Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
28 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
เรื่องเล่าจากเมือง "ขะแมร์"

เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองกัมพูชามา..เป็นคณะติดตามไปงานแต่งงานของคนขะแมร์ที่มาทำงานในพื้นที่วังน้ำเขียวหลายปีอยู่... ตอนแรกคิดว่าคงไม่ได้ไปแล้วล่ะ เพราะเส้นเอ็นกล้ามเนื้อขาเกิดอักเสบก่อนะจะไปแค่วันเดียว ไปหาหมอเอายามากิน ทั้งประคบสมุนไพรก็ยังไม่ดีขึ้น มันงอขาไม่ได้ ยกขาไม่ขึ้น แต่เวลาเดินไม่เป็นไร 

แต่ด้วยความอยากไป นครวัด เลยเอาว่ะ...เจ็บเป็นเจ็บไปก็ไป อีกอย่างประกอบกับคนที่รับปากว่าจะไปเกิดอาการถอนตัวกันหลายคน (สงสัยกลัวร้อน) ไอ้เราก็จัดเสื้อผ้าไปเต็มพิกัด ทั้งครีมกันแด สารพัด ร่ม ผ้าคลุมเอาไปพร้อม เพราะรู้ว่า ถ้าที่ ปทท. ยังร้อนขนาดนี้ เขมรไม่ต้องพูดเลยว่าจะขนาดไหน...

(ด่านเข้าเมือง "ขะแมร์" หรือ กัมพูชา นั่นเองคร้าบบ)

เราผ่านด่าน ตรวจหนังสือไปเข้าเขตของกัมพูชา ถ้าไม่มี น้องที่เค้าไปที่นั่นก่อนเราคงถูกหลอกเหมือนน้องที่ไปก่อนนั่นล่ะ . ... ระบบการเข้าเมืองไม่มีปัญหา แต่ระบบการท่องเที่ยวของเค้ามีปัญหา...คือพอน้องเช่ารถตู้มา "ขาใหญ่"ที่คุมคิวนักท่องเที่ยวก็เดินมากักรถไม่ยอมให้เราไป อ้างว่าเราต้องทำตามกฏคือ ต้องไปเดินตามทางที่ไปขึ้นรถตรง บขส. ของเขา ตรงนั้นจะมีรถนำเที่ยว (มันผูกขาดเจ้าเดียวมั่งว่ะ) แต่เราก็ไม่ยอมอ้างว่านี่เป็นรถบ้านงานแต่งเค้ามารับมันก็ทำหน้ายุ่ง ๆ ก่อนจะปล่อยเราไป ...แล้วน้องมาเล่าให้ฟังว่า...จริง ๆ ต้องการให้เราไปเดินตามทางที่กำหนดเพราะมันจะได้กินเงินไปเป็นทอด ๆ ถ้าไปตรงจุดนั้นแล้ว เราจะเสียประมาณ 2 พันบาทในการเช่ารถและให้เงินคนที่นำเรามาส่งอีก แต่ถ้าเรามาเอง ไม่ผ่าน จะเสียแค่ 1,200 บาทเท่านั้นเอง...เรียกว่าขูดเลือดกันตั้งแต่เข้าสู่ประเทศทีเดียวเชียว ฉะนั้นแนะนำว่า ถ้าจะไปเองควรไปกับทัวร์จะดีสุด จะไม่ต้องมาอารมณ์เสียกับคนพวกนี้...

เราถึงบ้านงานแต่งที่ห่างจากด่านโรงเกลือ เพียง 50 กม. วันนี้เป็นวันกินเลี้ยงซึ่งเริ่มงานตั้งแต่ 11 โมง งานแต่งของคนขะแมร์แปลกมากกก คือในวันนี้ เส้นที่เราเข้าไปมีคนแต่งงานไม่ต่ำกว่าสิบบ้าน ซึ่งหมายถึงว่าวันนี้เป็นวันดี เค้าแต่งงากนันสามวัน ...และวันสุดท้ายคือวันที่สาม เจ้าสาวจะแต่งชุดแต่งงานเปลี่ยไป เปลี่ยนมาเกือบ 20 ชุด (กร๊ากกก ใครอยากเปลี่ยนชุดบ่อยต้องมาแต่งที่นี่) ซึ่งเป็นธรรมเนียมของเขา มีเลี้ยงโต๊ะจีน และมีซุ้มต้อนรับที่มีเพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวอีกอย่างละสามคน เจ้า่บ่าว เ้จ้าสาว พ่อแม่ญาติจะมายืนรอต้อนรับด้านหน้า น้ำอัดลมที่แปลก ๆ คือ น้ำน้อยโหน่ง (ไม่ชิมอ่ะกลัว) แล้วโค้กก็รสชาติเหมือนซาสี่อ่ะ...

(เจ้าบ่าว เจ้าสาว และเจ้าบ่าว ชุดม่วง)

 


เราออกจากงานตอนบ่ายโมงกว่า มุ่งหน้าสู่เสียมเลียบ ใ้ช้่เวลาประมาณ 2 ชม. ไปถึง ทะเลสาปที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย "โตนเลสาป" ความลึกของโตนเลสาปคือ 10 เมตร ระยะทางจากจุดลงเรือไปยังตัวทะเลสาปคือ 8-9 กม.ในช่วงน้ำลดที่ไป น้ำลึกระดับเข่า (ในจุดที่เป็นทางเข้าออกโตนเลสาป)น้ำขุ่นคลั่กเป็นสีโอวันตินกันเลยทีเดียวเชียว ความกว้างประมาณของร่องน้ำ 10-15 เมตร เรือจะแล่นได้ช้ามาก สองข้างทางเต็มไปด้วยเรือนักท่องเที่ยว ไกด์ชาวขะแมร์บนเรือเรา พูดภาษาอังกฤษคล่องมาก (ไม่สมกับหน้าตาเลยให้ตายดิ) สองฝั่งของทางเข้าสู่โตนเลสาป มีรถแม็กโครกำลังทำงานขุดดินขึ้นมาเพื่อลอกดินที่ตกลงไปทับถมจากฤดูน้ำหลากที่แล้ว ระดับน้ำในทะเลสาปขึ้นอยู่กับระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่จะมีการท่วมในทุกปี

(น้ำกับ ฟ้า... บนระดับความลึก 10 เมตรอัปฯ)

(ชอบภาพนี้ที่สุด เห็นนกตัวน้อย ๆ ที่เกาะอยู่บนปลายไม้นั่นหรือเปล่า...)

(ไปที่ไหน เสาสัญญาณโทรศัพท์ก็ตามไปที่นั่น ประกาศตัวว่านี่คือยุคของการสื่อสารไร้พรมแดน)

 

 

(หมู่บ้าน "ชาวน้ำ" ในโตนเลสาป Great Lake , Tonle sap)

หลังหลุดจากร่องน้ำที่เป็นทางเข้าออก เราจะพบกับทะเลสาปน้ำจืดขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา ปลายฟ้าจรดปลายน้ำ พร้อมด้วยหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งเป็นชาวเวีียดนามอพยบ ชาวน้ำที่นี่อยู่อาศัยหลับนอนกันบนเรือ สินค้าอุปโภคบริโภคหลายชนิดมีขายอยู่บนเรือสินค้าซึ่งขนกันมาจากบนฝั่ง "วิถี" ที่เรียบง่ายของคนในทะเลสาปดูใส่ซื่อกว่าคนขะแมร์ภาคพื้นดินหลายเท่า บางคนเมื่อเห็นเรือนักท่องเที่ยวมาก็จะพาเรือพาลูกมาเพื่อขอเงิน ไกด์เราแนะนำว่าควรให้เิป็นขนมหรือน้ำ ถ้าให้เป็นเงินเมื่อไหร่...ชีิจะไปบอกต่อกันและเราจะอบอุ่นขึ้นในทันทีด้วยกองทัพเรือน้อย ๆ ที่มารุมล้อม 555 ที่นี่มีเรือทำน้ำสะอาดสำหรับบริโภค จึำงทำให้ั "ชาวน้ำ" มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ไม่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เราออกจากโตนเลสาปเมื่ออาทิตย์ใกล้จะละฟ้า ที่นี่ความสะดวกของชีวิตยุคใหม่ยังเข้ามาถึง เพราะมีเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ยืนตระง่านอยู่ 

ออกจากโตนเลสาป เราเข้าพักในเกรสเฮ้าใกล้ตลาดกลางคืนในเสียมเรียบ ห้องละ 600 บาท ห้องสะอาด น่าพัก แต่แอร์ไม่เย็น 5555 คืนนั้นหลังจากผุดลุกผุดนั่งตลอดคืน สุดท้ายทนไม่ได้ต้องเอาผ้าขนหนูไปปูปหน้าแอร์และลงมานอน เลยได้หลับไปหน่อยหนึ่ง 5555

***ทริปเล็ก ๆ สำหรับคนที่จะไปเดินเที่ยวตลาดกลางคืน หรือร้านขายของในนครวัดนครธม ถ้าแม่ค้าบอกคุณว่า 20 ดอลล่าห์ คุณต่อลงมาเลยครึ่งหนึ่งหรือจะมากกก็ได้ ถ้าเค้าไม่ยอมลดให้ ๆ เดินออกจากร้าน และแม่ค้าก็จะ ตอบ ok กับราคาที่คุณต่อทันที 555 ยกตัวอย่าง พระพิฆเนศไม้ ตอนแรกบอกราคามา 1500 กว่าบาท ต่อไปต่อมาเหลือ 540 บาท  กระเป๋าชาวเขาที่มาจากเชียงใหม่ บอกราคามา 20ดอลล่า พอทำท่าจะเดินออกลดให้เหลือ 10 ดอลล่า นี่ถ้าเกิดต่อ สงสัยจะเหลือ เจ็ดหรือไม่ก็ปแปดนี่ล่ะ เสื้อตัวละ 500 บาท ต่อไปต่อมา เหลือตัวละ 100 บาท กรั่กๆๆๆ***

วันรุ่งขึ้นหลังจากหาอะไรใส่ท้องแล้วเราก็มุ่งไปยัง ไฮไลท์ของกัมพูชา "นครวัด นครธม" เจอค่าเข้าเข้าไปคนล่ะ 20 ดอลล่าห์เอง (กัดฟันพูดน่ะนั่น) แค่เห็นทางเดินเข้าไปสู่ตัวปราสาท แสงแดดสะท้อนไปมาบนน้ำรอบปราสาทก็แทบจะอยากนั่งอยู่ใต้ต้นไม้แล้ว...สุดท้่ายก็กัดฟันเดินเข้าไปจนได้ และปีนขึ้นปราสาทชั้นบนจนได้ ถึงจะร้อน แต่ก็โอเค...เป็นทริปที่มีรูปถ่ายตัวเองเยอะสุด เพราะมีคนถ่ายให้ 5555

(เตรียมทุกอย่างพร้อมฝ่าเปลวแดด แต่ขอบอก ว่า "ร้อนอิ๋บอ๋าย" แต่สุดยอดมาที่ยอมเดินกระเผลก ๆ ไปเที่ยวนครวัดรอบนี้)

ออกจากนครวัด เรามุ่งที่ ปราสาทตาพรหม ไปดูต้นสะบงยักษ์ที่คลุมรอบปราสาทเอาไว้ เกือบจะท้อเพราะขามันเริ่มเจ็บอีกหลังจากปีนขึ้นปีนหลังจากปราสาทนคครวัด แต่ก็เอาว่ะ เค้าว่าสวยต้องไปดู ก็ไปก็ไป...แล้วก็ไม่เสียใจที่ได้ไป...ต้นสะบง ใหญ่จริง ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะ้ต้นสะบงนี่หรือเปล่าปราสาทแห่งนี้จึงยังอยู่ในสภาพนี้ และอาจเป็นเพราะต้นสะบงก็ได้ที่มันขึ้นอยู่บนตัวปราสาท ทำให้ปราสาทมันพังลงมา

(กับรากต้นสะบงในปราสาทตาพรหม)

กลับออกมาจากปราสาททั้งหมดทั้งมวล เกือบบ่ายสอง เรามาหาข้าวกินที่ร้านอาหารจีีน ซึ่งเมื่อตอนเช้าไปนั่งกินโจ๊กกันมา (โจ๊กเค้าใส่ถั่วงอกด้วยล่ะ) และมันอร่อย แต่พอบ่ายไป มันไม่อร่อยเหมือนตอนเช้า เพราะกินข้าวหน้าเป็ด ข้าวผัด กันอ่ะ...กลับมาถึงพรมแดนโรงเกลือ ตอนห้าโมงเย็น พอได้ช้อปปิ้งบ้างไรบ้าง 555 แต่ก็นะ ได้รองเท้ามาแค่คู่เดียว เพราะร้านมันใกล้ปิดหมดแย้ว...ปิดทริปสองวันหนึ่งคืนด้วยประการฉะนี้แล...




Create Date : 28 เมษายน 2555
Last Update : 28 เมษายน 2555 12:48:35 น. 3 comments
Counter : 1430 Pageviews.

 
ปีหน้าตั้งใจว่าจะไปค่ะ แต่คงไปกับบริษัททัวรื เพราะมีเพื่อนจะติดตามไปกลุ่มใหญ่ ขี้เกียจมีปัญหาเหมือนที่นำมาบอกกล่าว ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องราวดี ๆ เสียดายน้อยไปหน่อยนะ


โดย: Maeboon วันที่: 28 เมษายน 2555 เวลา:13:15:58 น.  

 


โดย: ฮิปโปร้อยฝัน วันที่: 2 พฤษภาคม 2555 เวลา:18:53:46 น.  

 
จ๊ะเอ๋


โดย: รวยระรินกลิ่นชา วันที่: 4 กันยายน 2555 เวลา:21:14:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เปียร์รุส
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




In Rememberกองความทกข์ทับถมกองพะเนินเหมือนกองหิมะขาวโพลนตรงหน้าแต่..มันจะแตกต่างกันตรงที่ เมื่ออากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น กองหิมะก็จะละลายกลายเป็นน้ำไป...แต่ความทุกข์ที่เกาะกุมแนบแน่นอยู่ชิดติดเนื้อใจนั้น...วันใดถึงจะหายเจ็บปวดและ...ทรมานเสียที



:::คำเตือน:::ขอสงวนสิทธิ์ใด ๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยาย เรื่องสั้น ในบล็อคแห่งนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์

:::แจ้งข่าว:::
10 ส.ค. 57 อัปฯ นิยาย

เรื่อง : ตราบเวลามิอาจกั้นรัก บทที่ 1

สวัสดีค่ะ หล้งจากห่างหายไปนานมากกกับ การเขียนนิยายในบล็อค พยายามเจียดเวลามาจัดการงานค้างในไหดองค่ะเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ คนไหนยังคงจำกันได้และแวะเวียนมาอ่าน ลงคอมเม้นให้ด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจล่วงหน้าค่า... ^_^

ขอบคุณค่ะ
นัท
เปียรุส / ปรานต์ปัณฑ์
วังน้ำเขียว โคราชค่ะ




:::บอกเล่า::: ห้องที่งดการให้กุญแจ คือ

ฝากฟ้าถามดาวถึงข่าวคราวความรัก

เกลียวใจใยรัก (หัวใจที่ปลายฝัน)

ก็แค่ใครคนหนึ่งซึ่งคิดถึงเธอ

ทะเลทรายลายดาว

เรื่องสั้นขนาดยาว Season Of Love

เรื่องสั้นขนาดยาว Project Love & Kiss

ริ้วทรายใต้ตะวัน

เรื่องสั้นขนาดยาว Silver Fall's รสรักกรุ่นหัวใจ

หัวใจเพื่อรักความรักเพื่อลืม

มหรรณพแสงจันทร์

นิยายที่อยู่ในห้องที่ใส่กุญแจหาอ่านได้ตามร้านหนังสือนะคะ

ขอบคุณค่ะ

นัท...เปียรุส /ปัณณธร


รวมผลงานของเปียรุส , ปรานต์ปัณฑ์

ผลงานเดี่ยว



รวมเล่มกับนักเขียนท่านอื่น



Season Of Love

โดย ปัณณธร (เปียร์รุส)



Friends' blogs
[Add เปียร์รุส's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.