ตามปรกติเวลาได้เจอกัน ถ้าไม่นั่งคุยกันบนเก้าอี้
สองก็จะนั่งบนเตียงคนไข้ แล้วพี่คะจะยืนคุยกับสอง
สองก็จะต้องแหงนหน้ามองพี่คะเสมอ
(นี่แหละ ที่มาของชื่อบล๊อกวันนี้)
แต่มาช่วงหลัง ๆ เริ่มเมื่อยคอ 555
สองก็เลยไขเตียงขึ้น แหะ ๆ เพิ่งจะนึกได้
แต่มีอยู่วันนึง เป็นวันที่สองได้มองพี่คะครั้งสุดท้าย ได้จ้องตากันเป็นครั้งสุดท้าย
ตอนที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น สองยังไม่ได้สังเกตุ เพิ่งจะมาคิดได้ ก็หลังจากนั้น
วันนั้นสองเป็นคนไข้รายเกือบ ๆ สุดท้ายของอาจารย์หมอ
อาจารย์หมอเดินออกมา หันมาที่สอง แล้วบอกว่า
คิวต่อไปเราใช่ไหม อะ.. ไปนั่งรอข้างในก่อนนะ
(จริง ๆ แล้ว ปรกติหมอจะเรียกชื่อคนไข้นะ เพราะหมอไม่มีทางจำหน้าคนไข้ได้หรอก)
พูดจบอาจารย์หมอก็เดินหายไปใหนไม่รู้
สองก็งง ๆ ลุกขึ้นกำลังจะเดินเข้าห้องตรวจ
ที่สองงงก็เพราะกลัวจะหน้าแตก
555 ไม่ใช่ละ
แล้วพี่คะก็เดินออกมาพอดี พี่คะยืนอยู่ตรงทางเข้าห้องตรวจพอดิบพอดี
555 โอ๊ย เล่าไปก็เขิลไป
แล้วพี่คะก็ยืนอยู่อย่างนั้น
สองก็ยืนอยู่อย่างนั้น
คือเราไม่เคยอยู่ใกล้กันมากขนาดนี้มาก่อน (หมายถึงดี ๆ และไม่เจ็บตัวอะนะ)
แล้วเชื่อไหม ?
สองน่ะเข้าใจคำว่า เวลา และสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัวเราหยุดหมุน มันเป็นยังไงก็วันนั้นนั่นเอง
เหมือนทุกอย่างรอบ ๆ ตัวเงียบไปหมด สองไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
ยืนมองตากันอยู่อย่างนั้นนานมาก
ตอนนั้นน่ะ สองคิดอะไรไม่ออกเลย
นอกจากคิดว่า คนอะไรตาสวยจริง ๆ แล้วนี่ไม่คิดจะกระพริบตาเลยรึไง
ไม่ใช่พี่คะตะลึงอะไรสองหรอก สองคิดว่าพี่คะอาจจะเป็นคนไม่ชอบกระพริบตาก็ได้นะ
การยืนมองตากันในวันนั้น ทำให้สองรู้ว่าพี่คะสูงกว่าสองไม่มากนัก
จ้องกันไปมาได้สักพัก สองก็เริ่มเขิล 555 (ตอนนั้นเริ่มยอมรับว่าแอบรักเขาละ)
สองเป็นฝ่ายหลบตาก่อน ซึ่ง ณ.วันนี้ สองคิดแล้วก็ยังเสียดาย
วันนั้นไม่น่าหลบตาก่อนเลย (T-T)
พอสองหลบตาลง ก็เลยแกล้งเฉไฉถามพี่คะว่า
เอ่อ .. ให้เข้าไปรอห้องใหนคะ
พี่คะก็ตอบว่า นั่งรอในห้องนี้เลยจ้ะ แล้วก็อมยิ้มเดินออกไป
คนอะไรเนี่ย เวลาอมยิ้ม เวลาจิกตา น่ารักจริง ๆ เลยเชียว
พี่คะเป็นหมอที่ไม่ใส่แว่น แต่จะใส่บิ๊กอายหรือเปล่า เรื่องนี้สองก็ไม่แน่ใจ 555
ก็แหม... คนอะไรตาดำกลมโตซะขนาดนั้น ปากนิด จมูกหน่อย
หันซ้าย หันขวา นี่ถ้าพี่สาวมาอ่านเจอประโยคนี้ ต้องแซวประมาณว่า "ปากห้อย" แน่ ๆ เลย 555
แหม เรียกว่าปากเซ็กซี่ดีกว่าไหมคะ ? อิอิ ก็สองรักของสองนี่นา
ไม่ว่าจะมองดูตรงส่วนใหนก็น่ารักไปหมดนั่นแหละ ฮิ้ว.ว.ว.ว.ว.ว.....
....................
จะผิดมั๊ยนะ.. ถ้าสองจะยังรอ
จะผิดมั๊ยนะ.. ถ้าสองจะยังคิดถึง
จะผิดมั๊ยนะ.. ถ้าสองจะยังอยากเจอพี่คะ แม้เพียงแค่อีกสักครั้งก็ยังดี
จะผิดมั๊ยนะ.. ถ้าสองจะยังตัดใจไม่ได้
จะผิดมั๊ยนะ.. ถ้าสองจะยังหวัง ให้สายลมแห่งโชคชะตา พัดพาให้เราได้มาพบกันอีก
ความหวังที่จะได้เจอพี่คะอีกครั้งนั้นริบหรี่มาก จนไม่รู้จะเปรียบกับอะไรดี
สองว่าแสงหิ่งห้อยในคํ่าคืนที่มืดมิด ยังสว่างกว่าความหวังของสองเลย
แต่สองก็ยังตัดใจ ให้เลิกหวังไม่ได้
สองยังแอบภาวนาในใจทุกครั้งก่อนถึงวันหมอนัด ให้ได้เจอพี่คะ
เฮ้อ.อ.อ.อ.อ.อ.......
..........................................................................................................................
ห่างออกไปลองมองขึ้นไป จากที่เราอยู่
เงยขึ้นดู ไม่ว่าเมื่อไหร่
กลุ่มดาวนั้นก็ส่องแสง จากฟากฟ้าไกล
ส่องประกาย สดใสเหมือนเก่า
เหมือนเราตอนนี้ ในเวลานี้ คืนนี้ใต้แสงแห่งดาว
The galaxy of love.. ที่ที่เราได้มาเจอกันในคํ่าคืนนี้
The galaxy of love.. คือจักรวาลที่เธอและฉันนั้นเฝ้ารอ
โลกความจริงจะเป็นยังไง ก็พักไว้ก่อน
อย่าไปคิด อย่าไปสนใจ
หยุดเวลาไว้ตรงนี้ ไม่ให้ไปใหน
มีแค่เธอ กับฉันก็พอ
และในตอนนี้ เธอรู้สึกไหม เธอคิดเหมือนฉันหรือเปล่า
มีเธอตรงนี้ ใกล้กันแค่นี้ วันนี้คือวันของเรา
วัน ที่เธอและฉันไม่ได้พบกัน
มอง กลุ่มดาวแห่งรักยังอยู่ตรงนั้น
และคงไม่มีวันจะเปลื่ยนผัน
อยู่ในฝัน The galaxy of love
The galaxy of love
Only two of us will be reserve.
Nobody can cross, nobody disturb.
This space... created for our love.
สวัสดีช่วงสาย ๆ นะคะ "คุณนํ้าค้างบนยอดหญ้า"
"คุณนํ้าค้างบนยอดหญ้า" ปลอบสองด้วยประโยคคล้าย ๆ ที่น้องชายสองเคยพูดเลยค่ะ
เหอ ๆ
ขอให้มีความสุขกับงานนะคะวันนี้
สองก็จะเดินหน้าสู้ต่อไปเหมือนกันค่ะ เหอ ๆ.