วันนี้หมูป่าได้มีสาระความรู้ดีดีเกี่ยวกับเครื่องกระตุ้นหัวใจมาบอกผู้อ่านกัน แต่ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวหมูป่าเองก็ไม่ได้มีความรู้ในเรื่องเครื่องกระตุ้นหัวใจมากนัก จึงได้ไปศึกษา หาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้กันนะคะ
เครื่องกระตุ้นไฟฟ้านั้นมีการทำงานโดยตัวส่งสัญญาณจะส่งสัญญาณไฟฟ้าไปปรับให้หัวใจเต้นในจังหวะที่เร็วขึ้น ส่วนสายสื่อสัญญาณไฟฟ้าเป็นตัวรับและส่งสัญญาณระหว่างเครื่องกับหัวใจห้องต่าง ๆ ส่วนประกอบของเครื่องกระตุ้นหัวใจนั้นประกอบด้วยแบตเตอรี่ ตัวส่งสัญญาณไปกระตุ้นหัวใจ สายสื่อสัญญาณไฟฟ้า
สำหรับการเตรียมความพร้อมของผู้ที่จะใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจนั้นจะต้องทำการ งดอาหารและเครื่องดื่ม 8 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการรักษาทุกครั้ง
ขั้นตอนการใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ
การฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจแบบใส่สายสื่อสัญญาณที่เยื่อบุหัวใจ จะใส่สายสื่อสัญญาณไฟฟ้าซึ่งเป็นสายไฟที่มีฉนวนหุ้มเข้าไปยังหัวใจผู้ป่วยผ่านทางหลอดเลือดดำ เมื่อสายสื่อสัญญาณเข้าไปถึงหัวใจแล้วจะวางปลายอีกด้านหนึ่งของสายสื่อบนกล้ามเนื้อหัวใจโดยอาศัยภาพจากเอกซเรย์ช่วยให้วางตำแหน่งที่ถูกต้อง หลังจากนั้นจะฝังเครื่องส่งสัญญาณไว้ใต้ผิวหนังบริเวณหน้าอกของผู้ป่วยใต้กระดูกไหปลาร้าด้านซ้ายหรือขวาตามความเหมาะสม แล้วทำการต่อเครื่องส่งสัญญาณและสายสื่อเข้าด้วยกันระหว่างที่ทำผู้ป่วยอาจรู้สึกว่ามีแรงกดเล็กน้อยระหว่างที่ใส่สายสื่อสัญญาณและตัวเครื่องส่งสัญญาณเข้าไปในร่างกาย เมื่อใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเรียบร้อยแล้ว
จะตรวจสอบภาพเอกซเรย์หัวใจเพื่อดูให้มั่นใจว่าเครื่องและสายสื่ออยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
การฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจแบบติดสายสื่อสัญญาณที่เยื่อบุหัวใจ วิธีนี้จะวางยาสลบผู้ป่วยแล้วผ่าเปิดช่องอกเพื่อติดสายสื่อสัญญาณที่เยื่อหุ้มหัวใจโดยตรง และใส่เครื่องส่งสัญญาณไว้ใต้ผิวหนังบริเวณหน้าท้องหรืออาจฝังไว้ที่หน้าอกก็ได้ แต่ปัจจุบันไม่นิยมใช้วิธีนี้
ข้อปฏิบัติหลังจากใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ - 1. เมื่อใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเข้าไปในร่างกายเรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยต้องพักในหออภิบาลผู้ป่วยเพื่อเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
- 2. ผู้ป่วยต้องพักอยู่ที่กับที่ 1-2 วันเพื่อให้ที่จะดูแลว่าเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจทำงานเรียบร้อยดีและหัวใจผู้ป่วยเต้นถูกจังหวะ
- 3. ไม่ควรยกแขนด้านเดียวกับที่ใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจขึ้นสูงเหนือไหล่
- 4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมาก ห้ามยกของหนักเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน