ใครชอบไอศกรีมรสเปรี้ยว ๆ อยากให้ลองทำเมนูไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี สูตรไอศกรีมไม่ใช้เครื่อง สูตรนี้ใช้สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง ผสมกับเนื้อไอศกรีม เติมรสหวานนิดหน่อย แค่คำเดียวก็สดชื่นแล้วค่ะ
 
ส่วนผสม ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี (ประมาณ 255 กรัม)
สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง 100 กรัม
น้ำตาลทรายป่น 55 กรัม
น้ำมะนาว 1/2 กรัม
วิปปิ้งครีม 100 กรัม
สตรอว์เบอร์รีเเต่งหน้าไอศกรีม (จะใส่ก็ได้หรือไม่ใส่ก็ได้ค่ะ) 20 กรัม
 
วิธีทำไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี
     1. นำสตรอว์เบอร์รีแช่แข็งกับนํ้าตาลใส่ในหม้อ เปิดไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลและน้ำแข็งในสตรอเบอร์รีละลาย ปิดไฟ ไม่ต้องให้รอให้เดือด และเวลาคน ไม่ต้องใช้ไฟแรง เพราะสตรอว์เบอร์รีจะไหม้ และทำให้สีไอศกรีมไม่สวย นำสตรอว์เบอร์รีมาใส่ชามพักไว้ แล้วเติมน้ำมะนาวลงไป เพื่อตัดให้มีความเปรี้ยวนิดหนึ่ง พักไว้ให้เย็น
     2. ตีวิปปิ้งครีมให้ตั้งยอด เพราะถ้าครีมเหลวไปเวลาใส่สตรอว์เบอร์รีซอส จะทำให้ครีมเหลวได้ จะใช้เครื่องตีมือไฟฟ้าช่วยก็ได้ แต่ในสูตรที่ทำให้ดูมันน้อย ตีมือธรรมดาเลยง่าย แต่ถ้าใครทำ 1 เท่าของสูตรขึ้นไปแนะนำว่า ให้ใช้เครื่องตีมือไฟฟ้าจะสะดวกกว่า นำซอสสตรอว์เบอร์รีมาผสมกับครีม นำไปใส่ภาชนะที่เตรียมไว้
     3. นำสตรอว์เบอร์รีที่เตรียมไว้ไปละลายในไมโครเวฟ 20 วินาที แล้วนำมาตัดให้เป็นชิ้นเล็ก โดยใช้ช้อนกินข้าว ใส่ในไอศกรีมแล้วคนผสมเล็กน้อย เพื่อจะได้เป็นลายซอสสตรอว์เบอร์รี นำไอศกรีมไปแช่ในช่องแข็ง ประมาณ 4 ชั่วโมงขึ้นไปเพื่อให้เซตตัว ตักเสิร์ฟ

 

 ใครมีมะม่วงสุกเยอะแยะแล้วกลัวกินไม่ทัน จับมาทำไอศกรีมไม่ใช้เครื่องสักหน่อยดีไหม เนื้อไอศกรีมใส่ทั้งซอสมะม่วงและเนื้อมะม่วง รับรองไอศกรีมมะม่วงสูตรนี้อร่อยเด็ด
 
ส่วนผสม ไอศกรีมมะม่วง
เนื้อมะม่วงปั่น 400 กรัม
เจลาติน 1 ช้อนชา
วิปปิ้งครีม 250 กรัม
ไอซิ่ง 50 กรัม
นมข้นหวาน 30 กรัม
สีผสมอาหารสีเหลือง (ใส่หรือไม่ก็ได้)
เนื้อมะม่วงสุก
 
วิธีทำไอศกรีมมะม่วง
     1. ผสมเจลาตินกับน้ำคนให้เข้ากันแล้วพักไว้ 10 นาที นำเข้าไมโครเวฟประมาณ 10-20 วินาที แล้วก็นำไปผสมกับเนื้อมะม่วงปั่น อาจจะตักเนื้อมะม่วงปั่นมาผสมในถ้วยเจลาตินก่อน คนให้เข้ากัน แล้วค่อยนำไปเทรวมกันอีกทีจะได้คนเข้ากันง่าย ๆ

     หมายเหตุ : สามารถนำมะม่วงหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าแล้วแช่ช่องฟรีซให้แข็งก่อนแล้วมาปั่นก่อนทำไอศกรีมมะม่วงได้ (จะทำให้ไอศกรีมเซตตัวเร็วและเกล็ดน้ำแข็งเล็กด้วย)

     2. ตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลไอซิ่งจนตั้งยอดอ่อน เติมนมข้นหวานลงไป ตีจนเข้ากัน แล้วเทเนื้อมะม่วงปั่นที่ผสมเจลาตินไว้แล้ว ลงไปตีผสมด้วย ถ้าอยากได้สีเหลืองสวย ๆ ก็สามารถเติมสีเหลืองเพิ่มได้ ตีจนเข้ากันแล้วใส่เนื้อมะม่วงลงไปตะล่อมจนเข้ากัน เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ จะใส่เนื้อมะม่วงลงไปอีกก็ได้ จากนั้นแช่ไอศกรีมในช่องแช่แข็งประมาณ 10 ชั่วโมง (คือแช่ช่องฟรีซทิ้งไว้ค้างคืนไปเลย)

     หมายเหตุ : ถ้าไม่มีเครื่องตีมือถือ สามารถใช้เครื่องปั่น ปั่นรวมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันได้

     3. หลังจากที่เซตตัว ตักออกมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าก็ได้ ต้องรีบทำหน่อย อย่าให้ไอศกรีมละลาย เดี๋ยวจะกลับไปเป็นเกล็ดเหมือนเดิม นำมาปั่นจนละเอียดขึ้น ถ้ามีเครื่องปั่นกำลังสูงหน่อยจะดีมาก เพราะไอศกรีมจะค่อนข้างหนืด ทำให้มอเตอร์ไหม้ได้ พอปั่นแล้วก็นำไปแช่ช่องฟรีซอีก 5-8 ชั่วโมง หรือจนไอศกรีมเซตตัวแข็งขึ้น ทำแบบนี้อีกสัก 1-2 รอบ หรือจนเกล็ดน้ำแข็งเล็กลงและเนื้อไอศกรีมเนียนขึ้น ถ้าได้ไอศกรีมเนื้อเนียน ๆ ดั่งใจแล้ว ตักเสิร์ฟกันได้เลย

ไอศครีมกะทิ
ส่วนผสม
กะทิ 1,000 มิลลิลิตร
น้ำตาลทราย 200 กรัม
เกลือ 1/2 ช้อนชา
แป้งข้าวโพด 4 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
ถั่วลิสงคั่ว
ถั่วแดง,ลูกเดือย,ลูกชิด,ข้าวโพด (ใส่อย่างอื่นได้ตามชอบ)

วิธีทำไอศครีม
เทกะทิลงในหม้อต้ม ตามด้วยน้ำตาล เกลือ แป้งข้าวโพด กลิ่นวานิลลา คนผสมให้แป้งและน้ำตาลละลายเข้ากัน
จากนั้น นำไปต้มด้วยไฟอ่อน ระหว่างต้ม ให้คอยใช้ตะกร้อมือคนตลอดเวลา เพื่อให้ส่วนผสมเริ่มมีความข้นหนืดมากขึ้น พอมีความข้นหนืด จนเนื้อกะทิข้นติดช้อนได้แล้ว ให้ยกลงจากเตา แล้วคนต่ออีก 15 นาที เพื่อให้เนื้อกะทิคลายความร้อนลง
เทใส่กระชอน ลงในภาชนะสำหรับแช่แข็ง เพื่อให้เนื้อกะทิมีความเนียนละเอียดมากขึ้น จากนั้น ปิดฝาให้เรียบร้อย แล้วนำไปแช่แข็งอย่างน้อย 1 คืน
พอครบเวลา ให้นำออกมา ตักรับประทานคู่กับถั่วลิสงคั่ว หรือ ถั่วแดง ลูกเดือย ลูกชิด ข้าวโพด ตามชอบ เป็นอันเสร็จ

วิธีทำไอศครีมวานิลลา


ส่วนผสม
นมสด 300 มิลลิลิตร
วิปครีม 150 มิลลิลิตร (แช่เย็น)
ไข่แดง 3 ฟอง
กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 80 กรัม

วิธีทำไอศครีม
เทนมสดลงในหม้อต้ม ตามด้วยกลิ่นวานิลลา คนให้ละลายเข้ากัน จากนั้น ต้มด้วยไฟอ่อน แค่ให้พอร้อน ไม่ต้องเดือด
เตรียมชามผสม ใส่ไข่แดง และ น้ำตาลทราย คนให้ละลายเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จนสีของไข่แดง เริ่มอ่อนลง
จากนั้น ค่อย ๆ เทนมสดที่อุ่นไว้ลงไป คนส่วนผสมทั้งหมดให้ละลายเข้ากัน เสร็จแล้ว กรองเนื้อไอศครีมผ่านกระชอน ลงในหม้อต้ม เพื่อกรองให้เนื้อเนียนละเอียดมากยิ่งขึ้น
นำมาต้มด้วยไฟอ่อนต่ออีก 1 รอบ พร้อมกับคนไปเรื่อย ๆ จนกว่าส่วนผสมจะข้นขึ้น เมื่อข้นจนเมื่อใช้นิ้วปาดลงบนไม้พายที่ใช้คน แล้วไม่มีเนื้อไอศครีมไหลลงมา ให้ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักให้เย็นสนิท แล้วนำใส่ชามผสมเตรียมไว้
เตรียมชามผสมอีก 1 ใบ ใส่วิปปิ้งครีมลงไป แล้วใช้เครื่องตี ตีด้วยความเร็วปานกลาง จนกว่าวิปปิ้งครีมจะขึ้นฟู และตั้งยอดอ่อน เสร็จแล้ว เทใส่รวมกับเนื้อไอศครีมที่พักไว้ ตะล่อมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
เทใส่ภาชนะสำหรับแช่แข็ง ปิดฝาให้เรียบร้อย แล้วนำไปแช่แข็งอย่างน้อย 6 ชั่วโมง เป็นอันเสร็จ

แนะนำให้ใช้ถุงเก็บความเย็น สามารถเก็บรักษาอาหาร หรือถนอมอาหารได้ยาวนาน โดยถุงเก็บความเย็น ที่จะช่วยรักษาความเย็น หรือรักษาความร้อนได้นานมากกว่า 10 ชั่วโมง สามารถพับเก็บได้ง่าย สะดวกต่อการใช้งาน ที่สำคัญ ถุงเก็บความเย็น SGE ราคาถูกมาก แทบจะเป็นราคาโรงงานเลยก็ว่าได้