กลับมารายงานตัวพร้อมกับขอลาบล๊อกอีกสัก ๔-๕ วัน..นะคะ พรุ่งนี้ปอป้าจะเดินทางไปพักผ่อนและเดินสาย
ทำบุญที่หัวหินกับทั่นลุงและผองเพื่อนอีก ๕ หน่อ งานนี้ได้ฉลองปีใหม่กับฟันปลอมใหม่ด้วย..อิ อิ
และเนื่องจากพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายของปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ปอป้าก็เลยนำบทสวดมนต์ดี ๆ มาฝากไว้ให้เพื่อนบล๊อกที่ไม่ได้เดินทางไปไหน สวดมนต์เคาท์ดาวน์กัน..ค่ะ ส่วนปอป้าและเพื่อน ๆ จะสวดอยู่ที่หัวหิน..นะคะ
ดูบทสวดแล้ว หลายท่านอาจจะคิดว่ายาก จริง ๆ แล้วไม่ยากหรอก..ค่ะ ก่อนที่จะเริ่มสวด ขอแนะนำให้อ่านภาษาบาลีให้คุ้นตาคุ้นปากเสียก่อน พร้อมกับศึกษาคำแปลของบทสวดแต่ละวรรคตอนด้วย เพื่อเวลาสวดจริง
จะได้มีความเข้าใจ ก่อให้เกิดอานิสงค์ทั้งแก่ตนเองและผู้ที่ได้รับฟังคำสวดเหล่านี้ด้วย..นะคะ
บทสวดอริยมรรค
อะยะเมวะ อะริโย อัฎฐังคิโก มัคโค เสยยะถีทัง สัมมาทิฎฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต
สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสะติ สัมมาสะมาธิ
หนทางนี้แลเป็นหนทางอันประเสริฐซึ่งประกอบด้วยองค์แปดได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ ความเห็นชอบ ความดำริชอบ การพูดจาชอบ การทำการงานชอบ การเลี้ยงชีวิตชอบ ความพากเพียรชอบ ความระลึกชอบ ความตั้งใจมั่นชอบ
กะตะมา จะ ภิกขะเว สัมมาทิฎฐิ ยังโข ภิกขะเว ทุกเข ญานัง ทุกขะสะมุทะเย ญาณัง
ทุกขะนิโรเธ ญานัง ทุกขะนิโรธะคามินิยา ปะฎิปะทายะ ญาณัง อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาทิฎฐิ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเห็นชอบเป็นอย่างไรเล่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายความรู้อันใดเป็นความรู้ในทุกข์ เป็นความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์ เป็นความรู้ในความดับแห่งทุกข์ เป็นความรู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับแห่งทุกข์
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี่เรากล่าวว่า ความเห็นชอบ
กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาสังกัปโป เนกขัมมะสังกัปโป อะพะยาปะทะสังกัปโป อะวิหิงสาสังกัปโป อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาสังกัปโป
ดูก่อนภิกษุทั้งหลายความดำริชอบเป็นอย่างไรเล่า ความดำริชอบในการออกจากกาม ความดำริในการไม่มุ่งร้าย ความดำริในการไม่เบียดเบียน ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอันนี้เราเรียกว่า ความดำริชอบ
กะตะมา จะ ภิกขะเว สัมมาวาจา มุสาวาทา เวระมะณี ปิสุณายะ วาจายะ เวระมะณี ผะรุสายะ วาจายะ เวระมะณี สัมผัปปะลาปา เวระมะณี อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สฺมมาวาจา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลายการพูดจาชอบเป็นอย่างไรเล่า เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดไม่จริง เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดส่อเสียด เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดหยาบ เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าว่า การพูดจาชอบ
กะตะโม จะภิกขะเว สัมมากัมมันโต ปาณาติปาตา เวระมะณี อะทินนาทานา เวระมะณี กาเมสุมิจฉาจารา
เวระมะณี อะยัง วุจจติ ภิกขะเว สัมมากัมมันโต
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การทำงานชอบ เป็นอย่างไรเล่า เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการฆ่า เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้แล้ว เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า การทำงานชอบ
กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาอาชีโว อิธะ ภิกขะเว อะริยะสาวะโก มิจฉาอาชีวัง ปะหายะ สัมมาอาชีเวนะ ชีวิกัง กัปเปติ อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาอาชีโว
ดูก่อนภิกษุทั้งหลายการเลี้ยงชีวิตชอบเป็นอย่างไรเล่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สาวกของพระอริยเจ้าในธรรมวินัยนี้ ละการเลี้ยงชีวิตที่ผิดเสีย ย่อมสำเร็จความเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตที่ชอบ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เราเรียกว่า การเลี้ยงชีวิตชอบ
กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาวายาโม อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ อนุปปันนานัง ปาปะกานัง อะกุสะลานัง ธัมมานัง
อะนุปปาทายะ ฉันทัง ชะเนติ วายะมะติ วิริยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ อุปปันนานัง ปาปะกานัง อะกุสะลานัง ธัมมานัง ปะหานายะ ฉันทัง ชะเนติ วายะมะติ วิระยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ
อะนุปปันนานัง กุสะลานัง ธัมมานัง อุปปาทายะ ฉันทัง ชะเนติ วายะมะติ วิริยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ อุปปันนานัง กุสะลานัง ธัมมานัง ฐิติยา อะสัมโมสายะ ภิยฺโยภาวายะ เวปุลลายะ ภาวะนายะ ปาริปูริยา ฉันทัง ชะเนติ วายะมะติ วิริยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาวายาโม
ดูก่อนภิกษุทั้งหลายความพากเพียรชอบ เป็นอย่างไรเล่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังอกุศลธรรมอันเป็นบาป ที่ยังไม่เกิด ไม่ให้เกิดขึ้น ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะละอกุศลธรรม อันเป็นบาปที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อความตั้งอยู่ ความไม่เลอะเลือนความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความเจริญ ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าววา ความพากเพียรชอบ
กะตะมา จะ ภิกขะเว สัมมาสะติ อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา
วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง เวทะนาสุเวทะนานุปัสสี วิหะระติ อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะสัสสัง จิตเต จิตตานุปัสสี วิหะระติ อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง ธัมเมสุ ธัมมานุปัสสี วิหะระติ อาตาปิ สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะโลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาสะติ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลายความระลึกชอบ เป็นอย่างไรเล่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจ และความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอันนี้เรากล่าวว่า ความระลึกชอบ
กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาสะมาธิ อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ วิวิจเจวะ กาเมหิ วิวิจจะ อะกุสะเลหิ ธัมเมหิ สะวิตักกัง
สะวิจารัง วิเวกะชัง ปิติ สุขัง ปะฐะมัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ วิตักกะวิจารานัง วูปะสะมา อัชฌัตตัง
สัมปะสาทะนัง เจตะโส เอโกทิภาวัง อะวิตุกกัง อะวิจารัง สะมาธิชัง ปีติสุขัง ทุติยัง ฌานัง อุปสัมปัชชะ วิหะระติ ปีติยา จะ วิราคา อุเปกขะโก จะ วิหะระติ สะโต จะ สัมปะชาโน สุขัญจะ กาเยนะปะฏิสังเวเทติ ยันตัง อะริยา อาจิกขันติ อุเปกขะโก สะติมา สุขะ วิหารี ติ ตะติยังฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ สุขัสสะ จะปะหานา ทุกขัสสะ จะ ปะหานา ปุพเพวะ โสมะนัสสะโทมะนัสสานัง อัตถังคะมา อะทุกขะมะสุขัง อุเปกขาสะติปาริสุทธิง จะตุตถัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาสะมาธิ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลายความตั้งใจมั่นชอบ เป็นอย่างไรเล่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากธรรมที่เป็นอกุศลทั้งหลาย เข้าถึงแล้วปฐมฌาน ประกอบด้วยวิตก วิจาร มีปิติและสุขอันเกิดจากวิเวกแล้วแลอยู่ เพราะความที่วิตกวิจารทั้งสองระงับลง เข้าถึงทุติยฌาน เป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน ให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดมีขึ้น ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดจากสมาธิแล้วแลอยู่ อนึ่ง เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ ย่อมเป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติและสัมปชัญญะ และย่อมเสวยความสุขด้วยนามกาย ชนิดที่พระอริยเจ้าทั้งหลายย่อมกล่าวสรรเสริญผู้นั้นว่าเป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข ดังนี้ เข้าถึงตติยฌานแล้วแลอยู่เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะความละทุกข์เสียได้ เพราะความดับไปแห่งโสมนัสและโทมนัสทั้งสองในกาลก่อน เข้าถึงจตุตฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีแต่ความที่เป็นธรรมชาติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอันนี้เรากล่าวว่า ความตั้งใจมั่นชอบ
พอนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนปุ๊บ เราก็เริ่มสวดมนต์บทมหากาทันที
ถือเป็นสิริมงคลในการรับเวลาแรกของปี พ.ศ. ใหม่ ร่วมกัน..นะคะ
บทสวดมหากา
ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตวัง วิชะโยโหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะลาชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะพุทธาธัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ
ขอท่านจงมีชัยชนะในมงคลพิธี เหมือนพระจอมมุนีทรงชนะมารที่โคนโพธิพฤกษ์, ถึงความเป็นผู้เลิศในสรรพพุทธาภิเษก, ทรงปราโมทย์อยู่บนอปราชิตบัลลังก์อันสูง เป็นจอมมหาปฐพี, ทรงเพิ่มพูนความยินดีแก่ประยูรญาติศากวงศ์ ฉะนั้นเทอญ
สุนักขัตตัง สุมังคะลัง
เวลาที่สัตว์ประพฤติชอบ ชื่อว่าฤกษ์ดี มงคลดี
สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง
สว่างดี รุ่งดี
สุขะโณ สุมุหุตโต จะ
และขณะดี ครู่ดี
สุยิฏฐัง พรัหมะจาริสุ
บูชาดีแล้วในพรหมจารีบุคคลทั้งหลาย
ปะทักขิณัง กายะกัมมัง
กายกรรมเป็นประทักษิณ ส่วนเบื้องขวา
วาจากัมมัง ปะทักขิณัง
วจีกรรม เป็นประทักษิณ ส่วนเบื้องขวา
ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง
มโนกรรม เป็นประทักษิณ ส่วนเบื้องขวา
ปะณิธี เต ปะทักขิณา
ความปรารถนาของท่านเป็นประทักษิณส่วนเบื้องขวา
ปะทักขิณา นิกัตวานะ
สัตว์ทั้งหลาย ทำกรรมอันเป็นประทักษิณส่วนเบื้องขวาแล้ว
ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ
ย่อมได้ประโยชน์ทั้งหลาย อันเป็นประทักษิณส่วนเบื้องขวา
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง
ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน
รักขันตุ สัพพะเทวะตา
ขอเหล่าเทวดาทั้งปวงจงรัษาท่าน
สัพพะพุทธานุภาเวนะ
ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า
สะทา โสตถี ภะวะตุ เต
ขอความสวัสดีทั้งหลายจงมีแก่ท่านทุกเมื่อเทอญ
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง
ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน
รักขันตุ สัพพะเทวะตา
ขอเหล่าเทวดาทั้งหลายจงมีแก่ท่าน
สัพพะธัมมานุภาเวนะ
ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม
สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ขอความสวัสดีทั้งหลายจงมีแก่ท่านทุกเมื่อเทอญ
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง
ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน
รักขันตุ สัพพะเทวะตา
ขอเหล่าเทวดาทั้งปวงจงรักษาท่าน
สัพพะสังฆานุภาเวนะ
ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์
สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ขอความสวัสดีทั้งหลายจงมีแก่ท่านทุกเมื่อเทอญ
หวังว่าบทสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ทั้งสองบทนี้
คงจะให้ความแช่มชื่นในหัวใจแก่ผู้สวดและผู้รับฟังทุกท่าน
และเพื่อให้เกิดสมาธิในการสวด จึงงดเสียงเพลงในหน้าบล๊อกนี้..นะคะ
โชคดี มีความสุข สมหวัง ตลอดปี พ.ศ. ๒๕๕๔ นี้ และตลอดไป..นะคะ
ขอบคุณ ภาพประกอบเรื่องจาก กูเกิ้ล
อตีตํ นานะวา คะเมยยะ
ไม่ควรคิดคำนึงกับอดีตที่ผ่านไปแล้ว
ขอให้เริ่มต้นปีใหม่อย่างมีความสุขและสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนา..นะคะ