเลทรายลายดาว

เรื่องสั้นขนาดยาว Season Of Love

เรื่องสั้นขนาดยาว Project Love & Kiss

ริ้วทรายใต้ตะวัน

เรื่องสั้นขนาดยาว Silver Fall's รสรักกรุ่นหัวใจ

หัวใจเพื่อรักความรักเพื่อลืม

มหรรณพแสงจันทร์

นิยายที่อยู่ในห้องที่ใส่กุญแจหาอ่านได้ตามร้านหนังสือนะคะ

ขอบคุณค่ะ

นัท...เปียรุส /ปัณณธร


รวมผลงานของเปียรุส , ปรานต์ปัณฑ์

ผลงานเดี่ยว



รวมเล่มกับนักเขียนท่านอื่น



Season Of Love

โดย ปัณณธร (เปียร์รุส)



Friends' blogs
[Add เปียร์รุส's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.