NaaNa Happy ~ :: อุโมงค์ประวัติศาสตร์เขาน้ำค้าง อ.สะเดา จ.สงขลา :: ตั้งแต่สร้างบล็อกมามีความปรารถนาอยู่ลึกๆว่าสักวันจะอัพบล็อกเกี่ยวกับสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดสงขลา นั่นคือ “อุโมงค์ประวัติศาสตร์เขาน้ำค้าง” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง ในเขตอำเภอนาทวี แต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีโอกาสได้ไปเยือนเก็บภาพถ่ายมาฝากกัน จนเมื่อมีโอกาสได้ไปเยือนก็ได้ไปเสียสองครั้งภายในเดือนกว่าๆ และก็ไม่ลืมว่า มีความตั้งใจไว้ว่างอย่างไร วันนี้จึงมีบล็อก “อุโมงค์ประวัติศาสตร์เขาน้ำค้าง” มาให้ได้ชมกัน อุโมงค์ประวัติศาสตร์เขาน้ำค้าง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อนซึ่งมีรอยต่อระหว่าง อำเภอนาทวี อำเภอสะเดา จ.สงขลาและประเทศมาเลเซีย และเพราะเป็นรอยต่อระหว่างประเทศ ทำให้เกิดประวัติศาสตร์ขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ เขาน้ำค้างเป็นยอดเขาสูง มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี สมัยโบราณคนที่เคยขึ้นไปบนยอดเขาจะเห็นมีน้ำค้างเป็นเกล็ดอยู่ตามยอดหญ้า ลักษณะเป็นใยแมงมุมแม้แต่ตอนเที่ยงวันก็มีน้ำค้างประปรายอยู่บนยอดหญ้า ซึ่งเป็นสภาพที่แปลกเป็นอย่างยิ่ง จึงเรียกขานกันว่า “เขาน้ำค้าง” เขาน้ำค้าง เป็นเสมือนเขตหวงห้ามเป็นระยะเวลากว่า 40 ปี เริ่มตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยอยู่ในความยึดครองของ ผู้ก่อการร้ายโจรจีนคอมมิวนิสต์ เป็นบริเวณที่มีพื้นที่ภูมิประเทศเป็นถิ่นทุรกันดาร เทือกเขาสลับซับซ้อน ทำให้เป็นฐานปฏิบัติการใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของแถบนี้ แต่ในที่สุด จากการปฏิบัติการตามแผนยุทธการใต้ร่มเย็น โดยนำนโยบายการเมืองนำการทหาร กองทัพภาคที่ 4 และหน่วยผสมพลเรือนตำรวจทหารที่ 43 (พตท.43) ได้นำนโยบายนี้เข้าปฏิบัติการ สามารถเข้ายึดค่ายปฏิบัติการได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2523 ทำให้โจรจีนคอมมิวนิสต์สลายตัวไปในที่สุด "อุโมงค์ประวัติศาสตร์เขาน้ำค้าง” ตั้งอยู่ในบริเวณเขาน้ำค้าง หมู่ที่ 1 ต.คลองกวาง อ.นาทวี จ.สงขลา ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กม. สถานที่แห่งนี้รู้จักกันในนามหมู่บ้านปิยมิตร 5 ในอดีตเป็นหมู่บ้านของบรรดาผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ หลังจากการสู้รบกับฝ่ายรัฐบาลเกือบ 40 ปี พรรคคอมมิวนิสต์ได้ประกาศยุติการสู้รบ เข้าร่วมพัฒนาชาติไทยเมื่อปี 2530 สถานที่น่าสนใจ คือ อุโมงค์ประวัติศาสตร์เขาน้ำค้าง เป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ และยาวที่สุดในประเทศไทย ขุดด้วยกำลังคน 200 คนต่อวัน ใช้เวลาประมาณ 2 ปี เมื่อปี พ.ศ.2515 เป็นที่หลบภัย แหล่งอาวุธ ฐานบัญชาการ สถานพยาบาล โรงเรียนสอนการเมือง ลัทธิมาร์คซ์-เลนิน สายรัฐเซีย หรือความคิดประธานเหมา เจ๋อ ตง ภายในแบ่งเป็น 3 ชั้น มีทางเข้าออก 16 ช่องทาง ความยาวคดเคี้ยวขึ้นลงในภายในอุโมงค์ประมาณ 1,000 เมตร สามารถบรรจุคนได้ประมาณ 200 คน ปัจจุบันอุโมงค์ประวัติศาสตร์เขาน้ำค้างได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัดสงขลา ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวจีน และมาเลเซียไปเยี่ยมชมไม่ขาดสาย ว่าแล้วเราก็ไปเดินชมอุโมงค์ประวัติศาสตร์กันเลยดีกว่า สำหรับค่าเข้าชมชมผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท ต่างชาติ 120 บาท เมื่อซื้อบัตรแล้วเราก็เดินมายังห้องแสดงประวัติความเป็นมา รวมทั้งจัดแสดงพวกอาวุธอุปกรณ์ต่างๆเครื่องแต่งกาย ของใช้ เครื่องถนอมเก็บอาหารที่ พ.ค.ม ใช้ในสมัยนั้น ต่อด้วยอนุสรณ์สถานที่ของเหล่าพ.ค.ม ผู้ล่วงลับ ซึ่งเดินอีกหน่อยก็จะถึงปากอุโมงค์ทางออกทางเข้าของถ้ำส่วนที่อยู่ต่ำสุด แต่เราอย่าเข้าไปในอุโมงค์ทางนี้เลยเพราะบันไดสูงชันมาก ไปขึ้นทางบันไดข้างๆดีกว่าแม้จะสูงแต่ก็ไม่ชันมาก เดินสบายกว่าเยอะ มีที่พักให้นั่งหายเมื่อยระหว่างทางด้วย เดินๆขึ้นไปนี่ก็เจอกับส้วมสมัยก่อนที่ให้ผู้ชายใช้กัน อยู่ทางขวามือของเรา ลักษณ์ก็เป็นส้วมหลุมหลายๆหลุมเรียงต่อกัน แอบคิดเวลานั่งทำธุระจะกล้าไหมหนอ เดินมาถึงด้านบนสุดก็มีส่วนต่างๆของกอง พ.ค.มให้ได้ชม มีทั้งโรงครัว เรือนพักผ่อนนั่งเล่นของผู้ชาย หอคอยเฝ้าระวังภัย ห้องประชุมขนาดใหญ่ โรงเรียนการเมือง สนามบาส และห้องวิวาห์ห้าดาว เหมือนหมู่บ้านๆหนึ่งเลยทีเดียว (แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาทั้งหมด) ว่าแล้วเราก็ไปกันต่อ เดินลงไปชมอุโมงค์ทางด้านล่างกันเลย อย่างที่บอกไปว่าอุโมงค์นี้มีทางเข้าออกได้ 16 ทาง เพราะฉะนั้นอย่าทำเก่ง โปรดเดินตามเส้นทางที่ป้ายบอกไว้ สำหรับภายในอากาศถ่ายเทสะดวก อุโมงค์คับแคบแต่ไม่อับ หายใจสะดวกคล่อง นับว่าผู้ออกแบบการการขุดเจาะอุโมงค์เก่งมากจริงๆ ภายในอุโมงค์ก็มีห้องต่างๆเช่น ห้องธุรการ ห้องโทรเลข ห้องประชุม ห้องครัว ห้องผ่าตัด มีสนามซ้อมปืน แล้วก็สนามฝึกขับรถมอเตอร์ไซด์ บางห้องไม่ได้ถ่ายรูปด้วยว่าพายัยซันนี่ย์ไปด้วย เธอกลัวความมืด ร้องไห้ตลอดตอนอยู่ในอุโมงค์ เดินจนเกิดอาการเหนื่อยนิดๆ หอบหน่อยๆ ก็มาถึงปากอุโมงค์ทางออก (รูปสุดท้ายถ่ายย้อนจากปากอุโมงค์ขึ้นไปข้างบน สูง ชัน มากจริงๆ) แล้วเราก็ล่ำลาอุโมงค์ประวัติศาสตร์เขาน้ำค้างแห่งนี้ เพื่อเดินทางไปยังน้ำตกกันต่อ เขาน้ำค้างมีน้ำตกหลายแห่งด้วยกัน แต่แห่งที่ไปนี้อยู่ใกล้กับสถานที่ทำการอุทยานเขาน้ำค้างที่สุด หลังจากที่จอดรถหน้าอุทยานก็เดินเท้าต่อไปอีกหน่อยตามสายธารขึ้นไป เราก็จะได้พบกับแอ่งน้ำขนาดใหญ่ วันที่ไปน้ำไม่เยอะมากเลยไม่มีสายน้ำไหลจากผาก้อนหินให้เห็น แต่น้ำในแอ่งข้างล่างก็เย็นชื่นใจทีเดียว ปล่อยให้เด็กๆเล่นน้ำจนหนำใจเราก็ออกเดินทางกลับบ้านกัน โอกาสหน้าค่อยว่ากันใหม่หากมีโอกาสได้มาอีก สำหรับการเดินทางก็ค่อนข้างสะดวกสบาย แต่ขอเตือนว่าอย่าขับรถเร็วเพราะขึ้นเขา ลงเขา หลายช่วงอยู่กว่าจะถึง บ๊าย บาย แล้วบล็อกหน้าเจอกันใหม่ ^^   Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2556 11 comments Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2556 10:22:34 น. Counter : 5792 Pageviews. Share Tweet

ตามมาเที่ยวด้วยคนนะครับน้องนาห์ เดินในถ้ำแคบๆแบบนี้ ตัวพี่ก๋าลอดได้มั้ยเนี่ย 555   โดย: กะว่าก๋า 13 กุมภาพันธ์ 2556 10:54:25 น.

เข้าไปในถ้ำแล้วดูอึดอัดยังไงไม่รู้ค่ะ แต่พอออกมาเห็นน้ำ เห็นสีเขียว ๆ ของต้นไม้แล้วรู้สึกโล่งเลย ดูสบายตาดีจริง ๆ ค่ะ ใช้เน็ตไม่ได้หลายวัน ก็เลยแวะมาสุขสันต์วันตรุษจีนช้าไปหน่อย น้องนาห์สบายดีนะคะ ปีใหม่จีนนี้ขอให้น้องนาห์และครอบครัวได้พบแต่เรื่องดี ๆ เฮง ๆ ตลอดทั้งปี Happy Belated Chinese New Year ค่า ^_^   โดย: haiku 13 กุมภาพันธ์ 2556 21:17:00 น.

สวัสดีค่ะน้องนาห์ พี่แวะมาทักทายบ้านนี้บ้าง ^^ ตามน้องนาห์ไปเที่ยวด้วยคนนะคะ น้องนาห์มีควาสุขมากๆนะคะ   โดย: tanjira 13 กุมภาพันธ์ 2556 21:25:10 น.

โดย: d__d (มัชชาร ) 14 กุมภาพันธ์ 2556 0:22:33 น.

ที่รัก...มาเที่ยวถ้ำด้วยคนน้า วันนี้วันแห่งความรัก มีความสุขมากๆเ้น้อ ฉลองตามประสาสาวโสดกับเค้าไหม ปล่อยที่รักข้างบนไปสวีทเป็นคู่ คริๆ   โดย: fonrin 14 กุมภาพันธ์ 2556 6:01:01 น.

มอบหัวใจให้ด้วยหนึ่งดวง อิอิ   โดย: fonrin 14 กุมภาพันธ์ 2556 7:00:40 น.

มาเติมหัวใจตะเองให้เติมโตเน๊   โดย: d__d (มัชชาร ) 14 กุมภาพันธ์ 2556 8:36:00 น.

มอบให้ทุกคนที่เข้ามาในบล็อกนานาห์นะคะ ^^   โดย: มัยดีนาห์ 14 กุมภาพันธ์ 2556 8:36:13 น.

ขอบคุณน้องนาห์มากๆนะครับ สำหรับความรู้สึกดีดีที่มีให้กับพี่ก๋าและครอบครัวมาโดยตลอด สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ   โดย: กะว่าก๋า 14 กุมภาพันธ์ 2556 9:47:05 น.

ส่งยิ้มยามเช้าจ้าที่รัก มามอบหัวใจให้เช่นเคยน้า จุ๊บๆ   โดย: fonrin 15 กุมภาพันธ์ 2556 6:30:38 น.

ทางที่ไปปลอดภัยจากก่อการร้าย หรือเปล่า ครับ พอดีสนใจอยากจะไปแต่ก้กลัวอันตรายน่ะครับ   โดย: -*-Superbaker 25 กรกฎาคม 2556 0:40:31 น.