space
space
space
<<
ธันวาคม 2564
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
space
space
21 ธันวาคม 2564
space
space
space

รู้จักกับผักเคล Kale ทำไมถึงได้เป็นราชินีแห่งผัก

“ผักเคล” (Kale) 
อีกหนึ่งชนิดของผักใบสีเขียวเข้มที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดของอาหารหรือ Super Food นั่นเองค่ะ ถ้าได้ถูกยกให้ไปอยู่ในลำดับของสุดยอดของอาหารแล้วถือว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จักกับผักใบเขียวเข้มชนิดนี้กันมากนักวันนี้เราจึงอยากจะนำข้อมูลรายละเอียดทั้งผักเคลมีความเป็นมาและมีประโยชน์อย่างไรบ้างมานำเสนอกันในวันนี้ค่ะ

รู้จักกับผักเคล (Kale)
ผักเคลมีต้นกำเนิดในแถบประเทศเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกและเอเชียไมเนอร์  ซึ่งได้รับการเพาะปลูกเพื่อเป็นอาหารตั้งแต่ปี 2000 ก่อนคริสตศักราช  ในศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสต์ศักราช คะน้าใบหยิกและคะน้าใบแบนถูกพบในประเทศกรีซ  ซึ่งชาวโรมันเรียกว่า 'คะน้าซาเบลเลียน' ถือเป็นบรรพบุรุษของคะน้าสมัยใหม่

โดยผักเคลที่ได้ฉายาว่าราชินีก็เพราะเคลเป็นผักที่แคลอรี่ต่ำ ไฟเบอร์สูง ไม่มีไขมัน โดยมีค่าวิตามินเค 684% วิตามินเอ 206% และ วิตามินซี 134% ต่อที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน! แถมเคลยังขึ้นชื่อว่าเป็นผักใบเขียวที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดคอเลสเตอรอลมากที่สุด มีงานวิจัยว่าการดื่มน้ำผักเคลเป็นประจำทุกวันติดต่อกัน 12 สัปดาห์ ช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอล HDL ที่ดีขึ้นถึง 27% และลดคอเลสเตอรอลตัวร้าย LDL ลงไป 10%

เรามาดูกันว่าทำไมเจ้าผักนี้ถึงเป็นสุดยอดผักเพื่อสุขภาพ หรือ “The queen of green” ราชินีแห่งผักใบเขียว กัน

1. ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เนื้องจากมีการค้นพบว่า เคล มีโปรตีนถึง 4.3 กรัม ซึ่งถ้าในบรรดาผักด้วยกันถือว่าเป็นค่าที่สูงเป็นอย่างมาก เหมาะมากสำหรับสายนักกีฬา หรือ สายออกกำลัง โดยมันถูกยกให้เป็น The new beef ไปแล้ว

2.ต้านการอักเสบ เนื่องจากพบว่าใน ผักเคล มีไขมันดีอย่าง โอเมก้า 3 ซึ่งช่วยต่อสู้กับพวกโรคข้ออักเสบ

3.ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากพบว่ามี วิตามินซี วิตามินอี และ วิตามินเอ

4.เผาพลาญได้ดี มีวิตามินซีที่สูง ช่วยให้เราเผาผลาญร่างกายได้ดียิ่งขึ้น

5.ต้านมะเร็ง มีสาร kaempferol และ quercetin อีกทั้งสารต่อต้านอนุมูลอิสระในเคลนั้นยังช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ดีเอ็นเอในขณะเดียวกันก็ชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

6.ดีท๊อกซ์ลำใส้ ช่วยลดปัญหาที่เกี่ยวข่องกับโรคลำใส้ ด้วยค่าเส้นใยอาหารที่สูงลิ่ว

7.ลดคอเลสเตอรอล ให้อยู่ในระดับปกติ เนื่องมาจากพบว่ามีสารฟีนอลิก และ กรด hydroxycinnamic ควรนำมานึ่งก่อนเนื่องจากผักที่นึ่งแล้วจะช่วยในการจับคอเลสเตอรอลได้ดีกว่า

8.ช่วยเรื่องการขับถ่ายที่ดีขึ้น ผู้ที่มีอาการท่องผูกบ่อยๆ แนะนำเลย เนื่องจากมีไฟเบอร์และน้ำในตัวที่เยอะ
เคลที่คนไทยรู้จักหลักๆ มี 2 ชนิด
 

1. เคลใบตรง (Lacinato Dinosaur Kale) หรือบางคนเรียก เคลไดโนเสาร์ ลักษณะแตกต่างจากใบหยิกเลย คือมีใบตรง มีลักษณะสีเขียวเข้ม ใบกว้าง 2-3 นิ้ว มีความโดดเด่นที่ใบตรงแต่มีรอยย่น รสชาติออกหวานมากกว่าเคลใบหยิก นิยมนำมากินเป็น “สลัด” หั่นเส้นบางๆ หรือพอดีคำ แล้วคลุกเคล้าน้ำมันมะกอก

2.เคลใบหยิก (Curly Kale) มีความโดดเด่นที่ขอบใบหยิก ลำต้นแข็ง รสชาติคล้ายกะหล่ำ ขมนิดๆ นิยมนำมากินเป็นสลัด และทำสมูทตี้ หรือปั่นเป็นน้ำผัก

การเก็บรักษาผักเคลควรเก็บใน ตู้แช่ผัก ที่ทำความเย็นได้อย่างสม่ำเสมอ กระจายความเย็นช่วยให้ผักเคลสดนาน และตู้แช่ผักของเรายังควบคุมอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 0- 10 องศา (โดยอุณหภูมิในการเก็บรักษาผักที่ดีควรอยู่ที่ประมาณ 10 องศา)  




Create Date : 21 ธันวาคม 2564
Last Update : 21 ธันวาคม 2564 11:43:12 น. 0 comments
Counter : 1116 Pageviews.

สมาชิกหมายเลข 6254122
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6254122's blog to your web]
space
space
space
space
space