|
คลื่นลวง / กิ่งฉัตร
 กิ่งฉัตร. คลื่นลวง. กรุงเทพฯ : อรุณ, 2550.
จากเว็บอมรินทร์
//www.amarinpocketbook.com/books_detail.asp?book_id=1825 พระเอกของเรื่องลอยไปติดเกาะในสภาพถูกยิงในวันที่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิพอดี น้องสาวนางเอกเป็นคนไปพบและนางเอกเจ้าของรีสอร์ทซึ่งเป็นอดีตพยาบาลเป็นคนดูแลรักษาจนหายดี เมื่อฟื้นขึ้นมาและนึกย้อนเรื่องราว พระเอกก็หมดอาลัยตายอยากและคิดจะอยู่ที่เกาะไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้เห็นข่าวสังคมจากหนังสือที่น้องนางเอกซื้อมาจากในเมืองและได้เห็นภาพภรรยาที่ตนเองเข้าใจว่าถูกยิงตายไปแล้วก็เลยรู้สึกว่าจะต้องกลับไปสะสางเรื่องราวต่างๆให้จบและกระจ่าง เมื่อกลับมาแสดงตัวว่ายังไม่ตาย แต่ละคนก็มีปฎิกิริยาต่างๆกันไป และนอกจากภรรยาแล้ว พระเอกยังปักใจว่าหุ้นส่วนเป็นคนที่สมรู้ร่วมคิดกับภรรยาวางแผนฆ่าตน และในการเดินทางกลับกรุงเทพฯครั้งนี้ น้องสาวนางเอกได้ติดตามพระเอกไปด้วยเพื่อไปทำหน้าที่เลขา ต่อมาพระเอกได้ถูกลอบยิงอีกครั้ง และทำให้หลายคนที่ไม่ปักใจเชื่อว่าพระเอกถูกยิงตกเรือในครั้งแรกเริ่มโอนเอนมาทางพระเอกมากขึ้น เพราะหมอได้ยืนยันว่ารอยแผลแรกนั้นเป็นแผลถูกยิงแน่นอน แต่ด้วยความที่คนที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยล้วนเป็นคนใกล้ตัวและเป็นคนที่พระเอกรักและไว้วางใจทั้งสิ้น การจะคลี่คลายความจริงจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เรื่องราวมาค่อยๆกระจ่างขึ้นก็เมื่อนางเอกมาเยี่ยมพระเอกหลังถูกยิง และคนที่ตั้งใจฆ่าพระเอกตระหนักแล้วว่า นางเอกนั้นมีความสำคัญกับพระเอกเพียงใด จึงไม่สามารถอยู่เฉยได้ ใครที่ชอบแนวสืบสวนสอบสวน อ่านเรื่องนี้แล้วอาจวางไม่ลงเพราะอยากรู้ว่าฆาตกรที่แท้จริงนั้นเป็นใคร
เรื่องจากปกหลัง
สึนามิ... แทบทุกคนคงชังคลื่นยักษ์ในวันนั้น เขาเองก็เกลียดมัน แต่ต้องยอมรับว่าสึนามิไม่ได้พราทุกอย่างไป
คลื่นช่วยชีวิตเขา
คลื่นชำระล้างความลวงออกจากชีวิตของเขา
คลื่นนำเขาสู่แสงตะวันดวงใหม่ สว่างไสว แต่ไม่ร้อนแรง มีเพียงความอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้...นายตะวัน
*******************
จากเจ้าของบล็อก
เว็บอัมรินทร์เป็นเว็บที่เล่าเรื่องย่อได้แปลกมาก ไม่ใช้ชื่อตัวละคร ใช้คำว่าพระเอกนางเอกแทน คล้ายกับเวลา ผสมย. เขียนบล็อก เกือบเผลอนึกว่าตัวเองเขียนเลยนะเนี่ย (ฮา) ตอนที่อ่านเรื่องนี้จบ ได้คุยกับพี่ ๆ น้อง ๆ นักอ่านบางคนถึงเรื่องนี้ พี่คนหนึ่งบอกว่าคุณกิ่งฉัตรเขียนเรื่องนี้ออกมาแปลก ๆ ให้คู่รองเด่นกว่าคู่พระเอกนางเอก เหมือนฝีมือจะตกลงเพราะคุมเรื่องไม่อยู่ แต่ ผสมย. กลับมองว่าเป็นความตั้งใจของคนเขียนที่เขียนออกมาแบบนี้ เขียนออกมาให้เป็นพระนาง 2 คู่ เพราะด้วยอุปนิสัยของชัชวาลกับจันทร์เจ้านั้น เป็นชายเจ้าชู้นิด ๆ ขี้เล่นหน่อย กับ สาวขี้โวยวาย ส่วนอีกคู่ ตะวันเป็นคนที่นิ่งมากแต่ในความนิ่งนั้นยังมีความเด่นอยู่นะคะ แต่รพีค่อนข้างจะด้อยไปนิดเมื่อเทียบกับตัวละครหลักตัวอื่น ไม่ต้องในนิยายหรอก แม้แต่ในชีวิตจริง เมื่อเจอคนเสียงดัง บุคลิกเด่น เราย่อมสะดุดตากับคนแบบนี้มากกว่าคนนิ่ง ๆ จริงไหมคะ
แต่พอคุยกับคนอื่นที่เขาคิดไม่เหมือนเรา เลยทำให้รู้สึก เอ๊ะ หรือเราจะคิดผิด เลยส่งข้อความไปถามคนเขียนเลยดีกว่า จึงได้คำตอบมาดังนี้
สำหรับเรื่องคลื่นลวง เป็นความตั้งใจของพี่ค่ะว่าให้คู่คุณชัชเด่นขึ้นมาเพราะเมื่อลงมือเขียนแล้ว รู้ว่า 1. คู่รพีกับนายตะวันจะไม่ค่อยมีสีสันเท่าไหร่ เพราะอุปนิสัยของทั้งคู่ คนหนึ่งนิ่งมากอีกคนก็เกรงใจผู้หญิง ถ้าไม่มีคู่ที่สองมาช่วย เรื่องจะเรียบมาก ๆ 2. ถ้าชัชวาลไม่เจอผู้หญิงอย่างจันทร์เจ้า ผู้หญิงจะถูกข่มหมด อีกอย่างสงสารคุณชัชด้วย กินแห้วกระป๋องมาหลายงานแล้ว ให้เจอเด็กหน่อยจะได้กระชุ่มกระชวย ส่วนคนที่นิสัยอย่างจันทร์เจ้า ถ้าคบกับผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันมีหวัง...ตบกันตาย เลยต้องเจอคุณชัชที่ทันทุกเรื่องและอายุมากพอที่จะเห็นความน่าเอ็นดูของเด็กสาว ๆ เหอเหอ
(ขอบคุณพี่ปุ้ย กิ่งฉัตร สำหรับการไขข้อข้องใจค่ะ)
กลับมาที่ตัวเรื่องคลื่นลวงกันค่ะ
เรื่องนี้เป็นแนวสืบสวนหาผู้ร้ายสไตล์กิ่งฉัตร น่าจะเป็นแบบที่กิ่งฉัตรเขียนได้ถนัดมากที่สุดแนวหนึ่ง สำหรับเรื่องนี้คุณกิ่งฉัตรกลับมาแล้ว หลังจากที่ให้รอนานมั่ก ๆ เพราะเรื่องที่แล้ว สะพานอธิษฐานมันสั้นจนเราอ่านไม่จุใจ และสงสัยเป็นเพราะเรากรี๊ดคุณชัช เราเลยเห็นว่าเรื่องนี้สนุกดี มีไรไหม อิอิ
คลื่นลวงได้นำเหตุการณ์สึนามิที่เกิดขึ้นที่จังหวัดฝั่งอันดามันทางภาคใต้มาเป็นจุดเริ่มเรื่อง ผูกเข้ากับชีวิตของตัวละครที่ต้องเกือบตายเพราะความลวงของคน คลื่นที่ถาโถม กับ คนที่หลอกลวง ทำให้ชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งเปลี่ยนไป เขากลับไปเพื่อแก้แค้น แต่ก่อนแก้แค้นได้ต้องสืบก่อนว่าใครคือผู้ร้ายอีกคน
สำหรับเรื่องนี้เมื่อ ผสมย. อ่านไปจนจบเรื่อง แล้วย้อนกลับมาอ่านใหม่ ทำให้รู้ว่าเรื่องนี้ คุณกิ่งฉัตรวางเรื่องไว้ได้ค่อนข้างดี เพราะถ้าอ่านดูดี ๆ เราจะเห็นร่องรอยมาเรื่อย ๆ ว่าใครเป็นผู้ร้ายตัวจริง และเห็นถึงความฉลาดของนายตะวันได้ในที่สุด (ตอนจบ)
แต่มีจุดที่ ผสมย. ก๊ง ๆ อยู่นิดหนึ่งก็คือก่อนที่ตะวันจะขึ้นรถไปกับผู้ร้าย ได้โทรหาชัชวาล แล้วชัชวาลกับจันทร์เจ้าจึงออกจากร้านอาหารตามไป ตรงนี้สงสัย ว่า 2 คนนี้ตามไปถูกทางได้ยังไง เพราะตะวันน่าจะยังไม่รู้ว่าผู้ร้ายจะพาไปทางไหน ทำไมบอกให้ตามไปถูกทางล่ะ เพราะตอนที่ผู้ร้ายจะมารับตะวันอยู่ที่เมืองทอง แล้ว 2 คนนั้นต้องตามไปเริ่มต้นที่เมืองทองอยู่แล้ว แต่ชัชวาลกับจันทร์เจ้ากลับขับรถเลยธรรมศาสตร์รังสิตไปแล้ว ตะวันถึงโทรเข้ามาบอกทางให้ไปรับ ถ้า 2 คนนั้นยังอยู่ที่เมืองทองอยู่จะไม่ก๊งเลยค่ะ เพราะเมืองทองกับ มธ.รังสิต มันก็ไกลกันอยู่น๊า อิอิ แต่หยวนค่ะ เพราะเรื่องสืบสวนต้องหลอกให้คนอ่านงงนิด ๆ อยู่แล้ว
อยากจะบอกว่าสิ่งที่คุณกิ่งฉัตรมีนั้นเป็นสิ่งที่นักเขียนใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ขาดไป คือ พล็อตเรื่องที่สนุก เข้าถึงคนอ่านได้ง่าย และ การเขียนที่ลื่นไหลให้คนอ่านได้เพลิดเพลินไปกับตัวเรื่องจนบางครั้งมองข้ามจุดบกพร่องที่อาจจะมีอยู่ไปได้ แม้กระทั่งตอนที่ได้อ่านเรื่องแรกของคุณกิ่งฉัตร คือ พรพรหมอลเวง ก็ยังรู้สึกได้เลยว่าเป็นเรื่องที่ดีกว่าเรื่องของนักเขียนรุ่นใหม่บางคนที่แม้ตอนนี้จะเขียนไปถึง 4-5 เรื่องแล้ว ก็ยังคงความสม่ำเสมอ (ห่วยได้สม่ำเสมอ) ไร้ซึ่งพัฒนาการ ซึ่งนอกจากพรสวรรค์ของคุณกิ่งฉัตรเองแล้ว พรแสวงเรื่องข้อมูลที่คุณกิ่งฉัตรมีในเรื่องก็ทำให้เรื่องออกมาดี หรืออาจเป็นเพราะคุณกิ่งฉัตรได้ บก. ที่ดีช่วยดูงานในระยะแรก ๆ ให้ นั่นก็คือ บก. ท่านก่อนของสกุลไทย คุณสุภัทร สวัสดิรักษ์ ท่านดูงานของนักเขียนที่จะลงสกุลไทยทุกคน พอมาเห็น บก. สมัยนี้ก็ได้แต่ปลง หรือเป็นเพราะวัฒนธรรมแดกด่วน เลยทำให้ บก. หนังสือ ลืมหน้าที่ของ บก. ไปเลย รวมถึงคนที่คุณกิ่งฉัตรให้ช่วยอ่านช่วยเม้นท์ ที่คุณกิ่งฉัตรเคยให้สัมภาษณ์ไว้ (ลืมชื่อค่ะ)
เผลอบ่นอีกแล้ว จบดีกว่า
*******************
ตอนนี้เรื่องนั้นออกนอกกาแลคซี่ไปแล้ว เพราะเนื่องจากที่ได้ส่งข้อความคุยกับพี่ปุ้ย ทำให้รู้ว่ามีคนเอาเรื่องท้ายบล็อก ผสมย. ไปถามพี่ปุ้ยด้วยล่ะ กี๊ดดดด ผสมย. ยังไม่ได้คุยกับพี่ปุ้ยถึงเรื่องนี้เลยนะคะ เอาเป็นว่าเรื่องที่คนอยากรู้นั้น บอกตอนนี้ไม่ได้จริง ๆ เพราะเป็นเรื่องของน้องนักเขียนที่จะต้องจัดการก่อนด้วยตัวเอง และน้องนักเขียนไม่อยากให้เปิดเผยเกรงว่าจะเสียรูปคดี เอ๊ย ไม่ใช่เกรงว่าจะเสียเรื่อง  ไว้หลังงานอาจจะมีอะไรคืบหน้าที่เอามาบอกได้ หรือไม่ บางทีเรื่องอาจจะเงียบหายเข้าหลุมดำอวกาศไปเลยก็ได้ค่ะ อีกอย่างคืออย่างที่ไทยมุงบอกเมื่อบล็อกที่แล้วว่าป่านนี้ สำนักพิมพ์ยังไม่รู้เลยว่านักเขียนรู้แล้ว
ที่จริง วันนี้จะอัพคลื่นลวงตั้งแต่ตอนกลางวัน แต่พอดีมีเรื่องอื่นมาเบนความสนใจไปเสียก่อน เป็นเรื่องในคลับเพชรพระอุมาของเฉลิมไทย เรื่องเก่าแก่ที่ตีกันมานาน และยังจะตีกันไปอีกนาน (ฮา) งานนี้ได้เห็นความหน้าหนาหน้าทนของคนบางคนด้วย พอมีคนไปว่าว่าเป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนา ก็เกิดร้อนตัวอัพบล็อก เอาเรื่องตั้งแต่หลายปีก่อนมาขึ้นบล็อก ทั้งที่ปัจจุบันนี้ เหอ ๆ ไม่อยากจะพูด แต่แหม อยากเอาน้ำไปสาดบล็อกจริง ๆ 
Create Date : 12 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 13 ตุลาคม 2550 0:31:10 น. |
|
24 comments
|
Counter : 7597 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ดาว IP: 125.25.93.33 วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:0:53:32 น. |
|
|
|
โดย: เต็มที่ IP: 58.11.64.90 วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:1:49:50 น. |
|
|
|
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:2:22:18 น. |
|
|
|
โดย: piccy IP: 124.120.243.67 วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:8:28:23 น. |
|
|
|
โดย: คอเล่า IP: 203.147.20.90 วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:11:55:57 น. |
|
|
|
โดย: กุ๊กไก่ (kaijunk ) วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:17:47:24 น. |
|
|
|
โดย: :-) (Nontagorn ) วันที่: 14 ตุลาคม 2550 เวลา:18:49:26 น. |
|
|
|
โดย: ผสมย. IP: 124.121.56.35 วันที่: 14 ตุลาคม 2550 เวลา:22:21:04 น. |
|
|
|
โดย: PenKa วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:12:53:07 น. |
|
|
|
โดย: ผู้หวังดี IP: 117.47.41.248 วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:15:27:18 น. |
|
|
|
โดย: อรินทม IP: 203.146.116.9 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:16:03 น. |
|
|
|
โดย: ตานนท์ (คนไม่หวาน ) วันที่: 15 ธันวาคม 2550 เวลา:12:00:37 น. |
|
|
|
โดย: autano IP: 202.29.53.1 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:04:17 น. |
|
|
|
โดย: รักคุณชัช IP: 110.168.59.210 วันที่: 14 ธันวาคม 2560 เวลา:21:51:57 น. |
|
|
|
โดย: รักคุณชัช IP: 110.168.59.210 วันที่: 14 ธันวาคม 2560 เวลา:21:53:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|
คงได้ปลายเดือนนี้อ่ะ