ถือเป็นเหตุด่วนเมื่อวาน เลยมาคั่นจังหวะอัพไว้ค่ะ
สารเคมีเข้าตาสุนัข
ยาทาหู ย้อยจากบนหัว ไหลมาลงตานั่นแหละ
ผักชีเป็นผู้ป่วยที่น่าสงสารมากค่ะ
ฝนตกปรอยๆก็ต้องพากันเดินไปหาหมอเอง
เนื่องจากวันนี้ที่บ้านไม่มีรถ อ้วนอ๋องยังไม่กลับจากทำงาน
โชคดีที่ฝนแรงก่อนหน้านั้นเริ่มซาล่ะ
แต่ก็เปียกๆชิ้นๆ มืดค่ำเอาการ
พี่พลอยก็เดินกางร่มจูงไป...
เนื่องจากค่อนข้างเป็นเหตุฉุกเฉินเลยไม่อยากรอค่ะ
ไม่ไกลมาก ก็พอไหว
ป.ล.ผักชีชอบออกไปเที่ยวค่ะ
ถ้าวันอารมรณ์ดีๆ แดดไม่ร้อน พาเดินไปงี้เธอก็คึกคักน่าดู
แต่วันนี้เธอป่วย
น้ำหนักเหลือแค่ 12.2 เองด้วย
ระยะนี้ไข้ถี่ กินอะไรก็ไม่อร่อย
เลยเบื่ออาหารหนักมาก จับยัดได้แค่ไม่กี่เม็ดต่อครั้ง พอได้ยัดยากันต่อเป็นมื้อๆไป
มาดูต้นสายปลายเหตุของการไปหาหมอตอนมืดค่ำแบบเร่งด่วน
ผักชีมีน้ำตาไหลพรากๆ ข้างขวาจะเยอะ ข้างซ้ายมีมุมตานิดหน่อย
เป็นครั้งแรกที่เห็นคือ ช่วงทายาตอนเย็น
ตอนนั้นดึงหนองออกด้วย ยังนึกว่า เอ๊ะ หรือจะเจ็บมาก แต่ก็ไม่ดิ้นนะ ทำไมน้ำตาไหลเยอะจัง
ก็เอาน้ำใส่มือแค่ลูบๆข้างนอกตามปกติไปก่อน
แต่พอผ่านมาสักชั่วโมงเดินไปดูซ้ำ
มีรอบใหม่ น้ำตาไหลออกมาอีกแล้ว เยอะด้วย
และสังเกตว่าเป็นข้างเดียวที่ดูหนักหนา
หมาตาปรือลงในช่วงเวลาที่นั่งเงียบๆ ลืมตาไม่เต็มที่ แต่ก็ไม่มีตาบวม หรือตาแดง
(ต้องง้างดูตาขาวข้างๆด้วยค่ะ)
เลยคิดว่าไม่ดีล่ะ ไปหาหมอกันเถอะ
เดาจากเหตุการณ์ คาดว่า น้ำยาทาแผลที่ใช้ทาหูและหย่อมด้านบนหัว ไหลลงไปค่ะ
เพราะตอนนั้นรู้สึกว่ามีไหล
แต่เข้าใจว่าโดนแค่ช่วงหัว เนื่องจากผักชีก้มหนี สะบัดหันไปมา
เลยเอาน้ำล้างแค่แถวหัว
*** *********
หมายเหตุ :
หากมีสารเคมีเข้าตาสุนัข ให้เอาน้ำสะอาดล้างออกทันที
ล้างนัยน์ตา หยอดๆค่ะ คล้ายๆคน
ถ้าล้างไวจะมีประโยชน์มาก
** *********
เนื่องด้วยน้ำยาทาหู แก้เชื้อรา
มันใส ไม่มีสี สังเกตยากด้วยว่าไหลไปตรงไหนบ้าง
ก็เลยผ่านล่วงเลยเป็นชั่วโมง อาการแย่
ผักชีเจ็บ ระยะนี้สารพัดจะทำ
เราก็ไม่ได้ระวังเข้มงวดพอว่าอาจเกิดเหตุ
สรุปเป็นอุบัติเหตุที่ทำให้เจ็บและตึงเครียดทั้งคนและหมา
รวมไปยันคุณหมอ เนื่องจากรู้ว่าตรวจผักชี ยากมาก
เธอเจ็บแล้วจะไม่ให้ไปจับค่ะ
T^T
ใส่คอลล่าร์ไป เพราะถอดไม่ได้ เดี๋ยวแง่งๆ
เอาให้กันฝนไปด้วยเลยละกัน หัวจะได้ไม่เปียกตอนเดินนะ
^ ^"
ถ้าฝนตกหนักคนก็ต้องสละร่ม ยื่นไปกันให้หมาน่ะแหละค่ะ
แต่อันนี้ปรอยๆโปรยปราย ก็ให้หมาเดินไป ค่อยกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านกันอีกที
นี่เป็นแอ่งแผลบนหัวของผักชี
ที่แตะสำลีชุบน้ำยาไม่ได้ ต้องบีบลงไป น้ำยาเลยขัง
ขังมากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่วาระ
แต่หนหลังนี่ต้องเอาสำลีก้อนเดิมที่บีบลงนั่นแหละ ซับออกค่ะ
ไม่งั้นตอนก้มหลบ ไม่ให้คนทำแผล น้ำยาก็จะไหลไปด้านหน้า เข้าตาได้
ถือว่ามาแชร์ข้อควรระวังจากประสบการณ์ตรงละกัน
** ***
มาเล่าเรื่องของสารเคมีเข้าตาสุนัขก่อน
อันดับแรกคือ ถ้าเห็น ให้ล้างน้ำสะอาดทันที ล้างไปเยอะๆ
หาวิธีล้างให้ได้ จะวักใส่ จะเอาสำลีหยอด หรืออะไรก็ว่ากันไป
จากนั้นพบแพทย์ สังเกตุอาการ
ปัญหาสารเคมีเข้าตาสุนัขในแบบผักชีนี่
คุณหมอแบ่งความรุนแรงเป็น 3 ระดับ
1. ระคายเคือง ตาอักเสบทั่วไป
2. กระจกมีแผลเล็กน้อย มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
3. กระจกตามีแผลรุนแรง มองเห็นด้วยตาเปล่า
เคสสัตว์เลี้ยง ถ้าอยู่ระหว่างข้อ 1-2
คุณหมอจะทำการ "ย้อมสีตา" เพื่อให้เห็นว่ามีแผลไหม
เนื่องจากหากมีแผลที่กระจกตา ซึ่งอาจเกิดจากไปเกา ข่วน เพราะระคายเคือง
ยาที่ต้องจ่ายให้ จะเป็นชนิดรุนแรงขึ้นอีกระดับ
แต่ของผักชี เนื่องจาก จับตัวไม่ได้
การย้อมสีตา คือการเอากระดาษย้อมสีทางการแพทย์ แผ่นเล็กๆยาวๆ
แปะลงไปที่นัยน์ตา ค้างไว้ 1 นาที
ดังนั้นหลังปรึกษาคุณหมอ เลยสรุปร่วมกันไปว่า คงข้ามขั้นตอนนี้
จ่ายยาแก้อักเสบพื้นฐาน ยากิน ยาหยอดต่างๆ
รอดูอาการพรุ่งนี้ จับง้างดูตาขาว ว่าเส้นเลือดฝอยกลายเป็นแดงแจ๋หรือไม่
ถ้าหากตาแดง ให้พากลับมาตรวจใหม่
ก็ค่อยเปลี่ยนยาเป็นระดับมีแผลกันไปเลย
วันนี้คุณหมอดูอาการห่างๆ เราจับปากหมาไว้นิด แล้วคุณหมอเอาไฟส่องเช็คคร่าวๆทั่วไป
กรณี ตอนเช้าอาการดีขึ้น น้ำตาไหลน้อยลง
ตาขาว ไม่เปลี่ยนเป็นสีแดง ที่แสดงอาการรุนแรงขึ้นกว่าเดิม
ก็หยอดตา กินยาชุดเดิมต่อไป จนกว่าจะมาเช็กตามรอบตรวจหูอีก 2-3 วันข้างหน้าค่ะ
** *******
ผักชีหยอดตา ไป 4 รอบ ทั้งคืน
คุณหมอบอกให้หยอดไปเลยทั้ง 2 ข้าง
เช้ามาน้ำตาไหลน้อยลง แต่ยังมีอยู่นะ
ตาลืมได้ปกติดี ตาขาวไม่เปลี่ยนเป็นสีแดงๆ
ก็เลยไม่ได้พาไปพบหมอ รอวันนัดตรวจหูไปเลยค่ะ
ยาล้างตา 60 บาท
เป็นชนิดใชักับคนค่ะ ไปซื้อเองที่ร้านขายยา
คุณหมอเขียนมาให้สองยี่ห้อ แต่มียี่ห้ออื่นๆด้วย
ใช้ล้างคราบน้ำตาและเช็ดขี้ตาออก วันละ1 หน
ควรมีติดบ้านไว้
แต่อายุการใช้งานสั้นพอกับน้ำเกลือล้างแผลทั่วไป
หกลังเปิดใช้ จะเก็บไว้ได้แค่ 1 เดือนเท่านั้น
วิธีใช้ เจาะปากขวดให้มีรู โดยใช้ฝาขวดเจาะแบบหมุนลงไป
เทยาน้ำใสๆ ลงใส่สำลี ไม่ต้องชุ่มโชกนะ
เอาแค่พอเปียกดี จากนั้นไปเช็ดรอบดวงตาสัตว์เลี้ยง
ถ้าหมาแมวไม่หลับตา ก็เอานิ้วเราไปแตะตา บังคับปิดแป๊บนึงได้ค่ะ
แค่วางนิ้วแปะๆไว้ ลูบจากด้านบนลงมา หมาจะหลับตาตามมือเองค่ะ
อย่าออกแรงกดนะ เดี๋ยวเจ็บ
เนื่องจากใช้ถูขี้ตาและคราบน้ำตาออก
ไม่ควรลืมตา เดี๋ยวสำลีจะไปขีดข่วนนัยน์ตาเข้าจากแรงกดมือ
แต่ถ้าน้ำยาเล็กน้อยไหลเข้าตา ก็ไม่เป็นไร อย่าไปบีบน้ำยาใส่แบบตั้งใจละกัน
เน้นว่าแค่เช็ดขอบรอบๆค่ะ เช็ดตลอดแนวขอบตาทั้งดวงได้เลย
หัวตาหางตาก็เน้นๆไป ดังนั้นอย่าใส่น้ำยาเยอะเกินเน้อ
ยาที่คุณหมอให้มา มีดังนี้
ยาแก้อักเสบ
ห้ามเด็ดขาด*** ไม่ให้กินพร้อมยาแก้ไข้
ต้องระบุให้ชัดเจน เพราะช่วงนี้ผักชีเป็นไข้เวลาหมักแชมพูยา เลยมีใช้ยาแก้ไข้เป็นพัก
แต่คุณหมอบอกยาตัวนี้ก็แก้ไข้อ่อนๆอยู่นะ ไม่ถึงกับว่าขาดแก้ไข้ไปเลย
ตามน้ำหนักตัว ผักชีกินแค่ครึ่งเม็ดค่ะ
ยาหยอดตา แก้อักเสบ ฝาสีแดง
หยอดตอนไหนบ้าง
เช้า - กลางวัน - เย็น - ก่อนนอน
แต่เมื่อคืนพลอยหยอดไป 4 รอบตั้งแต่หัวค่ำ ถี่หน่อย ทุก 4 ชม.
เพราะผักชีน้ำตาไหลเยอะค่ะ ก็ยังต้องเว้นระยะให้พอประมาณ
ตอนเช้าผักชีอาการดีขึ้น แต่ยังไม่หายขาดนะคะ
ยาหยอดตาอีกชนิดที่ได้มา
ฝาสีฟ้า...เป็น น้ำตาเทียม
ห้ามใช้น้ำตาเทียมของคน เพื่อความปลอดภัย
คุณหมอบอกว่าใช้ของสัตว์เลี้ยงต่างหาก
ยาหยอดตาทั้งสองอย่าง แกะห่อพลาสติกด้านนอกออก
แล้วเปิดฝาใช้ได้เลย ไม่ต้องเจาะรูเองค่ะ
คุณหมอลองหยด อย่างละหยด ให้เราแตะดู
มันจะมีความหนืดต่างกันนิดหน่อยในบางชนิด
แต่ก็ยังไหลได้ดี คล้ายน้ำตาเทียมคน
ตอนเล็งก็ต้องจับคางให้เงยหน้าเยอะๆเลยค่ะ
แล้วตอนบีบหลอด ให้จับ มันจะมีเว้า สำหรับวางน้ำบีบข้างขวด
ถ้าบีบไม่ตรงตำแหน่ง จะค่อนข้างบีบไม่ออก ขวดอีกด้านจะแข็ง
แล้วผักชีก็จะพยายามหลับตาในบางที
เราก็แอบใช้ปลายนิ้ว รั้งเปลือกตาล่างลงบ้างก็ได้
พอให้มีช่องว่าง ให้ยาเข้าไปค่ะ
^ ^
ก็หยดไม่ตรง ก็หยดไป จนกว่าจะได้น่ะแหละ 55+
** ***
หมายเหตุ : น้ำตาเทียมต้องเก็บในตู้เย็น
คุณหมอไม่ได้บอกลำกดับการใช้ว่าขวดไหนหยอด ก่อน-หลัง
พลอยเลยใช้แก้อักเสบก่อน
แล้วค่อยหยอดน้ำตาเทียมตามไปค่ะ
ก็ทำต่อกันนี่ล่ะ
ค่ารักษาสารเคมีเข้าตา
ค่าแพทย์ 150
ค่ายาหยอดตา 350+350=700 บาท
ค่ายากิน 80
ค่ายาล้างตา (ซื้อเอง) 60
ค่าสำลีก้อน 30
รวม 1,020 บาท
ทั้งนี้ พลอยมีซื้อสำลีก้อน สำลีแผ่นเพิ่มมาเองอีกหลายห่อ
เพราะเอาไว้ทายาหูผักชีด้วยค่ะ ใช้เยอะมากนะ
ด้านบนเป็นภาพตอนเดินไป ก็ค่อนข้างร่าเริงดี ได้ออกไปเที่ยว
แต่ขากลับดูอ่อนแรง มีน้ำลายย้อยเหนียวด้วย
เริ่มเดินหยุดๆช่วงเข้าปากซอยบ้าน
ดูหมดแรง ดูไม่ค่อยสบาย อาจเพราะยังไม่ได้กินน้ำมากพอ
แล้วก็ไม่กินข้าวเท่าไหร่พักนี้
มีแค่จับยัดอาหารเม็ดไม่กี่เม็ดต่อวัน พอได้ยัดยากันต่อ
ผักชีเดินๆไม่กี่ก้าวก็เริ่มหยุดยืนนิ่ง
เราก็ใจคอไม่ดีล่ะ...
คอยก้มลงไปดู เช็กอาการ
กระตุ้นให้เดิน จะถึงบ้านแล้ว มองเห็นอยู่ข้างหน้า
ยอมเดินให้อีกไม่กี่ที เดินๆหยุดๆ
สักพักนิ่งเลย ไม่ขยับแล้ว
น่าจะไม่ไหว เราเลยลงไปโอบตัวนิดๆ ถามว่าให้อุ้มไหม
รีบกางแขนเกาะคนแขนคนค่ะ
คือให้อุ้มได้เลย
คงหมดแรงจริงๆ
ก็อุ้มไปวางที่รั้ว ไขกุญแจ เธอก็เดินเข้าบ้านเองได้อยู่
จับหยอดตาก่อนเลย ตรวจสอบรายละเอียดยาต่างๆ
จากนั้นเลยเอาอาหารเม็ดไปคลุกเนื้อต้มให้นิดหน่อย
แค่เศษๆ กินข้าวดี มีแรงล่ะ ร่าเริงอีกรอบ
^o^
วันนี้ผักชีวิ่งไปกินน้ำเอง 3 รอบเลยค่ะหลังจากกลับจากไปหาหมอ 55+
** *******
เธอหายไข้แล้ว ความอยากอาหารดีขึ้นชัดเจนค่ะ
แต่เธอเรื่องมาก จะวิ่งลิ่วมาขอข้าว แล้วพอเห็นเป็นแค่อาหารเม็ดนิ่ว ก็ไม่พอใจ ไม่กิน
วันไหนจับหมักแชมพูยา มีของกินพิเศษก็ดีขึ้นหน่อย เจริญอาการมาก
ก็ประทังกันไปงี้ก่อนระยะนี้
ถ้าเป็นปกติ อาการไม่ป่วยไข้ คงไม่สนใจ รอสัก 2-3 วันหิวจัดก็ยอมกินเองอยู่ดี
แต่ช่วงนี้ก็ง้อเป็นรอบๆ ไม่ให้ทรุดจากสาเหตุอื่น
จบสถานการณ์เร่งด่วนแค่นี้
พิมพ์ผิดพลาด ยังไม่ได้ตามแก้สักอันที่อัพๆไว้ก่อนหน้านี้ด้วย
พิมพ์เอาเนื้อหาก่อน นึกไป เรียงภาพไป
ขออภัยหากพิมพ์พลาดเยอะในหลายจุดค่ะ
** ***
ระยะนี้คือเหนื่อยมาก
บางช่วงบอกเลยว่าเกิดภาวะเครียดจัด เวลาที่หมาเจ็บแล้วไม่ให้ความร่วมมือ
ที่แขนที่มือนี่ มีทั้งช้ำ มีทั้งรอยแผลโดบงับ
ถึงจะไม่หนัก แต่มันสะสมความกดดัน
ผลัดเปลี่ยนคนดูแลไม่ได้ด้วย ผักชีไม่ให้ใครแตะสุ่มสี่สุ่มห้า
แล้วอาการต่างๆก็เปลี่ยนไปแบบรายวันเลยทีเดียว
จุดไหนเจ็บ จับมากไม่ได้
จุดไหนต้องทำนั่นนี่ต่างหาก
ถ้าไม่ใช่คนทำแผลประจำจะยากไปหมดค่ะ
แล้วก็อาจทำหมาเจ็บ หมาเครียดกว่าเดิม กัดจริงจังจะยุ่ง
ผักชียังแค่ออกแนวขู่ๆ งับโดนมั่งในบางหน ไม่ใช่ประเภทตั้งใจกัดจริงจัง
แต่ว่าด้วยความที่เจอแบบนี้ถี่ๆมาร่วม 2 เดือน
เราเลี่ยงความเครียดกันไม่พ้นแน่นอนค่ะ
เราอยู่ภาวะเฝ้าระวังตลอดเวลา ในทุกขั้นตอนการทำสิ่งต่างๆกับผักชีก็ไม่ง่ายเลย
T^T
ในแต่ละวัน เราต้องยุ่งกับการให้ยา การทำแผล การหาทางตัดสะเก็ดแผล
การพยายามครอบคอลลาร์ให้สำเร็จ เนื่องจากรอบคอมีแต่หนอง
เราทำทุกอย่างยาวๆรวดเดียวไม่ได้ บางอย่างต้องรอเวลา
บางอย่างต้องปะเหลาะหมาให้สงบก่อนค่อยทำต่อ
พลอยจะใช้เวลาไปกับผักชี แต่ละรอบ 1-2 ชม.
ซึ่งแต่ละวัน 2 รอบ ตอนสายและเย็นค่ะ
เน้นกระบวนการทำแผลเชื้อรา การตัดสะเก็ด
รอบเช้าสุดให้ยา อ้วนอ๋องจะรับภาระไป
ซึ่งก็ไม่ง่าย เพราะผักชีหาเรื่องคายทิ้งตลอด
ก็ต้องแบ่งๆหน้าที่กันไปค่ะ ช่วยๆกันบ้าง
พอให้ได้ผ่อนคลายลง
ใครมีคนป่วยในบ้านก็คงประมาณนี้เนาะ
ช่วงไหนเครียดมาก ก็หาสิ่งเบี่ยงเบนความสนใจเอาค่ะ
ข้อที่ยากอีกส่วนคือยิ่งช่วงผักชีเป็นไข้
จะงอแงหนักมากกับผู้คน ดึกดื่นคนก็ไม่ค่อยได้นอน
เพราะผักชีร้อนระอุในตัว ก็จะมาเทียวปลุก
วันที่ได้ยาแก้ไข้จากหมอไป ผักชีหลับเป็นตาย
เป็นหนแรกที่เรารู้สึกโล่งอก เพราะหมาไข้ลดแล้ว
ส่วนเราก็ได้นอนยาวๆเสียที 555+
ถ้ามีคนดูแลผลัดกันได้
บางทีวิธีแก้เครียดก็ง่ายๆแค่ แยกห้อง
แล้วมีเวลาพักผ่อนแค่นั้นเองค่ะ
^ ^
ยังไงก็ดูแลสุขภาพจิตและสุขภาพกายไปด้วย ระหว่างดูแลร่างกายแลบะจิตใจสัตว์เลี้ยงนะคะ
หาทางผ่อนคลายบ้างเป็นช่วงๆก็ยังดี ถ้าพอทำได้
ไม่งั้นสติแตกขึ้นมาจะเทียวป่วยอย่างพลอยเนี่ย
บางช่วงพลอยก็ไข้แข่งกันผักชีเลย พักผ่อนไม่พอ+กดดันจนเครียดล้วนๆ
สู้ต่อไปละกัน
วันนี้ก็ยังกอดกันกับผักชี จุ๊บเหม่งกันไปมาเช่นเดิม
^ ^
รักนะ
ผักชี.
เดินกลับเอง เหมือนจะเป็นลม หมดแรง 2 รอบ
ถึงขั้นให้คนอุ้มกลับบ้าน
เดี๋ยวสัปดาห์หน้ามีนัดเจาะเลือดเช็กอีกที
เป็นนัดปกติหลังจากป่วยและกินยาต่อเนื่องนานๆนะคะ ต้องเช็กเลือดกันเป็นระยะ