Group Blog
 
<<
มีนาคม 2565
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
22 มีนาคม 2565
 
All Blogs
 

142_[ผักชี@ปทุมธานี] : สุนัขเปรี้ยว หนีเที่ยว "De Veranio Resort" (ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ต) จ.ตราด ตอน1




หมายเหตุ :
รอบนี้ไป 2 คืน เลยแบ่งอัพ 2 ครั้งนะคะ
เป็นตอนที่ 1 และตอนที่ 2







บอกเล่าเท้าความเดิมก่อน
เมื่อปีก่อนๆมาเนื่องจากปัญหาโควิดและรอวัคซีน
บ้านเราสงบมาก ปักหลักไม่ออกนอก
กทม. และปริมณฑลเพื่อไปเที่ยวไหนเลยก็ว่าได้

แต่พอปลายปี ผักชีต้องเข้าขูดหินปูน ดมยาสลบ
พลอยจึงสัญญากับหมาว่า
รอดมาให้ได้นะ แล้วจะพาไปทะเล

^ ^"
ผักชีก็รอดจากวางยาสลบ 
พร้อมสารพัดโรคต้องรักษาต่อเนื่อง
ยาวมาตามที่เห็น

ดังนั้นเมื่อคนได้วัคซีน
หมาก็พร้อมตะลอนทัวร์ แผนการเที่ยวไกล
พาผักชีไปวิ่งเล่นชายหาดที่เธอชอบมากๆ
ก็เกิดขึ้นเป็นรูปร่างเสียที

แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิดยังคงอยู่
จึงคุยกันและตัดสินใจว่าไปไกลๆ
แหล่งชุมชนท่องเที่ยวหลักหน่อยละกัน






ผักชีเริ่มออกเดินทางตอนเช้าๆ
ดูหูพับๆลู่ๆ ก็รู้ว่าเธอตื่นเต้นแค่ไหน
ได้ขึ้นรถไปเที่ยวอีกล่ะ 55+

** ***


ผลประเมินไปตกปุ๊ ที่...

 "De Veranio Resort" (ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ต) จ.ตราด

ราคาห้องพักอยู่ในเพจ ไปส่องกันเอง
เริ่มต้นที่ 2,400 บาท ขึ้นไป (ห้องพักในตึก วิวสวน)
สุนัขใหญ่ไปได้ ไม่คิดราคาเพิ่ม

ไกลพอไหม ไกลสุดกู่ อีกนิดก็จะชายแดนล่ะ
5555+

หาดส่วนตัวของโรงแรมอีกต่างหาก
ถึงจะคนเยอะหน่อยในวันหยุดสุดสัปดาห์
ก็ถือว่าน้อยกว่าชายหาดอีกหลายแห่งล่ะค่ะ

ทีแรกจองเผื่อคนอื่นด้วย แต่เพราะมาจากอีกจังหวัด
ติดกติกาใหม่เกี่ยวกับกักตัวต่างๆในพื้นที่
เราทราบกันก่อนจะไปไม่นานนี่เอง
เลยโทรไปยกเลิกห้อง 1 ห้องนั้น ก่อนวันไปเกือบ 1 สัปดาห์

ทางโรงแรมยินยอมให้ยกเลิกหลังชี้แจงเหตุผลค่ะ
ขอบคุณไว้ ณ ที่นี้
^ ^



 

ใช้ถนนมอเตอร์เวย์
ขึ้นทางด่วน พอพ้นจากเขต กทม. 
เลยๆแถบสนามบินสุวรรณภูมิไป

ก็มีจอดตามจุดพักรถฉุกเฉินริมทาง
ให้ผักชีไปทำธุระส่วนตัวและเดินยืดเส้นยืดสายบ้างเล็กน้อย

จากนั้นก็ไปแวะให้คนเข้าห้องน้ำที่จุดพักรถบางปะกง
(จุดพักรถใหญ่ของมอเตอร์เวย์)
หาของกินมาจัดการในรถ ตามประสาคนมีหมาเที่ยวด้วย

ผักชีกินแค่อาหารเม็ดกันโรคนิ่วตลอดค่ะ
ช่วงนี้อดทุกสิ่ง ทำใจซะ...

จากนั้นก็ออกจากทางด่วนแถวบ้านบึง
ใช้ถนน 344 ตัดตรงลิ่วไป จ.ตราด

ในแผนที่บอกใช้เวลา 5 ชม. กว่าๆ
แต่ปกติเราขับตามกฏจราจร 80-100
เพื่อความปลอดภัย และระมัดระวังหมาจะกระแทกแรง
กรณีหยุดฉุกเฉินด้วย

รวมแม่นางชีชี โวยวายแอคติ้ง
ทำทีปวดฉี่ ขอลงจากรถเป็นระยะๆ
ลงไปก็ขอเดินเล่น ผ่อนคลาย ดมหญ้า
ชมทุ่งข้างทาง ฯลฯ

ลากคนตากแดดตัวดำเมี่ยม
แสบผิวตั้งแต่ยังไม่เห็นทะเล
-"-

ก็บวกการเดินทางไปอีกเป็น 7-8 ชม.
กว่าจะถึงปลายทางก็เย็นๆโน่นเลย
ดังเช่นทุกทีที่เอาผักชีไป...




ฉะนั้น การเอาผักชีไปด้วย
จึงพึงสังวรณ์ว่า ภารกิจพาหมาเที่ยว
เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เคลื่อนรถแล้วล่ะค่ะ

ระหว่างทางทุกที่ คือการท่องเที่ยวของหมาน้อยนี่แหละ
ไม่ต้องรอถึงปลายทางหรอก 55+





ลงไปเดินเล่นหลายทีจนเหนื่อย
ในที่สุดก็หลับช่วงเลยๆไปถึงระยอง
แต่ก็หลับๆตื่นๆตามประสาผักชีน่ะแหละค่ะ

เอาเถอะ
หมามีความสุขเราก็ดีใจ
ตามสะดวกเธอโล้ด...





ได้เวลาอาหารกลางวันช่วงขับรถถึง จ.จันทบุรีค่ะ
เลยส่องหาร้านที่พอจะเอาหมาลงได้ด้วย
จะได้นั่งกินสบายๆกันนิด


รีวิวแปะไว้เผื่อใครอยากแวะละกัน
พลอยลงไปถามก่อนเอาหมาลงไปนะคะ
เพราะเห็นมีเก้าอี้หลายจุดที่ห่างกัน
เวลากลางวันที่เราไป เป็นวันธรรมดา คนไม่เยอะมากค่ะ
ก็เลยเลือกที่นั่งห่างคนอื่นได้อยู่

ผักชีไม่ชอบใกล้คนแปลกหน้า เธอระแวง
เราก็ต้องระมัดระวัง

นอกนั้นผักชีก็ไม่มีปัญหาอื่นใด
^ ^

"เตี๋ยวเรือคาเฟ่"
ชื่อร้านบอกแล้วเนาะว่าขายอะไร 55+
มีเพจนะคะ ลองไปเสิร์ชดู
ราคาเป็นมิตรอีกตะหาก



จอดรถริมทางด้านหน้าร้านได้เลยค่ะ

เราเอาผักชีไปขอนั่งแถวใต้ตึก
เห็นมีแดดแบบนี้ ไม่ร้อนนะคะ
ลมพัดตลอดเวลา แถมลมเย็นสบายด้วย
ไม่ใช่ลมที่พัดไอร้อนมาใส่

ถ่ายรูปก่อนจะกลับค่ะ
ทีแรกคนหลายโต๊ะเหมือนกันโซนด้านหน้าๆถนน




ก๋วเตี๋ยวที่ยกมาเสิร์ฟ
ชามนี้ 40 บาทค่ะ
พลอยลงเมนูและราคาให้เลย




ราคากันเองทั่วไป
แวะได้สบายใจเลย
^ ^

พิกัด ร้าน "เตี๋ยวเรือ คาเฟ่"
อยู่ก่อนถึงโกลบอลเฮ้าส์ จ.จันทบุรี นิดหน่อย
ไม่ใกล้มาก แต่ขับรถเลยร้านไปเล็กน้อยก็เห็นโกลบอลเฮ้าส์ล่ะ



ถ้าคุณเห็นป้ายแบบนี้ แปลว่าเลยร้านไปแล้วเน้อ
เช็กพิกัดให้ดีๆ ไม่งั้นต้องเลี้ยวกลับมาหาอีก




ใครอยู่แถวนั้น วันไหนเบื่อๆอยากเอาหมาออกนอกบ้านก็ไปได้ค่ะ
ไม่เห็นมีน้องหมาเจ้าถิ่นนะคะ

ถ้าในอนาคตมีพวกเครื่องดื่มหลากหลายและขนมขายเพิ่มด้วยก็น่าจะดี




ผักชีก็กินมื้อเที่ยงในรถค่ะ
หยิบมือเดียวช่วงกลางวัน แค่กันท้องว่างเฉยๆเดี๋ยวอ้วกน้ำย่อยออกมา

เวลาไปเที่ยว บอกเลยว่าถ้าเป็นไปได้
สำหรับผักชีคือต้องพยายามให้อาหารเธอเป็นช่วงๆ ถี่กว่าปกติ
เพราะถ้าเธอท้องว่าง เธอปวดท้อง
เธอจะขอลงจากรถถี่มาก
นั่งยองๆไปมา ร้องอี้ดๆกดดันผู้คนไม่เลิก

ขอลงรถได้ทุก5-10 นาทีน่ะคิดดู
จอดแล้วก็จะเดินโยกโย้ ไม่ยอมกลับขึ้นมาด้วย

พอลงก็จะวิ่งไปกินหญ้า
แล้วตอนปวดท้องเกิดขึ้นนี่น่ะ ให้อาหารเม็ดก็จะไม่กินล่ะนะ
ต้องยัดเหมือนยัดยา บังคับกิน
สักพักพออาหารเริ่มย่อย หายปวด
ถึงจะเริ่มสงบลง

เมื่อก่อนไม่ค่อยยาก เพราะตอนนั้นยังเด็กไม่ป่วย กินอย่างอื่นได้
เราก็ต้มไข่ให้บ้าง
หรือถ้าลืมก็ซื้อเอาตาม 7-11
ผักชีก็กินเรื่อยๆง่ายดาย

ตอนนี้กินได้แค่อาหารเม็ด บางทีการบังคับกินจึงยากเย็น




รูปไม่ได้ซ้ำนะ
นอนเยอะ ทางไกล เปลี่ยนท่าแล้ว
ไม่เชื่อเลื่อนกลับขึ้นไปเทียบได้ (555+)

ตัดฉับ เราก็เข้าเขต จ.ตราด เลยออกนอกเมืองไปทางริมชายแดน
ขับไปตามถนนหลักยาวไป




วิวสวย บรรยากาศแนวเขา
ประเทศเพื่อนบ้านก็ข้ามเขาข้างทางนั่นแหละไป

รอบนี้เรามาไกลกว่าหนก่อนๆนิดหน่อยนะ
แต่ก็โซนเดียวกัน

(หนที่แล้วมาพัก ซ็นทารา ชานทะเล จ.ตราด)

รอบนี้เป้าหมายของเราคือ

"De Veranio Resort" (ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ต) จ.ตราด
ที่เปิดใหม่ไม่นาน และให้สุนัขใหญ่พักได้

คือก็เปิดนานสักพักแล้วนะ
แต่ก็ไม่ได้ถึงกับนานโข...เข้าใจกันเนาะ
555+

*** ***

เรามาถึงแถวนี้ช่วง 4-5 โมงเย็น
ไปที่พักเลยไหม --ไม่ค่ะ!!

เราเหนื่อย เลยกะว่าจะหาของกินติดมือเข้าไปด้วยก่อน
จะได้ไม่ต้องขับรถออกมาอีก

หมายเหตุ :
ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ต มีห้องอาหารให้รับประทานนะคะ
แต่ราคาจะสูงแบบโรงแรมค่ะ ดังนั้นแล้วแต่ใครจะสะดวก
มีบริการส่งถึงห้องด้วย คิดค่าส่ง 100 บาทต่อครั้ง
เขียนระบุไว้ใต้เมนู

เวลาเราเหนื่อยเราจะกินกันนิดหน่อยแล้วก็หาเรื่องนอนไวๆ
เลยว่าจะซื้ออะไรใส่กล่องติดมือเข้าไปด้วย 
แล้วกินในห้องพักไปเลย




เป้าหมายการกินของเรา ที่เราฝากท้องไว้ 2 วันช่วงเย็น
ร้าน "ตาโจ๊กโรงหมึก จ.ตราด"

ชื่อเขาแปลกดีมาก ลืมถามซะอีกว่าชื่อมาจากไหน

ขับรถเส้นเดียวกับที่จะไปที่พักนั่นแหละ แต่อย่าเพิ่งเลี้ยวอะไรนะ
ขับตรงเลยทางเข้าหาดบานชื่น ที่เป็นทางเข้า ดิ เวรานิโอ้ มานะ
ไม่ห่างกันมากมาย

ร้านตาโจ๊กโรงหมึก อยู่ริมทางเลยค่ะ ไม่ต้องยูเทิร์นรถด้วย
เปิดช่วงสายถึงช่วงหัวค่ำค่ะ
ร้านแถวนี้เท่าที่ส่องตามเพจ ส่วนมากจะเปิดขายไวนะ
แล้วก็จะพากันปิดราวๆ 2 ทุ่มหลายร้านมาก

ที่ใกล้หาดบานชื่นก็มีร้านอาหารริมหาดอีกหลายร้านนะคะ
ใครอยากไปสำรวจมาฝากกันก็ตามสบาย
พลอยแค่แอบส่องๆตอนขับรถผ่านเฉยๆ
ไม่ได้เลี้ยวเลาะเที่ยวตามหน้าหาดบานชื่นเลย




ที่จอดรถและตัวร้านตามภาพด้านบน
อันที่จริงแล้วที่นี่คือร้านกาแฟ...

-"-
คือ ชื่อไม่บ่งบอกเท่าไหร่เนาะ อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะ
55+ แต่ก็ดันเป็นร้านกาแฟเปิดไม่นาน น่ารักๆ
(เปิดไม่นานอีกล่ะ)
มีขนมเค้กขายหลายอย่างพลอยเห็นจากในเพจเขา

และที่สำคัญ มีอาหารเยอะแยะมากมาย
ทั้งกับข้าวเป็นจริงเป็นจัง ต้มยำ กุ้งแช่น้ำปลา ฯลฯ
ทั้งพวกสปาเก็ตตี้ อาหารฝรั่งอื่นๆมากมาย
ไปยันพวกอาหารราคาไม่แพง เป็นอาหารจานเดียวแบบง่ายๆ

เนี่ย พอเข้ามาคุณตกลงกันไม่ได้ว่าจะกินอะไร
มากันหลายคน ก็ยังพอมีอะไรให้เลือก ไม่ต้องตีกัน
555+

พลอยมาเพราะเห็นมีโซนด้านนอกด้วย
เลยกะมาถามว่าเอาหมาลงได้ไหม เผื่อมีเวลาจะได้มานั่งจิบกาแฟเล่น

สรุปสุนัขเอาลงจากรถได้นะคะ

เรามาวันศุกร์ คนมีพอประมาณ ไม่พลุกพล่านดีค่ะ ชอบๆ




มีชิงช้าด้วยล่ะ
ด้านหลังเป็นวิวทิวเขา ไม่ต้องห่วงเรื่องร้อน ร่ม มีลมพัดเย็นสบายๆ

เจ้าของร้านยันพนักงาน ยิ้มแย้มแจ่มใสกันทั้งนั้นเลยค่ะ





เอาล่ะ มาว่ากันเรื่องน้องหมาเจ้าถิ่นเล็กน้อย

ที่หางกระดิกในภาพ เป็นสาวน้อยน่ารักมาก
หมาจรจัดหลงมา ร้านก็รับอุปการะกันไปดุ่ยๆแบบงงๆ
แล้วเธอก็คลอดลูกไว้ที่นี่ 4 ตัว
ช่วงนี้วัยกำลังซน ตัวอ้วนกลม

ในเรื่องความดุร้าย ตัวแม่ไม่มีเลยค่ะ
แต่มีอยากเข้าหาคน อยากเล่นด้วย
พนักงานในร้านบอก ไม่กัดคนหรือหมาอื่น
มีแต่จะโดนเขากัด...แหง่ว

แต่เพราะผักชีไม่ค่อยสามัคคีกับหมาอื่นที่มาใกล้เกินไป
เลยขออนุญาตไล่เล็กน้อย
เธอก็เดินไปนอนกระดิกหางใส่ไกลๆแทน

ส่วนก๊วนหมาน้อย 4 ตัว เรียกว่าน่าจะวัยน้ำนม
วิ่งกระหน่ำเข้าป่าเข้าพงหญ้าแถวนั้น คึกจัดมาก
เราเห็นเย็นวันที่ 2 ที่มาแวบๆไกลๆห่างๆนะคะ
กลัวเรื่องวิ่งมาเล่นกับผักชี แต่มีน้องๆดูแล เขาก็ต้อนกลับไปหลังร้าน

ตัวแม่ ไม่ดุค่ะ
ขนาดช่วงมีลูกอ่อนแบบนี้ยังไม่ดุเลย
เห็นผักชีเดินเล่นก็มองๆ ไม่ได้ว่าอะไรด้วย
เธอนั่งชิลมากตามประสาเจ้าบ้านที่ดี

ผักชีเห็นหมาอื่นไม่เข้ามาใกล้ ก็ดมพื้นสำรวจโลกสุขใจไป

แต่ในอนาคต ลูกหมาทั้ง 4 จะอย่างไรก็ไม่ทราบนิสัย
ดังนั้นหากใครพาสุนัขไป ก่อนพาลงก็ไถ่ถามพนักงานที่ร้านก่อนเน้อ
เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่ายค่ะ

*** *********


ทางพี่เจ้าของมีแพลนว่าในอนาคต
จะทำซุ้มนั่งกระจายไว้ เผื่อต้อนรับบ้านที่มีน้องหมามาด้วยล่ะ
ดี๊ดี ^ ^

เลยบอกพี่เขาไปว่า ขอจุดนั่งห่างกันเว้นระยะนะคะ
เพราะหมาจะได้ไม่ฮึ่มแฮ่ใส่กัน

อีกอย่างก็คือ โปรดอย่าโรยก้อนหินก่อสร้างที่คมๆ
(แบบที่โรยกันปกติตามพื้นที่จอดรถ)

เนื่องจากเคยพาผักชีไปแล้ว หมาต้องนอนรอเรากินเสร็จเป็นชั่วโมง
มันเจ็บค่ะ สงสารหมาน้อย

เห็นบางที่ใช้หินแต่งสวนก้อนกลมๆ ก็ โอ.เค. ดีอยู่นะ

เออ แต่พลอยลืมบอกว่า สนามหญ้าก็ดีล่ะ นุ่มเย็น นอนสบาย
หรือไม่ก็เป็นโซนนั่งแบบมีพวกพื้นไม้ปู หรือพื้นปูนเทบังแดดไม่ให้ร้อนระอุ

ใครเห็นต่างหรือเห็นเพิ่มเติมก็ลองไปทักทายเสนอแนะค่ะ
เจ้าของร้านใจดีมาก คอนเฟิร์ม...
^ ^




ตรงนี้ก็เป็นโซนที่เขาอนุญาตให้พาน้องหมาไปนั่งได้นะคะ

เอาเป็นว่ารอบนอกที่ไม่มีแอร์ ร้านตาโจ๊กโรงหมึก จ.ตราด
สุนัขไปได้ค่ะ ไม่จำกัดขนาดแต่อย่างใด
^o^




นี่ก็เป็นโซนสวนที่ยังตกแต่งอยู่ค่ะ
ลงต้นไม้ จัดเตรียมทางเดินต่างๆ ยังไม่เสร็จ

ผักชีก็ไปวนเวียนแถวบ้านน้อยหลังนี้ไม่เลิก
ช่วงที่มีพนักงานมาเดินเข้าออกกัน





จากนั้นผักชีก็นิ่งอยู่แบบนี้
สายตาเธอจับจ้องผ่านประตูกระจกไม่เลิกค่ะ

ไม่ยอมไปไหน นิ่งจนเราสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
จะว่าดูคนข้างใน ก็ไม่น่าใช่
ผักชีจะจู่ๆเกิดชอบผู้คนแปลกหน้า เป็นไปไม่ได้เท่าไหร่




จากนั้นเราก็พยายามดึงเธอออกไป บอกว่าให้ไปเที่ยว
แต่เธอยื้อ ขืนตัวไว้จนตัวเอียง
ผักชีไม่ยอมไป!!!

เธอก็จะเทียวหันไปยืนเฝ้า เขยิบไปใกล้ๆประตูเรื่อยๆ
จนในที่สุดบ้านเราวุ่นวายแถวนั้น
พี่เจ้าของด้านในเลยสงสัยและเดินออกมาทักทาย ถามไถ่





ผักชีไม่ยอมไปเพราะ ตะกละค่ะ!!!
บอกตรงๆเลย อายไหม--อายสิ

ตอนพนักงานมาๆไปๆเมื่อกี้ ประตูเปิดไปมา
กลิ่นคุ้กกี้ที่กำลังทยอย อบ สดใหม่
ของพี่เขาลอย ออกมาหอมมากๆ

แล้วผักชีก็เลยรู้สึกว่า เราจะไม่ไป เราจะอยู่ที่นี่
-"-
เหง่อ...

สุดท้ายเขาขำ เขาเลยเอามาให้ชิมคนละชิ้นไปซะงั้น
พี่เขากำลังคิดอยู่ว่าจะทำวางขายในร้านด้วย
อร่อยค่ะ ใครแวะไปเจอก็อุดหนุนได้
(ติดสินบนแล้วต้องช่วยโปรโมท 55+)

หอมมากแบบผักชีไม่ยอมไปไหนอ่ะค่ะ คิดดูละกัน
^ ^
/me ปาดเหงื่อแป๊บ อายที่หมาตะกละ...

พอคนได้กิน แต่ไม่แบ่ง
ผักชีเลยตัดใจได้ในที่สุดแล้วยอมจากไป




ได้ของกินแล้ว ก็ได้เวลาเข้าที่พักเสียที
เรียกว่าเป็นจุดหมายปลายทางเราก็ได้นะ
เพราะถ้ากรณีปกติ เรามาค้างคืนเดียว
ก็จะเที่ยวแค่ที่นี่เป็นหลักเลย

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ต ค่ะ
De Veranio Resort

ไม่มีค่าโฆษณา บล็อกนี้คนเข้ามาน้อย 55+
จ่ายเองล้วนๆทุกสิ่งเลย

ใครไม่ทันอัพเดตก็มาดู
มีนาคม 2565 ช่วงที่ผักชีไปถึง
จากถนนหลัก ยูเทิร์นไปอีกด้าน จะมีทางแยกย่อยลงหน้าหาดแต่ละหาดค่ะ

ทางเข้าหาดไม้รูดและหาดบานชื่น
(เส้นเดียวกัน ไปแยกปลายทาง)

ตอนนี้มีเปิดปั๊มน้ำมันเชลล์แล้ว

ร้านค้ายังมาเปิดไม่ครบดี แต่มีมินิมาร์ทแล้วนะ
แปลว่าเราจะสามารถหาซื้อของเล็กๆน้อยที่ขาดเหลือได้จากที่ใกล้มากๆนั่นเอง
เย้เย...



ลืมแปะรูปอาหารที่ซื้อมาจากร้าน ตาโจ๊กโรงหมึก

หมดนี่ 300 บาทถ้วน
สั่งไก่ผัดขิงมากิน อีกชามนั่นจำไม่ได้ล่ะว่าสั่งอะไร

มีถ้วยใหญ่แพ็กมาเสร็จสรรพ
ไม่ได้ใส่มาเป็นถุงๆ ไม่ต้องพกพาชามไปเองจากบ้านก็ได้

ส่วนใครจะให้บริการส่งถึงที่พัก ก็ลองถามดูค่ะ
เพราะที่นี่ใกล้หาดบานชื่นที่เราจะไปมากเลย

หมาตัวในภาพนั่นก็ซื้อมา..อ๊ะ ไม่ใช่สิ 555+



ถึงแล้ว ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ต จ.ตราด
ต้องใส่จังหวัดย้ำไว้ ไม่งั้นพลอยเนี่ยล่ะจะลืมว่าไปที่ไหน 55+

ตึกล็อบบี้ มีที่จอดรถข้างๆค่ะ

ถ้าเดินไปดูข้างๆเลยจะเห็นวิวตามภาพด้านล่าง
ใกล้ทะเล
ทางลงหาดมีบันไดปูนที่เดียวนะคะ
ทุกคนต้องมาลงที่นี่เท่านั้นจึงจะลงไปหาดทรายได้





เช็กอินแล้วแจ้งว่ามาพัก 2 คืนค่ะ
ห้องที่นี่ทุกประเภท จะมีแบ่งไว้บางส่วนสำหรับสุนัขเข้าพักได้ด้วย
ดังนั้นคือจองได้ทุกชนิดนั่นเอง





ห้องที่เราได้พักคือริมสุดชั้นล่าง ทำกรอบสีแดงไว้เน้อ
ยังเป็นวันศุกร์ ไม่ค่อยมีคนค่ะ เงียบสงบดี

ไปตึกที่เราพักกันต่อเลย
อาคารนี้สร้างไม่นานค่ะ ยังดูใหม่
วิวเป็นสนามหญ้า สวนที่ตกแต่งไว้ อยู่ติดริมถนน
แต่หันด้านข้างให้ถนนในซอย
และหันข้างให้ทะเลด้วยเช่นกัน

ถ้ามีสุนัข จะได้พักเฉพาะห้องชั้นล่างเท่านั้นนะคะ
ซึ่งห้องชั้นบนจะมีโซนที่มีระเบียงหันออกทะเลบางห้องค่ะ
ก็เป็นอีกชนิด อีกราคาต่างหาก

โปรดสอบถามข้อมูลก่อนพาสุนัขไปพักค่ะ




ทางเดินจะอยู่ด้านหลังอาคาร
ใกล้ๆกันก็เป็นแนวอาณาเขตรั้วของรีสอร์ตแล้ว 
มองเห็นอาคารที่พักของรีสอร์ตข้างๆด้วยนะ

ห้องนี้ 2,400 บาทต่อคืน ราคาเดียวกันทุกวันค่ะ
ไม่ชาร์จค่าพักหมา




ภายในก็กว้างดีค่ะ ไม่อึดอัด
แต่แผ่นลามิเนตลายไม้ที่ปู บวมพองเยอะเลย
เดินเลยดึ๋งๆไปนิดหน่อย



ผักชีพาสำรวจเตียงและโซฟา
ดมเช็ก แต่ไม่ป่ายปีนนะคะ



ภาพบน
หากเรามองย้อนกลับมา ผนังด้านข้างเตียงเป็นกระจกทั้งแผงเลยค่ะ
ใครนอนฝั่งนี้ต้องไม่ขวัญอ่อนนะ กลัวเงาสะท้อนตัวเอง 55+

บ้านเราสบายดีกับกระจกค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรเลย

แอร์ตอนกลางคืนเป็นยังไง
อืม ระบบแปลกๆหน่อยค่ะ
เราไปกดไว้แล้วมันก็จะวัดแล้วปรับเหมือนออโต้ไปก่อน
แล้วพอลืมๆก็เย็นบ้าง ร้อนบ้าง

ก็ยังงงๆ ปรับไม่ถูก นอนไป 2 คืน ไม่ได้แย่มากจนมีปัญหา
หนาวก็เลยห่มผ้าเอาเอง ร้อนก็เอาผ้าออก
เดินไปกดแอร์ปรับให้เย็นฟู่ๆเพิ่มเอาเป็นครั้งคราว 55+






มี T.V. ให้ดูด้วยแต่ไม่ได้ลองเปิดเลย
มาถึงก็เย็นล่ะ เหนื่อยหมดสภาพมากวันนี้
ดูแลผักชีแวะลงเดินเล่นผลัดกันมาตลอดทาง

เซ็นเซอร์ข้าวของเราเองที่รกๆเล็กน้อย




อันนี้ต้องบอกว่าเป็นที่พักในตำนานสำหรับพลอยอยู่นะ
น้ำดื่ม 4 ขวด น้ำอัดลม 2 กระป๋อง
ขนมอีกหลายห่อ 
ชา กาแฟ สำเร็จรูปต่างๆ

ฟรีหมดค่ะ...ดีมาก

วันแรกไม่รู้เลยไม่ได้สนใจ
พอวันที่ 2 กลับเข้ามา
เขาเอามาเพิ่มวางใส่ถุงไว้ให้อีกเท่าตัว
เลยแบบ หะ??? เลยโทรเช็กให้ชัวร์ว่ากินได้หมดเลย ไม่คิดเงิน

555+ คือปกตินี่มีน้ำดื่มวันละ 2 ขวด
แถมถ้าอยู่ต่อ ต้องไปเรียกขอน้ำเพิ่มด้วยล่ะ
กรณีไปเที่ยวมาทั้งวัน บางทีจะเข้าที่พักก็ลืมซื้อติดรถมาด้วยไง

แต่ข้อเสียก็มีนะ ตู้เย็นที่นี่เย็นน้อยไปค่ะ
มันจะดีกว่าไม่แช่ แต่ก็ไม่เรียกว่าน้ำดื่มเย็นๆแน่นอน




โซนห้องน้ำบ้าง
สะอาดสะอ้านดี ไม่มีกลิ่นอับใดๆ




โซนอาบน้ำนี่แรงได้ใจ อยากยกฝักบัวกลับบ้าน...งื้อ

ตึกยังใหม่ ระบายน้ำดีปกติค่ะ
พื้นแห้งไว

น้ำอุ่น...ร้อนเร็ว




ข้างหัวเตียงทั้งสองฝั่ง มีโคมไฟเล็กอ่านหนังสือได้
มีสายเสียบ USB ด้วยเลย
ชาร์จโทรศัพท์สะดวก

ประตูระบบคีย์การ์ด จะมีเสียงดังเตือนค่ะ
ถ้าคุณปิดแล้วยังดันไม่สุดจนสนิทเข้าล็อกจริงๆ
ก็จงดันเพิ่มเข้าไปซะ หรือเปิดมาแล้วปิดอีกทีให้แน่น




ข้างประตูทางเข้า มีตระกร้าใส่ผ้าขนหนูสีน้ำเงินให้
เอาไว้หิ้วไปสระว่ายน้ำได้เลย (เอากลับมาคืนด้วยล่ะเดี๋ยวโดนปรับเงิน)

วันถัดมาเขาก็เอาผ้าทุกชนิดผืนใหม่มากองให้เราอีก
เรียกว่าอะไรควรได้ในแต่ละวัน
ที่นี่คุณจะได้ครบแบบไม่ต้องทวง
ชอบมาก...





 ในตู้มีเสื้อคลุม รองเท้าแตะเดินในห้อง
ตู้เซฟด้วย
ผักชีพาสำรวจเอง 55+




สอดส่องเมนูอาหาร
หากให้ยกมาบริการคิดค่าบริการครั้งละ 100 บาท มีเขียนไว้ข้างล่างเมนูนะคะ




ราคาเคลมว่าอยู่ในระดับโรงแรมจริงๆ
ถ้าเน้นความสะดวก ก็สั่งได้เลยค่ะ






ผักชีสำรวจเสร็จเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าตัวเองเป็นหมามีเจ้าของ
เจ้าของเธอหายไป...อ้วนอ๋องของหนูอยู่ที่ไหน???

ตกใจ วิ่งหน้าตาเลิ่กลั่กไปมา แล้วมาถามพี่พลอย
พี่พลอยก็บอก อ๋องไปห้องน้ำเดี๋ยวก็มา

หมาน้อยผู้เข้าใจแต่คำว่า "ไป"
ก็เดินไปยืนมองประตู ร้องงื้ดๆๆๆ ระทมทุกข์
พยายามจะให้พี่พลอยพาออกไปตามหาอ้วนอ๋อง
กลัวอ้วนอ๋องหาย ถ้าอ้วนอ๋องหลงทางไปล่ะ
ยิ่งไม่มีหมาคอยบอกทางด้วย อันตราย (555+)

สุดท้ายก็นอนเฝ้าประตู รออ้วนอ๋องกลับมาหา
ไม่เป็นอันทำอะไรล่ะ
เธอร้องเบาๆค่ะ ไม่รบกวนใคร แล้วก็เงียบรอไปแบบทุกข์ใจมาก
ขำดี

ก็เลยไปบอกอ้วนอ๋องให้ส่งเสียงให้หมาได้ยินหน่อย
เธอเครียดเจ้าของหายอีกแล้ว

อ้วนอ๋องก็ต้องตะโกนหา
คือใครจะไปหายวับ ล้างหน้าล้างมืออาบน้ำ
ต้องรายงานที่อยู่กับผักชีก่อนนะคะ

ผักชีก็คงเหนื่อย อาจบ่นในใจว่าพวกนี้นี่
พามาเที่ยวทีไรก็หลงทางหายไปทุกที
ทำให้หมาลำบากต้องคอยดูแล
(555555+)



เสียงอ้วนอ๋องออกมาจากทางนี้ ตกใจนิดนึง
ลุกแบบงงๆ เดินหาที่มาจนเจอ กระดิกหางดีใจด้วยนะ

ฮามากอ่ะค่ะ...




พอเจออ้วนอ๋องก็จะมีสีหน้ามีความสุข โล่งอก ราวๆนี้

เป็นผักชีนี่เหนื่อยจริงๆ ต่อไปว่าจะไม่พาคนมาเที่ยวล่ะ
คนพากันไม่รู้เรื่องเลย ว่าต้องอยู่รวมๆกันไว้ในที่ต่างถิ่น
-"-




ยืนเมียงมองอยากออกไปดูข้างนอกบ้าง
มองตรงไปที่อาคารนั้นคือล็อบบี้นั่นเองค่ะ





ก็พาออกซะหน่อย
เดินๆวนๆ ดมไปทั่วๆ สำรวจพื้นที่ให้สบายใจ ว่าปลอดภัยดี



ที่ระเบียงมีราวตากผ้าให้ด้วยค่ะ
เอาไว้ตากชุดว่ายน้ำดีเลย



สักพักไม่มีคนเฝ้าก็ต้องกลับเข้าข้างในตามเดิม
แต่ก็ดูสบายใจ จัดวางชามน้ำเอาไว้ให้
วางเบาะแล้วเรียกไปดูทำเลเข้านอน

พาผักชีกินมื้อเย็นก่อนเพราะได้เวลาที่กินปกติล่ะ





มีไดร์เป่าผมวางให้นะคะ
มีไฟฉาย แต่ไฟ LED มั้ง ไม่ค่อยแรง
ตอนพาผักชีไปเดินฉี่ในสวนกลางดึกเลยเอาไฟฉายตัวเองไปค่ะ

กลางคืนสวนมืดมาก
มีไฟประดับทางเดิน แต่ก็จะเห็นแค่แนวทางเดิน ไม่เห็นอะไรเยอะกว่านั้น



พากันออกเที่ยว
ที่จอดสุนัข อ๊ะ! นี่ที่จอดรถข้างล็อบบี้ต่างหาก
มาเอาของที่รถยนต์ ก่อนจะไปลงหาดค่ะ



เดินกันอย่างมีความสุข
ผักชีแวะไปมาชักช้าตลอดทางตามเคยนั่นแหละ

="=



ผ่านตึกล็อบบี้ ไปที่สนาม เลยไปยังทางลงหาดที่เดียวที่มี



แวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกนิดหน่อยค่ะ
ผักชีพยายามจะไปข้างทาง เลยยื้อสายจูงจนตัวเอียง
ไม่ค่อยยอมนิ่งกับที่ให้ถ่ายรูป
เธอจะตะกายไปเที่ยวต่อท่าเดียว





ข้างๆเป็นบ้านพักแบบเป็นหลังเดี่ยว เลยถ่ายภาพมาเผื่อใครสนใจจอง
มีสองแถวนะ ทั้งติดริมหาดและแถวถัดไปด้านหลัง

แบบริมหาดมีหลังที่มีสระว่ายน้ำเล็กๆส่วนตัวด้วย

แต่ถ้าจะลงหาด ไงก็ต้องเดินทางมาตรงนี้ด้วยกัน
เพราะที่เห็นด้านหน้านั่นคือ เป็นเขื่อนปูนกันคลื่นทั้งแนวค่ะ สูงมากด้วย
โดดลงไปชายหาดตรงๆมิได้เน้อ



ป้ายกฏเพื่อความเป็นส่วนตัวของบ้านติดหน้าหาดค่ะ
ห้ามเดินผ่านหน้าบ้านยามวิกาล



มีสะพานเล็กไว้ให้ยืนถ่ายรูปด้วย
แต่ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจนักตรงนี้
ผ่านเลย...





ถึงทางลงแล้วค่ะ เป็นบันไดปูนกว้างขวาง
รูปด้านบนพลอยถ่ายตอนจะกลับห้องพักนะ ก็เลยดูมืดมากๆ
พระอาทิตย์ตกดินไปแล้วล่ะ



ผักชีเจอหาดทรายที่ห่างเหินมานาน
วิ่งลิ่วเอาเป็นเอาตาย

ปัญหาคือคนเห็นหมาสนุก ก็เลยพากันลืมไปสนิทค่ะ
ว่าผักชีเป็นข้อเข่าเสื่อม
ดังนั้นทุกคนจึงวิ่งเล่นกันสนุกมาก ย้ำว่า มากๆๆๆ

และผักชีก็มามีอาการปวดขาตามหลังในช่วงหัวค่ำ
เดินเขยกให้เห็น...แป่ว

แต่ก็ไม่ได้หนักมากแบบ ส.ค. ปี 63 ที่เคยพาไปหาหมอโบนะคะ
ตอนนั้นคือ ขางอ ยกขึ้นตลอดเลย นั่งแปะเพราะยืนไม่ไหว

เป็นอาการชัดเจนที่ข้างเดิมค่ะ ขาหลังด้านขวา(เข่า)
T^T
หนหน้าต้องจำดีๆว่าควรระวัง
ต่อไปก็วิ่งแบบนี้ไม่ได้แล้วสินะ
หรืออาจจะวิ่งแค่รอบเดียว พอหอมปากหอมคอ

ป.ล. หนนี้น่าจะวิ่งๆพักๆ รวมๆไปเป็นสิบรอบเลยค่ะ
เธอคึกมาก ไม่ได้เที่ยวแบบนี้มานานเป็นปีๆ




แถมภาพอำลาตะวัน
สวยดี



ป้อนน้ำเป็นระยะ
อย่าได้เผลอ เธอพยายามจะแอบกินน้ำทะเลด้วยล่ะ
เพราะเคยแอบกินมาก่อนตอนไประยอง คงเค็มปะแล่มๆถูกใจที่มีรสชาติ
แต่รอบนี้พี่พลอยคุมเข้มค่ะ อด

ถือน้ำติดมือไปด้วยทุกครั้งที่ลงหาด ก็เสิร์ฟไป
กินน้ำเยอะเลยเพราะเหนื่อย และอากาศค่อนข้างร้อน




พากลับห้องพัก ผักชีก็เดินไปกินน้ำอีก จากนั้นมองคนไปมา
เดินขาตึงๆดูเขยกๆเราก็ถ่ายคลิปไว้ รอไปซื้อยาแก้ปวดที่คุณหมอพรุ่งนี้

จากนั้นผักชีก็ทิ้งตัวเข้านอนไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมล่ะ




กลางคืนปลุกผักชีตามเวลาจะพาไปห้องน้ำ
ฝนตกตั้งแต่หัวค่ำยังไม่หยุดค่ะ
แต่ตอนเอาผักชีออกไปเป็นช่วงตกเปาะแปะเบาๆเลยพอไหว
ตรงทางออกจากตึก เขาตั้งถังใส่ร่มเยอะแยะให้ใช้งานด้วย

ใช้เสร็จก็เอามาเก็บคืนที่เดิมก็พอ

สนามมืดมากด้วย ต้องระมัดระวัง
ของจริงมองไม่เห็นอะไรเท่าไหร่นะ
นี่ใช้โหมดกลางคืนถ่ายจากโทรศัพท์มือถือมาค่ะ
ชัดแจ๋วทะลุสายฝนเลย

ทีแรกไม่รู้นะว่าฝนตก
ตามที่บอกคือตอนเริ่มตกไม่ได้แรงมาก เราอยู่ในห้องด้วย
แต่ดันได้ยินเสียงน้ำไหลดังมาก
เหมือนใครเปิดสายยางหรือก็อกน้ำไว้จนสุดเลย
ก็นึกว่าคนสวนมารดน้ำต้นไม้

ลองเปิดประตูไปดู ว่าทำไมถึงดังมากๆ
แต่เป็นเสียงน้ำไหลจากหลังคาชั้น 3 ค่ะ
ตกลงมาเพียวๆกระทบใส่พื้นปูนชั้นล่าง
ห่างห้องเราไปเท่าขนาดชายคาที่ยื่นออกมา

ไม่มีรางน้ำหรือยังไงไม่ทราบ แต่ห้องกันเสียงไม่ได้นะคะ
ก็นอนฟังเสียงน้ำไหลดังๆไปทั้งคืนเลย
ใครมีปัญหาหลับยากอาจลำบากหน่อย

ถ้าเราเดินผ่านห้องอื่นที่มีคน หรือห้องเราเองที่เปิดแอร์ไว้
ช่องด้านล่างประตูจะมีไอเย็นออกมาโดนเท้าเราค่ะ

ดังนั้นแปลว่าประตูซีลไม่สนิทถึงพื้น
เสียงเลยสามารถเข้า-ออกได้สบาย
ถ้ามีคนผ่านหน้าห้องคุยกัน ก็ได้ยินง่ายด้วยเช่นกัน
พอกับที่เสียงคุยข้างในจะดังออกไป




จบไปวันแรกกับผักชี

"De Veranio Resort" (ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ต) จ.ตราด ตอน1

ลงภาพตอนวิ่งลิ่ว ที่ต่อไปอาจไม่มีให้ถ่ายเก็บไว้อีกแล้ว
เพราะหมาแก่ลง ข้อเข่าเสื่อมสภาพ ร่างกายต้องใช้อย่างระมัดระวัง
ก็อาจจะยังวิ่งได้ แต่ไม่ไกล และไม่วิ่งเยอะ

วันนี้ผักชีสนุกมากค่ะ



หลับพักเอาแรง แล้วจะมาเล่าต่อ
ว่าอยู่เต็มๆอีก 1 วัน เราไปไหน
ทำอะไรกันบ้าง

คงจะเว้นช่วงอัพนานหน่อยนะคะ
รูปเยอะมากมาย เรื่องรายละเอียดต่างๆที่ต้องเขียนด้วย

ขนาดวันนี้ทำรูปไว้หมดแล้ว
แค่มานั่งอัพและเขียนเนื้อหาลงบล็อกอย่างเดียว
ปาไป 3-4 ชม. แล้วค่ะ

จดบันทึกไว้ด้วยความรักล้วนๆ
ไม่เร่ง ไม่รีบ
ขอให้ทุกสิ่งดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ

มีความสุขนะคะ

ด้วยรัก

จาก...ผักชี
 




 

Create Date : 22 มีนาคม 2565
6 comments
Last Update : 3 เมษายน 2565 22:41:14 น.
Counter : 1000 Pageviews.

 

พลอยมีนัดฉีดวัคซีนเพิ่มเติมสัปดาห์นี้เน้อ
ขอดูสภาพแขนก่อนว่าจะมาทำรูปไหวตอนไหนนะ

ภาพเยอะมากเลยค่ะเที่ยวกันรอบนี้


 

โดย: ploy666 22 มีนาคม 2565 0:32:28 น.  

 

ตัดสินใจว่า จะให้ผักชีลองสวมแพมเพิร์ส ในคืนที่อั้นไว้ ไม่ฉี่ก่อนเข้านอนค่ะ

จะราดจะเปียกอะไรก็ให้อยู่ในแพมเพิร์สไปละกัน

ส่วนคืนไหนฉี่ตามเวลา ปกติดี ก็ไม่ต้องใส่ ลดโอกาสอับชื้นลงได้หน่อย

ผักชีเริ่มมีสัญญาณความชรามาเป็นระยะ เราต้องปรับตัวเรื่องดูแลเธอเป็นอย่างๆไป

 

โดย: ploy666 IP: 184.22.194.152 22 มีนาคม 2565 2:58:46 น.  

 

เผื่อใครสงสัย ว่าทำไมบ่นว่าต้องหาเวลาคัดรูป จัดเรียง ใส่ลายนำ้ต่างๆ และมาอัพบล็อก

คืออย่างที่อัพวันนี้ ปริมาณรูปหลังสิ้นสุดการจัดเรียง อยู่ที่ราวๆ 60-70 ภาพค่ะ เพราะบางภาพใส่กรอบแบบมี 2-3 ช่องรวมไว้อีกด้วย

ไม่ได้ขยันจะรีวิว
แค่ชอบถ่ายเหวี่ยงแหเผื่อไว้ ไม่เน้นมุมสวยงามอีกต่างหากค่ะ 55+

มีเยอะ ก็แปะให้เยอะ แค่นั้นเอง

 

โดย: ploy666 IP: 184.22.194.152 22 มีนาคม 2565 3:02:58 น.  

 

ยาววววววววววววววววววววววววววววววววววว
มาก ค่ะ
ผักชี กี่ปีแล้วค่ะ
พยายามเข้าบล็อคมาอ่านผักชี 555

 

โดย: รู้นะว่าคิดถึง 24 มีนาคม 2565 18:34:32 น.  

 


สวัสดีค่ะคุณแข (รู้นะว่าคิดถึง)

ผักชี 8 ขวบกว่าแล้วค่ะ
ป่วยถี่เลยปีที่ผ่านมา

วันนี้ฝีที่ข้อศอกแตกด้วย
พรุ่งนี้จะพาไปหาหมออีกแล้วค่ะ

 

โดย: ploy666 IP: 49.228.198.245 24 มีนาคม 2565 23:56:58 น.  

 

ผักชีไปหาหมอเรียบร้อยแล้ว
ได้ทำแผล+ยามาอีกตามเคย

หมาสบายดีแล้วค่ะ
วิ่งเล่นตามปกติ 55+

 

โดย: ploy666 IP: 49.228.198.245 25 มีนาคม 2565 18:35:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.