คู่นี้แต่งด้วยกันไม่ได้เด็ดขาด
ดวงผู้หญิงเป็นกาลกิณี
จะนำหายนะมาให้บ้านนี้
ถ้าแต่งแล้วจะชงครอบครัวนี้ทั้งบ้าน "
เสียงหมอดูจีนที่มาเลย์
บอกกับพ่อแม่ฝ่ายชาย
ที่ลูกชายจบวิศวกรรมศาสตร์
จากมหาวิทยาลัยเก่าแก่
กำลังชอบพอกับหญิงงาม
คนหนึ่งแถวบ้านเกิด
ที่ครอบครัวทำร้านขายทอง
" พ่อไปเชื่อได้อย่างไร
ไม่เป็นวิทยาศาสตร์สักหน่อย "
ลูกชายโต้ตอบกับพ่อ
ที่พาดวงชะตาทั้งคู่ไปหาหมอดู
" เธอเชื่อบ้างก็ดีนะ
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่เลย "
พี่สาวติงน้องชาย
ให้ลองคิดดูก่อน
" แต่ผมรักของผม
และผมไม่เชื่อเรื่องนี้หรอก
ถ้าไม่ได้แต่งงานกับคนนี้
ผมจะไปหางานทำที่เมืองหลวง
แล้วพาคนรักของผม
ไปอยู่กินแต่งงานที่นั้นเลย
โรงแรมที่กำลังก่อสร้าง
กับกิจการที่บ้านทั้งหมด
ให้น้องชายที่เป็นหมอดูแลก็แล้วกัน "
ลูกชายคนโตของบ้านสวนกลับทันควัน
" เอาน่า แต่งก็แต่ง
เดี๋ยวลองให้หมอหาฤกษ์พิเศษ
ในวิกฤติต้องมีโอกาส
ที่จะลดเรื่องเลวร้ายลงได้ "
แม่พยายามปลอบใจ
ลูกชายคนโตของบ้าน
เพื่อลดปัญหาในครอบครัว
" ไม่น่าแต่งนา
หมอคนนี้เก่งมากเลย
ทายเรื่องครอบครัวเราถูก
มาหลายเรื่องแล้ว "
พ่อบ่นกับเปรยเบา ๆ ให้แม่ฟัง
แต่ก็ไม่อยากขัดคอใครในบ้าน
เพราะถึงอย่างไรคนจีน
ก็ทั้งรักทั้งยอมลูกชายคนโตอยู่แล้ว
ในฤกษ์โหราศาสตร์นักษัตรของจีน
ในแต่ละปีของนักษัตร เช่น ปีวอก
จะมีหลักการว่า ในแต่ละวันรอบ 24 ชั่วโมง
ในแต่ละยามที่มี 12 ยามในแต่ละวัน
หรือยามละ 2 ชั่วโมงในแต่ละวัน
จะมีทุกนักษัตรแฝงอยู่ในแต่ละยาม
จึงมียามดียามเลวปะปนกันตลอดทั้งวัน
หมอดูที่เก่ง ๆ จะสามารถหา
ฤกษ์ดีในวันเลวร้ายได้
โดยดูจากช่องโหว่ที่หรือนักษัตร
จะมีในชั่วโมงของแต่ละวันนั้น
ที่เป็นยามนักษัตรที่มีชัย
เหนือกว่านักษัตรประจำปี
และที่เก่งมากจริง ๆ
จะหาฤกษ์ยามข่มวันอัปมงคลได้
แล้วงานแต่งงานของทั้งสองคนก็จัดขึ้นในบ้านเกิด
มีคนดังและกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารดอกบัวมาร่วมงาน
พร้อมกับของขวัญและซองช่วยงานจำนวนมากมาย
จัดว่าเป็นงานช้างระดับหนึ่งของท้องถิ่น
เพราะพ่อฝ่ายชายเป็นคนเก่าแก่ในพื้นที่
มีอาชีพรับแลกเปลี่ยนเงินตราและทำโพยก้วน
โอนเงินระหว่างประเทศ ไปได้ทุกที่ที่มีคน ที่มีทางไป
จัดว่าระดับต้น ๆ ของภาคใต้ รองจากเมืองหลวงไม่กี่ราย
ธนาคารพร้อมให้คลีนโอดี (เบิกเงินชั่วคราว)
วันละไม่ต่ำกว่าสิบห้าล้านรูปีทันที
วันรุ่งขึ้นค่อยนำเงินมาเข้าคืนให้ธนาคาร
ลุล่วงมาอีกสองปี หลังงานแต่งงานของทั้งสองคน
ฤกษ์ยามที่หมอดูมาเลย์ให้มาน่าจะดีมาก
เพราะครอบครัวต่างมีกิจการและรายได้ดีมาก
ทั้งโรงแรมก็ก่อสร้างเสร็จแล้ว
พร้อมจะเปิดกิจการในเร็ววัน
" เห็นไหม หมอดูทำนายผิดชัวร์ "
เสียงลูกชายยิ้มกระหยิ่ม
พร้อมคุยโวกับครอบครัว
ช่วงจัดงานตรุษจีนในบ้าน
" แต่ พ่อแกเชื่อนา
เพราะหมอดูคนนี้ดูที่บ้านมา
ตั้งแต่พ่อแกเป็นแค่
ลูกจ้างโรงเตี๊ยมที่นี้มาก่อน
แกมาพักที่นี่แล้วทำนายพ่อแกฟรีว่า
พ่อแกต่อไปจะรวยมาก ๆ
ติดลำดับในท้องถิ่น
จนทุกวันนี้พ่อกับแม่
ก็ยังไปดูหมอกับแกมาตลอด "
แม่บอกกับลูกชาย
" เฮ่อ เบร่อ ไม่รวยได้ไงเล่า
เถ้าแก่พ่อไม่รู้หายหัวไปไหน
ก่อนสงครามโลกยุติลง
ญาติพี่น้องก็ไม่มีที่นี่
ไม่มีใครรู้จักว่าอยู่ที่ไหนบ้าง
ส่วนนายทหารญี่ปุ่นที่มาพัก
ก็ทิ้งเงินบาทไว้ในห้องพักเป็นลัง
เงินกวงกิมก็หลายหีบทิ้งไว้ในโรงแรม
ส่วนพ่อก็ทะยอยรับแลกเปลี่ยนเงิน
รู้แต่ว่า แม่เคยเล่าเองว่า
พ่อรีบไปแลกเป็นเงินบาท
แล้วไปฝากธนาคารไว้บางส่วน
กับไปฝากเงินไว้ที่โพยก้วนที่ฮ่องกง
ก่อนที่ค่าเงินกวงกิม
(เงินจีนที่มีรูปซุนยัดเซ็น)
จะไร้ค่าเหมือนกระดาษกงเต๊ก "
ลูกชายสวนกลับแม่ทันที
" เอาละ ๆ เลิกทะเลาะกัน
กินข้าวเงียบ ๆ ได้แล้ว "
พ่อสั่งทุกคนให้เงียบ
แล้วงานเลี้ยงก็จบลง
ในค่ำคืนวันนั้นแบบกร่อย ๆ
หลังงานตรุษจีนไม่นานนัก
พ่อกับแม่จึงเดินทาง เข้าไปมาเลย์อีกครั้ง
ไปหาหมอดูมาเลย์ที่อีโปร์
เพื่อขอฤกษ์ยามงามดี
ในการเปิดกิจการโรงแรม
" เอาฤกษ์นี้ไปก็แล้วกัน
แต่ดูแล้วน่าจะมีปัญหาในวันงาน
เพราะดูดวงลูกชายกับลูกสะใภ้
ที่จะตั้งเป็นผู้จัดการโรงแรม
หมอว่าน่าจะมีปัญหา
รุนแรงระดับหนึ่งนา
หาฤกษ์อื่นทั้งปีก็ไม่เหมาะ
มีฤกษ์นี้ดีปานกลางแล้ว "
หมอดูดวงพลางส่ายหัวไปพลาง
" เป็นภยันตรายร้ายแรงหรือไม่ หมอ
แล้วธุรกิจต่อไปเป็นอะไรหรือเปล่า "
พ่อเป็นคนถามหมอทันที
" ไม่เป็นไรมาก
นอกเหนือกว่านั้น
แล้วแต่ลิขิตฟ้า
แต่ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันยืนยาว
ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพ็ชร "
หมอดูสรุปแล้ว
เดินเข้าหลังบ้านไป
ปิดการดูหมอทันที
วันเปิดโรงแรมของครอบครัวนี้
มีแขกเหรื่อมาร่วมพิธีเปิด
มากมายเป็นประวัติการณ์
จัดว่าเป็นงานช้างอีกงาน
นอกเหนือจากงานแต่งงานครั้งก่อน
ลูกชายคนโตกับลูกสะใภ้
ออกหน้ารับแขกในงานอย่างตื่นเต้น
พร้อม ๆ กับทุกคนในครอบครัว
ต่างมาร่วมรับแขกในงาน
" เฮ้ย ไอ้ชัยหายหัวไปไหน "
เสียงลูกชายคนโต
บ่นกับพนักงานต้อนรับ
" ไม่รู้เหมือนกัน เฮีย
ไม่เจอตั้งแต่เมื่อวานเลย "
เสียงหัวหน้าฝ่ายต้อนรับตอบกลับ
" นั่นซิ กำลังจะถามว่า
ผ้าคลุมด้านบนกันสาด
มันจัดไปถึงไหนแล้ว
ทำไมยังดูเบี้ยว ๆ
ไม่ตรงเหมือนที่สั่งไว้ "
เสียงลูกชายคนโตบ่นพึมพำ ๆ
แขกเหรื่อต่างเดินเข้ามาในโรงแรม
พร้อมกับเริ่มมีลูกค้าเข้ามาพักในโรงแรม
ชุลมุนไปหมดในวันนั้น
ตั้งแต่เริ่มเปิดงานก่อนเที่ยง
หลังเที่ยงวันนั้นเอง
" เฮีย ตามผมมาหน่อย
เงียบ ๆ ด้วยนะอย่าบอกใคร
ผมว่ากลิ่นผิดปรกติ
มาจากกันสาดชั้นสอง
น่าจะแถว ๆ หลังช่องคอยส์ร้อนแอร์
ที่ส่งกลิ่นลงมาข้างล่าง
บางช่วง บางจังหวะ
ตามที่ลูกค้าจมูกมดบ่น "
นายช่างโรงแรม
เดินมากระซิบผู้จัดการ
" เหรอ เดี๋ยวรอผมสักเดี๋ยว
ผมจะรีบตามไป
อย่าเพิ่งบอกใครก่อน "
สักพักแกก็เดินไปบอก
แฟนแกให้ช่วยรับแขกก่อน
แล้วเดินตามนายช่าง
ขึ้นไปบนชั้นสองของโรงแรม
แล้วก้มหน้ามองลงไป
ที่ระเบียงชั้นสองของโรงแรม
" เฮ่ย นั่นสงสัยไอ้ชัย นี่หว่า
มาหลบนอนตรงนี้ทำไมวะ
แถวช่องคอยส์ร้อนแอร์ด้วย
ช่องก็แคบเล็กนิดเดียว "
นายช่างบ่นกับเฮียทันที
" แกดูดี ๆ ซิ
มันเป็นลมหรือเปล่า
คนดี ๆ จะไปหลบนอน
ตรงนั้นทำไม ร้อนก็ร้อน "
เจ้าของพิจารณา
แล้วสรุปบอกนายช่าง
" ไหน แกไปเอาบันได
มาปีนลงไปดูที่กันสาด
ดูว่ามันเป็นไรมากหรือเปล่า
อย่าเพิ่งบอกใครก่อนก็แล้วกัน "
เจ้าของบอกนายช่าง
แล้วยืนรอที่ชั้นสอง
สักพักนายช่างพาบันได
มากับคนงานชายอีกคน
แล้วแกก็ปีนลงไปดูตรงกันสาด
หน้าซีดปีนกลับขึ้นมาทันที
" เฮีย ไอ้ชัย จริงด้วย
ถูกฆ่าตายแล้วโยนศพ
ลงมาที่หลังช่องแอร์
ทำอย่างไรดีเฮีย
ผมคิดไม่ออกเหมือนกัน "
นายช่างบอกเจ้าของทันที
" พวกแกอยู่ตรงนี้ก่อน
อย่าเพิ่งไปไหน
เดี๋ยวเฮียขอคิดดูก่อน
ตอนนี้แกรีบลากศพมัน
ออกมาจากช่องแอร์ได้ไหม
กลิ่นที่โชยลงไป
จะได้ลดน้อยหายไป "
เฮียสั่งการทันที
" ผมไม่กล้า กลัวผี
ไม่แจ้งตำรวจก่อนหรือ "
นายช่างบอกเจ้าของทันที
" เฮ๋ยบอกได้ไง
แขกเหรื่อตกใจกันหมด
ถ้าตำรวจยกมาทั้งโรงพัก
พร้อมปอเต๊กเซี่ยงตึ้ง "
เฮียบ่นทันทีพร้อมกับ
หน้าซีดกลัวผีเหมือนกัน
แล้วหันหน้าไปหา
คนงานชายอีกคนที่รออยู่
" แกหาญทำไหม
เอาผ้าคลุมเตียงห่อศพมัน
ไว้ให้รอบก่อนดับกลิ่นศพ
แล้วลากศพมันออกมา
จากช่องคอยส์ร้อนแอร์
ไว้ตอนค่ำ ๆ ค่อยหาทาง
พาศพมันขึ้นมาข้างบน "
เฮียสั่งคนงานชายอีกคน
ที่มาพร้อมกับนายช่าง
" ได้มันได้อยู่น่าเฮีย
แต่ศพมันเริ่มมีกลิ่นแล้ว
เดี๋ยวน้ำเหลืองมันติดเสื้อผม
ต้องเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ด้วย
อีกอย่างแถวบ้านผมถือด้วย
ในเรื่องแตะต้องศพ "
คนงานชายบอกเจ้าของทันที
" เดี๋ยวจ่ายค่าเสื้อ
กับค่าทำบุญให้
รีบจัดการเร็ว "
เฮียสั่งการทันทีพร้อมกับวิ่ง
ไปหยิบผ้าคลุมเตียงผืนใหญ่
จากห้องแม่บ้านมาให้
พร้อมกับกำชับคนงานทั้งสองคน
ให้ปิดข่าวเรื่องนี้ให้เงียบด้วย
แล้วแกก็เดินกลับไปต้อนรับ
แขกเหรื่อในงานต่อไป
หลังจากนั้นไม่นานนัก
แขกเหรื่อก็เริ่มมีเสียงซุบซิบว่า
มีผีตรงช่องแอร์ชั้นสอง
แต่ไม่มีคนรู้จริงว่าจริงหรือไม่
เสียงว่ามาจากใครคนหนึ่ง
ในโรงแรมแต่ไม่ยืนยันแหล่งข่าว
แต่หลังเที่ยงคืนวันนั้น
ทั้งตำรวจและพนักงานมูลนิธิ
ได้แห่กันมาที่โรงแรมแห่งนี้
แต่มาอย่างเงียบ ๆ
แล้วพาศพออกจากโรงแรม
ห่อในผ้าคลุมเตียงออกไป
บอกไทยมุงแต่เพียงว่า
ขยะกับเศษอาหารที่กันสาด
คือ สาเหตุของกลิ่นที่โชยลงไป
เสียงว่ามีการจ่ายเงินกันหลักร้อยพัน(แสน)รูปี
เพื่อปิดข่าวทั้งโรงพักกับนักข่าว
แต่ข่าวลือก็กระซิบไปทั่วทั้งบางแล้ว
เรื่องผีช่องแอร์
จำเนียรกาลไม่นานนักอีกไม่กี่ปีต่อมา
ลูกสาวกับลูกเขยที่มาเลย์ถูกจับ ฐานฟอกเงินกว่าร้อยล้านดอลล่าห์
ตามหลักฐานของเอฟบีไอสหรัฐแจ้งกับมาเลย์
ผลการสอบสวนจึงจับทั้งคู่ติดตะรางทันที
รอการยึดทรัพย์ของทั้งสองคน
และอยู่ระหว่างการสืบเสาะหาหลักฐานเพิ่มเติม
ไม่นานนักพ่อก็ตรอมใจตายกับเรื่องนี้
ต้องนำเงินไปประกันร่วมสิบล้านเหรียญมาเลย์
เพื่อให้ลูกสาวกับลูกเขยออกจากคุกชั่วคราว
เดินทางมาร่วมงานศพที่ฌาปนกิจสถานได้
โดยทางการมาเลย์ยอมอนุญาติให้ประกันตัว
แต่ให้เวลามาทำพิธีศพเพียงสามวันเท่านั้น
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลับเข้าคุกมาเลย์ตามเดิม
มีการดำเนินคดียึดทรัพย์ทั้งสองคน
แล้วให้ลงโทษจำคุกสองปีเท่านั้น
ตามกฎหมายมาเลย์ที่ออกไว้ในตอนนั้น
ต่อมาอีกไม่นานแม่ก็เสียชีวิตไป
พี่น้องก็เริ่มทะเลาะกันในเรื่องเงินทอง
ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป
ต่างคนต่างทำมาหากินส่วนของตน
ส่วนกิจการโรงแรมก็เริ่มแผ่วลง ๆ
เพราะลูกค้าน้อยลง ๆ
โรงแรมก็เริ่มเก่าลง ๆ
เงินทองตกแต่งโรงแรม
ให้ดูดีดูสะอาดก็ไม่ค่อยมี
สุดท้ายไม่นานนัก
หลังจากไอเอ็มเอฟแผลงฤิทธิ์
ธุรกิจโรงแรมก็ออกอาการ
จนธนาคารต้องดำเนินการ
ขายทอดตลาดทรัพย์สิน
ทุกที่ทุกแปลงที่จำนอง
เป็นประกันกับธนาคาร
หลังจากมีการยื้อกันมานานหลาย
โรงแรมก็กลายเป็นของมาเลย์ไป
มีการรีโนแวทใหม่ไฉไลกว่าเดิม
ปิดตำนานผีช่องแอร์
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [