กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
 
ธันวาคม 2567
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
7 ธันวาคม 2567
space
space
space

พุทธศาสนาเป็นแหล่งสำคัญที่หล่อหลอมเอกลักษณ์ของชาติไทย

 
- ๗ –
 
-  พระพุทธศาสนา เป็นแหล่งสำคัญที่หล่อหลอมเอกลักษณ์ของชาติไทย
 

     ความรักอิสรเสรีภาพ  ที่กล่าวมาแล้วในข้อก่อนนั้น   เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชนชาติไทย  แต่เพราะเป็นคุณลักษณะที่มีความสำคัญโดดเด่น  และมีแง่ที่ควรพิจารณาเป็นพิเศษ  จึงได้แยกพูดเป็นข้อหนึ่งต่างหาก
 
     นอกจากความรักอิสรเสรีภาพแล้ว  เอกลักษณ์ไทยที่ค่อนข้างเด่นชัด ก็คือ ความมีน้ำใจเมตตาอย่างเป็นสากล  ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ เรื่อย ๆ  ปลงใจได้ไม่ชอบความรุนแรง และความรู้จักประสานประโยชน์  ลักษณะเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์แต่ละอย่างๆ แต่ทั้งหมดทุกอย่างนั้นสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน หรือมีแกนสอดประสานอันเดียวกัน และพระพุทธศาสนาเป็นแหล่งสำคัญที่หล่อหลอมให้เกิดเอกลักษณ์เหล่านี้  หรือว่า หลักความเชื่อถือและการปฏิบัติที่สืบเนื่องมาจากพระพุทธศาสนา เป็นแกนรอยประสานเอกลักษณ์เหล่านี้
 
     ความมีน้ำใจ  เป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของคนไทย ซึ่งชาวต่างชาติมักกล่าวขวัญถึง อย่างที่เคยเอ่ยอ้างแล้วข้างต้น  ความมีน้ำใจของคนไทยนี้  เป็นไมตรีจิตอย่างสากล  คือ แสดงออกแก่คนทั่วไปเสมอเหมือนหรือคล้ายคลึงกัน  ไม่แบ่งพวกแบ่งหมู่  ไม่จํากัดชาติศาสนา  คนไทยให้เกียรติแก่คนต่างชาติต่างศาสนา  ยินดีต้อนรับคนต่างถิ่นต่างลัทธิ  บางทีให้เกียรติแก่คนต่างชาติต่างถิ่น ต้อนรับด้วยความมีน้ำใจ  อย่างเป็นพิเศษ ยิ่งกว่าที่แสดงออกต่อคนชาติเดียวกัน  แม้ว่าในบางกรณีจะมีทัศนคติไม่สู่ดีต่อคนบางกลุ่มบางพวกบ้าง   แต่ก็ไม่เป็นไปอย่างรุนแรง และไม่ผูกใจเหนียวแน่นยาวนาน ลักษณะนี้แสดงออกอีกด้านหนึ่ง คือ การปรับตัวเข้าได้ง่ายและอยู่ร่วมกันได้ดีกับคนที่มีชาติ หรือถือศาสนาต่างกัน
 
     ความมีไมตรีอย่างสากลนี้   สอดคล้องกับหลักการของพระพุทธศาสนาที่ถือว่า  มนุษย์และแม้สัตว์อื่นทุกอย่าง  ตั้งแต่ดิรัจฉานเป็นต้นไป ล้วนเป็นเพื่อนทุกข์  มีความเกิด แก่ เจ็บ ตาย  เป็นธรรมดา  เสมอกันทั้งสิ้น ต่างก็มีกรรมเป็นของตน เป็นไปตามอำนาจของกรรมที่ตนกระทำเช่นเดียวกัน  และสอนให้มีเมตตาอย่างเป็นอัปปมัญญธรรม คือ แผ่ออกไปอย่างกว้างขวางไม่มีประมาณ  ไม่จำเพาะแดน  ไม่จํากัดขอบเขต  ทั่วถึงสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่า
 
     คนไทยมีลักษณะจิตใจที่ไม่ยึดติดถือมั่นอย่างรุนแรงต่อสิ่งทั้งหลาย  จึงไม่เอาเรื่องเอาราวอะไรจริงจังเกินไป แม้จะเกิดความเสื่อม ความสูญเสีย  ความพลัดพรากต่างๆ  ก็ยอมรับความจริงได้ง่าย  มองเห็นความเป็นธรรมดา ปลงใจได้ไม่เศร้าโศกเสียใจมากเกินไป หรือนานเกินควร   แม้จะเกิดเรื่องราวถูกเบียดเบียนบีบคั้นข่มเหง  คนไทยก็ลืมง่าย  ไม่ผูกใจโกรธเกลียดนาน  จึงเป็นคนไม่เครียด  มีความรู้สึกผ่อนคลาย เรื่อย ๆ สบายๆ   ไม่พยาบาทจองเวร  และไม่ชอบความรุนแรง เหตุร้ายต่าง ๆ  ที่เกิดขึ้นจึงมักเป็นประเภทชั่ววูบแล้วก็ผ่านไป  เข้าทำนองที่ว่า  “ไม่เป็นไร ลืมเสียเถิด”   “แล้วก็แล้วกันไป อโหสิกันเสียเถิด”  “อนิจจัง  มีเกิดก็มีดับ”  และ  “เกิดแก่ เจ็บ ตาย  เป็นของธรรมดา  ทำใจเสียเถิดนะ”
 
     ลักษณะจิตใจอย่างนี้   มีหลักพระพุทธศาสนาเป็นฐานหล่อเลี้ยง และสนับสนุนหลายประการ  เฉพาะอย่างยิ่ง  หลักอนิจจัง  ที่สอนให้รู้เท่าทันธรรมดาของสังขารทั้งหลายว่าเป็นของไม่เที่ยง  เกิดขึ้นแล้วก็จะต้องดับไป   ซึ่งสัมพันธ์กับหลักความไม่ยึดติดถือมั่น    ให้ไถ่ถอนสลัดละอุปาทาน  และหลักการวางใจต่อโลกธรรมทั้งหลาย   ตลอดจนหลักที่ว่า  เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร และหลักเมตตากรุณาธรรมที่กล่าวมาแล้ว  นอกจากนั้น  ความไม่ยึดติดถือมั่นอย่างใดอย่างหนึ่งเหนียวแน่นรุนแรงจนเกินไปนี้   ยังส่งผลสืบเนื่องต่อไปอีก  ช่วยให้ชาวไทยเป็นคนปรับตัวเข้ากับคนใหม่สิ่งใหม่ได้ง่าย  พร้อมที่จะรับวัฒนธรรมตลอดจนสิ่งสนองแปลกใหม่จากภายนอก และรู้จักประสานประโยชน์  สามารถมองข้ามส่วนหรือลักษณะที่ขัดแย้ง  ที่ไม่เหมาะไม่เข้ากัน   ที่ไม่เป็นผลดีหรือที่ไม่พอใจ  จับฉวยแต่ส่วนหรือลักษณะที่ใช้ได้  ไปกันได้เหมาะกัน เอื้ออำนวย  เป็นคุณเป็นประโยชน์   เอามาผสมผสาน หรือจัดสรรให้สอดคล้องในทางที่จะบังเกิดผลเป็นประโยชน์
 
     คุณลักษณะทั้งหลายที่จะเกิดเป็นเอกลักษณ์ของชาติขึ้นได้นั้น  จะต้องเป็นที่ยอมรับเชื่อถือปฏิบัติกันจนเคยชินอย่างกว้างขวางทั่วไปในสังคม และได้รับการปลูกฝังถ่ายทอดสืบกันมาตลอดเวลายาวนานจนแนบแน่นซึมซาบอยู่ในชีวิตจิตใจอย่างเป็นปกตินิสัยของคนส่วนใหญ่  และแสดงออกมาทางพฤติกรรมต่าง ๆ อย่างเป็นไปเอง  การที่หลักความเชื่อถือ และการปฏิบัติในพระพุทธศาสนาได้หล่อหลอมตัวออกมาเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยเช่นนี้   แสดงให้เห็นว่า พระพุทธศาสนาได้เข้ากลมกลืนสนิทอยู่ในชีวิตจิตใจของคนไทย  จนถึงขั้นที่กล่าวได้ว่า พระพุทธศาสนาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับความเป็นไทย
 
     อย่างไรก็ตาม ว่าโดยทั่วไป สิ่งทั้งหลายที่แม้จะดี ก็ย่อมมีด้านที่เสีย หรือส่วนที่ด้อยอยู่ด้วยในตัว ลักษณะต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ ถ้าปฏิบัติผิดเรื่องผิดที่ และขาดหลักการที่เป็นคู่กำกับ หรือเป็นส่วนเติมเต็มให้เป็นการปฏิบัติที่ครบวงจร ก็อาจก่อผลเสียหายเป็นโทษได้ เช่น ความเป็นคนเรื่อย ๆ สบายๆ ปลงใจได้ ไม่จริงจังกับเรื่องราวทั้งหลายมากนัก อาจทำให้กลายเป็นคนที่ยอมรับสภาพที่เป็นอยู่ หรือที่ประสบ โดยไม่คิดแก้ไขปัญหา ไม่คิดเปลี่ยนแปลง และปรับปรุง ขาดความกระตือรือร้น ตลอดจนเป็นคนเฉื่อยชา และปล่อยปละละเลย ไม่ป้องกันแก้ไข และไม่ก้าวหน้าสร้างสรรค์

     การที่จะเกิดโทษอย่างนี้ขึ้น ก็เพราะถ่ายทอดสืบต่อคุณลักษณะเหล่านั้นตามๆ กันมา โดยไม่ได้ตรวจสอบตนเอง และไม่ได้ทบทวนหลักความเชื่อ และหลักการปฏิบัติทางพระศาสนา ซึ่งเป็นพื้นฐานที่มาของคุณลักษณะเหล่านั้นให้ชัดเจนมองเห็นทั่วตลอดอยู่เสมอ เพื่อให้แนวความคิด และพฤติกรรมของตนดำเนินไปสู่การปฏิบัติที่ครบวงจร เช่น มองเห็นความเป็นอนิจจังแล้วปลงใจได้ สบายใจหายทุกข์ร้อน เลยหยุดนิ่งอยู่แค่นั้น ไม่ใช้ปัญญามองหาเหตุปัจจัยในกระบวนการของความเป็นอนิจจัง และดำเนินการแก้ไขปรับปรุง ให้ตรงเหตุตรงปัจจัยด้วยความไม่ประมาท คุณธรรมที่จะต้องใช้กำกับเอกลักษณ์ทั้งหลายอยู่เสมอ ก็คือ ปัญญา และอัปปมาทธรรม
 
   


Create Date : 07 ธันวาคม 2567
Last Update : 7 ธันวาคม 2567 11:52:08 น. 0 comments
Counter : 117 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space