ฟังเพลงไทยที่หัวลำโพงเมืองฝรั่ง
เมื่อวันเสาร์ไปเที่ยวงาน Thai Festival 2008 ใน Washington DC มาค่ะงานจัดที่ Union Station เทียบได้กับหัวลำโพงบ้านเรา หน้าตา(ข้างใน)ก็คล้ายๆกันค่ะ งานนี้เป็นงานฉลองความสัมพันธ์ 175 ปี ไทย อเมริกาค่ะ มีส่วนนิทรรศการให้ชมด้วย ในงานมีโชว์มวยไทย แอบถามได้ความมาว่าเป็นค่ายมวยใน Virginia โชว์ผลไม้และสบู่แกะสลัก ดอกกล้วยไม้ และนาฎศิลป์ ที่พูดถึงมาไม่ได้ถ่ายรูปเลย เพราะมัวไปเข้าคิวซื้อข้าวเหนียวมะม่วงและข้าวเหนียวทุเรียน อีกอย่างคนเยอะเชียวค่ะ เจ้าของบล็อกเขินๆ ถ่ายรูปไม่ค่อยเป็นเวลามีคนเยอะๆ นอกจากนั้นก็มีนวดแผนไทย ลานเบียร์(สิงห์) ร้านขายอาหารก็เพียบเชียว มีผลไม้ไทยให้ชิมด้วย เลยได้ชิมเงาะหนึ่งลูก ดีใจมากๆเลยค่ะ (เงาะสดนี่ที่นี่หายากนะคะ มีแต่เงาะกระป๋องถ้าอยากจะกิน)บางช่วงคนเริ่มซาเลยไปจับจองที่นั่งใกล้เวที เพราะตอนทุ่มครึ่งจะมีการแสดงของวงฟองน้ำค่ะระหว่างรอออกไปถ่ายรูป Union Station มานิดนึง งั้นไปดูรูปด้วยกันก่อนนะคะ
ด้านหน้าของ Union Station ค่ะ วันนั้นเราขับรถไป ที่จอดรถต้องหยอดเหรียญทุกชั่วโมง พอนั่งๆดูการแสดงอยู่ก็ต้องคอยดูนาฬิกา ครบชั่วโมงเมื่อไหร่ก็วิ่งจู๊ดมาหยอดเหรียญข้างหน้า
มองฟ้าจากทางเดินในตึก วันนั้นฟ้าสวย มีริ้วเมฆวาดฟ้าเหมือนผ้าผืนใหญ่
ทางเดินก่อนเข้าไปข้างใน น้องสาวบอกว่าทางเดินนี้เหมือนทางเดินตามตึกในยุโรป ลายกระเบื้องเหมือนแหงนหน้ามองขึ้นไปสวยเรียบๆดีนะคะ
ข้างในอาคาร รูปนี้ทำให้นึกถึง Musuem De' Orsay ที่ปารีสเลยค่ะ แต่อันนั้นโทนสีข้างในออกน้ำเงิน ไม่เหลืองเหมือนอย่างที่นี่นะคะ
เผลอแว้บเดียวทุ่มเศษแล้วค่ะ พิธีกรขึ้นมาประกาศว่าถึงเวลาของวงฟองน้ำแล้ว โชคดีได้ที่นั่งที่มีโต๊ะข้างหน้า เลยได้ถ่ายรูปด้วย แอบกระซิบว่าชุดคุณพิธีกรสวยจัง สีสวยและแบบก็สวยด้วย
วงฟองน้ำเล่นห้าเพลงค่ะ จำชื่อเพลงแรกไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าเกี่ยวกับแม่น้ำและคลื่น เพลงที่สองคือเทพทอง ตามมาด้วยต้นวรเชษฐ์ เพลงที่สี่ก็จำชื่อไม่ได้ และเพลงสุดท้ายคือชเวดากองค่ะ จังหวะเร็วที่สุดในห้าเพลงเลย
พอเริ่มเล่นเพลงแรกก็รู้สึกว่าภายในสถานีรถไฟที่อึกทึกเงียบลงไปถนัดใจเลย ดนตรีที่บรรเลงอยู่ให้ความรู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นขึ้นมาตอนเช้าๆ เห็นคลื่นเล็กๆในแม่น้ำกระทบแสงสีทองเป็นประกายวิบวับ เสียงระนาดดังกรุ๋งกริ๋งไพเราะ ตอนท้ายๆเพลงเหมือนกับแม่น้ำที่วุ่นวายไปด้วยเรือและผู้คน ใครเดินผ่านไปผ่านมาก็หยุดฟังกันทุกคนเชียวค่ะ
อาจารย์บรูซ แกสตัน กำลังพูดบรรยายถึงเพลงแรกว่าถ้าตั้งใจฟังดีๆจะได้ยินเสียงคลื่นๆ รูปมืดไปหน่อยนะคะ เพราะไม่ได้ใช้แฟลช สีก็แปลกๆเพราะถ่ายมาเป็น raw แล้วมาปรับมาตามประสาค่ะ
ได้ยินอาจารย์บรูซบอกว่าวงฟองน้ำเกิดมายี่สิบหกปีแล้ว เจ้าของบล็อกทันได้ซื้อเทปเพลงชุดนี้ด้วย หน้าปกสีขาว ปิดทองหนึ่งแผ่นและมีชื่อวงเป็นตัวอักษรสีแดง เสียงระนาดของวงนี้สมกับชื่อฟองน้ำจริงๆค่ะ ทั้งระนาดไทย ระนาดฝรั่งเลย
นักดนตรีวงฟองน้ำค่ะ ชุดราชปะแตนนี่สวยสง่าจังนะคะแอบลำเอียงชอบเสียงระนาดมากกว่า Xylophone ฮาเสียงระนาดนี่เพราะจริงๆนะคะ เสียงขลุ่ยในเพลงแรกก็หวานและเพราะมากๆ พูดแล้วก็อยากจะฟังอีกจังเพลงสุดท้ายเป็นเพลงที่ครึกครื้นเป็นพิเศษ ดูได้จากลีลาของพี่ที่เล่นกลองยาว (ใช่หรือเปล่านะ)
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา พอครบห้าเพลงพิธีกรก็ประกาศว่าถึงเวลากลับบ้านค่ะ เลยไม่มีอังกอร์ แต่มีถ่ายรูปหมู่แทนเสียดายจังกำลังฟังเพลงเพลินเชียว แต่เขาว่าของดีมีไม่มากใช่ไหมคะ
เกือบสามทุ่มเราก็กลับบ้านบ้างค่ะ เอาท้องฟ้ายามค่ำมาฝากด้วยก่อนกลับไปกินข้าวไทยกันก่อนที่่ร้าน Bangkok 54 อาหารอร่อยและน้องๆที่ร้านก็น่ารักมากๆเลยค่ะ
ว้า วันหลังกลับไทย หนูจะซื้อเงาะให้ทานสักสิบกิโลนะค้า